“สมจิตต์” ย้อนรอยพฤติกรรม “ทักษิณ” 20 ข้อ หวังเปิดตาคนเสื้อแดงให้สว่าง กับวาทกรรม “รวยแล้วไม่โกง” ไล่ตั้งแต่นโยบาย การทำหน้าที่ในสภาฯ ตลอดจนกระบวนการยุติธรรม พิสูจน์ชัดไม่ใช่คน “รวยแล้วไม่โกง” แต่เป็นคนที่ “รวยแล้วไม่เคยพอ” พร้อมตอกย้ำทักษิณ = คนโกหก คนโกหกไม่ทำชั่วไม่มี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 ม.ค. น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สมจิตต์ นวเครือสุนทร หัวข้อ ทักษิณ = คนโกหก 20 พฤติกรรมทักษิณโกหกประชาชน ดังนี้
“...ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในวันนี้ที่อาจนำไปสู่การล่มสลายของประเทศได้ คือ การพยายามล้างสมองคนด้วยการสร้างชุดความคิดใหม่ ยัดเยียดให้เชื่อว่าเป็นความจริง ถึงขนาดเดี๋ยวนี้มีสื่อกล้าที่จะพูดว่า “ความจริงมีหลายชุด” ทั้งๆ ที่ “ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น” แต่ความเชื่อจากมุมมองของแต่ละคนต่างหากที่ถูกนำมาเป็นภาพมายาบดบังความจริงจนสังคมเต็มไปด้วยความสับสน วุ่นวาย เพราะแยกความจริงออกจากความเชื่อไม่ได้ จึงวนเวียนอยู่กับความขัดแย้งบนความเชื่อของตัวเองเป็นหลัก แต่ไม่ยึดความถูกต้องด้วยหลักเหตุและผล
บทความนี้จึงอยากทบทวนความทรงจำ ย้อนรอยพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกเชิดชูว่าเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตยว่า เนื้อแท้แล้วการเข้าสู่การเมืองของเขาเพื่อประโยชน์ของชาติหรือเพื่อวงศ์วานญาติเครือของตัวเอง กับวาทกรรม “รวยแล้วไม่โกง” ที่หลอกคนไทยส่วนหนึ่งจนตามืดบอดสนิท ใจไร้แสงสว่างที่จะเปิดทางมองเห็นความจริงอย่างน่าเสียดายยิ่ง เพราะถ้าเปิดตาเปิดใจคนที่ยังงมงายกับการถูกปั่นหัวราวกับคนไทยเป็นจิ้งหรีดจะรู้เช่นเห็นชาติคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ว่า เขาไม่ใช่คน “รวยแล้วไม่โกง” แต่เป็นคนที่ “รวยแล้วไม่เคยพอ” ต่างหาก
20 พฤติกรรมทักษิณโกหกประชาชน
1. ประกาศรวยแล้วไม่โกง พอมีอำนาจออกนโยบายเอื้อประโยชน์ธุรกิจตัวเอง ถูกยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท มีคดีทุจริตค้างอีก 5 คดี และคดีก่อการร้ายอีก 1 คดี
2. ประกาศแก้ไขปัญหาการจราจรใน กทม.ภายใน 6 เดือนช่วงเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม สุดท้ายแก้ไขไม่ได้แต่ไม่เคยรับผิดชอบ
3. ประกาศทำให้คนจนหมดไปภายใน 6 ปี สุดท้ายบริหารประเทศเกือบ 6 ปี ผลปรากฏว่าหนี้สินครัวเรือนพุ่ง ความสามารถในการชำระหนี้ประชาชนน้อยลง
4. จะจัดการกับรัฐมนตรีที่ทุจริตทันทีโดยไม่ต้องมีใบเสร็จ ผลปรากฏว่าอุ้ม รมต.ทุกคนที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต ปรับ ครม.หนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
5. เคารพกลไกรัฐสภา แต่เคยหลุดปากว่าประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือเข้าสู่อำนาจเท่านั้น ตลอดการเป็นนายกฯ เข้าสภาเพียง 12 ครั้ง ไม่เคยตอบกระทู้สดของฝ่ายค้าน เห็นรัฐสภาเป็นเพียงองค์ประกอบในการทำพิธีกรรมตามกระบวนการประชาธิปไตยเท่านั้น
6. ปากบอกเคารพกระบวนการยุติธรรม แต่ทำลายสถาบันตุลาการทันทีที่ผลคำตัดสินเป็นลบต่อตัวเอง มาตรฐานคำพิพากษที่เที่ยงธรรมสำหรับทักษิณ = กูคือความถูกต้อง
7. ปากบอกสร้างปรองดอง สามัคคี เสียสละ สุดท้ายเปลือยตัวตนชัดเจนถ้าปัญหาตนยังไม่ได้แก้ก็ไม่มีทางได้แก้ปัญหาของชาติ ด้วยการปราศรัยผ่านเวทีเสื้อแดงว่า “แก้รัฐธรรมนูญแล้วจะแก้ปัญหาประเทศได้ทุกอย่าง ที่ประชาชนอยู่อย่างยากลำบากวันนี้เพราะรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย”
