“จารุพงศ์” ไม่พลาดซ้ำ หน.ปชป. ท้าพูดให้ชัดหนุน รธน.50 จากเผด็จการ โวย คมช.อำนาจล้นทำอะไรก็ไม่ผิด ย้อน รธน.40 ไม่ดีให้แก้อย่าฉีก ชี้ “อภิสิทธิ์” เผยโดนยัดคดีบีบร่วม กม.ปรองดองไม่เป็นประเด็น แจงประชามติมาจากผลการศึกษาทุกภาคส่วน ลุยให้ ปชช.หาทางออกปรองดอง และมีนักวิชาการร่วม พร้อมเกณฑ์ ปชช.ร่วมฟังสานเสวนา แจงใช้งบเท่าที่มี ไม่พอค่อยเบิกเพิ่ม
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจะล้มการทำประชามติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ต้องขอทำความเข้าใจกับประชาชนสาเหตุที่เราต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 มาจากการทำรัฐประหาร โดยร่างขึ้นโดยที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการร่าง หรือมาจากระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจึงอยากให้ประชาชนร่าง ซึ่งเป็นธาตุแท้ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็บอกมาตรงๆ เลยว่าพรรคประชาธิปัตย์ส่งเสริมรัฐธรรมนูญปี 50 ที่มาจากเผด็จการ ทั้งที่ประชาธิปัตย์บอกว่าต่อต้านระบบเผด็จการ ทำไมรัฐธรรมนูญปี 40 ที่มาจากประชาชน แม้จะมีข้อบกพร่องบ้างก็แก้ได้ ทำให้ดีได้ แต่ก็ไม่ทำ แล้วมาทำรัฐประหารเสีย พอมีรัฐธรรมนูญปี 50 แล้วมันไม่เป็นประชาธิปไตย ที่มาขององค์กรอิสระทั้ง 8 มาจากใครมาจาก คมช. ในมาตรา 309 ว่ายังไงอะไรที่ คมช.ทำ ไม่ผิดสักอย่าง ทั้งอดีตอนาคตและปัจจุบัน แม้แต่บุคคลที่ คมช.ตั้งก็ไม่ผิดสักอย่าง แล้วประชาธิปัตย์รับได้หรือ
เมื่อถามว่า ในข้อความที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เขียนในเฟซบุ๊กระบุว่า มีความพยายามในการสอบสวนคดีสลายการชุมนุมเพื่อบีบบังคับให้ยอมรับการออกกฎหมายปรองดองเพื่อคนคนเดียว นายจารุพงศ์กล่าวว่า กลับไปถามท่านเถอะว่าทำไมชอบเอาเรื่องที่ไม่เป็นประเด็นมาพูด เรื่องที่ตนพูดเป็นประเด็นกว่าหรือไม่
เมื่อถามว่า กระทรวงมหาดไทยจะให้ความมั่นใจกับประชาชนในการจัดเวทีสานเสวนาอย่างไร รมว.มหาดไทยกล่าวว่า เป็นการคิดและทำ โดยเอาข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ผลการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองของสถาบันพระปกเกล้า และผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดอง สภาผู้แทนราษฎรที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เป็นประธาน มากำหนดเป็นแนวทางในการดำเนินการ ซึ่งผลการศึกษาสอดคล้องตรงกัน โดยเฉพาะการเสนอให้ทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อแนวทางสอดคล้องกันกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ จะเดินหน้าต่อไปโดยให้ประชาชน 75,000 คนมาร่วมกันคิดเพื่อให้ความเห็นแนวทางที่จะสร้างความปรองดอง
“เวทีต้องการถามประชาชนว่าจะมีทางออกของประเทศไทยอย่างไรเมื่อความคิดเห็นที่แตกต่างกำลังจะทำให้เกิดความแตกแยกแล้ว เราจะทำอย่างไร เราจะหาทางที่ดีที่สุดได้อย่างไร” นายจารุพงศ์กล่าว และว่า ส่วนการสรรหานักวิชาการเพื่อทำเวทีประชาเสวนา จะมีการสรรหานักวิชาการที่มีความเป็นกลางที่สุด เพื่อสรรหาวิทยากรปฏิบัติการ โดยกระทรวงมหาดไทยจะใช้เครือข่ายเชิญประชาชนมาร่วมประชาเสวนา โดยเชิญตัวแทนของเขตเลือกตั้งมาร่วมในเวทีเสวนา 108 เวทีทั่วประเทศ ส่วนเรื่องงบประมาณเบื้องต้นจะไม่มีการของบประมาณเพิ่มเติมแม้จะมีการเพิ่มจำนวนเวทีเสวนาจากเดิมที่กำหนดไว้ โดย ครม.ได้อนุมัติงบประมาณไว้แล้ว 90.2 ล้านบาท เพียงพอต่อการดำเนินการไปก่อนได้โดยหางบประมาณไม่พอจึงค่อยเสนอขอเพิ่มจาก ครม.ในภายหลัง