พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการรวบรวมข้อมูล เพื่อดำเนินการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ถ้า รมว.กลาโหม มีอำนาจตรวจสอบ ก็ถือเป็นเป็นเรื่องของท่าน ส่วนจะตรวจสอบว่า ผิดหรือถูก เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และผลสรุปจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของคณะกรรมการ ตนคงตอบไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องของตน เป็นเรื่องผู้บังคับบัญชาระดับสูง เป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะทำให้กลายเป็นบรรทัดฐานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่ต้องทำ อย่าเอาเฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว ถ้าจะเอาเรื่องนี้มาเป็นบรรทัดฐาน คงมีอีกเป็นพันกว่าเรื่องที่ต้องมีบรรทัดฐาน
ทั้งนี้ตนไม่ลำบากใจ เพราะทุกคนอยู่ในหน้าที่ ตำแหน่ง ความรับผิดชอบ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ กติกา ไม่หนักใจ เพราะอยู่ในกฎระเบียบ แต่จะหนักใจอยู่ที่สื่อทั้งหลาย แต่ตนก็สบายใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี ทั้งนี้เป็นเรื่องของกติกาที่ต้องไปว่ากัน เรื่องนี้อย่าให้ตนพูดต่อจะไม่ดี เป็นเรื่องผู้บังคับบัญชา ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะทะเลาะกับผู้บังคับบัญชา ทะเลาะกับสื่อก็แย่แล้ว ทั้งนี้กำลังใจของตนมี 200 เพราะถ้ามีแค่ร้อยเดียว คงหมดไปนานแล้ว ถ้าหมดก็จะเติม เพราะตนยึดถือว่า เวลาทำงานต้องทำให้เกินร้อย ต้องคาดหวังและสั่งการเกินร้อย
** จี้กลาโหมเอาผิดมาร์คให้ได้
นายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงพล.อ.อ.สุกำพล จะแต่งตั้งกรรมการขึ้นมาดำเนินการถอดยศ และเรียกเงินเดือนคืนว่า เป็นความพยายามของพรรคเพื่อไทย ที่บีบผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินบีบกระทรวงกลาโหมดำเนินการตรวจสอบ และเรื่องนี้มีการยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบ ซึ่งผลก็ออกมาว่า ไม่ได้มีการทำผิดนั้น นายกมล กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเป็นผู้ยื่นเรื่องให้กระทรวงกลาโหมตรวจสอบ ตั้งแต่ นายอภิสิทธิ์ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้มีความพยายามถ่วงเรื่องมาตลอด จนกระทั่ง พล.อ.อ.สุกำพล เข้ามาเป็นรมว.กลาโหม ตนจึงไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบ รมว.กลาโหม ที่ละเลยไม่ตรวจสอบเรื่องนี้
"ผมไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปบีบบังคับผู้ตรวจการแผ่นดินให้ดำเนินการ หรือไม่ดำเนินการใดๆ ที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวอ้างว่ากระทรวงกลาโหม ได้ตรวจสอบหลายครั้งว่าไม่ได้มีความผิด ก็ไม่เป็นความจริง มีการสอบสวนโดยจเรทหารบก สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ซึ่งสรุปผลออกมาว่า นายอภิสิทธิ์ หนีทหารจริง ขาดคุณลักษณะที่จะเข้ารับราชการ รร.จปร. ซึ่งผลการสอบสวนสมัย รมว.สุกำพล ผลการสอบก็เช่นเดียวกันกับที่จเรทหารบกเคยสอบไว้แล้ว"
นายกมล กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ปรากฏจากการสอบสวนของกระทรวงกลาโหมชัดแล้วว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่เข้ารับการตรวจเลือกทหาร โดยไม่ได้รับการผ่อนผัน หรือมีหนังสือผ่อนผันไม่ต้องเข้าเกณฑ์ทหาร คือ หนังสือ สด. 41 มาแสดง ตนได้เรียกร้องให้นำหนังสือผ่อนผันมาแสดงหลายครั้ง แต่นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่สามารถนำมาแสดง ได้แต่ออกมากล่าวหาว่ามีการกลั่นแกล้งทางการเมือง ข่มขู่ว่าจะฟ้องคนนั้นคนนี้ เพื่อเบี่ยงประเด็น โดยไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองเป็นผู้กระทำผิดจริง ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการอย่างจริงจัง เอาผิดกับคนที่หนีทหาร ขาดคุณสมบัติเข้ารับราชการ ใช้เอกสารเท็จ เพื่อให้ตนได้รับการแต่งตั้งเป็นนายทหารและเรียกคืนเงินเดือนและประโยชน์อื่นที่รับไปจากการะทรวงกลาโหมโดยไม่มีสิทธิ์ โดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อคำข่มขู่ของผู้ใด เพราะประชาชนเฝ้ารอดูว่าจะเป็นมวยล้มหรือไม่
**"เหลิม"ไม่รับมุกถอดยศ"แม้ว"
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปฏิเสธไม่ขอแสดงความเห็นกรณี พล.อ.อ.สุกำพล ดำเนินการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั้งนี้ในฐานะที่ตนเองกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่ดำเนินการถอด ยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการถอดยศ และแม้ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเสนอเรื่องนี้ต่อตนเอง ก็จะไม่อนุมัติ เพราะคดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ เกิดขึ้นจากการถูกปฏิวัติ จากอำนาจชั่วร้ายนอกระบบ
