“ชูวิทย์” เอากับเขาด้วย! ตั้งฉายานักการเมืองปี 55 อ้างคุย ส.ส.แล้วเห็นพ้องสะท้อนภาพลักษณ์หยิกแกมหยอก พร้อมโชว์มิวสิกวิดีโอประกอบ ตั้ง “สุกำพล-โอ๋จัดให้”, “เฉลิม-เหลิมทาสรัก”, “ธาริต-กิ้งก่าทองสองใจ”, “ยิ่งลักษณ์-ปูไข่ไก่หลง”, “อภิสิทธิ์-มาร์คเมาไบกอน”, “รัฐบาล-พี่ชายที่แสนดี”
วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.40 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงว่า ตนได้พูดคุยระหว่างนักการเมืองด้วยกันทั้งจากฝ่ายค้านและรัฐบาล จึงได้ตั้งฉายานักการเมืองเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของแต่ละคน เป็นการหยิกแกมหยอก แบบไม่ซีเรียส เป็นฉายาที่ตนตั้งให้ส่งท้ายปี 2555 โดยได้มีการนำเพลงที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับฉายามาประกอบ ดังนี้
1. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ฉายา “โอ๋จัดให้” เพราะได้จัดการผู้นำฝ่ายค้านด้วยข้อหาหนีทหาร ซึ่งมีมานานทั้งที่แรกเริ่มรัฐบาลยิ่งลักษณ์บอกว่าจะแก้ไข ไม่แก้แค้น โดยขณะที่นายกฯ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่ก็ปล่อยให้ รมว.กลาโหมจัดการปลดยศร้อยตรีของผู้นำฝ่ายค้าน จึงเหมาะกับเพลง “จัดให้” ของวงไทเทเนียม
2. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ฉายา “เหลิม...ทาสรัก” เพราะเป็นผู้ที่ยอมรับว่าเป็นขี้ข้าทักษิณมานานแล้ว ซึ่งคำว่า “ขี้ข้า” มีความหมายเดียวกับคำว่า “ทาส” คือผู้ที่ต้องทำงานรับใช้ในทุกสภาวะ โดยถูกบีบบังคับให้ทำตามคำสั่ง ไม่สามารถบ่น ขัดแย้ง ต้องทนทำไป ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่ในพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคขนาดใหญ่ แต่ไม่มีผู้สนับสนุน และกลุ่มก๊วน จึงต้องทำงานทดแทนบุญคุณ จึงเหมาะกับเพลง “ทาส” ของวงพาราด็อกซ์
3. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ฉายา “กิ้งก่าทองสองใจ” เพราะโดยปกติข้าราชการไทยย่อมต้องโอนอ่อนผ่อนตามนโยบายของแต่ละรัฐบาล เพียงแต่นายธาริตซึ่งในขณะที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มีอำนาจ ก็ถูกฝ่ายพรรคเพื่อไทยรวมทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม จะย้ายเป็นคนแรก แต่เมื่อรัฐบาลเพื่อไทยมีอำนาจ นายธาริตก็ยังสามารถเอาตัวรอด และยังได้ทำหน้าที่แจ้งข้อหานายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ทำให้คนมองว่านายธาริตเปลี่่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์อย่างดี จึงเหมาะกับเพลง “กิ้งก่าทองสองใจ” ของธันวา ราศีธนู
4. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ฉายา “ปูไข่ไก่หลง” เพราะปูไข่เป็นปูตัวเมียที่มีสีแดง ซึ่งเป็นลักษณะของไข่ เข้ากับพลังมวลชนเสื้อแดง ส่วนไก่หลง เนื่องจากนายกฯ ยังใหม่กับการเมือง แรกๆ ก็มีการหลงตอบผิดตอบถูก แต่ระยะหลังสามารถโชว์ผลงานเป็นผู้นำระดับโลกต้อนรับทั้งนายโอบามา และนายหู จิ่นเทา รวมทั้งไปประชุมต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็ถูกฝ่ายค้านโจมตีเกี่ยวกับนโยบายจำนำข้าว ซึ่งกล่าวหาว่ามีการโกงทุจริต จึงเหมาะกับเพลง “ปูไข่ไก่หลง” ของชายธง ทรงพล
5. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปีระชาธิปัตย์ ฉายา “มาร์คเมาไบกอน” เพราะความเป็นพรรคประชาธิปัตย์จะต้องมีหลักการและการทำงานที่มีภาพลักษณ์ความเก่าแก่ของฝ่ายค้านซึ่งอยู่คู่กับสภาไทย แต่สถานการณ์การเมืองปัจจุบันตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารของพรรคเพื่อไทยซึ่งผลักดันนโยบายต่างๆ นายอภิสิทธิ์ดูเหมือนยังติดอยู่ความขัดแย้ง และปัญหาทางการเมือง รวมทั้งถูกรุมล้อมจากเรื่องส่วนตัวในกรณีการถูกถอดยศและดำเนินคดีจากดีเอสไอ อีกทั้งจะมีคดีตามอีกหลายคดีจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุม ทำให้ลักษณะของนายอภิสิทธิ์ทำงานได้ไม่เต็มที่ ติดๆ ขัดๆ เหมือนคนมึนงง ถอยหลังหรือเดินหน้าก็ไม่ได้ อีกทั้งความไม่เป็นเอกภาพของฝ่ายค้านทำให้นายอภิสิทธิ์มีลักษณะโดดเดี่ยวสมกับฉายาดังกล่าว และเหมาะกับเพลง “มันต้องถอน” ของปอยฝ้าย มาลัยพร
6. ฉายารัฐบาล “พี่ชายที่แสนดี” เพราะรัฐบาลมีนายกฯ เป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เบื้องหลังการทำงานมีเงาของ พ.ต.ท.ทักษิณ คอยกำกับ แม้กระทั่งโผรัฐมนตรีต่างๆ ก็ต้องบินไปที่ดูไบ การช่วยเหลือประคับประคองเพื่อให้น้องสาวซึ่งยังเสมือนใหม่กับการเมืองเปรียบเหมือนกับพี่ชายที่คอยดูแล จึงตรงกับเพลง “พี่ชายที่แสนดี” ของระวิวรรณ จินดา
ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว นายชูวิทย์ได้นำภาพหน้าของนักการเมืองที่ถูกตั้งฉายามาทำกราฟิกในลักษณะการ์ตูน มีเพลงประกอบฉายามาเปิดด้วย สร้างความครื้นเครงให้แก่ผู้ที่ร่วมฟังการแถลงข่าวเป็นอันมาก