xs
xsm
sm
md
lg

"สนธิ" ท้าแดงใส่เสื้อเหลือง 5 ธ.ค. พิสูจน์ยังเอาสถาบันฯ เชื่อค่าแรง 300 บาท ทำไม่ได้จริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"สนธิ" ย้ำมีขบวนการล้มเจ้าแฝงตัวรับใช้ทักษิณจริง ตั้งแต่อดีตพรรคไทยรักไทยจนปัจจุบัน ชี้สำนักพระราชวังเชิญชวนใส่เสื้อเหลือง 5 ธ.ค. พวกแดงที่บอกจงรักภักดีต้องกล้าใส่เสื้อเหลือง เพื่อพิสูจน์ว่ายังเอาสถาบันฯ เชื่อค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เท่ากันทั่วประเทศ ทำไม่ได้จริง เหตุค่าครองชีพแต่ละพื้นที่ต่างกัน แนะลอยตัวค่าแรงและเร่งพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมระบุ "รังสิมา" ถ่ายรูปคู่ "จ่าประสิทธิ์" สะท้อนเนื้อแท้นักการเมือง ในสภาจะเอากันให้ตายแต่ลับหลังแอบจับมือกัน

วันที่ 30 พ.ย. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ช่วงหนึ่งถึงกรณีข่าวประชาสัมพันธ์ที่สำนักพระราชวังเชิญชวนประชาชนใส่เสื้อเหลืองร่วมถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ว่า ตนฝากไปที่พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯและที่ไม่ได้เป็นพันธมิตรฯ วันที่ 5 พวกเราจะต้องพยายามทำให้เหลืองทั้งแผ่นดินให้ได้ เพราะว่าทางฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ต้องการประเทศไทยเป็นแดงทั้งแผ่นดิน

ถ้าทวนความจำ สีเหลืองคือเสื้อตัวแรกที่พันธมิตรฯออกมาเป็นเสื้อยืดคอกลมที่เขียนว่า "เราจะสู้เพื่อในหลวง" เสื้อตัวนั้นออกมาเมื่อประมาณกันยายน ปี พ.ศ.2548 และตนเห็นมาตั้งแต่ปี 2548 แล้วว่า ขบวนการจาบจ้วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกิดขึ้นแล้ว ด้วยวิธีการหลายวิธีการ โดยการรู้เห็นเป็นใจของรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะนั้น แม้กระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เอง ก็มีการแสดงออกและการพูดจาที่ทำให้อดคิดไม่ได้ว่ามีขบวนการนั้นซ่อนอยู่ในพรรคไทยรักไทย และเป็นที่ทราบกันอยู่ว่าที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สำคัญๆ ก็คือพวกซ้ายหลงยุค ซ้ายจัด ที่มีความปรารถนาที่จะโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ แม้กระทั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทยทุกวันนี้ ก็คือกากเดนของพรรคไทยรักไทยในอดีต ก็มีหลายคนที่พยายาม เอ่ยชื่อก็ไม่เสียหายอะไร เพราะว่าเป็นความจริง อย่างเช่นนายแพทย์เหวง โตจิราการ คนพวกนี้เป็นคนที่ไม่เอากษัตริย์ และพยายามที่จะดิ้นรนแก้รัฐธรรมนูญ แล้วก็ยกเลิกมาตรา 112

ต่อมาเมื่อมีการคัดค้าน หรือว่าพวกพันธมิตรฯ ออกมาต่อสู้ และในที่สุดแล้วทหารด้วยความที่ไม่รู้จะรักชาติด้วยวิธีไหนที่ไม่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัว ก็เลยคิดว่าส่งสัญญาณไปที่พรรคเพื่อไทยว่าอย่ายุ่งมาตรา 112 ได้ไหม ถ้าคุณยุ่งมาตรา 112 คุณกำลังบังคับให้ผมจะต้องออกมาปฏิวัติยึดอำนาจ ก็เลยเกิดกระบวนการยุติเรื่องนี้ แต่ว่าการยุตินั้นเป็นแค่ฉากบังหน้า เบื้องหลังกระบวนการคนพวกนี้ยังเดินหน้าอยู่ รวมไปจนถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยบางกลุ่ม เช่น คณะนิติราษฎร์ ซึ่งเอาเรื่องมาตรา 112 ออกมา

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ทุกๆ ปีวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอนันต์ฯ มีอยู่ปีหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี วันนั้นเสื้อเหลืองเต็มแผ่นดินเลย วันนั้นเป็นจุดเปลี่ยน ตรงที่ว่าทำให้ทักษิณ ชินวัตร เริ่มรู้ว่าตัวเองนั้นหาได้มีบารมีเท่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ ขนาดต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา นายราล์ฟ แอล บอยซ์ ซึ่งตอนนั้นกำลังอี๋อ๋อกับฝ่ายพรรคเพื่อไทย เห็นก็ตกใจว่าในหลวงท่านมีบารมีมากขนาดนั้น ก็เลยทำให้นายบอยซ์ เริ่มเปลี่ยนจุดยืน เริ่มเข้ามาหาคนที่ใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วก็เข้ามาตีสนิท เพราะฉะนั้นแล้วจะพูดไปว่านี่คือสงครามจิตวิทยาก็ได้

ทีนี้พอมาถึงยุค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่อยู่เบื้องหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ดำเนินการในเรื่องของการออกมากล่าวหาพรรคเพื่อไทย ตลอดจนกลุ่มทักษิณ ชินวัตร ว่าจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ และทำให้กลุ่มตัวเองจะต้องลาออกจากพรรคนั้นเพื่อมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ นั่นคือนายเนวิน ชิดชอบ แต่เขาก็กลัวว่าสีเหลืองจะแสดงถึงพันธมิตรฯ เลยเปลี่ยนสีภาพเหตุการณ์ของวันที่พระองค์ท่านออกสีหบัญชร ที่มีคนใส่เสื้อเหลืองเต็มไปหมด เปลี่ยนสีในทีวีให้เป็นสีชมพู

เพิ่งจะมีปีนี้เป็นปีแรกที่สำนักพระราชวังพูดออกมาชัดเจนว่า ปีนี้ให้ใส่สีเหลือง ทีนี้สีเหลืองเผอิญในทางการเมืองเป็นสีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คิดว่าสีแดงก็คงจะต้องใส่สีเหลือง แต่ถ้าไม่ใส่แสดงว่าต้องพูดตรงๆ เลยว่าคุณไม่ใช่พวกพระเจ้าอยู่หัวแล้ว เสื้อแดงที่บอกว่าเอาสถาบันพระมหากษัตริย์ วันที่ 5 ใส่เสื้อเหลืองมา แล้วก็เลิกใส่เสื้อแดงได้ไหม เพราะรู้อยู่แล้วว่าสัญลักษณ์เสื้อแดงนั้นคืออะไร

นายสนธิ กล่าวต่อว่า คำพูดของนายสุเมธ ตันติเวชกุล น่าจะเป็นคำพูดที่ตนคิดว่าพวกนักการเมืองถ้ามีสำนึกควรจะถวายคืนอำนาจให้พระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านพูดชัดเจนมากว่าพระองค์ท่านขอเป็นจอมทัพนำทัพเพื่อแก้ปัญหาความยากจน พระองค์ท่านพูดชัดเจนว่า การแก้ปัญหายากจนคือประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่การเอาเงินภาษีอากรไปแจกคน เพราะนั่นคือการหาเสียง การซื้อเสียง

นายสนธิ กล่าวึงค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่จะมีผล 1 มกราคมนี้ ว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีคนอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือธุรกิจใหญ่ อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มนักธุรกิจระดับเล็ก เวลารัฐบาลเจรจากัน สภาอุตสาหกรรมฯจะเข้าไปมีบทบาท อีกทั้งช่วงหลังนี้ผู้ที่ได้เป็นประธานสภาอุตสาหกรรมฯค่อนข้างจะมาทางสายพวกบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งพวกบริษัทใหญ่ๆ จะไม่กระทบจากการขึ้นค่าแรง 300 บาท เพราะทุกวันนี้เขาจ้างหมื่นกว่าๆ แต่อีกกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่เดือดร้อน

เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ โดยหลักคิดคือพวกสหภาพแรงงานมีความรู้สึกว่าต้องสู้ให้พวกแรงงาน ทีนี้เผอิญในช่วงหลังพวกเราไม่ค่อยได้พิจารณาในเรื่องของความหลากหลายในเรื่องแรงงาน เราจะมองว่าถ้าเป็นแรงงานแล้ว มันต้องเริ่มที่ขั้นต่ำก่อน เพราะว่าเราไปเลียนแบบฝรั่งที่เรียกว่า minimum wage ทีนี้ของอเมริกามีคนทำงานพาร์ตไทม์เยอะ เลยจำเป็นต้องมี minimum wage แต่เมืองไทยการทำงานเป็นชั่วโมงไม่ค่อยมี เลยเหมากันเป็นเดือนหรือวัน อย่างเช่นค่าแรงของคนซึ่งทำงานก่อสร้าง เหมาเป็นวัน ถามว่าคนทำงานก่อสร้างอยู่ได้หรือเปล่าวันละ 300 บาท มันก็ขึ้นอยู่กับประเภทการก่อสร้างและสถานที่ อย่าง 300บาท ที่กรุงเทพฯ กับที่สุรินทร์ ไม่เหมือนกัน งานประเภทเดียวกันที่สุรินทร์เขาอาจจ้างแค่ 50 หรือ 200 เพราะค่าครองชีพต่างกัน สุรินทร์อาจจะอาหารถูกกว่า ค่าเช่าบ้านอาจจะไม่มี ค่ารถก็น้อย มันก็จะทดแทนกันไป ตนเลยมองว่าจริงๆ แล้วถ้าเปิดใจให้กว้าง จะแก้ปัญหาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ต้องปล่อยค่าแรงให้ลอยตัว แต่เขาไม่ทำทั้งที่คือซัพพลาย - ดีมานด์ที่แท้จริง แต่เราไม่เคยคิดตรงนี้ เหตุผลเพราะว่าบ้านเรามีดีมานด์ปลอม แต่ซัพพลายจริง หรือบางครั้งปลอมหมดเลย สู้ให้มันลอยตัวดีกว่า

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า หน้าที่ของรัฐบาลต้องให้การสนับสนุนแรงงาน โดยพัฒนาแรงงานต่างๆ ให้มีฝีมือสูงขึ้น ในขณะเดียวกันอย่าไปส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานโดยที่ไม่ใช้ความสามารถ ถ้าทำอย่างนี้ได้เมื่อไหร่จะเกิดอุตสาหกรรมประเภทที่ต้องพัฒนามากขึ้น เพราะถ้าเมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มใช้คำว่าค่าแรงขั้นต่ำ เมื่อนั้นเราก็จะเกิดภาวะการณ์ที่ว่าอีกหน่อยอุตสาหกรรมก็หนีไปประเทศอื่น ค่าแรงขั้นต่ำก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้นายจ้างทะเลาะกับลูกจ้าง ในขณะเดียวกันพรรคการเมืองก็เอาประเด็นนี้มาเล่นการเมือง เพราะว่าพรรคเพื่อไทยไปสัญญาว่าจะขึ้นค่าแรง 300 บาท ยกตัวอย่างถ้าจังหวัดกาฬสินธุ์จ้างคนล้างชามวันละ 300 บาท เป็นไปได้หรือ เจ้าของร้านสู้ไม่ได้หรอก นี่คือปัญหาใหญ่ อะไรที่มันควรลอยตัวกลับไม่ลอยตัว อะไรที่ควรจะควบคุมดันไม่ควบคุม

ฉะนั้นตั้งแต่ 1 มกราคมนี้ ขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาท เท่ากันทั่วประเทศแล้ว เศรษฐกิจไทยก็จะวุ่นวาย จำได้หรือไม่เขาให้ปริญญาตรี 15,000 บาท ลูกจ้างประจำที่ทำงานกับรัฐบาล ไม่มีใครได้ 15,000 ยังคงได้ 8,000-9,000 อยู่เหมือนเดิม คืออะไรก็ตามถ้าทำแล้วมันไม่สามารถทำได้ แล้วมาโกหกเพื่อสร้างภาพ อย่าไปทำ มันมีแต่สร้างความฉิบหาย แล้วเมืองไทยก็เป็นอย่างนี้จริงๆ

ส่วนกรณี น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ถ่ายภาพคู่กับ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อย่างสนิทสนม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งมีการปะทะคารมกันในสภา นายสนธิ กล่าวว่า มันสะท้อนให้เห็นเนื้อแท้การเมืองว่าในสภาคุณจะเอากันให้ตายให้ได้เลย แต่พอหลังสภาแล้วแอบจับมือกัน คุยกัน เพราะฉะนั้นแล้วด้วยเหตุผลนี้ ตนถึงไม่ประหลาดใจที่คนบอกว่าลึกๆ แล้วนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สนิทกันมาก เพราะผ่านคนกลาง คนชื่อ นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ เพราะ นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ เป็นเพื่อนสนิทของนายสุเทพ แล้วธีรศักดิ์เขาซี้ย่ำปึ้กกับ นางเยาวเรศ ชินวัตร แต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว สมัยที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตั้งสหกรณ์โค-ออป ที่สุราษฎร์ฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ลงทุนด้วย เหมือนกับให้เงินสนับสนุนด้วย เพราะฉะนั้นแล้วการเมืองก็ว่าไป ก็มานั่งด่ากันในสภา ชี้หน้าด่ากัน จะฆ่ากันทางการเมืองก็ไม่เป็นไร แต่พอถึงที่สุดแล้วลับหลังก็จับมือกันได้

