เฟซบุ๊กแฟนเพจ “พานทองแท้” ลูกชายทักษิณปัดกินปูนร้อนท้อง ตำหนิผู้จัดละคร “เหนือเมฆ 2” เขียนบทล้ำเส้น เอาอคติทางการเมืองเล่นสนุก เหน็บถ้าทำละครชีวิตเด็กอำมาตย์หนีทหาร-ปราบเสื้อแดงคงไม่เห็นด้วย ก่อนประชดช่อง 3 บอกอยากให้ออนแอร์ตอนจบ ชี้สั่งแบนคล้ายกิน 3 ต่อเข้าฮอส หวั่นเข้าใจผิดถึงรัฐบาล
วันนี้ (8 ม.ค.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ “Oak Panthongtae Shinawatra” ที่ระบุว่าเป็นของนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความระบุว่า อยากให้สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 อนุญาตให้ละครเหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ ออกอากาศตอนที่เหลือจนจบ หลังถูกแดกดันว่าร้อนตัว และกินปูนร้อนท้องกับละครเรื่องดังกล่าว โดยมีเนื้อหาว่า
“ผมอยากให้ช่อง 3 อนุญาตให้ละครเหนือเมฆออกอากาศตอนที่เหลือจนจบ” คือความเห็นพานทองแท้ต่อ ปรากฏการณ์ “เหนือเมฆ” ในวงการมายาของเมืองไทยครับ
ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวก่อนครับว่าไม่เคยดูละครเรื่องนี้ และไม่เคยคิดที่จะเอาเนื้อหาของละคร ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองมาวิจารณ์เลย เพราะในชีวิตจริงแค่ดูละครการเมืองเรื่อง “ประชาธิปัตย์” เพียงอย่างเดียวก็ไม่ไหวจะเคลียร์แล้วครับ แต่แฟนเพจหลายท่านหลังไมค์หน้าไมค์มาว่า อยากฟังความเห็นส่วนตัวว่ามองอย่างไรกับเรื่องนี้
ถ้าจะให้พูดถึง ผมต้องขอยกเอาคำพูดของ Voltaire (โวลแตร์) นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส ที่ได้พูดไว้เมื่อ 3 ร้อยปีที่แล้ว มาเป็นกรอบในการวิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นดังนี้...
“I disapprove of what you say,but I will defend to the death your right to say it.”
แปลเป็นไทยว่า “ถึงแม้ฉันจะไม่เห็นด้วยในสิ่งที่คุณพูด, แต่ฉันก็จะปกป้องสิทธิ์ในการพูดของคุณ ด้วยชีวิต”
ในแง่มุมที่ผมไม่เห็นด้วยถึงแม้ผมจะไม่เคยได้ดูละครเรื่องนี้ แต่เท่าที่ให้ทีมงานตรวจสอบดูในเบื้องต้นพบว่า.... (ถ้าไม่ตรง 100% ต้องกราบขออภัยนะครับ เป็นการสรุปเนื้อเรื่องทั้งสิบกว่าตอน ไม่มีเวลาได้ดูเองครับ)
ในเนื้อของละครเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักธุรกิจที่เติบโตมาจากการสัมปทานดาวเทียม เมื่อเข้ามาเป็นนักการเมืองก็มีเรื่องทุจริตโกงกิน ในที่สุดก็ต้องชดใช้กรรมด้วยการถูก M79 ยิงตาย ขณะที่มางานเปิดสถานีสื่อสารมวลชนที่ลูกของตนเป็นเจ้าของ ตัวละครก็มีทั้งชื่อ เพชร..“แท้” ซึ่งเป็นเจ้าของสถานีฯ “แพร”..ไพลิน ซึ่งเป็นลูกสาวของนักธุรกิจเครือข่ายสื่อสารยักษ์ใหญ่ของไทย ขาดก็แต่ถ้าพลอตเรื่องมีชื่อ “พิณ......” อะไรซักอย่าง มาดูแลธุรกิจอสังหาฯ ของตระกูลบ้านทรายทอง ก็คงไม่ต้องเดากันว่าจะสื่อถึงใคร ประทับตราว่า “สำเนาถูกต้อง” ให้ได้เลยครับว่านี่คือ “ตาดูดาว เท้าติดดิน ภาคพิสดาร” เพื่อทดแทนภาคแรกที่ทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่โดนเผด็จการแบนละครแบบถาวร ไม่ยอมให้ฉายจนถึงปัจจุบันนี้
ซึ่งการที่ผมโยงให้เห็นแบบนี้ ถ้าเป็นการโต้กันทางโวหาร ของนักการเมืองประเภทน้ำเน่า ก็จะต้องถูกแดกดันว่า ร้อนตัว, กินปูนร้อนท้อง, แสดงว่าโกงจึงร้อนตัว ฯลฯ แต่ผมถือว่าครั้งนี้ผมมิได้ตอบโต้ทางการเมืองกับพรรคใด เป็นการสื่อสารกับปัญญาชนที่เป็นคนของประชาชน ซึ่งผมชื่นชมและศรัทธาในผลงานทางการแสดงของพี่ๆ ทุกท่านมาตั้งแต่เด็ก และยืนยันว่า “ผมแยกแยะและไม่เคยมีอคติต่อผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองเลย” แต่ก็ต้องขออนุญาตพูดให้เห็นก็เพื่อให้สังคมให้ความเป็นธรรม ว่าการเขียนบทโดยเอาความมีอคติทางการเมือง มาเล่นสนุกกันจนล้ำเส้นแบบนี้ เป็นแง่มุมที่ผมบอกว่า “ผมไม่เห็นด้วย” ครับ
ถ้ายังมองไม่ออกว่าล้ำเส้นอย่างไร ผมยกตัวอย่างให้ก็ได้ครับว่า มันจะเป็นธรรมไหม ถ้ามีผู้จัดละครที่ชอบการเมืองอีกขั้วหนึ่ง จะทำละครเกี่ยวกับ ชีวิตของเด็กในตระกูลอำมาตย์คนหนึ่ง ถูกส่งไปเรียนนอกแต่เด็ก ถือสองสัญชาติแต่อยากเป็นนายกฯ เรียนจบกลับมาก็หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ภาพลักษณ์ดีแต่ไฟเขียวให้เพื่อนสนิทไปรีดไถเงินจากการแต่งตั้งโยกย้าย จนปลดหนี้ครอบครัวหลายร้อยล้านบาทได้ สนับสนุนให้พรรคพวกที่เป็นนายทุนฮุบที่ดินของเกษตรกรมาเป็นสมบัติตัวเอง ปราบปรามประชาชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิ ด้วยความรุนแรงจนมีคนตายนับร้อยศพ ในที่สุดก็ถูกพิพากษาประหารชีวิต!!
ความเห็นผม ถ้ามีใครเขียนพลอตเรื่องแบบนี้ ผมจะพูด “ตรงข้าม” กับปรัชญาของ Voltaire เลยครับ ผมจะบอกว่า “ถึงแม้ฉันจะชอบและเห็นด้วยในสิ่งที่คุณพูดมากแค่ไหน, แต่ฉันก็จะคัดค้านไม่ให้คุณสร้างละครเรื่องนี้ เพราะบางส่วนมันไปพ้องกับคนบางคน ซึ่งจะทำให้เขาเสียหายอย่างไม่เป็นธรรม”
ส่วนที่ผมบอกว่า ผมจะปกป้องสิทธิที่คุณจะพูดถึงมันนั้น ถึงแม้จะไม่ถึงกับปกป้องด้วยชีวิตเช่นในปรัชญา แต่ก็อยากที่จะขอให้ช่อง 3 อนุญาตให้ละคร “เหนือเมฆ” ได้ออนแอร์ต่อไปจนจบครับ เรื่องมันปาเข้าไปสิบกว่าตอนแล้ว เหลืออีกแค่ 1-2 ตอน ปล่อยให้จบไปก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ ผมมองว่าการที่ช่อง 3 ทำแแบบนี้ ดูแล้วมันคล้ายกับการ “กิน 3 ต่อเข้าฮอส” มากกว่า
ต่อที่ 1 สิ่งที่ท่านอยากจะสื่อทางการเมืองผ่านละคร ท่านก็ได้ทำเสร็จไป 90% แล้วครับ ตอนจบก็คงไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ หรือส่งผลกระทบต่อผู้ใดมากกว่าตอนที่แล้วๆ
ต่อที่ 2 รัฐบาลตกเป็นจำเลยของคนดูไปเลยครับ คนดูอุตส่าห์ดูละครมาเป็นสิบตอน ใครๆ ก็รอดูตอนจบกันทั้งนั้น ดันมาสั่งให้ช่อง 3 ตัดตอนจบออก แหม...เสียอารมณ์!! คราวหน้าไม่เลือกแล้วพรรคฯ นี้
ต่อที่ 3 ละครมาดังก็ตอนที่ช่อง 3 ไปสั่งยกเลิกเขานี่แหละครับ รับรองว่าเอากลับมาออนแอร์เมื่อไหร่ เรทติ้งละครช่อง 3 กระฉูดราวกับ “กังนำสไตล์” ในยูทูปเลยครับ
ผมว่าคงไม่มีใครไม่เข้าใจความรู้สึกคนดู ถึงขนาดไปสั่งยกเลิกละครตอนจบหรอกครับ การไปพูดว่าต้องยกเลิกละครเพราะเกี่ยวกับการเมืองแบบนี้ ทั้งผู้จัดฯ ทั้งนักแสดงทั้งคนดู ย่อมเคืองรัฐบาลกันทั้งนั้น ถ้ารัฐบาลไม่พอใจและสั่งช่อง 3 ได้จริง เขาน่าจะรอให้จบละครเรื่องนี้ แล้วค่อยแก้ไขโดยกำชับให้ช่อง 3 ระมัดระวังไม่ให้ผู้จัดละคร แฝงเรื่องการเมืองแบบเหน็บแนมฝั่งหนึ่งฝั่งใดมากกว่า ช่อง 3 ไปทำอะไรโอเว่อร์แบบนี้ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ครับ
คืนความชอบธรรมให้กับละคร ด้วยการให้ออนแอร์ต่อเถอะครับ ถ้าช่อง 3 อนุญาต ผมเองจะรอดูตอนจบของละครด้วยตัวเอง และขอยินดีล่วงหน้ากับ การทำสถิติใหม่ ในเรทติ้งของละครช่อง 3 ด้วยครับ”