xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 21 ธ.ค. 2555 (ต่อ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จินดารัตน์ - กลับมาอีกช่วงหนึ่ง รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ นะคะ ผ่านไป 1 ชั่วโมง 15 นาที

กรองทอง - ไวมาก ดูนาฬิกาอีกที ผ่านไปไวมาก เอาถึงสักเที่ยงคืนมั้ยคะ

จินดารัตน์ - จะดีเหรอคะ ถามเจ้าของรายการมั้ยคะ

สนธิ - วันที่ 28 บอกท่านผู้ชมก่อนล่วงหน้า ศุกร์ก่อนปีใหม่ 28 จะเป็นการชุมนุมพวกเรา จะมีนุก มีแอน จะมีเก๋-อุษณีย์ มีเติมศักดิ์ แล้วถ้าเป็นไปได้เอานงฯ มาด้วย แล้วรวมผม ก็ประมาณ 6 คน ต้องจัดที่นั่งดีๆ

กรองทอง - ขอ อ.ปานเทพ ด้วยได้มั้ยคะ

สนธิ - เราจะคุยกันทุกเรื่อง ใครอยากคุยเรื่องอะไร คุยไป บางครั้งผมจะฟังแล้วผมจะออกความเห็นสิ่งที่คุณคุย นุกอาจจะมีความเห็นเรื่องปีที่ผ่านมาเป็นยังไง แล้วผมจะออกความเห็น คุยกันไป คุยกันมา เหมือนสนทนา โดยที่จะไม่เอาประเด็นการเมืองออกมาเลย การเมืองจะเกิดขึ้นจากปากของแต่ละคน อย่างเช่นแอนจะมีความรู้สึกเรื่องนี้ ปีที่แล้วแอนรับไม่ได้กับเรื่องนี้ นุกก็รับไม่ได้เรื่องนี้ คุยกัน ฉะนั้นวันศุกร์ที่ 28 จะออกสด และผมคิดว่าวันศุกร์ที่ 28 อาจจะพิเศษนิดหนึ่ง อาจจะนานหน่อย อาจจะถึง 5 ทุ่ม คุยกันเต็มที่เลย เป็นวันส่งท้ายปีเก่า

จินดารัตน์ - ตกลงเขารู้ตัวกันหรือยัง เจ้าของรายการเป็นโปรดิวเซอร์เองด้วยนะ / กลับมาเรื่องที่ .. แหม ต้องบอกคุณผู้ชมว่าต้องเตรียมทิชชูเอาไว้ซับน้ำตาเลยนะ ซาบซึ้งมาก กับคำพูดของคุณอภิสิทธิ์เกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เขียนลงเฟซบุ๊กใช่มั้ยน้องนุก

กรองทอง - ใช่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ลงเฟซบุ๊ก ก็คือตอนนี้ทางรัฐบาลก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่จะให้ทำประชามติก่อน ทีนี้เรื่องของประชามติที่รัฐบาลเขากังวลก็คือเรื่องเสียง เสียงของผู้มาใช้สิทธิที่มันต้อง 50 เปอร์เซ็นต์ 2 ชั้น คือคนออกมาใช้เสียงต้องครึ่งหนึ่งของคนที่มีสิทธิออกเสียง

จินดารัตน์ - เสียงก็จะได้ครึ่งหนึ่ง เกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิด้วย

กรองทอง - ใช่ ซึ่งมันก็จะยากมาก เมื่อบวกลบคูณหารทางคณิตศาสตร์แล้ว ทีนี้ทาง อ.ปานเทพ และเอเอสทีวี ก็เคยวิเคราะห์กันเอาไว้ว่า ตัวแปรสำคัญคือพรรคประชาธิปัตย์ ทีนี้ขออ่านเฟซบุ๊กบางตอนของคุณอภิสิทธิ์ ที่เขาออกมาดรามาในเฟซบุ๊กของเขาเรื่องท่าทีของเขาเอง เขาบอกว่า สิ่งสำคัญที่ผมต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้เป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศนี้ไปข้างหน้าอย่างสันติวิธี คือการช่วยกันหยุดความล้มเหลวทางการเมือง ซึ่งลำพังผมและพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สามารถที่จะดำเนินการให้ประสบความสำเร็จได้ การยุติความล้มเหลวทางการเมืองโดยประชาชน เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยให้ประเทศของเราก้าวข้ามอุปสรรคที่ขวางทางบ้านเมืองมานานหลายปี ไม่ให้เดินไปข้างหน้า นั่นคือความต้องการอยู่เหนือกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ด้วยการร่วมกันล้มประชามติที่นายกรัฐมนตรี ผู้เป็นน้องสาว กำลังจะทำเพื่อรื้อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หวังลบมาตรา 309 เพื่อล้มคดีทั้งหลายของพี่ชายนักโทษ

กลายเป็นว่าวันต่อมาหนังสือพิมพ์ก็พาดหัว ประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ รณรงค์ให้ประชาชนล้มประชามติ

จินดารัตน์ - ตอนท้ายยังเขียนอีกด้วยนะคะว่า มาร่วมกันคว่ำประชามติแก้รัฐธรรมนูญเพื่อนักโทษ ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ นำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ผมและพรรคประชาธิปัตย์พร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้อง เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสอย่างราบรื่น ไร้ความรุนแรง เพื่ออนาคตที่มั่นคงของประเทศเราสืบไป
ในเนื้อหายังพูดตอนหนึ่งถึงคดีที่ดีเอสไอ แจ้งข้อกล่าวหาไป คุณอภิสิทธิ์บอกว่า หากศาลจะตัดสินให้ประหารชีวิตผมและคุณสุเทพจากคดีนี้ เราก็พร้อมที่จะน้อมรับ เพราะเราเป็นนักการเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน ได้รับการบ่มเพาะจากพรรคประชาธิปัตย์ ให้ยอมตายเพื่อรักษาระบบ โดยไม่มีวันยอมทำลายระบบเพื่อรักษาตัวเอง อันเป็นวิสัยของคนเห็นแก่ตัวที่เข้ามาแสวงประโยชน์จากการเมือง ไม่ใช่ของนักการเมืองมืออาชีพที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อพี่น้องประชาชน พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีวันตาย เพราะเราไม่เคยทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน

สนธิ - เตร๊ง เตรง เตร่ง เตร๊ง ..... ผมชอบคำพูดคุณอภิสิทธิ์อยู่คำหนึ่ง ว่าการเมืองล้มเหลว ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผมคิดว่าสิ่งที่คุณอภิสิทธิ์น่าจะพูด คือชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย ให้ก้าวข้ามนักการเมืองไปซะ สรุปง่ายๆ ก็คือว่า การเมืองที่ล้มเหลว คุณอภิสิทธิ์ต้องยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์ และคุณอภิสิทธิ์ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเมืองที่ล้มเหลวเช่นกัน ผมคิดว่าคำแรกที่คุณอภิสิทธิ์พูด คุณอภิสิทธิ์พูดดีเลย คือยอมรับตรงนี้ แต่ต่อไปต่อมา อธิบายไปจนในที่สุดก็คือว่า ทุกคนล้มเหลวหมด ยกเว้นประชาธิปัตย์ไม่ล้มเหลว

จินดารัตน์ - เป็นพรรคที่ยืนหยัด

สนธิ - เป็นพรรคที่ยืนหยัด ซึ่งมันตรงกันข้าม เพราะว่าทางต่างประเทศเขาระบุชัดเจนแล้วว่า เงินที่ถูกส่งออกไปเมืองนอกในการโกง ในยุคคุณอภิสิทธิ์ 3 แสนกว่าล้านบาท ที่ผมกำลังจะพูดวันนี้ เดี๋ยวก็จะหาว่าผมมีอคติกับคุณอภิสิทธิ์ เดี๋ยวจะหาว่า ดีแต่ด่าทุกคนยกเว้นตัวเอง ไม่ด่าทักษิณ แต่ก่อนด่าทักษิณ เดี๋ยวนี้ไม่ด่าทักษิณ แต่ก่อนด่าทักษิณคนเดียว เดี๋ยวนี้ด่าทุกคน คือคนเขียนจะเป็นพวกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผมก็อธิบายให้นุกกับแอนฟังแล้วว่า เรายืนอยู่บนความถูกต้อง ใครทำผิด ไม่ดี เราไม่เว้นหน้า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นไอ้หล่อ หรืออีสวย ไม่สำคัญ เพราะฉะนั้นแล้วคุณอภิสิทธิ์ต้องยอมรับว่า ประเทศล้มเหลว ล้มเหลวเพราะนักการเมือง และคุณอภิสิทธิ์อย่าได้อ้างเลยว่าสมัยคุณอยู่ ไม่ล้มเหลว ก็ล้มเหลว สมัยคุณอยู่ก็มีการคอร์รัปชัน สมัยนี้ก็คอร์รัปชัน คุณชัชชวาลพูดกับผมตลอดเวลา ผมยังจำคำพูดพี่ได้เลย จริงๆ แล้วพี่เป็นคนแรกที่พูดว่า พรรคเพื่อไทย หรือทักษิณ มันคือไอ้เสือเอาวา เอาผ้าประเจียดคาด สักยันต์ ถืออีดาบ

จินดารัตน์ - โชว์ตัวเต็มที่

สนธิ - โชว์ตัว กูจะปล้นแล้วๆ กูมาแล้วๆ ไหนๆ อยู่ที่ไหน ทรัพย์อยู่ที่ไหน เอามาให้หมด แต่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ใส่เสื้อนอกอย่างดี เคาะประตู กดกริ่ง กริ๊ง สวัสดีครับ ผมชื่อนี้ครับ ผมจะมาเพื่อสำรวจว่าที่บ้านหลังนี้ไวไฟไม่ทำงาน ก็เข้าไป เผลอแป๊บเดียว สวัสดีครับ เข้ามาในห้องนี้หน่อยครับ มาดู พอเข้าเสร็จ ล็อกประตูห้อง แล้วก็ปล้นบ้านไป คือตอนจบ จบเหมือนกัน คือประชาชนโดนปล้น แต่รูปแบบต่างกัน ทีนี้ประชาชนบางส่วน มีความสุขกับโดนคนรูปหล่อ แต่งตัวดีปล้น ไม่พอใจที่โดนไอ้เสือเอาวาเข้ามาปล้น แต่ว่าเมื่อจบลงแล้ว เสียทรัพย์เท่ากันหมด

จินดารัตน์ - เผลอๆ โดนข่มขืนด้วย

สนธิ - เหมือนกัน เหมือนกับนักโทษหนีออกจากคุกมา แล้ววิ่งเข้ามาปล้นที่บ้าน ผัวเมียอยู่กันสองคน มันบอกว่ามันอยู่ในคุกมา 10 ปี มันหงุดหงิด อึดอัด มันก็มองไปที่ผู้หญิง แล้วมันก็วิ่งเข้าไป ผัวก็บอกผู้หญิง ที่รัก อดทนหน่อยแล้วกัน เพื่อชีวิตพวกเรา มันก็วิ่งเข้าไปกระซิบที่หูผู้หญิง ไอ้ผู้ชายก็บอก จับมือผู้หญิงบีบ ใจเย็นๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว มันไปกระซิบที่หูผู้หญิง พูดจบผู้หญิงก็หันไปกระซิบผู้ชาย แล้วเอามือบีบมือผู้ชาย พี่ต้องทนนะ เพราะว่ามันชอบผู้ชาย

จินดารัตน์ - อันนี้เรื่องสมมติใช่มั้ยคะ

สนธิ - เรื่องสมมติ

จินดารัตน์ - มันคุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้ เห็นภาพเลย

กรองทอง - แต่ท่าทีคุณอภิสิทธิ์มา อย่างหนึ่งที่เขาพยายามจะมาพูดในเฟซบุ๊กที่นุ้กรู้สึกว่าเขาอยากให้เราขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชน คือเขาอยากจะนำประชาชนเหรอ นำม็อบเหรอ เขาเพิ่งจะมาเห็นว่าพลังของประชาชนมีความสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ขนาดไหน

