หน.ปชป.จวก “นช.แม้ว” พูดเอาดีเข้าตัว บอกแก้ รธน.เพื่อ ปชต. แท้จริงทำเพื่อตัวเอง ชี้ รบ.มุ่งทำเพื่อนายใหญ่หรือ ปชช. รอบทสรุปประชามติยันต้องโปร่งใส แจงไม่ยุ่ง ม.309 หวั่นกระทบสถาบันฯ ศาล องค์การอิสระ แต่ รบ.กลับไม่สน เตือนถูกนายใหญ่หลอก มีปัญหาชิ่งหนี ย้อนบอกแก้ไขไม่แก้แค้น แต่การกระทำขัด ปัดอุ้มเผด็จการ เหตุขวางแก้ ม.309 ชี้อ้าง ปชต.แต่เห็นจะล้มคำสั่ง คตส.ท่าเดียว ท้าพูดให้ชัด พ.ร.บ.ปรองดองไม่ยุ่งคดี ดัก “ปู” หนีความรับผิดชอบไม่พ้น แนะคิดให้ดีพาประเทศสู่ขัดแย้ง เหน็บ “นช.แม้ว” ประชามติหมู อย่าแก้ กม.นับคะแนน
คลิกที่นี่ สัมภาษณ์ โดย "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ผ่านเวทีคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแก้ปัญหาทุกอย่างให้กับประเทศชาติได้ว่า เป็นการวนกลับมาประเด็นเดิม คือ เลือกพูดครึ่งเดียว ไม่พูดความจริงทั้งหมด เพราะไม่ว่าใครก็อยากให้บ้านเมืองมีความก้าวหน้าในการพัฒนาประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดนั้นสวนทางกับที่เคยพูดมาก่อนหน้านี้ว่าบ้านเมืองมีความเป็นประชาธิปไตยแล้ว อีกทั้งในขณะนี้รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของบ้านเมืองและการแก้ปัญหาประชาชน โดยเฉพาะประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการแก้เป็นเรื่องส่วนตัวทั้งสิ้น
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า การส่งสัญญาณของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นภารกิจของรัฐบาลก่อนการแก้ปัญหาประเทศชาติด้านอื่นนั้นจะเป็นบทพิสูจน์รัฐบาล และส.ส.ว่าจะเอาเรื่องของประชาชนเป็นตัวตั้ง หรือยึดเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนยังรอว่ารัฐบาลจะมีข้อยุติในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญและการทำประชามติอย่างไร แต่ขอให้ทำอย่างตรงไปตรงมา เพราะมีควาพยายามกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์เบี่ยงเบนประเด็นเรื่องมาตรา 309 ตนขอยืนยันว่าไม่มีการเบี่ยงเบนประเด็น เพราะเราเคยขอแปรญัตติในส่วนที่ไม่ให้กระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตุลาการ องค์กรอิสระ และลบล้างคดีคำพิพากษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่รัฐบาลไม่ยอม จึงบ่งชี้เจตนาที่ชัดเจนว่ารัฐบาลต้องการแก้ไขประเด็นเหล่านี้
“ผมเชื่อว่าสุดท้ายการตัดสินใจของรัฐบาลและนายกฯ คงจะปฏิบัติตามคำชี้นำของ พ.ต.ท.ทักษิณ คงเดินไปตามนั้น แต่อยากเตือนว่า เมื่อเกิดปัญหาขึ้นต้องรับผิดชอบแล้วคุณทักษิณจะไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองเสนอ หรือยุยงให้คนทำ เหมือนเหตุการณ์ในปี 52 และ 53 ที่ยุยงให้คนเคลื่อนไหวแล้วอ้างว่าจะรับผิดชอบ แต่ก็ไม่เคยรับผิดชอบ หากเดินหน้าไปอย่างนี้ก็ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีเคยหาเสียงและให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน ดังนั้น หากนายกฯ ยืนยันว่าต้องการเห็นความสงบสุขในบ้านเมือง ต้องไม่ตามใจคุณทักษิณ ต้องเลือกเอา” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตรียมแผนสองหากประชามติไม่ผ่านด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรานั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีความขัดแย้งกันเองกับนโยบายที่เคยแถลงไว้ต่อรัฐสภาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมี ส.ส.ร.เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งพรรคชี้ให้เห็นแล้วว่ารัฐบาลใช้คำสวยหรูว่าแก้ไขไม่แก้แค้นแต่สภาพบ้านเมืองปีกว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น และเห็นว่าประชาชนจำนวนมากทราบแล้วว่ารัฐบาลมีวัตถุประสงค์อะไรในการทำเรื่องนี้ และมีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย จึงอยู่ที่รัฐบาลจะตัดสินใจว่าจะนำพาประเทศเข้าสู่ความขัดแย้งในเรื่องนี้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าการทำประชามติให้ได้ 24.3 ล้านเสียงเป็นเรื่องหมูๆ จะสะท้อนถึงการใช้อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้องด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สะท้อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณขี้โม้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอประเมินว่าการใช้จำนวนเสียงตามกฎหมายประชามติเป็นเรื่องยากหรือง่าย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคนขี้โม้ไปเรื่อย พร้อมกับยืนยันว่าตนไม่ได้อุ้มเผด็จการตามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหา และย้อนถามพรรคเพื่อไทยว่า ตรงส่วนไหนของรัฐธรรมนูญที่อยากให้เป็นประชาธิปไตยแล้วตนไปขัดขวาง เพราะสิ่งที่ตนยืนยันขัดขวางคือการล้มคดีทุจริตที่ศาลตัดสินไปแล้ว ไม่ใช่ คตส.ตัดสิน ด้วยการล้ม 309 ล้มงาน คตส.หวังผลให้มีการล้มคำพิพากษาล้มคดี จึงไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องจะช่วยคนโกง และส่วนที่อยากให้เป็นประชาธิปไตยเพิ่มขึ้นก็ให้เสนอมาว่าอยากทำอะไร เลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาหรืออะไร ก็ไม่มีมีแต่ได้ยินว่าจะแก้มาตรา 309 เพื่อให้งาน คตส.เป็นโมฆะ
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 เกี่ยวพันกับการออก พ.ร.บ.ปรองดองเพื่อนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นผิดในทุกคดี เพราะมีความเห็นในทางกฎหมายว่า ถ้ากฎหมายล้างผิดไปกระทบกระเทือนในบางคดีแล้วขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญก็จะบังคับใช้ไม่ได้ ตนจึงบอกว่าถ้าห่วงว่าจะมีการอุ้มเผด็จการก็ตอบให้ได้ว่าที่จะแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยผลในทางปฏิบัติคืออะไร และถ้ายืนยันว่าไม่เกี่ยวกับคดีก็ประกาศเลยว่าการแก้ไขทั้งหมดต้องไม่มีผลต่อคดีความที่ตัดสินไปแล้ว เพราะมีการวิเคราะห์จากฝ่ายรัฐบาลเองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 309 จะเป็นประตูบานแรกที่จะนำไปสู่การนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งนายโภคิน พลกุล ประธานคณะทำงานศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลก็ยอมรับว่าต้องแก้ไขมาตรานี้ จึงต้องถามว่า แก้แล้วเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นอย่างเดียว นอกจากทำให้ผลการทำงานของ คตส.ใช้ไม่ได้ ซึ่งหากรัฐบาลยังเดินหน้าก็จะนำไปสู่ความขัดแย้ง จึงอยากให้นำการศึกษาของฝ่ายต่างๆ มาดูว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาอุปสรรคเรื่องนี้อย่างไรแล้วก็แก้ไขส่วนนั้น ก็จะไม่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่รัฐบาลพยายามจะแก้อยู่ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะโยนให้เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของรัฐสภาไม่ได้ เพราะรัฐบาลเป็นผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเอง อีกทั้งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองก็ขัดกับนโยบายของรัฐบาลเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครม.เป็นองค์กรที่จะต้องตัดสินใจเรื่องการทำประชามติ ดังนั้นนายกต้องรับผิดชอบเต็มๆ ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายจะลอยตัวไม่ได้
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ไม่ควรมีการแก้กฎหมายประชามติเพื่อลดจำนวนเสียงการลงประชามติ เพราะถ้าทำยิ่งบ่งชัดว่าสุดท้ายไม่พร้อมที่จะทำกติกา ในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า “หมูๆ” จะไปแก้ทำไม