xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” ชี้ช่อง 3 ถอดเหนือเมฆ 2 เลี่ยงงัดข้อ “นายใหญ่-ดีเอสไอ” บี้ กสทช.แจง ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน(แฟ้มภาพ)
ผู้ประสานกลุ่มกรีนยันข้ออ้างช่อง 3 แบนละครเหนือเมฆ 2 เหตุล้มล้างการปกครอง ฟังไม่ขึ้น ชี้คำสอนละครบอกจุดจบนักการเมืองโกง ทำคนที่คุณก็รู้ว่าใครรับไม่ได้ จึงยอมการเมืองแทรก แบบยุค “นช.แม้ว” ครองเมือง แถมมีประเด็นกระทบดีเอสไอ ถึงยอมแบนเอาตัวรอด ปลุก กสทช.หาคำตอบให้ ปชช.

วันนี้ (6 ม.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวถึงกรณีที่ผู้บริหารช่อง 3 แจ้งต่อกรรมการ กสทช.เบื้องต้นว่าเหตุที่มีคำสั่งแบนละครเหนือเมฆ 2 นั้นเพราะเข้าข่ายขัด พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 37 ที่ระบุว่าห้ามไม่ให้ออกอากาศเนื้อหารายการที่มีลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจารหรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง ซึ่งถ้าดูบทละครนี้คร่าวๆ นอกจากไม่เข้าข่ายผิดมาตรา 37 แล้ว ละครเรื่องนี้ยังส่งเสริมศีลธรรมอันดีในสังคมที่เน้นให้คนทำดี และจุดจบของคนไม่ดีหรือนักการเมือง คนมีอำนาจที่ใช้อำนาจคดโกง หาประโยชน์เพื่อตัวเองและครอบครัว เนื้อหาของละครเรื่องนี้ถือเป็นการตีแผ่การเมืองไทยในรอบทศวรรษได้อย่างลึกซึ่ง

“ซึ่งตอนจบของละครที่พูดถึงธรณีสูบชายชุดดำที่มีเวทมนต์คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังและคอยชักใยนักการเมืองโกง อาจเป็นบทที่สะเทือนใจบางคน ทำให้ละครเรื่องเหนือเมฆเป็นละครที่ไม่มีตอนจบ เพราะคนบางคนไม่อยากเห็นจุดจบของตัวเอง” นายสุริยะใสระบุ

ผู้ประสานกลุ่มกรีนกล่าวต่อว่า ผู้บริหารช่อง 3 อาจเลือกเซ็นเซอร์ตัวเอง เพื่อความสบายใจของผู้มีอำนาจ จะมาอ้างว่าเป็นการควบคุมกำกับตัวเองคงอ้างไม่ขึ้น เพราะเป็นคนละความหมายกัน การเลือกเซ็นเซอร์ตัวเองสะท้อนวงการสื่อสารมวลชนไทยที่กำลังกลับไปสู่ยุคอาณาจักรแห่งความหวาดกลัว ในยุครัฐบาลทักษิณสมัยแรกที่มีทั้งการแทรกซึม แทรกแซงและแทรกซื้อสื่อมวลชนสารพัดรูปแบบ

นายสุริยะใสยังกล่าวว่า ในบทละครนี้ยังมีจุดที่น่าสงสัยอีกประเด็น คือ บทบาทของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในละครเหนือเมฆ 2 จะเรียกชื่อว่า ผู้บัญชาการ TSI ที่มีพฤติกรรมไม่ซื่อ พยายามตกแต่งหลักฐานเท็จเพื่อเล่นงานคนอื่น ประเด็นนี้อาจจะกระทบต่อทางช่อง 3 ที่กำลังถูก DSI สอบสวนกรณีต่ออายุสัมปทานช่อง 3 ที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายอยู่ด้วยหรือไม่

“ฉะนั้น ข้ออ้างของผู้บริหารช่อง 3 จึงไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการโกหกเพื่อเอาตัวรอด และเอาเรื่องการล้มล้างการปกครองฯ มาอ้างเพื่อแบนละครเรื่องนี้ ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คณะกรรมการกำกับกิจการกระจายเสียง วิทยุ โทรทัศน์และโทรคมนาม หรือ กสทช. จะต้องมีคำตอบให้ประชาชน และถือเอาเป็นกรณีศึกษาเพื่อวางมาตรการไม่ให้เกิดกรณีนี้อีก” นายสุริยะใสระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น