จินดารัตน์ - เพราะเขาเคยบอกว่าเขายึดมั่นในระบบรัฐสภา

กรองทอง - ทุกอย่างให้ไปแก้ไขในสภาได้

จินดารัตน์ - ไปฟังเสียงเขาหน่อยมั้ย ตอนเขาเป็นนายกฯ เขาพูดว่าอะไรนะคะคุณสนธิ

**คลิปเสียงคุณอภิสิทธิ์**

สนธิ - คุณอภิสิทธิ์เนี่ย ยังคิดแบบสุภาพบุรุษผู้ดีจอมปลอมชาวอังกฤษ คือมองว่าการเมืองคือการแก้ปัญหา แต่คุณอภิสิทธิ์ไม่เคยคิดเลยว่านักการเมืองในที่สุดแล้วสันดานเหมือนกันหมด นี่คือข้อที่คุณอภิสิทธิ์ยังก้าวไม่ข้าม คือตัวแกเอง คุณอภิสิทธิ์ต้องยอมรับว่าการเมืองไทยจะไปแบบนี้ต่อไปไม่ได้ด้วยนักการเมืองในระบบปัจจุบัน ถ้าคุณอภิสิทธิ์บอกว่าเราต้องมาสร้างระบบการเมืองใหม่ ที่ให้ความยุติธรรมต่อปวงชน ไม่ใช่เน้นการเลือกตั้งยกมือเพียงอย่างเดียว เพราะการเลือกตั้งในคอนเซ็ปต์ในกระบวนทัศน์ของตะวัตกคือวันแมนวันโหวต 1 เสียง 1 คน แต่ตะวันตกมันทำได้ไง ผมเพิ่งอธิบายไปเมื่อกี้ไง ญี่ปุ่น เาหลีก็ทำได้ เพราะอะไร เพราะสื่อมวลชนมันสื่อตรงต่อวิชาชีพมัน ข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นอัยการ ตำรวจเขาซื่อตรงต่ออาชีพเขา เขาไม่กลัวนักการเมือง เพราะฉะนั้นแล้ววันแมนวันโหวตเขาก็ทำได้ แต่เมืองไทยวันแมนวันโหวต คือ การให้ความชอบธรรมในการมีมือในสภาเพื่อที่จะมาทำอะไรตามที่ตัวเองต้องการ เหมือนท่านผู้พิพากษาคนหนึ่ง ท่านกำลังพิจารณาคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มอบอำนาจให้มาฟ้องพวกผม ฟ้องแกนนำ มีผม มีพี่ลอง คุณสมเกียรติ พี่พิภพ ธงไชย ท่านถามทนายทักษิณ บอกว่าสรุปแล้ว ประชาะปไตยของพวกคุณคือว่า คุณเอาเสียงมา เสียงข้างมากพอ พอมากพอ แล้วคุณยกมือในสภาแล้วคุณจะยกมือในสภา แล้วคุณก็ตัดสินว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ เพราะคุณมีเสียงมากกว่าเขาใช่มั้ย นี่คือสิ่งที่ท่านผู้พิพากษาพูด จริงๆมันสะท้อนสัจธรรมไง ว่านักการเมืองระบบซื้อเสียง ในขณะซึ่งกลไกในการตรวจสอบนักการเมืองมันพิการหมด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ อัยการ หรือไม่ว่าจะเป็น กกต. พอเริ่มที่ กกต.ก็ห่วยแตกแล้ว เพราะว่าไม่ยอมทำอะไรเกี่ยวกับคนที่ทุจริต และซื้อเสียงเข้ามา และสื่อมวลชนก็เลว เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อข้าราชการเลว สื่อมวลชนเลว การเมืองถึงเป็นอย่างนี้ไง

เพราะฉะนั้นคุณอภิสิทธิ์ ถ้าคุณอภิสิทธิ์ต้องการที่จะสร้างการเมืองขึ้นมา ที่มันตรงไปตรงมาประชาชน คุณอภิสิทธิ์ต้องพร้อมที่จะมาลงเล่นการเมือง และแก้ระบบการเมือง แต่ไม่ใช่ลงมาแล้วบอกว่า ผมพร้อมที่จะ เราต้องก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และมาหยุดที่ตัวผม นี่คือนัยคุณอภิสิทธิ์พูด ที่ผมรับไม่ได้ เพราะคุณอภิสิทธิ์จะเป็นคนพูดตลอดเวลา เวลาตัวเองได้เปรียบ ตัวเองจะพูดบอกการเมืองต้องจบลงในสภาฯ ลูกน้องตัวเองไม่ว่าจะเป็น นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่าการเมืองต้องไม่เล่นข้างถนน แต่วันนี้ยกมือกี่ครั้งก็แพ้ทุกครั้งในสภาฯ ตัวเองมาเลยบอกประชาชน บอกผมพร้อมจะร่วมกับมวลชนคือ ผมขอผมนำนะ เพื่อก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ จริงๆ แล้ววันนี้ผมต่อต้านนักการเมืองหมด ผมไม่เอา ระบบนี้ผมไม่เอา

เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์พูด จริงๆ คุณอภิสิทธิ์ถ้าคนมีปัญญาคิดให้ลึกๆ แล้ว นั้นคือการก้าวข้ามทักษิณ และไปหยุดที่อภิสิทธิ์

จินดารัตน์ - เพราะตอนแกพูดว่า แกจะหยุดความล้มเหลวทางการเมือง แกไม่ได้ทำอะไรเลย

สนธิ - ไม่ได้ทำเลยแม้แต่นิดเดียว แกกลับทำให้การเมืองล้มเหลวมากขึ้น เพราะแทนที่แกจะยึดหลักนิติรัฐ ถ้าแกยึดหลักนิติรัฐจริง เรื่องเผาราชประสงค์ก็ไม่เกิดขึ้น ถูกไม่ถูก ต้องไม่เกิดขึ้นเลย จะไปเกิดขึ้นได้อย่างไร

กรองทอง - วันนี้เลยกลับกลายเป็น ตัวเองต้องเดินทางไปหาธาริต ต้องรับจดหมายจากธาริต ในการเชิญเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหา หรือล่าสุดดีเอสไอตั้งเหมือนกับเป็นศูนย์ร้องเรียน เป็นศูนย์ขึ้นมาเพื่อที่ 1. ประสานคดีทั้งหมดที่เขาบอกว่า มีคดีฆ่าคนตาย คดีพยายามฆ่า

สนธิ - 2,000 กว่าคดี

กรองทอง - กับอีกหนึ่งหน้าที่ของศูนย์ฯ นี้ คือเอาไว้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่บางทีไม่กล้าไปแจ้งความ ให้มาแจ้งความต่อดีเอสไอได้

สนธิ - ผมถามคุณธาริตว่า ถ้าพันธมิตรฯ จะไปแจ้งความในกรณี 7 ตุลา คุณจะทำได้ไหม คุณกล้าทำอย่างตรงไปตรงมาไหม คุณกล้าไหม อย่าอวดดีอวดเก่งเฉพาะตอนนี้ และอีกประการหนึ่งที่ผมจะตั้งข้อสงสัย และนี่จะเกี่ยวข้องกับความเป็นซีอีโอของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เขาบอกว่าผมจอมเนียน นี่ก็เนียนอีกรูปหนึ่งใช่ไหม ผมถามคุณประยุทธ์ว่า ทหารที่ตายที่สี่แยกคอกวัว 8 คน เรื่องไปถึงไหนแล้ว และถามคุณธาริตด้วย เขาตายที่สี่แยกคอกวัว รู้สึกจะปี 2553 จนวันนี้ยังหาคนยิงไม่ได้ ผมถามคำหนึ่งว่า ใครรับผิดชอบ และคุณประยุทธ์ลูกน้องคุณ ที่เขาตายไปเขามีพ่อมีแม่มีลูกมีเมีย คุณไม่คิดเลยหรือว่า ผัวเขาเป็นทหาร ลูกเขาเป็นทหารรับใช้ชาติ ไปตามคำสั่งของคุณ ไปทำคุณจะไปทำตามคำสั่งใครก็ตาม แต่เขาทำหน้าที่นี้ เมื่อเขาถูกยิงตาย ทำไมคุณไม่เป็นธุระ คุณพูดได้อย่างเดียวกระบวนการยุติธรรมมันล่าช้า มันอย่างโน้นอย่างนี้ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม จนวันนี้คุณยังไม่ไปทุบโต๊ะกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ว่า ทำไมคดีของ พล.อ.ร่มเกล้าถึงล่าช้า และคนอย่างนี้เป็นซีอีโอได้ไง เขาเรียกว่าไอ้โพลส้นตีน โทษทีนะท่านผู้ชม เดี๋ยวนี้ไม่รู้อะไร เรื่องมันส้นตีนเยอะมาก ไอ้โพลทั้งเอแบคโพลล์ สวนดุสิตโพล ข้อที่ 1 มันตั้งคำถามแบบหัวแม่ตีน ชี้นำบท อันที่ 2 เวลามันทำโพล คนที่อยู่ข้างในบอก มันจ้างคนประมาณ 400-500 คนเป็นประจำ และป้อนคำถามแบบนี้ตลอดเวลา เพื่อให้ผลมันออกมาอย่างนี้ มันเชื่อได้อย่างไร โพลบ้าอะไรบอกว่า คนเดียวถ้ามีภัยพิบัติจะให้

กรองทอง - อยากให้ใครรอด

สนธิ - อยากให้ใครรอด

กรองทอง - อันดับ 1 คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

จินดารัตน์ - มีพันธมิตรฯ เขาบอกว่า เกิดมายังไม่เคยทำโพลเลยสักฉบับเดียวเลย ทำไมผลมันออกมาเป็นแบบนี้

สนธิ - ผมว่าเราต้องเริ่มทำเอเอสทีวีโพล ดีไหม ไม่เลวนะ เอาพันธมิตรโพล ไปชนกับดุสิตโพล กับเอแบคโพลล์โพลรับใช้ โพลโกหก โพลขี้จุ๊ คนใต้เรียกขี้หกใช่ไหม โกหกหมดไอ้โพลบ้า สวนดุสิต เอแบคเสียชื่อหมด

จินดารัตน์ - มันมีอีกโพลหนึ่งที่บอกออกมาว่า ใครที่คุณคิดว่ามีความซื่อสัตย์โปร่งใส สุจริต มือสะอาดมากที่สุด ยิ่งลักษณ์ติดอันดับ 1 เลยคุณสนธิ

สนธิ - กูจะบ้าตาย แอนๆ นุก และนี่ไงคือปัญหาสังคมไทย ตำรวจไม่ซื่อ อัยการไม่ซื่อ สื่อมวลชนเลว นักการเมืองชาติชั่ว ต่อมานักวิชาการทำโพลส้นตีน และเมืองไทยมันจะมีอะไรเหลือ คำถามนี้เมืองไทยจะมีอะไรเหลือ นั้นไงที่ผมบอกตลอดเวลาว่า พันธมิตรฯ ต้องเป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าคิดเหมือนกัน จริยธรรมเหมือนกัน กระบวนทัพเหมือนกัน ความถูกความผิดเห็นพ้องต้องกัน เราต้องอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน ช่างหัวมารดามัน ใครมันนอกกลุ่มเราจะคิดอย่างไรต่างกับเราช่างหัวมัน เพราะเรารู้ว่าเราถูกแล้ว เราต้องเกาะตัวกันเอาไว้ ต้องเกาะตัวกันเอาไว้และที่สำคัญที่สุด อย่าให้อ้ายหรืออีคนไหนเข้ามาแทรกในกลุ่มของพวกเรา และมาทำให้อุดมการณ์เราความคิดเราผิดเพี้ยนไป ไม่ได้เด็ดขาด เพราะพวกเราคือคนปกติในสังคมที่มันไม่ปกติ

กรองทอง - แต่บางทีเวลาเราออกไปอยู่กับเพื่อนหรือไปไหน เขาจะมองว่าเราผิดปกติ

จินดารัตน์ - เป็นตัวประหลาด

กรองทอง - อะไรมาสู้อะไรอยู่ได้

สนธิ - นุกไม่รู้สึกหรือว่า ช่วงหลังๆ นุกไปอยู่กับเพื่อนนุกที่มันผิดปกติ นุกชักจะเริ่มเบื่อ

จินดารัตน์ - โคตรเซ็ง

สนธิ - 1. จะเกิดอาการเบื่อ เบื่อตรงไหนรู้ไหม ทำไมเพื่อนกูแม่งโง่แบบนี้วะ มันโง่ได้ใจ

