xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณ-รัฐตำรวจนั่นแหละต้นตอความฉิบหาย-ใต้ลุกเป็นไฟ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

วันที่ 25 ตุลาคม เป็นวันครบรอบ 8 ปี ของเหตุการณ์ “ตากใบ” ในจังหวัดนราธิวาส ทางการ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่กำลังรักษาความปลอดภัยกันอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุการณ์ร้ายกันอย่างเคร่งเครียด แต่ก็ยังไม่วายที่คนร้ายยังพยายามก่อเหตุ มีการลอบวางระเบิด ไล่ยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บกันรายวัน

เกิดความสูญเสียจากเหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ ที่หลายฝ่ายเคยสรุปตรงกันว่าเกิดจากนโยบายปราบปรามยาเสพติด ที่ใช้ความรุนแรงแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ส่งสัญญาณให้มีการ “ฆ่าตัดตอน” ทั่วประเทศ แต่สำหรับพื้นที่ชายแดนใต้กลับส่งผลสั่นสะเทือนจนเหนือความคาดหมาย

แม้แต่คำปรามาสว่า “โจรกระจอก” และสั่งให้เอ็กซ์เรย์ ปราบปรามให้เด็ดขาดให้หมดภายใน 3 เดือน ทำด้วยความสะใจ จนเกิดการ “อุ้มฆ่า” ไปทั่ว สร้างความประทับใจให้นาย สร้างภาพภาวะผู้นำเด็ดขาด ทำงานฉับไว แต่การบริหารสั่งการแบบไม่เคยศึกษาวัฒนธรรม แยกแยะคนดีออกจากคนร้าย ไม่เคยทำความเข้าใจกับเหตุการณ์เปราะบางทางประวัติศาสตร์ คิดอะไรแบบง่ายๆ ต้องการให้เห็นผลทางการเมืองแบบเฉพาะหน้า ไม่ต่างจากพวกจิ๊กโก๋โชว์สาวแถวหน้าปากซอยในสมัยก่อนไม่มีผิด ทำให้เกิดความเสียหายบานปลายมาจนถึงทุกวันนี้

เหตุการณ์ที่ ตากใบ ถือว่าเป็นภาพสะท้อนความเป็นจริงดังกล่าวมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด และ ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม การควบคุมตัวหลังจากควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว มีการควบคุมขนส่งไปยังค่ายทหารก็ขาดการดำเนินการที่ขัดกับหลักมนุษยชน ภาพที่เห็นเจ้าหน้าที่เตะต่อยทุบตีทำร้ายชาวบ้านก่อนมัดมือไพล่หลังแล้วนำขึ้นรถบรรทุกซ้อนทับกัน 4-5 ชั้น ทำให้คนที่อยู่ชั้นล่างสุดขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตไปอย่างน่าเศร้าถึง 85 ศพ

ภาพที่เกิดขึ้นอาจมีบางคนสะใจ แต่ลองพิจารณาให้ดีหากคนเหล่านั้นเป็นญาติพี่น้อง เป็นคนในครอบครัวของเรา และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นคนทำผิดแค่ไหนก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น เพราะนั่นเท่ากับว่าพวกเขาไม่ได้เป็นมนุษย์

มองอีกมุมหนึ่งนี่แหละคือปมปัญหาที่สำคัญ เป็นการสร้างความเคียดแค้นชิงชังกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกลายเป็นชนวนทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง ทำให้ชายแดนใต้ลุกเป็นไฟต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งมีการคาดกันว่าเวลานี้สถานการณ์พัฒนามาไกลจนยากที่จะเยียวยาลงในเวลาอันใกล้นี้ เพราะหากโชคดีสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ก็เชื่อว่าอาจต้องใช้เวลานานไม่ต่ำกว่าสิบปี แต่ก็ยังเป็นปัญหาคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา

นั่นคือเรื่องปัญหาชายแดนใต้ที่ ทักษิณ เป็นคนก่อขึ้น ใช้อำนาจนิยม อำนาจรัฐโดยเฉพาะการสร้าง “รัฐตำรวจ” ขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการจัดการกับปัญหา รวมทั้งใช้เป็นเครื่องมือจัดการกับฝ่ายตรงข้าม แต่ได้สร้างเงื่อนไขจนบานปลายมาจนถึงปัจจุบันแทบทุกเรื่อง และทุกเรื่องดังกล่าวยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลงได้เลย

ขณะที่ปัญหาเรื่องการเอาเปรียบสังคมตั้งแต่ถูกเปิดโปงเรื่องการขายหุ้นชินคอร์ปโดยไม่เสียภาษีสักบาท การทุจริตโครงการในลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งที่ผ่านมามีบางคดีที่ศาลได้ตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก นอกจากนี้ยังมีหลายคดีที่ถูกฟ้อง เช่น คดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทย คดีเงินกู้ของธนาคารส่งออกและนำเข้า (เอ็กซิมแบงก์) รวมไปถึงการหลบหนีหมายจับคดีทุจริตอีกหลายคดี และคดีที่ร้ายแรงก็คือตกเป็นผู้ต้องหาในคดีก่อการร้าย จากการยุยงปลุกระดมให้เกิดการเผาบ้าน เผาเมือง เผาศาลากลาง

นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ มีทั้งคำพูดและพฤติกรรมที่แสดงออกต่างกรรมต่างวาระกันหลายครั้ง

ขณะเดียวกันเมื่อสามารถเอาชนะเลือกตั้งมีการส่ง“น้องสาว” คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งที่สังคมรับรู้กันมาตั้งแต่ต้นก็คือพฤติกรรม “สองมาตรฐาน” ทำตัวไม่ต่างจากอำมาตย์หรือ “อภิสิทธิ์ชน” ดังที่เคยกล่าวหาคนอื่นตลอดเวลา เพราะสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้กำลัง กฎหมายปรองดองตบตา หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ว่าล่าสุดจะมีการแก้เกมกันใหม่ทำให้ “แนบเนียน” โดยใช้กลไกข้าราชการ ทั้งกระทรวงมหาดไทย และตำรวจ เพื่อระดมมวลชนมาสนับสนุนโดยผ่านวิธีการที่เรียกให้สวยหรูว่าเป็นการ “สารเสวนา” แต่เนื้อแท้แล้วก็คือการเปลี่ยนแนวทางเดินใหม่ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ นั่นคือทำให้ตัวเองได้พ้นผิดเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน

ตราบใดที่ ทักษิณ ชินวัตร ยังไปไม่ถึงเป้าหมายดังกล่าว และยังมีมวลชนที่หลงเชื่อเขา จำนวนมาก ความวุ่นวายในบ้านเมืองก็จะเกิดขึ้นโดยไม่จบสิ้น แม้ว่าในปัจจุบันยังมีสถานะเป็นนักโทษ เป็นอาชญากรหนีคดี ไม่ต่างจาก “โจรชั่ว” คนหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่ามีบรรดาข้าราชการ นักการเมือง รัฐมนตรีแห่แหนกันไปเยี่ยมคารวะ ยังให้การเคารพ และที่น่าอดสูที่สุดก็คือมีการประดับยศให้ตำรวจที่เป็นผู้รักษากฎหมาย แต่กลับมีการอ้างหน้าตาเฉยว่า ทักษิณอยู่ต่างประเทศ ตำรวจไม่มีอำนาจจับกุม กลายเป็นว่าบ้านเมืองนี้กฎหมายถูกเลือกปฏิบัติ อำนาจตุลาการถูกย่ำยีอย่างไม่ใยดี

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลายทั้งปวงล้วนมีสาเหตุมาจาก ทักษิณ ชินวัตร แทบทั้งสิ้น ปัญหาตั้งแต่ชายแดนใต้ขึ้นมาจนเกิดความวุ่นวายทั้งประเทศมีการแตกแยกในบ้านเมืองก็มาจากเขานี่แหละที่เป็นต้นเหตุสำคัญ ดังนั้นถ้าจะบอกว่า ทักษิณ นี่แหละเป็นต้นตอแห่งความฉิบหายมันก็คงไม่ผิดแน่นอน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น