ตรวจสอบชายแดนไทย-มาเลย์ พบรั้วถูกเจาะ คาดเป็นช่องทางส่งโรฮิงญา

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตรวจสอบโกดังในพื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวชาวโรฮิงญา 307 คน พบรั้วกั้นเขตแดนไทย-มาเลเซีย ห่างจากโกดังประมาณ 15 เมตร ถูกเจาะเป็นช่องคาดใช้เป็นช่องทางลับนำชาวโรฮิงญาเข้าออกชายแดนไทย-มาเลเซีย

วันนี้ (15 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการเข้าตรวจสอบภายในโกดังสุดซอย 3 ไทย-จังโหลน พื้นที่บ้านด่านนอก ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา ซึ่งใช้เป็นสถานที่กักตัวชาวโรฮิงญา จำนวน 307 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และเด็ก และเป็นจุดที่ 2 ที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้ พบว่า ภายในโกดังเก่าถูกแปลงสภาพใช้เป็นที่หลับนอน และอยู่กินของชาวโรฮิงยาในสภาพที่แออัด และไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ

ที่สำคัญ บริเวณด้านหลังซึ่งห่างจากโกดังประมาณ 15 เมตร ซึ่งเป็นเขตโนแมนแลนด์ หรือช่องว่างระหว่างประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่าง ต.สำนักขาม อ.สะเดา กับรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย พบว่า บริเวณรั้วเหล็กกั้นเขตแดนถูกเจาะเป็นช่องทั้งฝั่งไทย และฝั่งมาเลเซีย คาดว่าถูกใช้เป็นช่องลับสำหรับลักลอบเคลื่อนย้ายชาวโรฮิงญาเข้าออกระหว่างไทยกับมาเลเซีย โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเข้าตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายเกชา เบญจคาร นายกเทศมนตรีตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เปิดเผยว่า ต้องการให้หน่วยงานต่างๆ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวรอผลักดันกลับประเทศต้นทาง และหากเป็นไปได้ ควรหาแนวทางส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 ตามความต้องการของชาวโรฮิงญาที่ไม่ต้องการกลับไปยังประเทศพม่า เพราะจะถูกกักขัง และถูกทำร้าย และต้องหาทางหลบหนีเข้ามาอีก