จินดารัตน์ - โง่จนเพลีย

สนธิ - สมัยมึงเด็กๆ มึงเรียนหนังสือกูยังเห็นมึงฉลาด แต่ทำไมมึงยิ่งโตยิ่งโง่

กรองทอง - ตรงใจนะแต่ไม่ได้พูด

สนธิ - นี่ไงนี่คือความรู้สึกของพันธมิตรฯ ที่เป็นพันธมิตรฯ จริง ที่รับทราบข่าวสารข้อมูล และเที่ยวรู้ทันเรื่องราว เขาจะรู้สึกอย่างนี้จริงๆ เหมือนอะไรรู้ไหม เหมือนครั้งหนึ่งสมัยก่อนผมเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ประชาธิปไตยสมัยหนุ่มๆ และคนที่นักข่าวชอบไปสัมภาษณ์มากที่สุดคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่บ้านซอยสวนพลู ผมเป็น บก.ผมไปสัมภาษณ์เองเลย นักข่าวอะไรเต็มเลย เวลาไปจะเห็นอาจารย์คึกฤทธิ์นั่งสูบบุหรี่ฝรั่งเศสคีตาล(***)สูบไปยิ้มไป และพวกล้อมรอบท่านก็จะเป็นพวก ทวิช กลิ่นประทุม อย่างเนี้ย ประเภทเขี้ยวลากดิน ไปที่ไหนต้องอย่าให้เข้าบ้านเพราะว่าพื้นบ้านจะเสีย ยิ่งมีพรมนี่ขาดยุ่ยเลย เขาก็จะมาเล่าให้ อ.คึกฤทธิ์ฟัง อาจารย์ครับ ผมว่าเราต้องอย่างนี้ เราต้องอย่างนี้ ไอ้ตอนนั้นผมก็สังเกตว่าทำไม อ.คึกฤทธิ์เอาแต่ยิ้ม อืม แล้วพยักหน้า อืม ดี อืม ดี เราก็สงสัยมาตลอดนะ ไปสัมภาษณ์แกทีไรจะเห็นแกนั่งยิ้มแล้วแกก็จะพูดกับนักข่าวเรื่องโน้นเรื่องนี้ พอพูดลิ่วล้อของท่านเสนออะไรท่าน ท่านก็ดี ดี พอเราอายุมากขึ้น เราก็เริ่มมีความรู้สึกเข้าใจ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มากขึ้น เพราะทำไมรู้มั้ย เพราะว่าถ้าเรารู้เรื่องอะไรดีพอสมควร เข้าใจความถูกความผิดเข้าใจข้อเท็จจริง เราขี้เกียจทะเลาะกับคน เพราะเรามีความรู้สึกว่ากูจะเหนื่อยเกินไป อย่าไปต่อความยาวสาวความยืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมอายุ 65 แล้ว ผมมีความรู้สึกว่าผมหวงแหนส่วนที่เหลือในชีวิตของผม ที่ผมไม่อยากจะไปไร้สาระกับมัน ฉะนั้นใครจะมาโม้อะไรผมก็จะนั่งฟังไม่พูดอะไร ไม่ออกความเห็น เพราะมีความรู้สึกว่าถ้าออกความเห็นแล้วเรื่องมันจะยาว เพราะว่าต้องเริ่มเล่าให้มันฟังตั้งแต่ ก.ไก่-ฮ.นกฮูก ซึ่งผมเบื่อที่จะเล่า แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ผมยังจำได้เลย

นักข่าวจะถาม อ.คึกฤทธิ์ เรื่องโน้นเรื่องนี้ท่านก็จะเล่าให้ฟัง เสร็จเรียบร้อย ทุกคนถามเรื่องการเมืองหมด มีผมคนเดียวที่ไม่ได้ถามเรื่องการเมือง ผมก็บอกว่า อาจารย์ครับ อาจารย์ห้อยพระอะไร เหมือนไฟช็อตเลยนะ พอดีผมหนุ่มๆ ผมหน้าขาว อ.ปานเทพ นี่ชิดซ้ายเลยนะ เจอตอนผมหนุ่มๆ เข้าไป พ่อหนุ่มนั่นจากหนังสือพิมพ์อะไร ประชาธิปไตยครับ เฮ้ย ไอ้สงค์ พ่อบ้าน มึงจำไว้นะ พ่อหนุ่มคนนี้เขามาที่หน้าบ้านเมื่อไหร่มึงให้เขาเข้ามาทันทีเลยนะ ชอบ

จินดารัตน์ - เป็นคนแหก แหวกกฎ ทุกสิ่งอย่างที่ทุกคนเขาไม่ทำ

สนธิ - ใช่ ชอบ หน้าขาว หล่อ ดูดี แล้วพออีกอาทิตย์หนึ่งกระทรวงการต่างประเทศเลี้ยงฉลองครบรอบกี่สิบปีของกระทรวงต่างประเทศไม่ไรู้ ท่านก็ไปในฐานะนายกฯ ผมก็ไปในฐานะ บก. ก็เข้าห้องน้ำพร้อมท่าน ยืนฉี่ข้างๆ กัน สวัสดีอาจารย์ มาสิมา ยืนข้างๆ กัน ไม่เป็นไร ระหว่างที่ฉี่ท่านก็ชะโงกหน้ามาดูผม ดูตลอดเวลาเลย ผมก็เขิน ไม่รู้ท่านดูไปทำไม ใช่ปะ นี่คือคึกฤทธิ์ ปราโมช

จินดารัตน์ - คงเอ็นดูน้องๆ นักข่าว ท่านจะใจดี

สนธิ - ไม่ เอ็นดูน้องๆ น้องๆ ของนักข่าว ด้วยเหตุนี้ผมถือว่าคุณประยุทธ์ล้มเหลวในความเป็นผู้นำกองทัพ ล้มเหลวมาก เพราะลูกน้องของตัวเองถูกฆ่าตาย แล้วก็มากล่าวหาว่าทหารฆ่าพวกเสื้อแดง แต่ขณะซึ่งพวกชุดเสื้อดำ หรือทหารตัวเองที่ถูกฆ่าตายที่สี่แยกคอกวัวและสะพานผ่านฟ้า ตัวเองไม่ออกไปต่อสู้ให้ลูกน้องตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว ยศตั้งแต่พันเอกร่มเกล้า มาจนถึงสิบโท พลทหารก็มี แม่เค้าช้ำใจมาก

กรองทอง - แล้วต้องเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อจะทวงหาความเป็นธรรม มากี่ครั้งแล้ว ไม่เคยมารับด้วยตัวเองเลยนะคะ

สนธิ - แล้วคนอย่างนี้เป็นซีอีโอได้อย่างไร ไอ้คนที่สั่งซื้ออาวุธ เรือเหาะตกปั้กเงียบเลย ไม่พูดสักคำเลย ก่อนขึ้นบินยังคำรามใส่นักข่าว ไปท้าให้เขาขึ้น ทำไมตัวเองไม่ขึ้นล่ะ

กรองทอง - แต่ว่าล่าสุดเนี้ย ยังมีคนพูดถึงเรือเหาะนะคะ พล.อ.อ.สุกำพลเขาบอกว่าสื่อต้องนำเสนอข่าวดีๆ หน่อยนะ มันไม่ได้ตก คือเวลาเราใช้เครื่องอุปกรณ์อะไร มันมีปัญหาอะไรเราก็ร่อนลงเท่านั้นเอง มันแค่มีปัญหาเราก็เอาลง ไม่ได้ร่วง ไม่ได้ตก

จินดารัตน์ - เดี๋ยวก่อนนะ ลงเฉยๆ ทำไมนักบินต้องกระโดดลงมาด้วย 3 เมตร

กรองทอง - ทุกอย่างต้องมาโทษสื่อหมดเลยว่านำเสนอข่าวดูรุนแรง เกินจริง มันไม่ได้เสียหาย

จินดารัตน์ - เขากล้าพูดอย่างนี้เพราะว่าเขามีสื่อที่ทำธุรกิจด้วย แล้วเป็นซีอีโอที่ได้ติด 1 ใน 3 ของภาคเอกชนภาคธุรกิจ อันดับ 1 คือ คุณตัน อันดับ 2 คือ คุณปัญญา อันดับ 3 คือ สรยุทธ

สนธิ - นี่คือโพลอะไรเนี่ย โพลส้นตีนอะไรเนี่ย

กรองทอง - เอแบคโพลล์ค่ะ เขาไปสำรวจจากพนักงานบริษัทเอกชนด้วยนะ ทั่วประเทศ 800 กว่าคน

สนธิ - ผมว่ามันน่าจะเป็นคนที่จ้างประจำ ประมาณ 400 -500 คน ถึงเวลาทำโพลก็ส่งไปให้ แล้วก็ตอบมา ไอ้โพลพวกนี้คำถามชี้นำมาก และเป็นการตั้งคำถามที่โง่บัดซบ ไม่ได้สร้างเสริมสร้างปัญญาให้คนเข้าใจในโพลแม้แต่นิดเดียว ในลักษณะว่า เมื่อเข้าคุณขี้ออกมั้ย ทำนองนั้น ทำไมถึงขี้ไม่ออก มีแค่เนี้ย คือถ้าพูดถึงเนื้อหาของคำถามนะ แทนที่จะถามบอวก่า คุณคิดว่าอาหารที่คุณทานทุกวันนี้มีสารพิษแล้วทำให้คุณท้องเสียกี่เปอร์เซ็นต์ หรือว่าคุณทานอะไร มันเป็นคำถามคนละเซตนะ

จินดารัตน์ - ก็ทักษิณยังติดอันดับ 1 เลยค่ะ อันดับ 1 ซีอีโอแห่งปีในกลุ่มนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย อันดับ 2 คือ คุณอานันท์ ปันยารชุน อันดับ 3 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

สนธิ - ไอ้เอแบคโพลล์ กับสวนดุสิตโพล มีเงินยัดปากมันก็ทำอะไรให้ได้ เดี๋ยวนี้มันเป็นธุรกิจการค้าไปหมดแล้วนุก เชื่ออะไรไม่ได้ โพลก็เชื่อไม่ได้ ผบ.ทบ. นายกฯ ก็เชื่อไม่ได้ รัฐมนตรีทั้งคณะ อัยการ ก็เชื่อไม่ได้ แล้วจะเชื่อใครได้ หนังสือพิมพ์ก็เชื่อไม่ได้ ยกเว้นเครือ ASTV และหนังสือพิมพ์บางฉบับ นอกนั้นเชื่อไม่ได้หมด สังคมไทยเลยต้องเลือกเสพ เลือกรับประทาน และส่วนตัวต้องเลือกคบคน เวลาผมมันน้อยลง ผมไม่อยากจะไร้สากับคนบางคน อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลย มีคนคนหนึ่งมาหาบอกว่า พี่ครับ รู้จักกันดี แต่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานแล้ว พี่ครับ ผมกำลังทำวิจัยเรื่องอนาคตประเทศไทยจะต้องเดินไปยังไง เอ่ยชื่อที่ปรึกษามา โครงการมีเยอะแยะไปหมด หมอประเวศ วะสี คนโน้นคนนี้ ผมบอกว่า เฮ้ย พี่ไม่ขอเข้าร่วมโครงการ อยากรู้มั้ยทำไม.. ทำไมพี่ เหตุผลก็เพราะว่าพี่อายุมากแล้ว เวลาพี่มีเหลือน้อย พี่ไม่อยากจะไปไร้สาระกับโครงการบ้าๆ บอๆ แบบนี้ โอเคครับพี่ ไม่เป็นไร ถ้าพี่ไม่อยากจะร่วมไม่เป็นไร แต่ว่าผมขออนุญาตมาพบพี่เพื่อสัมภาษณ์พี่บ้างได้มั้ย ไม่ได้ อ้าวทำไมพี่ เพราะว่าความรู้พี่ไม่ได้ให้กับคนที่ กลุ่มคนไร้สาระพวกนี้ ความรู้พี่จะให้กับพนักงานของพี่ ที่เขาอยากเรียนรู้จากพี่ เขาจะได้เอาไปใช้ เดี๋ยวนี้พี่เห็นแก่ตัว พี่หวงตัว พี่จะออกรายการของพี่เพื่อให้พันธมิตรฯ ดู เขาจะได้ได้ความรู้ คนอื่นช่างแม่ง

กรองทอง - ไม่อยากไปออก NBT บ้างเหรอคะ

สนธิ - NBT เสียศักดิ์ศรี NBT ปัญหาใหญ่มีมากกว่านั้น คุณรู้มั้ยว่ากรณีของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผมเตรียมเอกสารไว้หมด ไม่ได้ต่างกับกรณีเสี่ยอู๊ดนะ ผมไม่รู้ว่าท่านผู้ชมหรือว่า ...

