xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาเพราะนักการเมืองชั่วสมยอมเขมร-คนไทยก็ธุระไม่ใช่!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

ทำนายกันไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า ปัญหาที่ไทยต้องเสียดินแดนเฉพาะหน้านั่นคือพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารจำนวน 4.6 ตารางกิโลเมตร เนื้อที่กว่า 3 พันไร่จะมีการพูดถึงตื่นตัวกันไปอีกระยะหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะถูกกลบด้วยเรื่องอื่นๆ ที่รัฐบาลพยายามสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อกลบอีกเรื่องหนึ่ง และจนกระทั่งเมื่อถึงวันที่ไทยต้องเสียดินแดนจริงๆ รัฐบาลก็เป็นไปตามที่คนในรัฐบาลส่งสัญญาณเอาไว้ล่วงหน้าว่าให้ทำใจยอมรับเพราะเป็นคำตัดสินของศาลโลก

ทุกอย่างเหมือนมีการวางแผนสมยอมกันอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เสมือนมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกันได้อย่างลงตัวมาตั้งนานแล้ว

จะว่าไปแล้ว ปัญหากรณีที่เขมรยื่นเรื่องให้ศาลโลกตีความคำพิพากษาในคดีปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2505 ว่าครอบคลุมไปถึงพื้นที่โดยรอบจำนวน 4.6 ตารางกิโลเมตรด้วยหรือไม่ ทั้งที่ทุกอย่างจบไปแล้ว และที่ผ่านมาไทยก็ได้ปฏิบัติตามคำตัดสินครบถ้วนแล้ว แม้จะเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม และที่ผ่านมาเกือบ 50 ปี เขมรก็ไม่ได้ทักท้วงใดๆกับการปฏิบัติของฝ่ายไทยหลังคำตัดสินของศาลโลก

ขณะเดียวกัน หลังจากที่ไทยได้พ่ายแพ้คดีเมื่อปี 2505 คณะรัฐมนตรีในยุคนั้นก็ได้มีมติไม่ต่ออายุปฏิญญาการยอมรับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลก มาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

อย่างไรก็ดี ปัญหาดังกล่าวกลับทำให้ไทยต้องมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน เสียอธิปไตยตามมาอีกนับล้านไร่ตลอดแนวชายแดนไทยทั้งจากบนบกลงไปในทะเลอ่าวไทย นอกเหนือจากพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารดังกล่าว เป็นเพราะความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ผลประโยชน์ของนักการเมืองชั่วๆ บางคนหลายรัฐบาลต่อเนื่องกันมา

เริ่มตั้งแต่การลงนามในเอ็มโอยู 2543 ที่ไปยอมรับแผนที่ในอัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนตามแผนที่เขมร-ฝรั่งเศส ในการปักปันเขตแดนทางบก และผิดพลาดซ้ำซ้อนหนักข้อขึ้นไปอีกด้วยการต่อยอดลงนามเอ็มโอยู 2544 สำหรับการแบ่งเขตแดนในทะเล

เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลไทยทุกยุค นับตั้งแต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในยุค ชวน หลีกภัย รัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รัฐบาล สมัคร สุนทรเวช รัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

จนกระทั่งมาถึงรัฐบาลปัจจุบันที่นำโดยนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะถ้าจะอ้างผลที่เป็นอยู่เป็นเพราะผลงานของรัฐบาลก่อน หรือหากจะกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าทำผิดก็ได้ แต่ในตอนนี้ขึ้นอยู่กับท่าทีล่าสุดว่าจะทำอย่างไร จะทำให้ประเทศไทยและคนไทยต้องมาลุ้นว่าต้องเสียดินแดนเพิ่มหรือไม่ โดยการประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก แล้วไม่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ของไทยตามที่ศาลโลกมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนหน้านี้

