“อภิสิทธิ์” ชี้ “สุกำพล” โวบี้ถอดยศเหตุทำคะแนนนั่ง หน.พท. แฉ กห.ตามเช็กบิลแต่ก็คว้าน้ำเหลว ย้อนตั้งธงเอาผิดอยู่แล้วจะตั้ง กก.เพื่อซัดเกมการเมืองเหมือนกรณีดีเอสไอ ลั่นสู้กันตาม กม.อย่ากลั่นแกล้ง เย้ยอย่าเลือกปฏิบัติ ถอดยศ “นช.แม้ว”-เผย 13 ตุลาคมนี้พร้อมแฉชายชุดดำตัวจริงบนเวทีผ่าความจริง เชื่อ “อดุลย์” คุมอยู่ แต่ฝากถามเลือกข้าง พท.ตาม “เหลิม” สั่งไหม
วันนี้ (10 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ระบุในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยว่าจะถอดยศตนภายในเดือนนี้ว่า เวลาที่ พล.อ.อ.สุกำพลให้สัมภาษณ์ไม่เคยกล้ายืนยันว่าตนใช้เอกสารเท็จในการสมัครรับราชการ เพราะตนให้ทนายความแกะคำพูดของ พล.อ.อ.สุกำพลอยู่ แต่ในรายงานข่าวที่ออกมาเป็นการพูดในพรรค อาจจะหาเสียงหัวหน้าพรรคอยู่ ซึ่งสิ่งที่ รมว.กลาโหมทำก็ชัดเจนว่าเป็นเรื่องของการเมือง ตนยืนยันว่าไม่เคยใช้เอกสารเท็จ ส่วนการดำเนินการถ้าอยากตรวจสอบก็ทำได้ตามหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยมีการร้องเรียนตนหลายครั้งให้กระทรวงกลาโหมตรวจสอบผลก็ออกมาว่าไม่ได้มีการทำผิด นอกจากนี้ยังมีการยื่นไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ด้วย จนกระทั่งมาช่วงหลังที่ รมว.กลาโหมพยายามเร่งรัดเอาจริงเอาจังเพราะมีการตั้งธงเอาไว้ ซึ่งตนย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ทั้งนี้ ตนก็มีสิทธิที่จะปกป้องตัวเองตามกฎหมายเช่นเดียวกัน
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังแสดงความสงสัยกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพลระบุว่าตนมีความผิดต้องถอดยศ แต่ยังไม่มีผลสรุปจากกรรมการที่ พล.อ.อ.สุกำพลแต่งตั้งขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ จึงไม่เข้าใจว่าจะตั้งกรรมการทำไมในเมื่อ รมว.กลาโหมสรุปเรื่องไปก่อนแล้ว ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องโดยมีความพยายามที่จะทำให้ตนมีมลทิน อย่างไรก็ตามจะต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อไป เพราะการใช้อำนาจรัฐเพื่อดำเนินการกับตนนั้นยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น กรณีดีเอสไอ ซึ่งก็ต้องสู้กันไป แต่ถ้ามีการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่ถูกต้องก็ต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ต้องห่วงว่าจะทำอะไรให้เกิดความวุ่นวาย ทุกอย่างทำตามระบบ การตรวจสอบขอให้ตรงไปตรงมา อย่ากลั่นแกล้ง ต่างคนต่างทำหน้าที่และรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง และตนยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมมีเรื่องเร่งด่วนกว่านี้อีกมากที่ควรจะทำ และถ้าเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จริงจังตำรวจต้องพิจารณาเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรด้วย และนายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้ดำเนินการ ถ้าไม่ทำก็ยิ่งชัดว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกิจกรรมแรลลีชายชุดดำและเวทีผ่าความจริงที่สวนลุมพินีว่า พรรคต้องการสะท้อนข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะมีความชัดเจนมากขึ้นที่ขัดแย้งกับการสร้างกระแสมาก่อนหน้านี้ โดยเจตนาต้องการให้ความจริงปรากฏ ซึ่งจะเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ผู้สูญเสียได้ดีที่สุด และการจัดนิทรรศการชายชุดดำในวันเสาร์ที่ 13 ตุลาคมก็จะทำให้เห็นว่าใครคือชายใจดำตัวจริง ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง อย่างไรก็ตาม การจัดเวทีผ่าความจริงในช่วงหลังก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งตนทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายส่วนให้ความร่วมมือดีในการดูแลความเรียบร้อย ในขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ก็ทำงานเรียบร้อยดี จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปพบเพื่อหารือในเรื่องนี้
“แต่ก็อยากให้ พล.ต.อ.อดุลย์ได้แสดงความเห็นที่ชัดเจนเพื่อยืนยันด้วยว่าจะเชื่อตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้นโยบายตำรวจว่าให้เลือกข้างอยู่พรรคเพื่อไทยหรือไม่ ซึ่งตนหวังในข้าราชการทุกคนให้ทำหน้าที่ตามวิชาชีพอย่างเป็นกลาง ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น เพราะถ้าทำอะไรที่ไม่ถูกต้องสุดท้ายไม่ว่าจะทำตามคำสั่งหรือความต้องการของใครก็ไม่มีใครคุ้มครองได้ ซึ่งต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเองด้วย”