จินดารัตน์ - พระสมเด็จเหนือหัว

สนธิ - พระสมเด็จเหนือหัว .. กรณีเสี่ยอู๊ดมันเป็นอย่างนี้ ปี 2550 เสี่ยอู๊ด หรือชื่อนายสิทธิกร บุญฉิม ทุกคนรู้จักเสี่ยอู๊ด เพราะว่าเป็นแฟนของฟิล์ม ว่ากันว่าเป็นแฟนของฟิล์ม รัฐภูมิ ทำสมเด็จเหนือหัว แล้วก็อ้าง ด้านหลังของพระรุ่นนี้มีการขึ้นรูปมงกุฎอยู่ด้านหลัง ทำให้คนเข้าใจว่าพระรูปนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับสำนักพระราชวัง จึงสอบถามไปเลย สำนักพระราชวังก็ตอบปฏิเสธว่าไม่ใช่ แล้วเสี่ยอู๊ดก็ยังอ้างบอกว่า ได้รับดอกไม้พระราชทานมาอีก ก็บอกไม่ใช่อีก เรื่องตอนนั้น คุณสุนัย มโนมัยอุดม

กรองทอง - อ๋อ ที่โดนเด้งไป

สนธิ - คุณสุนัย มโนมัยอุดม เป็นอธิบดีกรมดีเอสไอ ก็สั่งให้คุณสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภค เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีการจัดสร้างพระเหนือหัวได้ทันที เนื่องจากความผิดกรณีดังกล่าวเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ไม่ต้องรอให้ผู้ใดมากล่าวร้องทุกข์ เพราะว่าเสี่ยอู๊ดไปอ้างอิงสำนักพระราชวัง อ้างอิงเบื้องบน

กรองทอง - ที่บอกว่าได้รับดอกไม้พระราชทานมา

สนธิ - ปรากฏว่าอะไรรู้มั้ย น่าสนใจมาก ปรากฏว่าเสี่ยอู๊ดถูกดำเนินคดี พอถูกดำเนินคดีแล้ว คำพิพากษา ศาลพิพากษาให้จำคุกเสี่ยอู๊ด 5 ปี

จินดารัตน์ - ใน 2 กระทงด้วยกัน

สนธิ - 2 กระทง ผมอยากให้แอนกับนุกฟังคำพิพากษาดีๆ แล้วก็ให้ท่านผู้ชมที่บ้านฟัง ท่านผู้พิพากษาท่านบอกอย่างนี้ การโฆษณาด้วยข้อความว่าจะนำเงินไปสร้างอุโบสถนั้น ไม่เป็นการหลอกลวงประชาชน แต่การจำเลยนำข้อความว่าได้รับดอกไม้พระราชทานเป็นมวลสารสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ตามปรากฏในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ และมีตราพระมงกุฎเพื่ออ้างอิงถึงพระมหากษัตริย์ เพื่อให้เข้าใจว่าพระเจ้าอยู่หัว จัดสร้างเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์นั้น ถือว่าผิด จึงมีโทษจำคุก 5 ปี ผมทวนใหม่ อีกด้านหนึ่งของเหรียญ การโฆษณาว่าจะมีการชกมวยชิงแชมป์มวยไทยที่มาเก๊า และจะมีการมอบถ้วยพระราชทานนั้น ไม่ผิด นั่นคือการพูด แต่การที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ เอาถ้วยพระราชทานแล้วไปถวายให้ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักพระราชวัง และสำนักพระราชวังได้ปฏิเสธที่จะอนุญาตไปแล้ว ถามว่ากับกรณีเสี่ยอู๊ด อันไหนร้ายแรงกว่ากัน อันนี้ร้ายแรงกว่า

จินดารัตน์ - เพราะเสี่ยอู๊ดยังไม่เคยขอเข้าไป

สนธิ - ไม่เคยขอ นี่ขอแล้วถูกปฏิเสธ แล้วถ้าเสี่ยอู๊ดถูกจำคุก 5 ปี แล้วดีเอสไอ โดยที่คุณสุนัย มโนมัยอุดม พูดว่านี่เป็นคดีอาญาแผ่นดิน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ทำนี่ก็คือคดีอาญาแผ่นดินเช่นกัน แล้วที่สำคัญที่สุดคืออะไรรู้มั้ย ที่สำคัญที่สุดก็คือว่า มีการขอไปแล้วและไม่ได้รับอนุญาต เท่ากับโกหก เท่ากับไปหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจน อย่างชัดเจนเลย และ พล.อ.ชัยสิทธิ์ บอกว่าได้ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ แอน คำว่าขอพระราชทานอภัยโทษ หมายความว่าต้องได้รับโทษก่อน ถึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ ใช่/ไม่ใช่ แต่ว่า พล.อ.ชัยสิทธิ์ยังไม่ได้รับโทษเลย จะไปขอพระราชทานอภัยโทษได้อย่างไร เข้าใจหรือยัง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ คนของทักษิณ ชินวัตร ถ้ายังปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ หลักฐานปรากฏแน่ชัดว่าได้มีการขอไปแล้วสำนักพระราชวังไม่ให้ แต่หลักฐานทางทีวีว่าไปออกทีวี ยังไม่รู้ว่าทักษิณผิดด้วยหรือเปล่านะ เพราะทักษิณมีส่วนสมรู้ร่วมคิดด้วยหรือเปล่า ก็ไม่รู้

จินดารัตน์ - ด้วยตำแหน่งเป็นประธานในงานด้วย

สนธิ - เป็นประธานในงาน เพราะฉะนั้นตัวเองจะดีจะชั่วยังไง ต้องเกี่ยวข้องด้วย จะไม่ทางตรงก็ต้องทางอ้อม เพราะฉะนั้นแล้วที่ผิดแน่นอนที่สุดคือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผิดรองลงมาคือทักษิณ ชินวัตร ถูกมั้ย ขออนุญาตไปแล้วไม่ได้รับอนุญาต แต่ยังดึงดันที่จะมาอ้างว่า เพราะฉะนั้นเป็นถ้วยพระราชทานปลอม เท่ากับเป็นการเสื่อมเสียพระเกียรติ เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อดีเอสไอดำเนินคดีก็ต้องส่งอัยการ ถ้าอัยการฟ้องเสี่ยอู๊ด ก็ต้องฟ้องชัยสิทธิ์ และคำพิพากษาก็จะต้องออกมาเหมือนกันกับเสี่ยอู๊ด เมื่อนั้นล่ะ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ถึงต้องทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ คนไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยนะ คิดว่าเรื่องจบนะ ไม่จบนะเรื่องนี้ จะไปจบได้ยังไง

จินดารัตน์ - และที่มันบัดซบก็คือ สื่อบ้านเรานี่เชื่องมากเลยนะคะ ชัยสิทธิ์บอกว่า ก็ขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว จบแล้วก็จบ

สนธิ - จบได้ยังไง

จินดารัตน์ - อย่ามาขุดคุ้ย

สนธิ - ก็เพราะว่าเขากลัว เขากลัวเรื่องนี้มาก เพราะเขารู้ว่าเขาผิด เขาผิด 100 เปอร์เซ็นต์ งานนี้ และที่ผมบอกไง ชื่อบอกแล้วไงแอน ขอพระราชทานอภัยโทษ คุณยังไม่ได้รับโทษ คุณจะมาขอพระราชทานอภัยโทษได้ไง เห็นไหม ตรงนี้ไม่เคยมีใครพูดเลยแม้แต่นิดเดียว และตรงนี้ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่จบแน่นอน เพราะถ้าคุณส่งหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษเข้าไปยังสำนักพระราชวัง สำนักพระราชวังบอกว่า ผมจะเสนอพระเจ้าอยู่หัวได้อย่างไร เพราะถ้าพระเจ้าอยู่หัวท่านถามมาว่า เขาได้รับโทษอะไรถึงมาขอพระราชทานอภัยโทษ ถ้าเขาไม่ได้รับโทษจะมาขอพระราชทานอภัยโทษอย่างไร คำถามย้อนกลับมา และเขาได้รับโทษหรือยัง ถามว่าเขาผิดไหมถ้าเทียบกรณีเสี่ยอู๊ด เขาผิดมากกว่าเสี่ยอู๊ด

จินดารัตน์ - เขาจะมาอ้างว่า ไม่รู้ว่าสำนักพระราชวังไม่อนุญาต

สนธิ - ไม่ได้ ถ้าเขายื่นขอไปแล้ว สำนักพระราชวังไม่อนุญาตต้องแจ้งเขาเป็นทางการอยู่แล้ว

จินดารัตน์ - แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร

สนธิ - สำนักพระราชวังไม่ได้ซี้ซั้วหรอก

จินดารัตน์ - คือสำนักพระราชวังแจ้งกลับไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

สนธิ - ถูกต้อง ทั้งหมดนี้เผอิญว่ามันเป็นเกม ที่ต้องการเปิดโอกาสให้ทักษิณได้ออกมาแก้ตัวกับตัวเอง และถือโอกาสเสนอขอถ้วยพระราชทาน เพื่อที่จะแสดงความจงรักภักดีไง

จินดารัตน์ - ทำแบบเนียนๆ

สนธิ - ทำแบบเนียนๆ งานนี้ภาษานักเลงเขาเรียกว่า กิ้งกือหกคะเมน

จินดารัตน์ - สะดุดขาตัวเอง

สนธิ - กิ้งกือธรรมดามันไม่มีวันหกคะเมนได้ แต่มันหกคะเมนไปแล้ว เงียบเลยนะ ยิ่งลักษณ์ก็เงียบ เฉลิม อยู่บำรุงเก่งนักเก่งหนาก็เงียบ ธาริต เพ็งดิษฐ์ก็เงียบ ซีอีโอของกองทัพบกก็เงียบ แม่งเงียบกันหมด ใช่ไหม ส้นตีนฉิบหายเลย ขอประทานโทษต้องพูดหยาบนิดหนึ่ง

จินดารัตน์ - ชัยสิทธิ์ใหม่ๆ นักข่าวไปถามเรื่องเอาทักษิณออกทีวี โอ้ยหงุดหงิดด่ากราดเลยคุณสนธิ พอเรื่องนี้มาเงียบเลย

สนธิ - เงียบสนิท รีบเก็บเลย และพอผมพูดรับรองว่ายังเงียบต่อเชื่อไหม ทั้งๆ ที่ไม่พอใจก็ต้องเงียบ ไม่กล้าสักแอะแล้วคราวนี้

กรองทอง - ถ้าเถียงก็เปิดแผลตัวเอง

สนธิ - เปิดแผลตัวเอง คุณเฉลิมเก่งนักไม่ใช่หรอ ออกให้สัมภาษณ์ทางทีวี เรื่องนี้ว่าอย่างไร อดุลย์ แสงสิงแก้วเก่งนักเหรอ เรื่องนี้ว่าอย่างไร ธาริต เพ็งดิษฐ์เก่งนักเหรอ เรื่องนี้ว่าอย่างไร

จินดารัตน์ - ต่ออีกหน่อยได้ไหม เรื่องเดียวอนุฯ กสทช.นิดหนึ่งคะ เพราะมันขัดใจเหลือเกิน

สนธิ - อนุฯ กสทช.คือ ผมไม่อยากจะพูดยิ่งมีข่าวออกมาแบบนี้ ยิ่งทำให้เห็นความไม่จำเป็นที่เราจะต้องมี กสทช. และคุณรู้ไหมประธาน พล.อ.อะไร

กรองทอง - พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ของอนุฯ

สนธิ - ผมคิดว่า ถ้าผมจำไม่ผิด เขาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคของนายพินิจ จารุสมบัติ เพราะว่ากรรมการ กสทช.คนหนึ่ง ยศ พล.ต.อ.เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคของพินิจ จารุสมบัติ และช่วงที่สมัคร กสทช.ยังไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรค และเลขาธิการ กกต.คนเก่าที่ปัจจุบันมาเป็น กสทช.

กรองทอง - สุทธิพล

สนธิ - ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ หลักฐานมีอยู่ชัดเจน ถ้าเอาขึ้นศาลเมื่อไหร่เสร็จแน่นอนที่สุด แต่สิ่งที่ผมจะพูดให้เห็นว่า กสทช.มันไม่มีประโยชน์ต่อสังคมไทย แอน มันจะมีประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างไง คือมันให้ตรรกะหัวแม่ตีนจริงๆ ที่มันบอกว่า อุปมาอุปมัยเหมือนอะไรนะ เรียกว่าอะไรนะ สตาร์บัค***คือเขายกตัวอย่างอะไรบางอย่างขึ้นมา

จินดารัตน์ - หมายถึงพีระพงษ์นี่หรอคะ

สนธิ - ไปสัมภาษณ์นักโทษ ผู้ค้ายาเสพติด ไอ้นั่นเป็นเชิงข่าว เขาไปสัมภาษณ์ผู้ค้ายาเสพติดได้ ถูกไม่ถูก โดยที่เขาปิดบังแหล่งข่าว แต่นี่มันไม่ใช่ คุณไม่ได้ไปสัมภาษณ์ นี่คุณเปิดโอกาสให้นักโทษ

จินดารัตน์ - มาแก้ตัว

สนธิ - มาแก้ตัวแล้วออกทีวี และมาด่าคนโน้นคนนี้ และ พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ คือพรรคเพื่อไทย เขาบอกไม่ได้เกี่ยวพรรคเพื่อไทยใช่ไหม ไม่ได้เกี่ยวได้อย่างไร เขานี่พรรคเพื่อไทยเต็มตัว เขาเริ่มเป็นผู้ก่อตั้งเข้าไปในพรรคเพื่อไทยสมัยที่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย พร้อมพ่อเขาคือ นายธรรมนูญ ประจวบเหมาะ อดีตผู้ว่าฯ ททท. นายกุลธนเป็นสายของสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และเสร็จแล้วตอนหลังเข้าไปและสอบตก เลยไปอยู่กับสุวัจน์ ลิปตพัลลภ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ไปอยู่ตรงนั้นและสอบตกอีก ตอนหลังย้ายมาอยู่กับพรรคมหาชนของ สนั่น ขจรประศาสน์ และวันหนึ่งได้มีโอกาสสัมผัสกับทักษิณ ชินวัตร เพราะตัวเองไปรับทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไปสนามไดร์ฟกอล์ฟของ พล.ต.สนั่น ที่นอนเป็นผักอยู่ทุกวันนี้ และตัวเองไม่รู้ว่ามีทรัพย์สินอะไรเหลืออยู่แค่ไหน ร่ำรวยขนาดไหน เพราะตัวเองไม่รู้สึกตัวอะไรแล้ว เลยเข้ามาร่วมพรรคไทยรักไทย พอมาร่วมพรรคไทยรักไทย มาร่วมตอนหลังที่ทักษิณไปอยู่เมืองนอกแล้ว เลยไปตั้งเป็นกลุ่มกรุงเทพ 50 จำได้ไหม ร่วมกับคนอย่างเช่น กิตติรัตน์ ณ ระนอง สุรนันท์ เวชชาชีวะ