8. หลอกคนเสื้อแดงที่รักและศรัทธาตัวเองมาเจ็บตายฟรี อ้างว่าจะกลับมานำหน้าทันทีที่เสียงปืนดังนัดแรก แต่ไม่เคยเห็นหัวแถมทุกครั้งที่เกิดเหตุรุนแรงในบ้านเมืองยกครัวหนีไปเมืองนอกหมด
9. สัญญาประชาชนจะบริหารประเทศด้วยความโปร่งใส แต่กลับเต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ซุกหุ้น ซุกหนี้ประชาชน และหนี้ประเทศ ตรวจสอบยาก
10. ทำลายระบบรัฐสภาทำร้ายระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่พยายามเชิดชูตัวเองว่าเป็นนักประชาธิปไตยโดยอ้างเสียงข้างมากจากประชาชน แต่กลับบริหารพรรคและประเทศด้วยวิธีเผด็จการ ไม่รับฟังคนเห็นต่าง ผลักคนดีให้ไปเป็นศัตรู ใช้สื่อมวลชนชั่วทำลายคู่แข่งทุกวิถีทางด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวงประชาชน สร้างค่านิยมผิดว่าประชาธิปไตย = เสียงข้างมากเท่านั้น
11. อ้างจงรักภักดี แต่เต็มไปด้วยพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้วงสถาบัน สนับสนุนกลุ่มคนที่มีทัศนคติเป็นอันตรายต่อสถาบันกษัตริย์ให้กัดกร่อนสถาบันหลักของชาติ หวังเปลี่ยนการปกครอง
12. อ้างรัฐบาลปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย แต่ความจริงมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในยุคทักษิณ ด้วยการใช้อำนาจนอกกฎหมาย มีการก่ออาชญากรรมต่อประชาชนโดยรัฐในหลายกรณี อาทิ กรือเซะ ตากใบ และการฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ซึ่งทักษิณยอมรับว่าเป็นนโยบายผิดพลาดทั้งสองเรื่องที่ใช้กำปั้นเหล็กมากกว่าถุงมือกำมะหยี่
13. อ้างว่าให้เสรีภาพสื่อแต่ความจริง คือ ลิดรอน แทรกแซง แทรกแซกซึม และแทรกซื้อ เคยบอกว่าไม่เป็นเจ้าของสิื่อ แต่ในช่วงเป็นนายกฯ ให้ บ.ชินฯ เทกโอเวอร์ “ไอทีวี” ครอบงำสื่อจนเกิดปัญหากบฏไอทีวีตามมา ปัจจุบันยังใช้ทั้งสื่อดาวเทียม วิทยุชุมชน และสื่อหลักที่สมยอมเป็นขี้ข้าบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อคนไทยอย่างเป็นระบบ
14. ชอบอ้างหลักพุทธศาสนา แต่พฤติกรรมขัดต่อหลักธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า บริหารประเทศด้วยการมอมเมาประชาชนทำหวยเถื่อนให้กลายเป็นหวยถูกกฎหมาย พยายามสร้างบ่อนคาสิโน สนับสนุนคนเป็นหนี้ขัดแย้งต่อปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
15. อ้างทำเพื่อคนจน แต่กลับวางนโยบายทำลายฐานรากของประเทศ ทำให้รากหญ้าเป็นหนี้ อ่อนแอ ต้องรอพึ่งรัฐตามระบบอุปถัมภ์สร้างหนี้บุญคุณด้วยภาษีประชาชน
16. เคยระบุว่านักธุรกิจที่ไปทำธุรกิจในเกาะที่ไม่เสียภาษีถือเป็นคนขายชาติ สุดท้ายตัวเองมีธุรกิจที่เกาะเคย์แมนที่ตรวจสอบไม่ได้ และเป็นหนึ่งในหลักฐานของการซุกหุ้นทำผิดกฎหมาย
17. อ้างตัวว่ามีจริยธรรมแต่การกระทำไร้ธรรมาภิบาลที่ดีในการบริหารประเทศ กระทั่งเกิดเหตุการขายหุ้นชินคอร์ปโดยไม่เสียภาษีซึ่งนายสุวรรณ วลัยเสถียร มือขวาที่ปรึกษาด้านกฎหมายภาษี ออกมาแถต่อสาธารณชนถึงการขายหุ้นกระฉ่อนโลกสะเทือนบัลลังก์ทักษิณว่า “ผมไม่ได้รับมอบหมายให้มาพูดเรื่องจริยธรรม”
18. อ้างว่าไม่เคยคิดฉวยโอกาสทำธุรกิจบนความด้อยโอกาสของประเทศชาติ แต่ความจริงร่ำรวยจากสัมปทานผูกขาดด้านโทรคมนาคมจากเผด็จการทหารยุค รสช. บนความด้อยโอกาสของคนไทย
19. บอกจะเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ แต่กลับแบ่งแยกประชาชนด้วยการระบุชัดเจนว่า “จังหวัดไหนเลือกพรรคไทยรักไทยจะได้รับการดูแลก่อน”
20. อ้างจะลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่การบริหารประเทศกลับถ่างความเหลื่อมล้ำในสังคมมากขึ้น คนรวยรวยขึ้น ส่วนคนจนมีแต่หนี้เพิ่ม ไร้นโยบายสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนยืนด้วยลำแข้งตัวเอง
คนโกหกไม่ทำชั่วไม่มี”