แต่เมื่อพิจารณาจากอาการก่อนหน้านี้มาประกอบกัน เชื่อว่าผลจะออกมาในทางตรงกันข้ามก็คือนอกจากไม่ถอนตัวออกมาแล้ว ยังเดินหน้าสู้คดีดังที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อ้างว่าหากถอนตัวหรือไม่ยอมรับศาลโลกจะถูกนานาชาติคว่ำบาตร พร้อมทั้งให้คนไทยทำใจยอมรับความพ่ายแพ้ล่วงหน้า พร้อมกันนี้รัฐบาลยังได้ตั้งตัวแทนเข้าไปสู้คดีในศาลนำโดย พงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่เกิดขึ้น มันก็ช่วยไม่ได้ที่ทำให้คนไทยไม่น้อยเข้าใจว่า นี่คือแผนสมรู้ร่วมคิด หรือสมคบกับผู้นำเขมร ในการยกดินแดนไทยโดยใช้ศาลโลกเป็นเครื่องมือ อ้างว่าเมื่อศาลตัดสินออกมาแล้วต้องยอมรับ ความหมายเหมือนกับที่มีการเรียกร้องให้ยอมรับคำตัดสินของศาลในประเทศ ทั้งที่มันคนละเรื่อง นำมาเทียบเคียงกันไม่ได้

ช่วยไม่ได้ที่หลายคนต้องมองว่านี่คือแผนแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของนักการเมือง ทั้งในเรื่องการยอมให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารพร้อมทั้งพื้นที่โดยรอบเป็นมรดกโลก รวมไปถึงการยกพื้นที่ในอ่าวไทยซึ่งอุดมไปด้วยน้ำมันให้กับกัมพูชา เนื่องจากสามารถง่ายต่อการเจรจาผลประโยชน์ และการให้สัมปทานกับบริษัทน้ำมันต่างชาติที่มีนักการเมืองแอบถือหุ้นอยู่

เป็นไปได้เหมือนกันว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยคงคิดว่าการเคลื่อนไหวของคนไทยที่รักชาติกลุ่มหนึ่งคงไม่มีพลังเพียงพอ เพราะคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่สนใจ เป็นเรื่องไกลตัว ธุระไม่ใช่หรือเป็นแค่พื้นที่ในป่าในเขา หากมีความขัดแย้งจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และบรรยากาศการค้า ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายรัฐบาลและนักการเมืองชั่วๆมักสร้างกระแสดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่เป็นเรื่องอธิปไตย แม้แต่ตารางนิ้วเดียวก็ยอมให้ใครล่วงละเมิดไม่ได้ เหมือนกับหลายประเทศในเวลานี้ที่มีปัญหาขัดแย้งและต่างก็มีจุดยืนที่มั่นคง ไม่ใช่ยอมแพ้ล่วงหน้าหรือให้ทำใจอย่างที่คนในรัฐบาลไทยมีท่าทีอยู่ในเวลานี้

ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย นำโดยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้ขายชาติ ไม่ได้สมยอมยกดินแดนให้เขมรเพื่อแลกกับผลประโยชน์ด้านสัมปทานพลังงานในอ่าวไทย รวมไปถึงผลประโยชน์ในการเช่าพื้นที่สัมปทานในเกาะกงของเครือญาติและคนในครอบครัวตัวเอง ก็ต้องรีบประกาศท่าทีให้ชัดด้วยการถอนตัวไม่ยอมรับอำนาจของศาลโลก เพื่อที่ไทยจะไม่ต้องเสี่ยงต่อการเสียดินแดน ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องถอนทหารออกมาจากพื้นที่ของไทย และผลักดันชุมชนและกองกำลังเขมรออกไปจากพื้นที่ของเราโดยทันทีและเด็ดขาด ส่วนหลังจากนั้นจะมีการเจรจากันหรือไม่ก็ค่อยมาว่ากันในภายหลัง

นี่คือสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลพิสูจน์ ไม่เช่นนั้นจะต้องรับผิดชอบโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง!!
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
กำลังโหลดความคิดเห็น