จินดารัตน์ - พวกคนรุ่นใหม่

สนธิ - คนรุ่นใหม่เป็นแก๊งเดียวกันหมดเลย อยู่ที่นั้นใช่ไหมครับ และตอนหลังเลยวกกลับเข้ามาอยู่พรรคไทยรักไทยอีกที คุณกุลธน ประจวบเหมาะ จะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร 1. เป็นสายเลือดพรรคไทยรักไทย 2. เกี่ยวข้องโดยตรง เพราะว่าเป็นคนจัด 3. เอาชัยสิทธิ์ ชินวัตร มาเป็นประธาน และตัวเองมาเป็นเลขาฯ ชัยสิทธิ์ ชินวัตร คือพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของทักษิณ ชินวัตร และเพื่อที่จะดูให้มีน้ำหนักคือ อ้างว่าเป็นถ้วยพระราชทาน เพราะว่านึกไม่ถึงว่า สำนักเลขาธิการ สำนักราชวัง จะกล้าออกมาชี้แจงแบบนี้ ลืมไปว่ายุคนี้ไม่ใช่ยุคอาสาสารสิน ถ้าเป็นอาสาสารสินจะเก็บเงียบเข้าลิ้นชักไป

จินดารัตน์ - เรื่องอาจจะเงียบไป

สนธิ - แต่ราชเลขาฯ คนนี้เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนจงรักภักดีต่อ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คุณกฤษณ์ กาญจนกุญชร เลยรับไม่ได้ เลยต้องแถลงออกมาเลยคุณโกหก คือพูดภาษาชาวบ้าน คุณโกหกคุณเคยขอแล้ว ผมไม่ให้ สำนักพระราชวังไม่ให้ และคุณที่ไปยื่นไปมอบกันที่มาเก๊ามันถ้วยอะไร ผมคิดว่า อาจจะไปหยิบด้วยบ้าบอคอแตกที่ไหนมาก็ได้ แล้วบอกว่านี่คือถ้วยพระราชทาน

จินดารัตน์ - ได้ข่าวว่า หัวโนไปแล้วค่ะ โดนคุณทักษิณเบิ๊ดกะโหลก

สนธิ - ผมไม่รู้เบิ๊ดกะโหลกยังไง เด็กวชิราวุธนะ คนรุ่นใหม่ แล้วรีบออกมาทันทีว่า เรื่องเวลาของช่อง 11 ผมจ่ายเงิน 5 แสนบาท ซื้อเวลามา นี่คุณถ่ายทอดสดมวยเนี่ย กี่ชั่วโมง หลายคู่ ถ้าคุณถ่ายทอดเอาช่อง 11 ไปถ่ายทอดที่มาเก๊าด้วยเงินเพียง 5 แสนบาท คุณกรุณาบอกผมหน่อยได้มั้ยว่าคุณตอแหลหรือเปล่า เดี๋ยวผมจะไปจัดบ้าง รายการคุยกันทุกเรื่องแถวๆปีนังดีมั้ย แล้วก็ขอในวงเงิน 5 แสนได้เวลาเท่ากัน งานนี้เหมือนกับที่ผมพูดอาทิตย์ที่แล้วเป็นงานจัดฉาก แต่ว่าในที่สุดกิ้งกือหกคะเมน นึกไม่ถึง คือพวกนี้ ลักษณะจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่ตัวเองคิดว่าไม่มีใครกล้าพูด ความเหิมเกริม สมัยหนึ่งทำอย่างนี้มาตลอดเวลานะ ตั้งแต่ปี 47-48 มาตลอด เผอิญมีไอ้เจ๊กบ้า คือสนธิ มันกล้า มันก็มาเที่ยวด่าบอกว่าสนธิดึงฟ้ามาต่ำ เอาฟ้ามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง โทษ ถ้ากูไม่ทำเนี้ย เค้าจะรู้มั้ยว่าพวกมึงทำเหี้ยรัยอยู่ ก็เพราะว่ามึงเนี้ย ได้ใจ รู้ว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่มีปากไม่มีเสียง แล้วยังมีคนของพวกมึงนั่งอยู่ใกล้ๆตัวของพระเจ้าอยู่หัว มึงก็เลยทำกันใหญ่เลย เลื่อยขาเก้าอี้พระองค์ท่าน กัดกร่อนเก้าอี้ ขาเก้าอี้ จะพังแหล่ไม่พังแหล่อยู่แล้ว เผอิญไอ้เจ๊กบ้ามันออกมาโวยวายเท่านั้นเอง มึงก็เลยต้องรีบ เหมือนกับเป็นผี เราจุดเทียนขึ้นมา คนนั้นจุดคนนี้จุด สว่าง เฮ้ย มึงกำลังทำอะไรอยู่ ก็เลยโจมตีผม บอกว่าผมเอาเจ้ามาเล่น ถ้าผมไม่ออกมาโวยวายตั้งแต่ปี 48 จะมีกระบวนการล้มเจ้าที่ ศอฉ.มันตีแผ่ออกมาได้ไง ถ้าผมไม่ออกมาโวยวาย ถ้าไม่มาสู้กันทุกวันนี้ วรเจตต์ มาตรา 112 ทำไมหยุดไปล่ะ ที่หยุดไปเพราะประยุทธ์ จันทร์โอชา ซีอีโอ กระซิบบอกเฉลิม กระซิบบอกคุณปู ยิ่งลักษณ์ บอกว่า อย่าแตะ 112 ถ้าแตะพี่ลำบากใจ เพราะพี่ต้องแสดงความจงรักภักดี แต่ถ้าน้องไม่แตะ112 แล้วน้องจะทำเหี้ยอะไรก็ทำไปเถอะ พี่จะเดินตามลอกคลองของน้องตลอดเวลา ขุดลอกคูคลอง น้องปู

ขนาดโจ่งแจ้งแบบนี้ นี่แอนสุดยอดเลยนะ แจกถ้วยพระราชทาน แต่สำนักพระราชวังบอวก่าไม่ได้อนุญาต คุณไปทำได้อย่างไร แล้วอีดีเอสไอ ฯพณฯ ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดุลย์ วิเชียรเจริญ เงียบกริบ ไม่พูดสักคำ แต่ทีเสี่ยอู๊ด เรื่องราวใหญ่โตมโหฬาร นี่คือประเทศไทย คุณมาพูดทำไม พูดไปต่อความยาวสาวความยืด มันจบไปแล้ว มันจบได้อย่างไร ผมขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว คุณขอพระราชทานอภัยโทษ แต่คุณยังไม่ได้รับโทษ คุณจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ยังไง ก็เหมือนนายทักษิณ ยังไม่ได้กลับมาติดคุกเลย แล้วคุณจะมาขอพระราชทานอภัยโทษได้ยังไง เหมือนกัน สันดานเหมือนกันเลย

จินดารัตน์ - ความผิดสำเร็จแล้ว

สนธิ - ความผิดสำเร็จแล้ว

กรองทอง - แล้วก็เคราะห์ซ้ำกรรมซัดนะคะ อนุฯ กสทช.ก็ออกมาบอกว่า ทักษิณออกทีวีได้ ไม่ผิด เราไม่สามารถที่จะไปแทรกแซงสื่อได้ ไม่สามารถที่จะไปแทรกแซงว่าจะเอาใครมาออกทีวี เดี๋ยวมันจะเป็นการแทรกแซงสื่อ

สนธิ - ขออนุญาต .. ถุย!! ทรีไทมส์ ถุยๆๆ ไอ้ กสทช.

จินดารัตน์ - สั้นๆ

สนธิ - สั้นๆ

จินดารัตน์ - ไม่ต้องขยายความมาก

กรองทอง - ถุยทรีไทมส์

จินดารัตน์ - พอฟังแล้วก็ต้องอยู่กันต่อนะคะคุณผู้ชม

สนธิ - อย่าเพิ่งไปไหน

จินดารัตน์ - แล้วก็มีคำถามจากคุณผู้ชมฝากเข้ามาเยอะเหมือนกันนะคะ งั้นเดี๋ยวขออนุญาตพักก่อน

สนธิ - พักแล้วก็เริ่มด้วยราเมศเสียหน่อยดีมั้ย วันนี้ยาวหน่อยนะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว

จินดารัตน์ - ได้ค่ะ งั้นพักกันสักครู่ค่ะ

จินดารัตน์ - กลับมาช่วงสุดท้าย กำลังถกเถียงกันอยู่ว่า เมื่อกี้คุณสนธิพูดถึงอดุลย์ วิเชียรเจริญ

สนธิ - อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผมพูดผิด

จินดารัตน์ - ใช่มั้ยคะ แอนก็ว่า ใครน้อ เป็นอาจารย์ที่ต่อสู้เรื่องเขาพระวิหาร

สนธิ - พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว แต่ไม่เป็นไรหรอก คนฟังก็รู้ว่าเป็นอดุลย์ แสงสิงแก้ว เดี๋ยวนี้คนพันธมิตรฯ อย่างหนึ่งที่ผมสบายใจเวลาพูด คือพันธมิตรฯ จะไว จะฉลาด จะมีปัญญา แค่โผล่มาก็รู้แล้วว่าคือใคร

จินดารัตน์ - ใช่ๆ รู้เลยว่าพูดถึงใคร

สนธิ - สังเกตสิ ผมสังเกตคอมเมนต์หลายอย่างในเฟซบุ๊กนะ ไม่ใช่ธรรมดา วันนี้เราจะพูดเรื่องอะไร เราต้องพูด 2 เรื่อง เรื่องหนึ่งคือเรื่องคุณราเมศ อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องที่ 2 ก็คือเรื่องผู้ว่าฯ กทม.

จินดารัตน์ - ตัดนิดหนึ่งนะคะ เมื่อสักครู่ได้ข้อมูลมาว่า พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ที่เป็นประธานคณะอนุกรรมการ กสทช.ชุดนี้ ที่บอกว่าทักษิณไม่ผิดที่ออกทีวี เขาเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกันกับทักษิณ

สนธิ - อ๋อ มิน่าล่ะ รุ่น 10 ใช่

จินดารัตน์ - ถึงบางอ้อเลย

สนธิ - แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร กสทช.ทุกวันนี้

จินดารัตน์ - รับเงินเดือนตั้งหลายแสน เสียดายตังค์

สนธิ - ไม่มีประโยชน์เลย ผมจะบอกให้รู้นะ คนที่จะมาบริหาร กสทช. ไม่ใช่เลือกตั้งมาแบบนี้ เพราะคนหัวมงกุฎท้ายมังกรเข้ามา ขอให้มีเสียงเข้ามา แล้วทำงานไม่เป็น

จินดารัตน์ - ไม่รู้เด็กใครต่อเด็กใคร

สนธิ - ไม่รู้เด็กใครต่อเด็กใคร บ้านเมืองมันฉิบหายก็เพราะแบบนี้ล่ะ

กรองทอง - มาที่ประเด็นคุณราเมศ รัตนะเชวง ของทางประชาธิปัตย์ ที่โดนทำร้าย

สนธิ - ราเมศนี่ผมมีประเด็นสั้นๆ คือผมเห็นใจคุณคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เพราะว่างานนี้ ถ้ามองในลักษณะตำรวจ ตำรวจต้องตั้งข้อสงสัยก่อนว่ามีเรื่องกับใครหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นแล้ว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หนีไม่พ้น จะต้องถูกอยู่ในข่ายสงสัยเช่นกัน เพราะคุณราเมศเป็นคนที่เดินลุยคุณคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เพราะฉะนั้นแล้ว ผมคิดว่าตำรวจต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน ต้องจับให้ได้ และจับมาได้แล้ว สองคนนั้นบอกว่าทำด้วยตัวเอง ถึงรู้ว่าไม่จริง ต้องมีคนบงการ ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็จับคนมาได้ แต่ถ้าจับไม่ได้เลยนะ ลำบากแล้ว คุณคำรณวิทย์จะแก้ตัวยังไงก็แก้ไม่พ้น ไม่มีทาง เพราะเขาสงสัยคุณคำรณวิทย์ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง เอาเป็นว่ารูปแบบมันเป็นแบบนี้ คุณคำรณวิทย์จะอยู่ในสภาพที่ลำบากมาก แต่มันเป็นบทเรียนสอนอะไรอย่างหนึ่งนะ ไม่ใช่มีอำนาจแล้วนึกจะทำอะไรก็ทำ ไม่ใช่ ถูกมั้ย แล้วยิ่งช่วงหลังตำรวจนี่ชื่อเสียงเสียมาก เพราะฉะนั้นแล้วผมคิดว่าเรื่องของราเมศ ตำรวจถ้าไม่แก้ คือตำรวจเสียมาตลอดทุกเรื่อง ตั้งแต่ 7 ตุลาฯ กับพันธมิตรฯ ตั้งแต่เรื่องกรณี เสธ.อ้าย ยิงแก๊สน้ำตา มาเรื่อยๆ มาจนกระทั่งถึงกรณีนี้ ตำรวจไม่รู้จะกู้หน้ายังไงแล้วทุกวันนี้

