“สุเทพ” แปลกใจทำไม “เฉลิม” รองนายกฯ ไม่ถอดยศอดีตนายกฯ “ทักษิณ” ชี้ ถ้าดำเนินการเสื่อมยศจำเป็นที่จะต้องถอดยศ เตือนอย่าลำพอง-ลุแก่อำนาจขอยศ พล.ต.อ.เอาใจ ส่วนเรื่องถอดยศ “อภิสิทธิ์” ชี้ ดิสเครดิตเหมือนให้ “ปลอดประสพ” เล่นงาน “สุขุมพันธุ์” เผย เวทีผ่าความจริงที่สวนลุมฯ เตรียมเปิดโปงชายชุดดำ
วันนี้ (12 ต.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า จะไม่มีการถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนก็แปลกใจว่า เหตุใด ร.ต.อ.เฉลิม ถึงออกมาพูดแบบนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้สิทธิในทางศาลต่อสู้คดีทุกอย่าง แต่เมื่อศาลพิพากษาจำคุก ก็หนีคดีไปต่างประเทศ อีกทั้งยังมีข้อหาอื่นหลังจากนั้นตามมาอีกมากมาย ที่ศาลได้ออกหมายจับไว้แล้วทั้งสิ้น ซึ่งตามหลักการแล้ว ผู้ที่ได้รับพระราชทานยศเมื่อได้มีการกระทำความผิดนำมาซึ่งความเสื่อมยศ และจะต้องมีการดำเนินการถอดยศ
อย่างไรก็ตาม ตอนที่พวกตนเป็นรัฐบาลอยู่ เราก็ให้เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่รีบผิดชอบตรวจสอบดำเนินการตามขั้นตอน และวิธีการโดยที่เราไม่ได้มีการเร่งรัด มาวันนี้พอ ร.ต.อ.เฉลิม มีอำนาจในบ้านเมือง กลับมาพูดจาสวนทาง ว่า จะขอยศ พล.ต.อ.ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนเห็นว่าเรื่องนี้ทางที่ดี ร.ต.อ.เฉลิม ควรจะออกมาชี้แจงว่า คณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้มาก่อนมีข้อสรุป และเหตุผลอย่างไร และว่า อย่าหลงลำพอง ลุแก่อำนาจ นึกว่า มีอำนาจในมือแล้วจะวางตัวใหญ่ตัวอย่างไรก็ได้ โดยไม่เกรงใจพี่น้องประชาชน ตนว่าคงไม่เป็นผลดีแก่ชีวิตอนาคตของ ร.ต.อ.เฉลิม แน่นอน และขอให้ระมัดระวังสังวรเอาไว้ด้วย
เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อ้างว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.เสนอมาว่า ไม่ให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าข้อเสนอนั้นชอบด้วยเหตุผลหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีอื่นว่าเป็นอย่างไร จะพูดจาเป็นนกแก้ว นกขุนทอง นั้นไม่ได้ เพราะคนเป็นรองนายกรัฐมนตรี ต้องมีหลักการ ถามต่อว่า หากรัฐบาลไม่มีการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์กฎหมายเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้าข่ายอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ท้าว่า หากไม่พอใจกรณีนี้ให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ท้าไปเรื่อย เราทำงานตามหลักการด้วยเหตุผล จะไปทำตามที่ เขากำหนดกะเกณฑ์ คงไม่ใช่เรื่อง
“ตอนที่ฝ่ายเราเป็นรัฐบาล มีคณะกรรมการพิจารณาในเรื่องนี้ แต่ผมก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร เพราะผมถือว่าทุกอย่างก็เป็นไปตามกติกา โดยเราไม่ได้ไปเร่งรัด บีบบังคับ และไม่เคยเสียดายเลยที่ไม่ได้เร่งดำเนินการในคดีนี้ ขณะที่มีอำนาจอยู่ แต่กลับภูมิใจด้วยซ้ำที่เราได้ทำงานตามอำนาจหน้าที่ด้วยความรอบคอบไม่ได้ลุแก่อำนาจ” นายสุเทพ กล่าว
