โฆษกผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยผลหารือเห็นพ้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง ให้เพิกถอนการประมูล 3จีอีกครั้ง ยันไม่ต้องการจับผิด แต่เพื่อความโปร่งใส วอนสังคมอย่ามองถ่วงเวลา แต่เพื่อพิสูจน์สิ่งที่สาธารณชนสงสัย
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีการหารือและเห็นพ้องร่วมกันให้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่เสนอเรื่องพร้อมความเห็นขอให้เพิกถอนการประมูลคลื่นความถี่ 3จี ต่อศาลปกครองสูงสุดโดยเร็ว ซึ่งประเด็นที่จะยื่นอุทธรณ์จะเป็นการเน้นย้ำว่าสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช.มีบทบาทในการดำเนินการจัดประมูลคลื่นความถี่ 3จี และเรื่องดังกล่าวถือเป็นกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าการกระทำของสำนักงาน กสทช.มีผลกระทบต่อความเสียหายของประชาชนส่วนรวม จึงต้องดำเนินการฟ้องเพื่อเป็นการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังยกร่างคำอุทธรณ์ เพราะยังมีเวลาตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ที่ให้ยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน
“การยื่นอุทธรณ์ไม่ใช่เพราะผู้ตรวจการแผ่นดินต้องการยื้อ หรือต้องการจับผิด แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใส โดยผู้ตรวจฯก็เคารพในคำสั่งของศาลปกครองกลาง และเข้าใจว่าประชาชนคนไทยต่างก็อยากใช้ 3จี แต่การที่เราจะมีเทคโนโลยีใหม่ใช้ก็ควรจะเป็นการมีที่สิ้นกระแสความสงสัยต่างๆ ซึ่งในกรณีที่เกิดขึ้นข้อสงสัยของสังคมที่ว่าการประมูลไม่มีการแข่งขันที่เสรีเป็นธรรมนั้นยังไม่ได้ถูกพิจารณาวินิจฉัย อีกทั้งคำสั่งศาลปกครองกลางที่ออกมาก็มีเสียงข้างมาก ข้างน้อย และกฎหมายก็เปิดช่องให้อุทธรณ์ได้ ดังนั้น เมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่โดยตรงของผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงต้องดำเนินการให้ถึงที่สุดตามช่องทางที่มีอยู่” นายรักษเกชากล่าว
นายรักษเกชากล่าวด้วยว่า ไม่อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือสังคม มองว่าการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นอุทธรณ์จะทำให้เกิดความล่าช้า เพราะถ้าศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา เช่นหากรับไว้พิจารณาวินิจฉัยนอกจากจะเป็นบรรทัดฐานถึงการดำเนินการเรื่องลักษณะนี้ต่อไปในอนาคตแล้ว ยังเป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่สาธารณชนสงสัยนั้นแท้จริงแล้ว กสทช.ทำถูกต้องหรือไม่ หรือถ้าศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง โดยมีความเห็นยืนตามศาลปกครองกลางว่าผู้ตรวจฯ ไม่มีอำนาจฟ้อง ก็ถือว่าผู้ตรวจฯ ได้ทำอย่างถึงที่สุดแล้ว