จินดารัตน์ - มีวันนี้เพราะพี่ให้ ชาติบรรลัยเพราะพี่มึง

สนธิ - ถูกต้อง

จินดารัตน์ - ช้อบบบ ชอบ วลีนี้

สนธิ - แต่ผมเห็นใจคุณราเมศนะ และผมก็รู้สึกว่าพรรคประชาธิปัตย์เข้มแข็งมากในเรื่องนี้ ลุกขึ้นมาสู้ให้คุณราเมศ แต่ก็น่าประหลาดใจเหมือนกันนะสมัยสนธิโดนยิง ไม่ลุกขึ้นมาสู้เลยแม้แต่นิดเดียว

กรองทอง - ใช่ กำลังจะพูดว่าคุณสนธิก็โดนยิงในยุคของประชาธิปัตย์

สนธิ - ถูกต้อง เขาไม่เคยลุกมาสู้เลย ไม่มีใครลุกมาสู้เลยสักคน มึงตายไปก็ดี มิหนำซ้ำอาจจะแช่งให้ตายก็ได้ แต่เผอิยเสือกไม่ตาย

จินดารัตน์ - คิดในใจไม่น่ารอดเล้ยย

สนธิ - เอ้อ นั่นน่ะสิ

จินดารัตน์ - ทำเนียนๆ เฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวก็ลืมกันไปเอง

กรองทอง - วันนี้ที่เขาออกมาต่อสู้ประเด็นคุณราเมศ เขาบอกว่า รัฐบาล ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลจะถูกคุกคาม ต่อไปจะไม่มีใครกล้าตรวจสอบ เราก็มองว่า ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลมันก็ไม่ได้มีแต่ประชาธิปัตย์นี่ มันก็มีอีกหลายคนที่โดนคุกคาม ทั้งในเชิงวาจา ทั้งในเชิงการกระทำ และการทำร้ายขนาดนี้ ลอบฆ่าขนาดนี้ก็มี

จินดารัตน์ - ไปถึงเรื่องพ่อเมือง กทม.บ้าง มีคนถามเข้ามาเยอะ

สนธิ - เรื่องนี้ให้ผมพูดสักนิดแล้วกัน ไม่ต้องถามผมหรอก ผมจะอธิบายให้ฟัง ในขณะนี้สิ่งที่คนถามมาว่าคุณประพันธ์ ในฐานะเป็นแกนนำรุ่น 2 ได้ลงมาในเฟซบุ๊ก บอกว่าได้คุยกับแกนนำพันธมิตรฯ แล้วแกนนำพันธมิตรฯ เห็นพ้องต้องกัน อันนี้ก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงนิดหนึ่งก่อน ต้องแยกประเด็นให้ถูก ประเด็นแรก ถามว่าพวกเรารู้จัก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส มั้ย ต้องตอบว่ารู้จัก ระดับความรู้จักจะใกล้ชิดมากน้อยแค่ไหน ไม่รู้ สุดแล้วแต่บางคน ผมก็รู้จักอยู่ในระดับหนึ่ง พล.ต.จำลอง รู้จักเยอะ เพราะว่า พล.ต.จำลองเคยตั้งโรงเรียน มีการฝึกตำรวจ ไปเรียนโรงเรียนผู้นำ แล้ว พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียาเวส ก็เป็นคนหนึ่งที่กำชับและสั่งให้ตำรวจต้องเข้าโรงเรียนผู้นำ และ พล.ต.อ.เสรีฯ เองก็เป็นคนที่ไปเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนผู้นำด้วย เพราะฉะนั้นความสนิทสนมของ พล.ต.จำลอง พี่ลอง กับ พล.ต.อ.เสรีฯ ก็มีสูง ผมก็รู้จัก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส แต่การรู้จักก็เหมือนกับรู้จักคนโน้นคนนี้ แต่เมื่อมาถึงเรื่องการเมืองแล้ว จุดยืนของผม จุดยืนพี่ลอง จุดยืนของพี่พิภพ ธงไชย และผมเชื่อว่า อ.สมเกียรติด้วย คือผมวันนี้คุยกับพี่ลองมาแล้วทางโทรศัพท์ ว่าผมจะขออนุญาตพูดแบบนี้นะ แกก็เห็นด้วย คือเราไม่เอาการเมือง เราไม่เอาการเมืองระบบเก่า พรรคการเมืองเราไม่เอาเลย คำถามก็มีอยู่ว่า แล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เขาอิสระ

จินดารัตน์ - ไม่ได้สังกัด

สนธิ - ไม่ได้สังกัดอะไร เราจะเอาเขามั้ย ผมตอบได้คำเดียวว่า พวกเราไม่มีความเห็น สุดแล้วแต่พันธมิตรฯ รักใคร ชอบใคร ไปเลือกคนนั้น รักพรรคประชาธิปัตย์ ยังคิดว่าประชาธิปัตย์ดี ก็ไปเลือก ไม่เป็นไร แต่ไม่เอาพรรคการเมือง จะมาเลือกผู้สมัครอิสระ แต่ถ้าไม่ชอบ พล.ต.อ.เสรีฯ ก็ด้วยเหตุผลส่วนตัวของท่าน ก็ไม่ต้องเลือก ถามผมว่าผมเลือกมั้ย ผมไม่เลือกใครสักคน เหตุผลเพราะว่าผมมองว่าตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.นั้น ในที่สุดก็คือตำแหน่งการเมือง เพราะผมมองว่าตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.นั้น เป็นตำแหน่งที่ทำอะไรไม่ได้ กทม.ก็คือไล่จับแม่ค้า ออกเทศบัญญัติ เปิดประตูระบายน้ำ ปิดประตูระบายน้ำ ทำทางเท้า การฉ้อราษฎร์บังหลวงใน กทม.สูงมาก ไม่มีใครสังเกต กทม.นี่งบประมาณเยอะ แต่ไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบ เขาเรียกกินเงียบๆ กินเงียบๆ มาตลอด กทม.จะมีสีสันก็ต่อเมื่อรัฐบาลยอมที่จะกระจายอำนาจที่แท้จริงลงสู่ท้องถิ่น อย่างเช่น กทม.ต้องโอนการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้า-การประปานครหลวง เข้ามาอยู่ กทม. โรงเรียนที่สังกัดกระทรวงศึกษาฯ ที่อยู่ใน กทม.โอนให้ กทม.หมด โรงพยาบาลที่อยู่ใน กทม. อยู่สาธารณสุข โอนให้ กทม.หมด แล้ว กทม.ต้องมีอำนาจในการจัดเก็บภาษี ถ้าอย่างนั้นแล้ว กทม.ก็คือเขตเศรษฐกิจพิเศษหนึ่ง ผู้ว่าฯ กทม.คือนายกน้อย ถ้าอย่างนั้นการเป็นผู้ว่าฯ กทม.มีความหมาย แต่การที่จะขึ้นไปเป็นแล้ว จะเป็นใครก็ตาม จะทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าผู้ที่มีอำนาจเหนือ กทม.คือรัฐบาล นี่อันหนึ่ง ต้องแยกให้รู้นะ

เรื่องที่สอง คุณประพันธ์ได้มาพบผมเมื่อวันพฤหัสฯ เมื่อวาน รู้สึกจะเมื่อวาน มาพบผมจริง มาพูดว่าคุณประพันธ์ตัดสินใจที่จะไปช่วยคุณเสรีพิศุทธ์ ด้วยเหตุผล...คุณประพันธ์แกมีเหตุผลเต็มไปหมด ความชอบธรรมคุณประพันธ์แกมีข้ออ้างหมดทุกอย่าง ผมก็ฟังคุณประพันธ์พูดจนจบ บอกว่า เอาอย่างนี้ดีกว่าประพันธ์ เป็นสิทธิ์ของคุณ คุณไปได้ ไม่มีใครห้ามคุณหรอก ถึงจะมีคนห้าม คุณก็ไม่ฟังอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แต่ว่าถ้าคุณไปเมื่อไร คุณต้องลาออกจากแกนนำพันธมิตรฯ ชัดเจนมั้ย ชัดเจนข้อที่ 1 ข้อที่ 2 ถ้าคุณไปเมื่อไร นอกจากคุณลาออกแล้ว รายการที่คุณออกเอเอสทีวีคุณต้องหยุดด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งซึ่งผมทำได้คือ ผมให้ความยุติธรรม และผมให้ความยุติธรรมกับคุณประพันธ์ด้วย และคุณเสรี อยากให้พี่น้องพันธมิตรฯ เข้าใจนิดหนึ่ง คำว่าแกนนำเห็นด้วยที่จะสนับสนุนคุณเสรีนั้น เราไม่ได้เห็นด้วยอย่างนี้ เราเป็นเพียงแต่เห็นด้วยว่า ถ้าจะไปก็ไปไม่ขัดข้องอะไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องมีมติ

จินดารัตน์ - ใครอยากเลือกก็เลือก

สนธิ - ไม่จำเป็นต้องมีมติเลย จริงๆ ถามผมว่า การเมืองท้องถิ่นทำไมเวลาเขาเลือกผู้ว่าฯ เชียงใหม่ และพวกนายกเทศมนตรีเชียงใหม่ เราถึงไม่มีมติว่า เราตัดสินใจจะเลือกใคร หรือไม่เลือกใครไม่มี แต่เราจะสนใจในเรื่องของระดับชาติ ประกอบกับความคิดเห็นของผมที่บอกว่า ใครมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.ก็แก้อะไร กทม.ไม่ได้ เพราะว่าเจ้าของ กทม.ที่แท้จริงคือ กระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล งบประมาณยังต้องบางส่วนต้องได้จากรัฐบาลเสียด้วยซ้ำ แต่ถ้าเมื่อใด กทม.เป็นอย่างที่ผมบอก เมื่อนั้นบทบาทของพันธมิตรฯ จะมีสูง เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่คุณประพันธ์พูดก็ถูก แต่ว่าผมอยากจะขยายให้เต็มที่ว่า ผมได้พูดอย่างไรกับคุณประพันธ์ ผมบอกว่าคุณประพันธ์จะไปก็ไป แต่ผมก็รู้จักคุณเสรี คุณไปช่วยคุณเสรีถ้าคุณเชื่อคุณเสรีจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลง แต่ผมไม่กล้าพูดบอกว่า ผมไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย เพราะมันทำอะไรไม่ได้ แต่ว่าเงื่อนไขเดียวที่ผมบอกคุณประพันธ์คือ ถ้าคุณไปคุณต้องออกจากแกนนำ และคุณต้องไม่ออกเอเอสทีวี จนกว่าคุณจะหลุดพ้นจากตรงนั้น เพราะผมถือว่าเป็นการเมืองอีกแบบหนึ่ง ใช่ไหมครับ สำหรับผมแล้วผมถือว่า ไม่ได้เป็นการเมืองอะไรที่ไปปฏิรูป หน้าที่ของผม หน้าที่ของพี่น้อง หน้าที่ของคุณพิภพ ก็คุณพิภพอาจจะไปช่วยในแง่ของความคิดในเรื่องการศึกษา เพราะพี่พิภพอยากให้การศึกษามันดี ส่วนพี่ลองจะสนิทกับ พล.ต.อ.เสรีอย่างไร พี่ลองจะกระซิบบอกใครอย่างไร ก็เป็นสิทธิของพี่ลองเขา แต่ผมเชื่อโดยพื้นฐานพี่ลองจะไม่ออกมายืนชูธงว่า การลงผู้ว่าฯ ครั้งนี้ขอให้สนับสนุนใครไม่มี เราไม่มี เราไม่มีเลย พี่น้องพันธมิตรฯ ต้องเข้าใจตรงนี้ว่า เราไม่มีเลย และวันนี้ผมบอกชัดเจน ใครจะเลือกใครตามสบาย ถ้าใครไม่พอใจระบบพรรคการเมือง เลือกผู้สมัครอิสระมีหลายคน ตัวผู้สมัครอิสระใช่ไหม ชัดเจนไหมนุก

จินดารัตน์ - จะได้หายสงสัย

สนธิ - จะได้หายสงสัย

จินดารัตน์ - เอาเป็นว่าใช้วิจารณญาณส่วนตัวเลยงานนี้

สนธิ - ได้มีการเรียนคุณประพันธ์ คุณประพันธ์ยอมรับว่า ถ้าคุณไปเมื่อไหร่คุณต้องลาออกจากแกนนำทันที คุณจะไม่เกี่ยวกับพันธมิตรฯ แล้ว