ส่วนกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เร่งดำเนินการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่า เขาทำได้หรือไม่ มีความถูกต้องชอบธรรมตามกฎเกณฑ์กติกาอย่างไร ชัดเจนอยู่แล้วว่า ในรัฐบาลชุดนี้ทำกันเป็นระบบ แบ่งหน้าที่สอดรับกันทั้งหมด เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือด้อยค่าความนิยมของผู้นำฝ่ายค้าน เหมือนกับที่ให้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ออกมาเล่นงาน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กรณีเรื่องวิธีการระบายน้ำ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้ พี่น้องประชาชนคงเข้าใจ มองเห็นอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่มีใครตบตาประชาชนได้
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ตนทำใจตั้งรับไว้อยู่แล้วว่า ในยุคนี้ที่มี นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มีเป้าหมายดำเนินการสอบสวนตน และนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้ต้องหาอยู่แล้ว ไม่ตื่นเต้นอะไร เพราะตนถือว่ามีหลักฐาน มีข้อเท็จจริงที่พร้อมพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรม ถามต่อว่า หากมีการตั้งข้อหาในช่วงปิดสมัยประชุมสภา จะมีผลต่อเอกสิทธิ์คุ้มครองของสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่กังวล เขาจะดำเนินการอย่างไร ผมก็จะต่อสู้ตามขอบเขตของกฎหมายที่ให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชนเอาไว้
“ในเวทีผ่าความจริงภาคพิเศษ ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ ที่สวนลุมฯ ผมจะบอกพี่น้องว่า เหตุการณ์ในช่วง เม.ย.ถึง พ.ค.53 คนที่เป็นผู้ก่อการร้ายทั้งที่แต่งชุดดำ ทั้งที่คุมหน้าไอ้โม่ง หรือไม่คลุมหน้า ได้ใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชน มีพฤติกรรมอย่างไร เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย และผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตไป ในวันนี้ที่ นายธาริต และนายประเวศ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งใจจะดำเนินคดีกับตน และนายอภิสิทธิ์ เพราะเป็นผู้ออกคำสั่งนั้น ผมก็อยากจะเรียนว่า การออกคำสั่งเป็นการสั่งตามอำนาจหน้าที่ของกฎหมาย แต่ในทางตรงกันข้าม บรรดาแกนนำ หรือแม้แต่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เอง ที่สั่งการให้มีการก่อจลาจลก่อการร้าย เป็นเหตุให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่เสียชีวิต สมควรที่จะถูกดำเนินคดีในฐานะเป็นผู้จ้างวานหรือไม่” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ออกมาระบุแล้วว่า ชายชุดดำในกลุ่มประชาชนมีจริง นายสุเทพ กล่าวว่า แน่นอนที่สุด มันยืนยันสิ่งที่เราเคยพูดมา เช่น หลักฐานต่างๆ ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอที่สื่อต่างๆ ได้แสดงต่อสาธารณชนมาตลอด ถึงจะมีการบิดเบือนไปเป็นอย่างอื่น แต่ว่าเราก็สามารถหยิบยกมาเป็นหลักฐานในคดีได้ เมื่อถามว่า ใครจะมาเป็นผู้ที่เป็นชายใจดำตัวจริงของประเทศนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงไม่ไปพูดแรงขนาดนั้น แต่ก็อยากจะบอกว่า ข้อเสนอของ คอป.ที่บอกว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ เสียสละบ้านเมืองก็จะเป็นสุข ข้อเสนอนี้เป็นข้อคิดที่ตนคิดว่าพวกเราที่ติดตามเหตุการณ์ทั้งหลายควรจะได้พูดจากัน เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้มีโอกาสตั้งสติ คิดได้ว่าสมควรจะทำอย่างไร บ้านเมืองถึงจะสงบสุข