xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์”ป้อง”มาร์ก” หนีทหารไร้มูลจบปี42 “สุกำพล”เซ็งงดแถลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ประยุทธ์" ป้อง"มาร์ค"หนีทหาร ไม่มีมูล คดีจบตั้งแต่ปี 42 แล้ว "มาร์ค" เตือนพูดมั่วจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล ให้สติกลาโหม อย่าตกเป็นเครื่องมือการเมือง ด้าน"สุกำพล"เซ็ง ผบ.ทบ.ทำเสียแผน สั่งยกเลิกแถลงข่าวกระทันหัน

เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (24 ก.ค.) ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่มีการร้องเรียนว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สมัครเข้าเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยจปร. โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นบุคคลที่ไม่ผ่านการตรวจเลือกทหาร ว่า คดีนี้จบไปตั้งแต่ปี 2542 แล้ว ซึ่งทางกองทัพก็ได้รับข้อมูลมาอย่างนั้น ตอนนี้เป็นเรื่องของกระบวนการ ในเมื่อเป็นนโยบายของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่ต้องการขอเอกสาร ทางกองทัพบก ก็ดำเนินการให้ความร่วมมือทุกประการ และส่งเอกสารขึ้นไป ซึ่งเป็นเอกสารชุดเดิมที่เคยส่งไปให้แล้ว ไม่มีอะไรอย่างอื่น โดยตนจะไม่พูดว่า ถูกหรือผิด แต่ที่ผ่านมาทั้งหมด ก็จบไปแล้ว

เมื่อถามว่า คณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงกลาโหม สรุปผล นายอภิสิทธิ์ ว่า มีเอกสารในการรับราชการที่ไม่ถูกต้อง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ อย่างที่ตนบอก เรื่องนี้เป็นเรื่องเดิม มีเอกสารเท่าไร ก็เท่านั้น ตนไม่ได้ลงในรายละเอียด เพราะมีกรมจเรทหารบก เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กว่า 600 คน ดังนั้นจะมาถามตนทุกเรื่องไม่ได้ ในรายละเอียดมีเจ้ากรมเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าไม่ดีก็ต้องเล่นงานเจ้ากรม ซึ่งเรื่องนี้เจ้ากรมจเรทหารบก เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวน โดยเขารายงานมาว่า เอกสารทั้งหมดที่มีอยู่ ได้ส่งไปให้กระทรวงกลาโหมแล้ว ดั้งนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม จะพิจารณาต่อว่า จะถูกหรือผิดอะไรก็แล้วแต่ เป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ระบุว่า มี พล.อ. 1 คน และ พ.อ. 5 คน ที่ให้การช่วยเหลือนายอภิสิทธิ์ ปลอมแปลงเอกสาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไปหาชื่อมา ตอนนั้นตนไม่ได้เป็นพล.อ. ตนไม่ทราบ เรื่องนานแล้ว ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ ใช้เอกสารปลอมในการเข้ารับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนั้นข้อพิสูจน์พบว่า เป็นเอกสารปลอมหรือไม่ ซึ่งเมื่อปี 42 ได้มีการตรวจสอบไปแล้ว และได้ยุติเรื่องนี้ไปแล้ว ว่าไม่มีมูล

** 'สุกำพล' เซ็ง สั่งยกเลิกแถลงข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้ยกเลิกกำหนดการแถลงข่าว จากเดิมที่พล.อ.อ.สุกำพล พร้อมด้วย พล.อ.อ.ไมตรี โอสถหงส์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเข้ารับราชการทหาร ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ระบุว่าจะแถลงข่าวเรื่องนี้ ในเวลา 14.00 น. วันที่ 24 ก.ค.

ทั้งนี้ กำหนดการแถลงข่าวเดิม จะอธิบายถึงความผิดปกติ ที่คณะกรรมการตรวจสอบที่ตั้งขึ้นของกระทรวงกลาโหมดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามเอกสารต่างๆ ที่รวบรวมจากกรมเสมียนตรา และกรมพระธรรมนูญ เพื่อนำมาใช้ประกอบการตรวจสอบ โดยกระทรวงกลาโหมได้ส่งข้อมูลเอกสาร ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินไปแล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยที่หลักฐานดังกล่าว ถูกอ้างว่าเป็นสิ่งผิดปกติ ที่บ่งชี้ว่า นายอภิสิทธิ์ ใช้เอกสารที่ออกโดยไม่ถูกต้องในทางราชการ สมัครเข้ารับราชการที่ ร.ร.นายร้อย จปร. และไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนทางทหารอย่างถูกต้องตามขั้นตอน

ทั้งนี้ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า รมว.กลาโหม ได้แจ้งมาว่า ในวันและเวลาดังกล่าว ไม่สามารถมาแถลงข่าวได้ เนื่องจากติดราชการพิเศษ จึงขอยกเลิกการแถลงข่าวดังกล่าวไป

** "มาร์ค" เตือนพูดมั่วละเมิดศาล

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ออกมาระบุว่า ข้อกล่าวหาเรื่องหนีการเกณฑ์ทหารจบไปแล้วว่าไม่มีมูล ตั้งแต่ปี 2542 ว่า ตนยืนยันมาตลอด แต่เรื่องนี้มาเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะตนฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ในข้อหาหมิ่นประมาท จากการกล่าวหาตนว่าหนีทหาร ซึ่งจะเห็นได้ว่า จังหวะของคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก็มาในช่วงที่มีการสืบพยานพอดี เป็นวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนมาก จึงอยากเตือนทุกคนว่า ต้องระมัดระวังเรื่องการละเมิดอำนาจศาลด้วย เพราะตนฟ้องคดีนี้ มีนายจตุพร เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาท ก็ต้องไปพิสูจน์กันในศาล คนที่เข้ามาเป็นพยานก็มีโอกาสในการนำสืบไปแล้ว แต่ขณะนี้กำลังมีการใช้สื่อของรัฐ กลไกของรัฐเป็นเครื่องมือ ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง

