“ยะใส” แปลกใจศาลปกครองบอกผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจฟ้อง 3จี แต่ไม่ยกฟ้องแต่แรก กลับรับไปไต่สวนเป็นสัปดาห์ ตั้งข้อสงสัยมีอะไรซับซ้อนหรือเปล่า หนุนยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ชี้หากไม่มีใครฟ้องได้ ต่อไป กสทช. จะกลายเป็นรัฐอิสระ ทำผิดได้ตามใจชอบ
วันที่ 3 ธ.ค. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ดำเนินรายการโดยนายเติมศักดิ์ จารุปราณ
นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีศาลปกครองไม่รับคำฟ้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีจัดประมูล 3จี ว่า คล้ายๆ กับความมืดมนมาเยือนประเทศ การตรวจสอบของประชาชนมันพิกลพิการชอบกล ตนเคยไปร้องศาลปกครองก็ยกคำร้อง โดยบอกว่าไม่ใช่ส่วนผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง และให้ไปใช้สิทธิผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเราก็เชื่อศาล ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินให้ยื่นแทน แต่ล่าสุด ศาลบอกไม่มีอำนาจอีก แต่ยังดีที่ตุลาการศาลเสียงข้างน้อย 2 เสียงจาก 6 เสียง ยังยืนยันว่าผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจ ส่วน 4 เสียงบอกผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจ ต้องขอถามว่าแล้วใครมีอำนาจกันแน่ ประเด็นต่อมา เท่ากับว่าศาลปกครองวันนี้ทำตัวประหนึ่งเหมือนตัวเองเป็นศาลรัฐธรรมนูญหรือเปล่า คือไปวินิจฉัยเขตอำนาจขององค์กรอิสระ
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า เรายังมีความหวังว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีมติให้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด เพราะตุลาการเสียงข้างมาก-น้อย โต้แย้งกันในเรื่องที่สำคัญ คือ สิทธิในการฟ้องคือใคร ไม่เช่นนั้น กสทช. จะเป็นรัฐอิสระเลย ต่อไปเอกชนเอาเปรียบ ฟ้องศาลก็อาจไม่รับอีก สังคมต้องหาข้อยุติร่วมกัน แล้วหากศาลปกครองสูงสุดไม่รับอีกคงต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า แปลกใจศาลปกครองรับไต่สวนทำไม ในเมื่อรู้ทั้งรู้ว่าผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจฟ้อง ปกติต้องยกฟ้องแต่แรก แต่นี่ไต่สวนเป็นสัปดาห์ แล้วออกมาบอกว่าไม่มีอำนาจ อดคิดไม่ได้ว่ามีอะไรซับซ้อนหรือเปล่า
นายปานเทพ กล่าวว่า การกระทำความผิดในการประมูล 3จี ต้องอาศัย ป.ป.ช.สอบสวนโดยตรง แล้วก่อนจะไปสู่ขั้นตอนการตรวจสอบได้ ต้องตั้งกรรมการสอบสวน ซึ่งตอนนี้มีการยื่นไปแล้ว ตั้งกรรมการแล้ว สอบสวนแล้ว จากนั้นก็ต้องหาผู้กระทำผิดทางอาญา
ถ้ากระบวนการที่มีอยู่ไม่สามารถให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนที่ห่วงใยประโยชน์สาธารณะได้ ประชาชนจะไปที่ไหนเพื่อหยุดกระบวนการไม่ชอบธรรมได้ ในเมื่อป.ป.ช.สามารถหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ไม่สามารถหยุดยั้งกระบวนการได้ ผลลัพธ์ที่น่าห่วงคือ ถ้ากระบวนการทางศาลไม่สามารถยับยั้งได้ ทุกคนจะย่ามใจหมด ว่าสามารถทำผิดไปได้เรื่อยๆ แก่ตายแล้วคดีความไม่รู้จะมาถึงตัวหรือเปล่า สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด