หน.ปชป.ติง รบ.หวังล้างคดี “ทักษิณ” กับแก้ รธน. ทำวุ่นวาย ย้อนแก้เพื่อส่วนร่วมทำได้กลับนิ่ง จี้ “ปู” อย่าโบ้ยสภาเผยจุดยืน ถามเป้าหมายทำประชามติ รับ รธน.ควรแก้ รวมถึงนิรโทษกรรม ปชช.บางส่วน แต่ไม่รวมคนโกง เชื่อหยุดทำตามใจนายใหญ่ บ้านเมืองสบาย-เผยมือ กม.ปชป. ยังต้องพักฟื้นจากเหตุลอบกัด หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม สะกิด ตร.ทำหน้าที่จับให้ได้-พร้อมถกทางออกท่องเที่ยว บริการทางการแพทย์ไทย หลังต่างประเทศมาแรง ทำการแข่งขันเดือด
คลิกที่นี่ เสียงสัมภาษณ์ โดย "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
วันนี้ (20 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า ตนเรียนย้ำอีกครั้งว่าถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยหรือปรับปรุงระบบนั้นมีหลายวิธีการ แต่สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่จนเกิดความสับสนวุ่นวายเพราะไปผูกติดกับคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถ้าละตรงนี้แล้วตั้งหลักใหม่คุยกันระหว่างพรรคการเมือง ภาคประชาชน ว่าจะปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อส่วนรวมอย่างไร ตนว่าจะเดินได้ง่ายกว่า โดยเลิกแนวคิดเดิมที่จะรื้อทั้งฉบับก่อน เพราะมีฐานอยู่แล้วเคยมีการศึกษาไว้ทั้งของวุฒิสภาและหลายคณะกรรมการว่ามีมาตราไหนที่เป็นปัญหาจะนำมาเป็นตัวตั้งก็ทำได้ เพราะถ้าไม่หยุดเรื่องพยายามจะล้างผิด อย่างไรก็สับสนวุ่นวาย ให้หยุดก่อนทุกอย่างจะคุยได้ง่ายขึ้น ไม่อย่างนั้นก็ไม่จบ เหมือนกับกฎหมายล้างผิดที่เสนออยู่ในขณะนี้อ้างว่ารัฐบาลไม่เกี่ยวแต่แท้จริงแล้วสภาคือเสียงข้างมากคือผู้สนับสนุนรัฐบาล ดังนั้น นายกฯ เป็นผู้กำหนดได้จะโยนความรับผิดชอบให้สภาฯ ไม่ได้ เพราะเป็นกลุ่มคนเดียวกันต้องแสดงจุดยืนให้ชัดว่าต้องการทำอะไร
“การนำประชามติมาเป็นเครื่องมือแก้ไขความขัดแย้งทางความคิดนั้นสามารถทำได้ แต่คำถามต้องชัด รวมถึงเป้าหมายด้วยว่าทำแล้วนำไปสู่อะไร เพราะถ้ายังไม่ชัดเจน เช่น อ้างจะแก้เรื่องนั้นเรื่องนี้แต่พ่วงเรื่องล้มคดี อย่างนี้ก็ไม่มีทางรู้คำตอบที่ได้มาว่าตอบเรื่องอะไร เพราะถ้ามาถามผมว่ารัฐธรรมนูญควรแก้ไขหรือไม่ ผมก็ต้องตอบว่าควรแก้ และเคยแก้แล้ว 2 มาตรา ถามว่าผมเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมไหม ผมก็เห็นด้วยต่อการนิรโทษกรรมบางเรื่อง เช่น การชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ไม่เห็นด้วยต่อการนิรโทษกรรมล้างผิดให้คนโกง ที่แปลกก็คือ ฝ่ายผมเป็นคนบอกว่าไม่ควรล้างผิดให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตายของประชาชนในปี 2553 แต่พรรคเพื่อไทยกลับเสนอกฎหมายให้มีการล้างผิดตรงนี้ ความสับสนที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีการนำประโยชน์ของคนบางคนมาเป็นตัวกำหนดทำให้เกิดการโต้แย้งตลอดเวลา ถ้าหยุดตรงนี้ได้บ้านเมืองก็เดินได้สบายๆ และเห็นด้วยหากทุกพรรคการเมืองจะหารือร่วมกันเพื่อหาทางออก แต่ที่ผ่านมาเมื่อมีการหารือก็ไม่ได้มีการดำเนินการตามที่มีข้อยุติ จึงอยากให้รัฐบาลมีความชัดเจน ซึ่งผมย้ำว่าถ้าสลัดก้าวข้ามคดี พ.ต.ท.ทักษิณไปได้ บ้านเมืองเดินได้สบายๆ ไม่มีปัญหา” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนกรณีนายราเมศที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่ามีการสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง คนใกล้ชิดเป็นห่วงว่าจะได้รับความเป็นธรรมมากน้อยแค่ไหน และมีข้อมูลที่พรรคได้มาอีกด้านหนึ่งด้วย จึงต้องจับตาดูการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ก็ให้เจ้าหน้าที่ทำงานไปก่อน โดยในขณะนี้นายราเมศคงยังไม่สามารถให้ปากคำต่อตำรวจได้ เพราะว่าเมื่อวานนี้ตนไปเยี่ยมก็พยายามจะพูดแต่ส่งเสียงได้เพียงเล็กน้อย และจำเป็นต้องพักผ่อนมีเวลาในการพักฟื้นด้วย ตนเห็นว่าตำรวจต้องเอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้
ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังเดินทางไปหารือร่วมกับสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ไทย ที่ ร.ร.รามาดาพลาซ่าแม่น้ำริเวอร์ไซด์ พร้อมระบุว่า ไม่ได้ดูเจาะจงในเรื่องศูนย์กลางการรักษาพยาบาลแต่เป็นความเกี่ยวเนื่องเรื่องบริการทางการแพทย์ เรื่องสปา การท่องเที่ยว ที่คาบเกี่ยวกัน ซึ่งควรมองอย่างเป็นระบบ ศักยภาพของประเทศไทยมีอยู่ แต่หลายฝ่ายห่วงใยว่าถ้าส่งเสริมเรื่องนี้จะกระทบต่อการจัดบริการทางด้านสาธารณสุขของรัฐหรือสำหรับประชาชนก็ต้องมาหาทางออกว่าจะเดินอย่างไร เพราะศักยภาพของไทยมีและไม่จำเป็นว่าจะต้องมีปัญหาความขัดแย้ง เพราะการเติบโตตามธรรมชาติก็มีอยู่และแทบจะเป็นผู้นำโดยธรรมชาติมาระยะหนึ่งแล้ว เพียงแต่ขณะนี้การแข่งขันเข้มข้นขึ้น เช่น อินเดีย สิงคโปร์ เกาหลี และปัญหาเฉพาะในเรื่องกฎหมาย บุคลากร ทิศทางการเจรจาในอาเซียนและที่อื่น บวกกับทิศทางนโยบายและการแก้ปัญหาก็จะทำให้กำหนดแนวทางในเชิงนโยบายและประสานงานแก้ปัญหาได้ โดยจะใช้ช่องทางกรรมาธิการฯ