หน.ปชป.เตือน “เป็ดเหลิม” รับผิดชอบคำพูดหากเข้าข่ายผิด กม. หลังบอกไม่ถอดยศนายใหญ่ เย้ยปากเก่งในสภาบอกให้คนอื่นมาสู้คดี แต่กลับไม่บอกนายตัวเอง พร้อมจับตาหลังศาลฎีกาออกหมายจับนายใหญ่อีกคดี ดักคออย่าบิดเบือน ซัดแทรกแซงตุลาการไม่เป็น ปชต. ชี้เยาะเย้ยผู้ตรวจสอบ รบ.ไม่ถูก ขอ “ปู” มีธรรมาภิบาล เชื่อปรองดองเกิด ถ้าเห็นแต่พวกพ้องบ้านเมืองยิ่งแย่
วันนี้ (11 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ประกาศไม่ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า ต้องดูว่าความเห็นดังกล่าวอยู่ตรงไหน และเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีการตรวจสอบกันอยู่ และรอความเห็นทางกฎหมาย ซึ่งต้องตอบสังคมว่าจะทำหรือไม่ทำอย่างไร แต่ถ้าทำผิดหลักเกณฑ์ไม่เป็นไปตามกฎหมายคนที่มีอำนาจต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามว่าความรับผิดชอบจะถึงตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องดูว่าใครมีอำนาจตรงไหน และปรากฏข้อเท็จจริงอย่างไร ตอนนี้รู้สึกแปลกใจ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิมพูดในสภาเรียกร้องให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีต่างๆ กลับมาต่อสู้คดี ไม่ทราบว่าตอนที่ไปฮ่องกง ร.ต.อ.เฉลิมได้พูดเช่นนี้หรือไม่ ตนอยากให้นายกฯ จัดลำดับความสำคัญของงานและยึดประโยชน์ส่วนรวม และยึดกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะทำให้ธรรมาภิบาลและความปรองดองเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง แต่ถ้าการจัดลำดับความสำคัญของประเทศยังวนเวียนอยู่ที่พวกพ้อง สร้างปัญหาทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้ามจะยิ่งเป็นปัญหามากขึ้น
เมื่อถามว่า ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณเพิ่ม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถาม ร.ต.อ.เฉลิมว่าจะทำอย่างไร และต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของศาล ซึ่งเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณรู้ว่าแพ้คดีหลังจากที่ต่อสู้มาระยะหนึ่งก็หนีออกนอกประเทศไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีขบวนการที่เกิดขึ้นไปไกลจนถึงขนาดจะลดทอนอำนาจของตุลาการไทยด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้ารัฐบาลคิดถึงแต่ประโยชน์ทางการเมืองและประโยชน์ของตนเอง ระบบของประเทศจะได้รับผลกระทบ และไม่เป็นไปตามหลักของการถ่วงดุลอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าฝ่ายบริหารไม่สนใจฝ่ายตุลาการแทรกแซงการทำงานของตุลาการก็จะไม่เป็นประชาธิปไตย ขณะนี้การทำงานของรัฐบาลชุดนี้หลายเรื่องไม่เป็นไปตามระเบียบไม่เอาจริงเอาจังต่อการละเมิดกฎระเบียบและไม่ยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน
“วันนี้เป็นเรื่องแปลกที่ภาครัฐไม่ส่งเสริมการปราบปรามการทุจริต แต่กลับส่งสัญญาณที่ผิด และอยากตำหนิการที่ไปเยาะเย้ยถากถางนักวิชาการที่ยื่นเรื่องโครงการจำนำข้าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ เพราะกลุ่มนักวิชาการยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมดูเป็นตัวอย่าง เพราะพวกนี้ไม่ได้อยากเล่นการเมือง แต่อยากเอาความรู้วิชาการมาเสนอเพื่อยับยั้งในสิ่งที่จะทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นจึงไม่ควรสร้างค่านิยมว่าใครที่ตรวจสอบรัฐบาลจะต้องเจอกับสภาพที่ผู้มีอำนาจปฏิบัติอย่างนี้” นายอภิสิทธิ์กล่าว