xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.วิปรัฐบาลหัวหมอ ชูหัวข้อประชามติ “เห็นด้วยกับคนต้าน รธน.หรือไม่”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุดมเดช รัตนเสถียร (แฟ้มภาพ)
“อุดมเดช” หัวหมอแนะตั้งหัวข้อประชามติ “เห็นด้วยกับคนต้านแก้ รธน.หรือไม่” อ้างกันฝ่ายคัดค้านนำไปเป็นข้ออ้างว่าคนไม่ออกมาใช้สิทธิไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข รธน. เมิน “จตุพร” ชูธงโหวตวาระ 3 ย้ำเดินหน้าตามบัญชา “นช.แม้ว” พร้อมปฏิเสธทำโพลก่อน ชี้ไม่ตอบโจทย์


นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวภายหลังการประชุมถึงแนวทางการทำประชามติว่า ได้หารือกันถึงรายงานของคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล ที่ระบุว่าให้มีการออกเสียงประชามติ แต่ยังต้องรอฟังคณะทำงานในส่วนที่รัฐบาลตั้งขึ้น ที่จะมีการประชุมในวันนี้เช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะมีการลงรายละเอียดในการดำเนินการ ส่วนความเห็นที่มีความแตกต่างภายในพรรคเพื่อไทยนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาของการอยู่ในสังคมใหญ่ ส่วนตัวเชื่อว่าหากมีโอกาสหารือกันในพรรคแล้วลงมติ ผลออกมาอย่างไรก็คงเป็นไปตามนั้น

“การที่หลายคนออกมาให้ความเห็นต่างๆ นั้น ถือเป็นความเห็นส่วนตัวทั้งสิ้น ยังไม่ได้มีการประชุมพรรค และในวันพรุ่งนี้พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมนัดแรกหลังจากมีพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมสภาฯ คิดว่าคงจะหยิบเรื่องเหล่านี้มาพูดคุยกันถึงข้อดี ข้อจำกัดและคัดค้านกัน ซึ่งถือว่าความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติ”

ผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลในเรื่องจำนวนเสียงที่จะต้องออกมาใช้สิทธิลงคะแนนประชามติ 23 ล้านเสียงหรือไม่ นายอุดมเดช กล่าวว่า หากทำแบบตรงไปตรงมาคิดว่าน่าจะผ่านไปได้ แต่หากมีฝ่ายใดตั้งเป้าว่าจะคัดค้านก็อาจจะทำให้ลำบากอยู่บ้าง เพราะจะต่างจากการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ทุกคนต่างเชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตัวเอง ซึ่งในรัฐธรรมนูญเขียนวางกับดักเอาไว้ว่าการลงประชามติจะมีผลก็ต่อเมื่อผู้มีสิทธในการเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่ง นั่นหมายความว่าคนที่ไม่เห็นด้วยก็จะใช้เทคนิคตรงนี้ในการรณรงค์ให้ประชาชนอยู่เฉยๆ ส่วนการมีส่วนร่วมของวิปรัฐบาลในการทำประชามตินั้นคงเป็นการประสานพรรคการเมืองที่มี ส.ส.และสมาชิกพรรคให้ช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้ออกมาใช้สิทธิ

สำหรับการปราศรัยของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ระบุให้โหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 ขัดแย้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่บอกให้ทำประชามติ นายอุดมเดชกล่าวว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของนายจตุพร ที่คงเห็นว่าควรจะเดินหน้าได้แล้ว ซึ่งในคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลก็มีบางคนบอกว่าให้โหวตวาระ 3 เพื่อเดินหน้าต่อ แล้วก็ใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับประชาชน แต่บางคนก็บอกว่าการทำความเข้าใจกับประชาชนน่าจะใช้เวลา 2 เดือน ก็ควรทำประชามติดีกว่า ส่วนอีกคนก็บอกว่าถ้าทำประชามติก็จะติดเงื่อนไขเรื่องจำนวนเสียงว่าจะผ่านหรือไม่

ส่วนการตั้งหัวข้อในการออกเสียงประชามตินั้น นายอุดมเดชกล่าวว่า หากถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถามแบบนี้คนเห็นด้วยก็ต้องออกมา คนไม่เห็นด้วยก็จะอยู่เฉยๆ ซึ่งบางทีคนเห็นด้วยแต่ไม่ออกมาก็จะกลายเป็นคะแนนของคนไม่เห็นด้วย แต่หากถามกลับกันว่า เห็นด้วยกับผู้ที่จะคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ผู้ที่ไม่มาใช้สิทธิก็สามารถนำไปเป็นอ้างได้ว่า เป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับฝ่ายที่คัดค้าน ในเมื่อฝ่ายนั้นยึดหลักเช่นนี้ แล้วเหตุใดตนจะเห็นตรงข้ามไม่ได้ ที่สำคัญการแก้ไขก็เดินหน้าผ่านวาระ 1 และ 2 มาแล้ว

“คุณจาตรุนต์ (ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย) บอกว่าใช้แต่เสียงส่วนใหญ่เอาหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องบอกว่าเกินกึ่งหนึ่ง เพราะมันมีกระบวนการให้คนไม่มาใช้สิทธิ ถ้าจะลงคะแนนไม่เห็นด้วยให้อยู่บ้านดีกว่า ดังนั้นต้องการปิดประเด็นเพื่อป้องกันคนที่จะหยิบเรื่องนี้มาเป็นประโยชน์ทางการเมือง เพราะถ้าถามว่า เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ฝ่ายค้านก็จะบอกว่าคนที่ไม่ออกมาคือคนที่ไม่เห็นด้วย ถ้าผมถามกลับกันว่า เห็นด้วยกับการที่จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ คนที่ไม่ออกมาก็จะเป็นคนที่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ แต่คงไม่เสนอเรื่องนี้ให้กับคณะทำงานชุดของรัฐบาล ขอเสนอผ่านสื่อก็พอ”

ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อเสนอของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการที่เสนอให้มีการทำโพลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว มีการหารือในที่ประชุมวิปหรือไม่ นายอุดมเดชกล่าวว่า นายวรชัยเสนอว่าให้ถามโพลก่อนว่าจะทำประชามติหรือไม่ ไม่ได้หมายความว่าทำแค่โพลแล้วเดินหน้าต่อได้เลย เพราะผลโพลเองก็ไม่ตอบโจทย์ว่าจะเป็นไปตามคำแนะนำของศาลหรือไม่

นายอุดมเดชยังกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมวิปรัฐบาลยังได้หารือเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่างๆ ที่คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วเสร็จ เช่น ร่าง พ.ร.บ.กองทุนสงเคราะห์สมาชิกรัฐสภา ร่าง พ.ร.บ.จดหมายเหตุแห่งชาติ และร่าง พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พร้อมเลื่อนวาระพิจารณากฎหมายที่สำคัญ คือ กฎหมายฟอกเงิน และป้องกันการสนับสนุนเงินกลุ่มก่อการร้าย มาพิจารณาก่อนด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น