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะทำให้กลายเป็นบรรทัดฐานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่ต้องทำ อย่าเอาเฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว ถ้าจะเอาเรื่องนี้มาเป็นบรรทัดฐาน คงมีอีกเป็นพันกว่าเรื่องที่ต้องมีบรรทัดฐาน
ทั้งนี้ตนไม่ลำบากใจ เพราะทุกคนอยู่ในหน้าที่ ตำแหน่ง ความรับผิดชอบ ปฏิบัติตามกฎระเบียบ กติกา ไม่หนักใจ เพราะอยู่ในกฎระเบียบ แต่จะหนักใจอยู่ที่สื่อทั้งหลาย แต่ตนก็สบายใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี ทั้งนี้เป็นเรื่องของกติกาที่ต้องไปว่ากัน เรื่องนี้อย่าให้ตนพูดต่อจะไม่ดี เป็นเรื่องผู้บังคับบัญชา ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะทะเลาะกับผู้บังคับบัญชา ทะเลาะกับสื่อก็แย่แล้ว ทั้งนี้กำลังใจของตนมี 200 เพราะถ้ามีแค่ร้อยเดียว คงหมดไปนานแล้ว ถ้าหมดก็จะเติม เพราะตนยึดถือว่า เวลาทำงานต้องทำให้เกินร้อย ต้องคาดหวังและสั่งการเกินร้อย
** จี้กลาโหมเอาผิดมาร์คให้ได้
นายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงพล.อ.อ.สุกำพล จะแต่งตั้งกรรมการขึ้นมาดำเนินการถอดยศ และเรียกเงินเดือนคืนว่า เป็นความพยายามของพรรคเพื่อไทย ที่บีบผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินบีบกระทรวงกลาโหมดำเนินการตรวจสอบ และเรื่องนี้มีการยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบ ซึ่งผลก็ออกมาว่า ไม่ได้มีการทำผิดนั้น นายกมล กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเป็นผู้ยื่นเรื่องให้กระทรวงกลาโหมตรวจสอบ ตั้งแต่ นายอภิสิทธิ์ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้มีความพยายามถ่วงเรื่องมาตลอด จนกระทั่ง พล.อ.อ.สุกำพล เข้ามาเป็นรมว.กลาโหม ตนจึงไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบ รมว.กลาโหม ที่ละเลยไม่ตรวจสอบเรื่องนี้
"ผมไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปบีบบังคับผู้ตรวจการแผ่นดินให้ดำเนินการ หรือไม่ดำเนินการใดๆ ที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวอ้างว่ากระทรวงกลาโหม ได้ตรวจสอบหลายครั้งว่าไม่ได้มีความผิด ก็ไม่เป็นความจริง มีการสอบสวนโดยจเรทหารบก สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ซึ่งสรุปผลออกมาว่า นายอภิสิทธิ์ หนีทหารจริง ขาดคุณลักษณะที่จะเข้ารับราชการ รร.จปร. ซึ่งผลการสอบสวนสมัย รมว.สุกำพล ผลการสอบก็เช่นเดียวกันกับที่จเรทหารบกเคยสอบไว้แล้ว"
นายกมล กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ปรากฏจากการสอบสวนของกระทรวงกลาโหมชัดแล้วว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่เข้ารับการตรวจเลือกทหาร โดยไม่ได้รับการผ่อนผัน หรือมีหนังสือผ่อนผันไม่ต้องเข้าเกณฑ์ทหาร คือ หนังสือ สด. 41 มาแสดง ตนได้เรียกร้องให้นำหนังสือผ่อนผันมาแสดงหลายครั้ง แต่นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่สามารถนำมาแสดง ได้แต่ออกมากล่าวหาว่ามีการกลั่นแกล้งทางการเมือง ข่มขู่ว่าจะฟ้องคนนั้นคนนี้ เพื่อเบี่ยงประเด็น โดยไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองเป็นผู้กระทำผิดจริง ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการอย่างจริงจัง เอาผิดกับคนที่หนีทหาร ขาดคุณสมบัติเข้ารับราชการ ใช้เอกสารเท็จ เพื่อให้ตนได้รับการแต่งตั้งเป็นนายทหารและเรียกคืนเงินเดือนและประโยชน์อื่นที่รับไปจากการะทรวงกลาโหมโดยไม่มีสิทธิ์ โดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อคำข่มขู่ของผู้ใด เพราะประชาชนเฝ้ารอดูว่าจะเป็นมวยล้มหรือไม่
**"เหลิม"ไม่รับมุกถอดยศ"แม้ว"
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปฏิเสธไม่ขอแสดงความเห็นกรณี พล.อ.อ.สุกำพล ดำเนินการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั้งนี้ในฐานะที่ตนเองกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่ดำเนินการถอด ยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการถอดยศ และแม้ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเสนอเรื่องนี้ต่อตนเอง ก็จะไม่อนุมัติ เพราะคดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ เกิดขึ้นจากการถูกปฏิวัติ จากอำนาจชั่วร้ายนอกระบบ