จินดารัตน์ - อันนั้นเป็นเงื่อนไขเป็นกติกาชัดเจน

สนธิ - กติกาชัดเจน

จินดารัตน์ - มาคำถามจากคุณผู้ชมทางบ้าน

กรองทอง - เอาเรื่องอะไรก่อนดี

จินดารัตน์ - เดี๋ยวนะ คนนี้เขาแสดงความเห็นเข้ามา คุณวสุ ภู อะไรนี้นะคะ แกพูดถึงเรื่องโรงแรมแกรนด์ลี่เจียง กับแกรนด์หลวงพระบางที่คุณสนธิขายไป แกบอกว่า สิ่งที่ลุงธิทำมันไม่สูญ มันปลุกหัวใจคนไทยให้ตื่นขึ้นมามากมาย ถึงมันจะไม่ได้ทั้งหมด แต่ต้องขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ Thank you

สนธิ - 3 ครั้ง

จินดารัตน์ - แทงยู

สนธิ - แทงยูเลยหรอ

จินดารัตน์ - นับถือน้ำใจคุณสนธิ เขาบอกถ้าเป็นพระเครื่อง คงเป็นรุ่นปราบมาร

สนธิ - แต่ผมๆ นิดหนึ่งนะแอน ผมไม่ได้คิดว่าการตัดสินใจของผมมันยิ่งใหญ่อะไรมากมายนักหรอก ถ้าเทียบกับการตายของน้องโบว์ คุณอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ที่เป็นลูกพ่อค้าธรรมดา แล้วรักชาติ และไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภาแล้วโดนระเบิดน้ำตาของตำรวจยิงเข้าตัวจนตาย หรือการเสียมือข้างหนึ่งของตี๋ ชิงชัย ผมคิดว่าการสูญเสียเขายิ่งใหญ่มากกว่าสมบัติผม หรือว่าทหารไทยที่เสียชีวิตที่ภาคใต้ เขาไปทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินไทย ต่อสู้ให้กับครูให้กับพระ ผมคิดว่าพวกเขาเสียสละมาก เขาเสียสละร่างกาย เขาเสียสละชีวิต ผมแค่ทรัพย์สมบัติ ทรัพย์สมบัติไม่มีความหมายอะไร เพราะฉะนั้นแล้วขอบคุณที่ให้กำลังใจผม แต่ว่าผมมีความรู้สึก ผมเขิน ผมไม่ได้ทำอะไรมากมาย

กรองทอง - มาที่คำถามเรื่องการศึกษาก่อน คุณน้ำว้าบอกว่า เรียนอยู่ปี 2 สาขาคณิตศาสตร์อยากทราบว่า จบแล้วมีงานอื่นที่ไม่ใช่ครูไหม เพราะว่าถามพี่ๆ กี่คนเขาบอกให้ไปเป็นครูหมดเลย

สนธิ - คือคณิตศาสตร์ ถ้าจะให้ดีมันต้องเพิ่มมูลค่าเพิ่มกับคณิตศาสตร์คือต้อง เรียนอีกเมเจอร์หนึ่งคือ สถิติ หรือว่าถ้าเรียนเมเจอร์คณิตศาสตร์ เรียนไมเนอร์เป็นสถิติ และพอเรียนสถิติกับคณิตศาสตร์มันจะไปด้วยกัน และพอจบปริญญาโท ไปต่อปริญญาโทสาขา Actuary คือ คณิตศาสตร์ทางประกัน คือเขาต้องการคนที่จบคณิตศาสตร์คำนวณเป็น ว่าถ้าอายุขนาดนี้ ประกันมีเท่านี้ ผลประกันจะเป็นเท่าไหร่ เปอร์เซ็นต์สมควรจะตายอายุเท่านี้จะเป็นอย่างไร มันจะเป็นตัวเลขไง ซึ่งต้องใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์ และความรู้ทางสถิติ แต่ไปเพิ่มเติมความรู้ทางประกัน ภาษาอังกฤษเขาเรียก Actuary ถ้าอย่างนั้นโอเค

กรองทอง - เมืองไทยมีสอนด้วยหรอคะ คุณสนธิ

สนธิ - มีๆ หลายๆ แห่งมี และผมคิดว่า ธุรกิจประกันชีวิตของเมืองไทยเริ่มเจริญเติบโตมากขึ้น เพราะฉะนั้นเขาต้องการคนที่จบทางด้าน Actuary

จินดารัตน์ - น่าจะหางานง่าย

สนธิ - น่าจะหางานง่าย

จินดารัตน์ - จากคุณกัลศิณีถามว่า จบปริญญาตรีแล้วจะต่อโท หรือเรียนภาษาเพื่อทำงานดี

สนธิ - ผมเคยพูดกับแอนแล้วไม่ใช่หรอว่า จริงๆ ผมไม่อยากให้เรียนปริญญาโทเท่าไหร่ ผมถามแอนกันตรงๆ เราถามกันตรงไปตรงมา อย่าโกรธนะ แอนจบปริญญาโทมาแล้วรู้สึกอย่างไร

จินดารัตน์ - เฉยๆ

สนธิ - เห็นไหม จริงๆ สิ่งที่แอนเรียนปริญญาโทยังไม่เท่ากับประสบการณ์ที่แอนได้จากเอเอสทีวีคนละเรื่องกันเลย ผมมองว่า ถ้าอย่างนั้นไปเรียนภาษาดีกว่า ทุ่มเทกับมันเลย 1 ปี ทุ่มเทกับมันเลยให้ภาษาเก่ง สมัยก่อนคนโบราณ คุณรู้ไหมสมัยก่อนเด็กจบอัสสัมชัญ ม.8 คือ ม.6 ได้งานยิ่งใหญ่มาก เพราะภาษาอังกฤษ และภาษาอังกฤษสมัยก่อนเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ได้เลย คนจบ ม.8 อัสสัมฯ ภาษาอังกฤษพูดกับฝรั่งได้หมดเลย ไม่เหมือนกับจบดอกเตอร์สมัยนี้เยส โน โอเค โคคาโคล่า

กรองทอง - หรือจบอเมริกามาได้มาแค่ Over come

สนธิ - Over come Over come ใช่ไหม

จินดารัตน์ - ร้ายนะยะ

สนธิ - ไวๆ ปากนี้คมกริบ

กรองทอง - มาที่คุณเว็บอัพบอกว่า เด็กไม่เรียนพิเศษจะอยู่ในสังคมนี้ได้ไหมครับ

สนธิ - นี่คือความพินาศฉิบหายของระบบการศึกษาไทย ระบบการศึกษาไทยเมื่อใดก็ตาม ที่เด็กต้องแย่งกันเรียนพิเศษ แสดงว่าระบบการศึกษาไทยมันล้มเหลวหมดทุกอย่าง มันล้มเหลวมันนะแอน มันไม่ล้มเหลวไม่ได้ เพราะถ้ามันไม่ล้มเหลวเด็กจะมีความจำเป็นอะไรต้องไปเรียนพิเศษ ผมถามแค่นี้ ทำไมรุ่นสมัยผมเป็นเด็ก หรือรุ่นสมัยพวกคุณพ่อ คุณแม่แอน ทำไมเขาไม่ต้องเรียนพิเศษกัน แล้วทำไมความรู้เขาดี

จินดารัตน์ - จริงๆ อย่าว่าแต่รุ่นคุณสนธิเลย รุ่นแอนเองไม่ต้องเรียนพิเศษ และมันได้ทำลายจิตวิญญาณ

สนธิ - ขอบคุณมากรุ่นแอนก็ไม่ได้เรียน มันรุ่นเดียวกันใกล้ๆ กัน ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ 3 Time

จินดารัตน์ - มันห่างกันเยอะ และมันได้ทำลายจิตวิญญาณของความเป็นครู

สนธิ - และมันเรียนกันแบบบ้าเลือดเลย เดี๋ยวนี้ต้องติวกันนะ เดี๋ยวนี้ต้องมีอาจารย์ติว พเนจร รู้ใช่ไหม เขาจะมีเบอร์ให้ติว ใครต้องการจะติววิชาคณิตศาสตร์ วิชาฟิสิกส์โทรไปได้เลย และนัดติวร้านแมคโดนัล ไปนั่งติวกันชั่วโมงละ 200 บาท เอาครบชั่วโมงจ่ายตังค์ไปและไปอีกที่หนึ่ง ไปนั่ง วันหนึ่งได้ประมาณพันกว่าบาท ผมมีความรู้สึกว่าเมืองไทย มันไปเรียนแบบการศึกษาแบบฝรั่งมากจนเกินไป แต่ขณะเดียวกันฝรั่งในขณะนี้ เริ่มถอยกลับไปการศึกษาระบบเดิม ฝรั่งมันสอนให้เอาเด็กเป็นศูนย์กลาง คนไทยมันเท่ไงใช้เด็กเป็นศูนย์กลาง คนไทยแม่งชอบเท่ เท่จริงๆ มีแต่ขี้หมาทั้งนั้นข้างใน ใช่ไหม เพราะฉะนั้นแล้วฝรั่งมันเริ่มรู้ใช้เด็กเป็นศูนย์กลางไม่ได้เพราะว่าเด็กมันคิดไม่เป็น เข้าใจเปล่า จะให้เด็กเป็นศูนย์กลางได้อย่างไร ฝรั่งเริ่มกลับไปสู่ครูเป็นศูนย์กลาง คำถามของเมืองไทยกลับไปสู่ครูเป็นศูนย์กลางได้ไหม ไม่ได้อีกเหมือนกัน เด็กเป็นศูนย์กลางก็ไม่ได้ เพราะเด็กเมืองไทยมันไอโฟน เด็กเมืองไทยมันอินสตาแกรม เด็กเมืองไทยมันบ้าบอคอแตกไปหมดเป็นเกาหลี พอกลับไปเป็นครูเป็นศูนย์กลาง ครูหมาไม่แดก กลุ้มใจจริงๆ เมืองไทย ไปซ้ายก็ฉิบหาย ไปขวาก็พังทลาย ผมถึงบอกว่า เริ่มมีพ่อแม่หลายคนเริ่มที่จะให้ลูกเรียนหนังสือที่บ้าน

จินดารัตน์ - เป็นโฮมสกูล

สนธิ - แต่ที่พูดว่า ไม่ใช่ว่าไม่มีโรงเรียนที่ดีอยู่ แต่ว่าจำนวนมันน้อยกว่าที่คิดเยอะ และอีกอันหนึ่งที่ผมอยากจะเตือนสติพ่อแม่ ส่งลูกไปเรียนอย่างมากที่สุดไปเรียนโรงเรียนที่เขาเรียกว่า ไบลิงกวลพอแล้ว

จินดารัตน์ - 2 ภาษา

สนธิ - อย่าไปเรียนมัลติลิงกวลบางคนเอาไทย จีน อังกฤษ ตั้งแต่เด็กนะ

กรองทอง - มันอัดจนเกินไป

สนธิ - มันอัดจนเกินไป และมันก็ไม่ดีสักอย่าง เหมือนเป็ดเหลิม ทำไมถึงเรียกเป็ดเหลิม ทำไมถึงให้คุณเฉลิมเป็นเป็ด เพราะเป็ดมันไม่ใช่ปลา แต่มันก็อยู่บนน้ำได้ แต่มันว่ายสู้ปลาไม่ได้ มันจะบินขึ้นไปเหมือนนก อย่างมากก็นิดเดียว คือว่าไม่มีอะไรดีสักอย่าง ผมคิดว่าแค่ไบลิงกวลก็ตายแล้ว ใจผมกลับคิดว่าอย่างนี้ จะให้เด็กเรียนใบลิงโก้น่าจะเรียนตั้งแต่ ม.1 ประถม-ป.7 ไม่ต้องเรียน เอาภาษาไทยให้ดีๆ คนเดี๋ยวนี้ใช้ภาษาไทยกันไม่ไหวเลย

จินดารัตน์ -เขาสำรวจกันนะคะคุณสนธิ ว่าเด็กที่จบใหม่สะกดตัวสะกดผิดมากกว่าครึ่ง

สนธิ - เด็กที่จบใหม่เดี๋ยวนี้สะกดผิด อย่าว่าแต่เด็กเลย ไอ้คนที่ทำข่าวลงเว็บไซต์ผู้จัดการแม่งผิดประจำ ใช่มั้ย ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรกับมัน สมัยก่อนมีกติกานะ ใครผิดคำนึงปรับร้อยบาท จนกระทั่งมันผิดเยอะจนผมรู้ว่าถ้าปรับไปมันไม่มีเงินเดือนอะ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับมัน กลุ้มใจจริงๆ นี่คือคุณภาพของเด็กรุ่นใหม่ อันที่ 2 แอนสังเกตอะไรมั้ย รายมือเด็กรุ่นใหม่ สุนัขไม่รับประทานเลย เพราะว่ามันชินกับแป้น พิมพ์ สมัยผมเด็กๆ ผมต้องเขียน ทุกวันนี้ผมต้องใช้ปากกานะ ต้องใช้หมึกซึม เวลาผมเขียนอะไร ต้องการระบายความรู้สึกต้องใช้หมึกซึม เพราะหมึกซึมเวลามีอารมณ์มันจะกดแรงขึ้น น้ำหนักเส้นจะบอกถึงอารมณ์ แล้วมันสวย พอเขียนๆไป ตรงนี้ไม่ชอบขีด โยงปุ๊บๆ มันจะเป็นเมนูสคริปต์ที่มันเท่ และมันเหมาะจะเป็นคอลเลกชันที่ต้องเก็บไว้

