รองผู้ว่าฯ กทม.เข้าพบผู้ตรวจการแผ่นดิน จี้สอบจริยธรรมอธิบดีดีเอสไอ ตั้งข้อหามิชอบ หลังเล่นงานเรื่องต่อสัญญาเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง เผยเตรียมไปรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนฟ้องกลับศาลอาญา ม.157 และ ม.200 ต่อ ด้านฝั่งผู้ตรวจฯ เผยสอบจริยธรรมต้องใช้เวลาเพราะมีเรื่องของโทษทางวินัย
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการผู้ตรวจการแผ่นดิน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้เข้าพบนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อติดตามเรื่องที่ได้ยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 55 ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและจริยธรรมนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีที่ดีเอสไอตั้งข้อกล่าวหาผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมกับบริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอสซี) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ต่อสัญญาเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายใหม่ 3 เส้นทางไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยนายธีระชนกล่าวว่า หลังดีเอสไอมีมติว่าผู้บริหารกรุงเทพมหานคร มีความผิดในกรณีดังกล่าว และให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 9 ม.ค.นี้ ทางกรุงเทพมหานครก็ได้มีหนังสือเตือนไปยังดีเอสไอ ว่าไม่มีอำนาจกระทำการดังกล่าว แต่หากดีเอสไอยังยืนยันไม่ยกเลิกคำสั่งให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 ม.ค. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และตนจะเดินทางไปรับทราบและนำคำกล่าวหาทั้งหมดมากล่าวโทษต่อศาลอาญา ตามมาตรา 157 และ 200 ต่ออธิบดีดีเอสไอ ในข้อกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าพนักงานยุติธรรม มีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีเอสไอมีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการสั่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยกเลิกสัมปทานกับบีทีเอส ซึ่งหากดำเนินการจริงจะมีผลกระทบต่อประชาชน จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการตรวจสอบและใช้อำนาจตามมาตรา 14 (2) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 เพื่อให้เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง พิจารณาวินิจฉัยต่อไป
ด้านนายเฉลิมศักดิ์กล่าวว่า ในกรณีการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบของอธิบดีดีเอสไอนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินได้แจ้งให้ทางผู้ว่าฯ กทม.รับทราบแล้ว ผู้ตรวจการฯ มีมติยุติเรื่อง เนี่องจากมีการยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบแล้ว จึงเหลือเรื่องการตรวจสอบจริยธรรมอธิบดีดีเอสไอซึ่งกรณีของการตรวจสอบจริยธรรมบุคคลที่เป็นข้าราชการ จากแตกต่างจากนักการเมืองเพราะจะต้องมีเรื่องของโทษทางวินัยมาเกี่ยวข้อง จึงต้องใช้ระยะเวลา โดยกรณีนี้แม้จะผ่านมาร่วม 7 เดือนนับแต่ได้รับคำร้องผู้ตรวจฯ ได้มีหนังสือให้ทางผู้บังคับบัญชาของอธิบดีดีเอสไอชี้แจง แต่ก็มีการขอแจ้งขยายระยะเวลาการชี้แจงมาแล้วรวม 3 ครั้ง และหากจะมีการขอขยายระยะเวลาอีก ต้องดูข้อเท็จจริงต่อไป ทั้งนี้จะเร่งตรวจสอบและพิจารณาโดยเร็วที่สุด