ส่วนบทบาทของกระทรวงกลาโหม ต่อเรื่องนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีการทำหนังสือส่งไปที่ศาล ก่อนที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะด้วยซ้ำ ซึ่งตนเห็นว่าในขณะนี้มีการใช้กลไกของรัฐมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เหมือนในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่มาของปัญหาวิกฤติต่าง ๆ

ทั้งนี้ สังคมต้องช่วยกัน เพราะถ้าเราปล่อยให้กลไกต่างๆ ถูกนำมาใช้เพื่อการเมือง และเป็นการเมืองในลักษณะที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่ได้เป็นประโยชน์กับประชาชน เป็นการทำลายระบบ ดังนั้นจึงอยากให้กระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา อย่าเป็นเครื่องมือทางการเมือง

** บี้กลาโหมถอดยศ"มาร์ค"

นายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ หนีทหาร ไม่มีมูล และจบไปแล้วตั้งแต่ปี 42 ว่า การร้องเรียนของตน ไม่ได้ร้องเรียนเรื่องของนายอภิสิทธิ์ แต่ร้องให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ดำเนินการทางกฎหมาย โดยการถอดยศ และเรียกเงินเดือนคืน จากนายอภิสิทธิ์ เพราะไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับ

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ควรจบได้แล้ว เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบของผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาเสนอให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการทางกฎหมาย ในการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ และเรียกเงินเดือน และผลประโยชน์ตอบแทนคืนเท่านั้น

ทั้งนี้ หากจะตรวจสอบข้อมูลใหม่ ก็มีเพียงเรื่องเดียว คือ ทะเบียนบัญชียกเว้น หรือผ่อนผันกรณีไปศึกษาต่างประเทศ หรือ สด.20 ที่ปรากฏชื่อ นายอภิสิทธิ์ นั้นเป็นเอกสารราชการหรือไม่ เพราะยังไม่มีการสอบสวนประเด็นนี้ ในปี 2542 และไม่มีข้าราชการคนใดกล้ารับรอง เพราะไม่ใช่หนังสือรับรองการใช้สิทธิ์การเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร หรือ สด.41 ซึ่งเอกสารดังกล่าว ตนเพิ่งเคยเห็นตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ และปรากฏในเว็บไซต์ อภิสิทธิ์ เท่านั้น ดังนั้นทางทหารจะตรวจสอบใหม่ คงจะต้องตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยตนจะเดินหน้าสอบสวนต่อไป

ทั้งนี้ หาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำเอกสาร สด.20 ไปยืนยันกับกระทรวงกลาโหม ก็สามารถที่จะตรวจสอบพร้อมข้อเท็จจริงได้ ว่าเป็นการให้เอกสารเท็จกับทางราชการหรือไม่

**ผลสอบ"มาร์ค"หนีทหารไม่สมบูรณ์

นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเรื่อง เอกสารผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี นายอภิสิทธิ์ หนีการเกณฑ์ทหาร ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงปี 2542 ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นแค่การสอบสวนเบื้องต้น โดยพบว่า มีการอ้างอิงถึงแค่เอกสารจากโรงเรียนนายร้อยจปร. เท่านั้น ทั้งที่มีเอกสารยืนยันว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสอบสวน ระบุให้ตรวจสอบข้อมูลจากหลายแห่ง เช่น สบ.ทบ. และ กพ.ทบ. แต่พบว่าไม่สามารถนำเอกสารจากแหล่งดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาได้ อีกทั้งการสอบพยาน เป็นเพียงแค่การตรวจสอบจากเจ้าหน้าเสมียนธุรการ และแม้จะมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงเพราะส่วนใหญ่คนที่เกี่ยวข้องเกษียณอายุราชการไปแล้ว ดังนั้นเอกสารดังกล่าว จึงถือว่าไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้

นอกจากนี้ จากการให้ปากคำของ พ.อ.สมโชค หนึ่งคณะกรรมการสอบสวนปี 2542 ได้ยอมรับระหว่างการไต่สวนว่า หากเห็นเอกสารใบผ่อนผัน ที่ลงนามโดย พ.ต.ไพโรจน์ แก้ววงศ์ และใบ สด.20 ผลการตรวจสอบ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้

" สิ่งที่ผบ.ทบ. ออกมาพูดว่า การสอบสวนไม่มีมูล ถือว่าชัดเจนแล้ว แต่ที่กระทรวงกลาโหม ไม่กล้าแถลงผลสอบสวน เพราะรู้ว่าเบื้องหลังที่แท้จริงเป็นอย่างไร อีกทั้งเอกสารใบผ่อนผัน ก็ไม่เคยปรากฏออกมาให้เห็นมาก่อน แต่กลับไปโผล่อยู่ในนิตยสาร เรด พาวเว่อร์ เท่านั้น"

นายศิริโชค ยังกล่าวถึงกรณี นายกมล บันไดเพชร ว่า เคยทำเรื่องร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังป.ป.ช. ในปี 53 โดยทางป.ป.ช.ได้มีหนังสือยืนยันมาว่า ไม่มีความผิด ไม่สามารถถอดยศได้ อีกทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ออกมายืนยันแล้วว่า การยื่นเรื่องให้ตรวจสอบไม่เกี่ยวกับการตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ แต่เป็นการยื่นตรวจสอบรมว.กลาโหม ที่ไม่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น