กรองทอง - มาที่เรื่องเศรษฐกิจกันบ้างนะคะ มีหลายคนอยากให้คุณสนธิ พูดถึงผลเสียของนโยบายรถคันแรก

สนธิ - ให้แอนพูดก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมจะเสริม แอนมีความรู้สึกอย่างไรกับนโยบายรถคันแรก

จินดารัตน์ - เศร้าค่ะ คือแอนเห็นคนไทยเหมือนคนไม่มีสติ เวลาเขาจะให้แสนนึงเฮโลแห่กันไปโดยที่ไมเคยถามมองตัวเองว่าตัวเองพร้อมแค่ไหน มันจะมีปัญหาอะไรตามมามั้ยเมื่ออกรถคันแรก คุณมีเงินเดือนแค่นี้ คิดแต่ว่าเขาให้ก็ต้องรีบไปเอา พอเอารถมาจอดที่บ้านก็เริ่มปวดหัวแล้ว เขาห้ามขาย ห้ามโอน ห้ามเปลี่ยนชื่อ

กรองทอง - ต้องครอบครองภายใน 5 ปีห้ามขาย ถ้าขายไปต้องใช้ภาษีคืนด้วยรัฐด้วย

จินดารัตน์ - คือรัฐบาลมันก็เอาเป็นประชานิยมแล้วมันเอื้อประโยชน์ให้บริษัท

สนธิ - แอนมันมีเพลงหนึ่งเหมาะกับเรื่องนี้มากเลย อยากฟังมั้ย "แสนสงสารหมู่มัสยา ที่พากันหลงเหยื่อ" คือตายหมู่ อันนี้คือสะท้อนภาพให้เห็นคุณภาพในการคิดของคน คนไทยคิดไม่ค่อยเป็น คืออะไรที่มันเป็นตรรกะ คิดอะไรที่มันเป็นเหตุเป็นผล แล้วก็อย่างที่บอก ส่วนใหญ่จะคิดไม่เกินหัวแม่เท้าตัวเอง นี่เรื่องจริง ไม่ได้คิดเผื่อไป อย่างที่แอนพูดไม่ได้ศึกษาเลยว่าเงื่อนไขเขามีอะไรบ้าง อ่ะ ถึงแม้ว่าจะขายต่อได้คำถามว่ามีใครซื้อเงินสด แต่ทั้งหมดทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตำหนิรัฐบาล รัฐบาลต้องการประชานิยมข้องที่ 1 ร้อยเปอร์เซ็นต์งานนี้ ข้อที่ 2 ประเทศชาติฉิบหายไม่ว่า นี่ถ้ามันล้านคันนะ ก็คือ 120,000 ล้านบาท ที่จะเสียไป เขาบอกว่าเขาได้ภาษีคืนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม มันจะได้กี่เปอร์เซ็นต์ มันก็ได้แค่ 7% เท่านั้นเอง มันไม่ได้มากอะไร แค่ผลเสีย เฉพาะรถอีก 1,200,000 คัน ที่มันเพิ่ม ผมคิดว่าไม่ต่ำกว่า 70% อยู่ในกรุงเทพฯ น้ำมันที่เผาผลาญมากกว่าเก่า คิดเป็นปริมาณที่รัฐจะต้องสูญเสีย ประชาชนจะต้องสูญเสียไปอีกเท่าไหร่ ข้อที่ 2 รถที่ติดเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 20 ถึงครึ่งชั่วโมงต่อเที่ยว ตรงนี้เสียเวลาส่วนหนึ่ง เสียสุขภาพจิต ซึ่งคำนาณเป็นเงินไม่ได้ เสร็จเรียบร้อยแล้วทรมาณอีกต่างหาก 3. สุขภาพจิตที่มีรถคันนี้ คนที่มีรถคันแรกแล้วก็ได้ทอน 1 แสนบาท ส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนอยากมีรถมานานแล้ว มีความรู้สึกว่า ถ้าได้ทอน 1 แสน ราคารถมัน 5 แสนกว่าใช่มั้ย ไม่เกิน 1 ล้าน มันรู้สึกเซฟไปเยอะ แต่เขาไม่รู้ถึงค่าประกันรถที่ต้องเพิ่ม ค่าน้ำมันรถทุกเดือน เสร็จเรียบร้อยค่าที่จอดรถ บางคนไม่มีที่จอดรถนะ บางคนอยู่คอนโดเช่าเขาอยู่ด้วย ผมกลับมองว่า ถ้ารัฐบาลมันจริงใจทำไมมันไม่ลดค่าบ้านให้ แล้วทอนเงินให้คนซื้อบ้าน 1 แสนบ้าน รถยนต์มันใช้ไปแล้วมันเสื่อมไง

เอางี้ดีกว่า อีกปีนะ ถ้าเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯ แล้วอีนี่ทอนแสนบาทแล้วรถมันพัง จะทำยังไง ไม่รู้จะทำอย่างไร

จินดารัตน์ - เขาบอกว่า ถนนในกรุงเทพฯ มีเพียงพอให้รถวิ่งล้านกว่าคัน นี่ปาเข้าไป 7 ล้านคันแล้วนะ

สนธิ - ไม่สังเกตเหรอนับวันรถยิ่งติดมากขึ้น

จินดารัตน์ - เมื่อคืนแอนสัมภาษณ์ชมรมสหกรณ์แท็กซี่ เขาบอกว่าเขาถอดใจกันแล้ว วิ่งกันไม่ไหวแล้ว เป็นพรรคที่เขาเลือกมาแท้ๆ แต่ออกนโยบายมาแต่ละอย่างเหมือนไม่ได้คิดว่าจะรองรับอะไรพวกเขาได้บ้าง

กรองทอง - ถึงได้บอกไงว่าอย่าไปกลัววันสิ้นโลกเลย กลัววันสิ้นชาติดีกว่า ดูแต่ละอย่างที่เขาทำกับประเทศเรา

สนธิ - แต่พูดถึงเรื่องภัยพิบัติสักนิดนึง อาทิตย์ที่แล้วผมพูด นุ้กคงไม่ได้ดู ผมบอกว่าต้องแบ่งเป็น 2 อย่าง ทางวิทยาศาสตร์ ภัยธรรมชาติมีแน่นอน ผมอธิบายเหตุผลให้ฟังนะ ส่วนทางจิตศาสตร์ ปัญหาใหญ่ก็คือว่ากำหนดเวลาไม่ได้ เมื่อกำหนดเวลาไมได้ อย่าไปคิดว่ามันไม่มีอะไร เพราะทางวิทยาศาสตร์มันบรูฟชัดเจน น้ำแข็งละลาย แผ่นดินไหว มันเกิดขึ้นแน่นอน ล่าสุด เขาบอกปลาวาฬน้ำลึกเริ่มจะหมดพันธุ์ไปแล้ว ทำไมมันหมด เพราะน้ำมันเปลี่ยน อุณหภูมิมันเปลี่ยน มันก็เลยตายกันไปหมด ฉะนั้นภัยพิบัติอย่างไรก็มี ที่น่ากลัวที่สุดคือแผ่นดินไหว เพราะแผ่นดินไหวคือต้นเหตุของภัยพิบัติที่แท้จริง เพราะไหว เขื่อนแตก ไหวตึกพัง ในมหาสมุทรสึนามิ และมันมีผลต่อเนื่องเต็มไปหมดเลย ผมถึงบอกว่าไอ้รถคันแรกเนี่ย ได้ทอนแสนบาทให้ระวังให้มากๆ ถ้าใครคิดจะซื้อนะ ถ้าฟังผมวันนี้อย่าไปซื้อ เชื่อผมเถอะ

จินดารัตน์ - ยอมเสียเงินจองไปเถอะ 5 พันน่ะ

สนธิ - คุณคอยดูสิ อีกไม่เกินปีหรือ 2 ปี คนจะทิ้งรถกันเยอะเพราะผ่อนไม่ไหว

กรองทอง - มีรถไม่ได้ซื้อมาแล้วจบ มันมีอะไรตามอีกเยอะ

สนธิ - ภาระ ค่าดูแล ค่าประกัน น้ำมัน ถ้าไม่มีบ้านที่เอารถไปจอดได้ จอดริมถนน นอนไม่หลับ เป็นโรคหวาดผวา ได้ยินเสียงโป้งปั้งกระโดดตัวยาวเลย เปิดหน้าต่างดู รถกูอยู่หรือเปล่า

มีพระ จะหมดจองกุมภาพันธ์ นี่ปลายธันวาฯ แล้ว นี่พูดเรื่องจริงเลย ผมอยากจะให้พันธมิตรฯ ที่ยังไม่มี กรุณามีไว้เถอะ เชื่อผม พระรุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ และที่สำคัญเป็นพระที่สะท้อนบอกให้รู้ว่า คนที่เป็นเจ้าของคือคนพันธมิตรฯ องค์ใหญ่หน้าตัก 9 นิ้ว หมื่นหนึ่งทอนบาทหนึ่ง คือ 9,999 บาท องค์เล็กหน้าตัก 5 นิ้ว 4 พันทอนบาทหนึ่ง 3,999 บาท ส่วนเล็กๆ นั่น 300 บาท ทอนบาทหนึ่ง รีบๆ นะครับ เผลอแป๊บเดียวก็จะสิ้นกุมภาฯ แล้ว พอสิ้นกุมภาฯ เราปิดแล้วไม่รับแล้ว ตอนนั้นอยากได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

จินดารัตน์ - ก็ไปหักคอเพื่อนเอา ซึ่งไม่ดีนะคะ อย่าไปหักคอเพื่อนเลย

สนธิ - วันที่ 28 ศุกร์หน้าจะเป็นวันสำคัญ เป็นวันรายการสุดท้ายก่อนจะสิ้นปี พวกเราจะคุยกันทุกเรื่อง ถ้านุกอยากจะถามเรื่องหนังสือพิมพ์สมัยก่อนเขาทำกันอย่างไร มีตำนานอะไรบ้างให้ถามได้ ผมกล้าเล่า ตำนานเยอะหมด

จินดารัตน์ - แอนว่าคนที่ทำหนังสือพิมพ์รุ่นเดียวกับคุณสนธิเริ่มนอนไม่หลับ

สนธิ - กล้าเล่าครับ สนุก แต่มันมีอยู่อย่างหนึ่ง คนทำหนังสือพิมพ์รุ่นเก่าจะมีจิตใจที่ดีกว่าคนรุ่นใหม่เยอะ ที่สำคัญคือมีจิตใจรักชาติบ้านเมืองเยอะ ส่วนใหญ่นะ ไอ้ที่แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน เห็นผลประโยชน์มาทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ ก็เห็นๆ อยู่ เราก็เคยพูดกันว่าใครนะครับ แต่หลายคน บางคนเป็นคนที่เขาเรียกว่ามีตำนานเยอะ อย่างเช่น คนที่มีตำนานเยอะ ทำงานอยู่กับผม เช่น สำเริง คำพะอุ นักเลง คำไหนคำนั้นพูดจาชัดเจน หรือคนรุ่นเก่าๆ หลายรุ่น พี่ตุลย์ของเรา ผมเรียกพี่ตุ๋น รู้ตำนานมั้ย เอาก่อนจบแล้วกัน

พี่ตุ๋นแกชอบไปเมืองจีน แล้วแกก็ไปเจอคนจีน ซึ่งพูดภาษาไทยได้ ชื่อหยังกัง เราก็เรียกตุลย์ เขาก็เรียก ตุลย์ว่าพี่ตุ๋นๆๆ ก็เลยเป็นพี่ตุ๋น แต่ตุลย์จริงๆ แล้วฉายาเขาเรียกว่าตุลย์ 4 ชั่วโมง อยากรู้มั้ยว่าเพราะอะไร ต้องไปถามแอ้ม-สโรชา

จินดารัตน์ - แอ้มจำแม่นเลยเรื่องนี้ พี่ตุลย์ 4 ชั่วโมง สัปดาห์หน้าค่อยเล่ามั้ยคะ

สนธิ - สัปดาห์หน้าค่อยเล่า สนุกสนานมาก ตำนานเยอะ

จินดารัตน์ - ป่านนี้แอ้มขำกลิ้งแล้วค่ะ วันนี้หมดเวลาแล้ว ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น