เชียงราย - ผู้ว่าฯ เชียงรายนำทีมเจ้าหน้าที่บุกค้นเรือนจำกลางซ้ำ คราวนี้มุ่งค้นตึกนอน-สัมภาระผู้ต้องขัง ไม่วายเจออีกทั้งมือถือ-อุปกรณ์ แถมพบอาวุธดัดแปลง ฯลฯ แถมมีอุปกรณ์ยิงส่งของระยะใกล้ซุกไร่มันสำปะหลังใกล้เรือนจำด้วย
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลาง จ.เชียงราย พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธ์ รอง ผบก.ภ.เชียงราย และ พ.ต.ท.อนันต์ นิรุตินนท์ สารวัตร สภ.แม่ยาว ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับสารวัตรทหาร และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวมประมาณ 100 นาย บุกเข้าจู่โจมตรวจค้นภายในเรือนจำ เพื่อตรวจค้นหาการกระทำผิดและสิ่งของผิดกฎหมาย ก่อนช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นและพบสิ่งผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจค้นในแดน 1 และแดน 2 ซึ่งเป็นที่คุมขังนักโทษเด็ดขาด
ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เน้นตรวจค้นภายในตึกนอน และสัมภาระของผู้ต้องขังอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจค้นก็ยังคงพบสิ่งของต้องห้ามหลายรายการ ประกอบไปด้วย โทรศัพท์มือถือประมาณ 10 เครื่อง อุปกรณ์ชาร์จ และแบตเตอรี่โทรศัพท์จำนวน 20 อัน นอกจากนี้พบสิ่งของอื่นๆ เช่น อาวุธดัดแปลง หนังสือลามกอนาจาร ฯลฯ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณโดยรอบเรือนจำ พบอุปกรณ์ยิงของระยะใกล้ ซึ่งเป็นการประดิษฐ์ขึ้นมาเอง คาดว่าคนร้ายใช้สำหรับยิงสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ ข้ามกำแพงเรือนจำเข้าไป โดยเฉพาะส่งยาบ้าและโทรศัพท์มือถือ โดยอุปกรณ์ดังกล่าวถูกซุกซ่อนอยู่ในไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านที่อยู่ติดถนนหน้าเรือนจำ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องขังที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับของกลางทั้งหมดไปทำการสอบปากคำเพื่อขยายผลต่อไป
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายโดยเฉพาะยาเสพติดที่จะทะลักเข้ามาจากชายแดนทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งขบวนการนอกกฎหมายอาจอาศัยความพลุกพล่านและปลอมแปลงเป็นนักท่องเที่ยวลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามา
ด้านนายกฤชกล่าวว่า ปัจจุบันเรือนจำกลาง จ.เชียงรายมีผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงรวมกันประมาณ 4,800 คน ซึ่งร้อยละ 70 เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด ซึ่งพบว่าช่วงปี 2555 ตลอดทั้งปีที่ผ่านมามีบางกลุ่มพยายามจะลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปภายในเรือนจำและยังค้าขายกันอีก ทำให้มีการตรวจค้นเรือนจำครั้งใหญ่แล้วถึง 4 ครั้ง และตรวจเป็นบางจุดอีกเป็นประจำ
“ที่ผ่านมาสามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ได้กว่า 200 เครื่อง นอกจากนี้บางครั้งก็พบยาเสพติดอีก โดยขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำมีการเปลี่ยนแปลงการนำเข้าและซุกซ่อนในหลากหลายรูปแบบ ทั้งซุกซ่อนในร่างกาย ใช้อุปกรณ์ยิงเข้าเรือนจำในระยะไกล โดยอาศัยพื้นที่สาธารณะที่เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง ทำให้ต้องเข้มงวดมากกว่าเดิม” นายกฤชกล่าว