“ส.ว.สมชาย” จี้ กสทช.ขอเทปละครเหนือเมฆตอนที่เหลือมาตรวจสอบ ชี้เป็นหน้าที่โดยตรงอย่าลอยตัวเหนือปัญหา พร้อมระบุหากขัดมาตรา 37 จริง โทษหนักสุดอาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต จะให้หยุดฉายไปเฉยๆ ไม่ได้ ด้าน “ทวิชยะ” เรียกร้องคนทำงานสื่อรวมตัวเรียกร้องความถูกต้อง
วันที่ 10 ม.ค. นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา และ นายทวิชยะ ตั้งสหะรังษี เจ้าของค่าย classy record ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดยนายสมชายกล่าวถึงกรณีที่ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ (กสทช.) บอกว่าช่อง 3 แบนละครเหนือเมฆ 2 เพราะขัดมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ซึ่ง กสทช.ไม่มีหน้าที่เข้าไปตรวจสอบว่า มาตรา 37 นี้ วรรค 1 ระบุว่า “ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง”
วรรค 2 “ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่ตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่ง หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการ ให้กรรมการซึ่งคณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจสั่งด้วยวาจา หรือเป็นหนังสือให้ระงับการออกอากาศรายการนั้นได้ทันที และให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวโดยพลัน” คณะกรรมการที่ว่านี้ก็คือ กสทช.
วรรค 3 “ในกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเกิดจากการละเลยของผู้รับใบอนุญาตจริง ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการแก้ไขตามที่สมควร หรืออาจพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตก็ได้” อันนี้คือหน้าที่ของ กสทช.เลย
นายสมชายกล่าวต่อว่า การยกเลิก กบว.ไปก็เพื่อให้เป็นหน้าที่ของ กสทช. ฉะนั้นต้องเรียกดูเทปที่เหลือ ถ้าขัดมาตรา 37 จริง กสทช.ต้องพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต ไม่ใช่งดออกกอากาศเท่านั้น แต่ตนไม่เชื่อว่าจะเป็นเพราะขัดมาตรา 37 เพราะเท่าทีดูมีแต่การด่าว่านักการเมืองชั่วร้าย
นายสมชายกล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ต้องอย่าเงียบ กสทช.ต้องเข้าไปตรวจสอบ ส.ว.ซึ่งแต่งตั้ง กสทช.ก็ต้องตรวจสอบด้วย ส่วนนักวิชาการก็จัดเสวนาไปเรื่อยๆ
ด้านนายนายทวิชยะกล่าวว่า นักธุรกิจไม่สามารถสร้างงานศิลปะเองได้ ฉะนั้นถ้าคนที่ทำงานศิลปะ เช่น คนแต่งเพลง คนเขียนบท ทำละคร รวมตัวกันเรียกร้องความถูกต้อง นักธุรกิจก็จะต้องยอมทำตาม ไม่เช่นนั้นเขาก็อยู่ไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาคนเหล่านั้นมัวแต่ตื่นเต้นกับเงิน กลัวว่าจะตกงานไม่มีอะไรกิน ถ้าตนเป็นฉัตรชัย-สินจัย ตนจะประกาศออกจากช่อง 3 เลย เพราะคุณไม่ปกป้องเรา หากมีผู้กล้ามันจะเกิดการกระพือแล้วคนจะตื่นตัวมากขึ้น แล้วละครเรื่องนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานเลย ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียนเขียนบท เพราะละครก็จะวนแต่เรื่องผัวๆ เมียๆ ไม่กล้าแตะนักการเมือง กรณีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็เช่นกัน คนนั่งอ่านข่าวด้วยข้างๆ ทนได้อย่างไร แล้วแปลกประหลาดมากเรื่องพวกนี้ถูกเผยแพร่แค่ในโซเชียลมีเดียแล้วเรื่องก็เงียบไป