คุณรังสิมาไม่ได้ใช้สติ ทั้งที่ไม่ต้องไปออกรายการก็ได้ คนเราต้องมีศักดิ์ศรี ตนขอพูดเรื่องตัวเอง ตนมีน้องที่รักกันมากคนหนึ่งจะแต่งงานเดือนหน้า เขาเอาบัตรมาให้ แต่งานนี้ได้เชิญ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี มาด้วย ตนบอกเลยว่าถ้าพี่ไม่ไปคงไม่ว่าพี่นะ ซึ่งเขาก็เข้าใจ เพราะถ้าตนไปแล้ว เกิดพล.อ.พัลลภเข้ามากอดทักทาย ตนหมาเลยสิงานนี้ อุดมการณ์ไม่เหมือนกัน ปรัชญาชีวิตไม่เหมือนกัน จุดยืนไม่เหมือนกัน ต้องแยกทางกันเดิน อย่าว่าแต่ไปงานแต่งงานเลย ถ้าเข้าไปทานอาหารร้านไหนเห็นคนที่เราไม่ชอบนั่งอยู่ตนเดินออกเลย ตนไม่ใช่ประเภทยอมหักไม่ยอมงอ แต่เราเป็นอะไรขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนเขาเห็นเรา ภาษาอังกฤษเรียกว่า How do you preceive? How people preceive you? บางครั้งตนจะไปฮ่องกงยังต้องเช็กก่อนเลยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่นั่นหรือเปล่า ตนกลัวเผอิญไปเจอเขา เพราะถ้าคนเห็นตนไปฮ่องกงเวลาเดียวกับที่ทักษิณอยู่ คนจะมองอย่างไร ขนาดระวังตัวขนาดนี้ยังหาว่ารับเงินเขาเข้ามาเลย หรือเป็นไปได้ไหมพวก ส.ส. ยังแพ้รายการทีวี มีความรู้สึกว่าอยากไปแสดงออกในทีวี แต่ไม่คิดถึงผลที่จะตามมา

นายสนธิ กล่าวถึงนางระเบียบรัตน์ ว่า เป็นของปลอม เพราะว่าถ้าคุณระเบียบรัตน์ เป็นคนยึดถือเรื่องของมารยาท วัฒนธรรมของผู้หญิงไทยจริงๆ แล้ว ต้องเป็นคนแรกที่ออกมาตำหนิน.ส.ยิ่งลักษณ์ เรื่องการแสดงท่าเฟลิตกับนายโอบามา แต่การที่นางระเบียบรัตน์ไม่พูดอะไรเลย และมาชมเรื่องคุณรังสิมาว่า เป็นเรื่องน่ารัก แสดงว่าวันนี้พิสูจน์ชัดเจนว่าคุณระเบียบรัตน์นี่คือของปลอมมาตั้งนานแล้ว เมื่อใดก็ตามสามีตนเอง หรือกลุ่มฝ่ายตนเองได้ประโยชน์ ก็จะยืนอยู่ตรงนั้นไม่สนใจ นิสัยเหมือนนักการเมือง

นายสนธิ ยังได้แสดงความคิดเห็นถึงการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ว่า มันเกิดขึ้นเพราะว่า พล.อ.บุญเลิศ ไปคิดว่าหรือไปเชื่อใครก็ไม่รู้ว่าถ้ามีคนชุมนุมเยอะๆ แล้วทหารจะออก ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ผิด คือถ้าวิเคราะห์ด้วยความตรงไปตรงมา และไม่ไปเข้าข้างใคร จะเห็นได้ชัดเลยว่าตำรวจยิงประชาชนตาย 7 ตุลาฯ ทหารออกมาทำอย่างเดียวคือถือโล่หวายและถือกระบอง นั่นคือทหารภายใต้บังคับบัญชาของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แล้วมันต่อเนื่องมาจนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นบูรพาพยัคฆ์เหมือนกัน และที่น่าเจ็บใจคือคนพวกนี้ชอบพูดว่าตัวเองเป็นทหารเสือพระราชินี แต่ตนว่าน่าจะเป็นทหารเสือพระราชินีของนาย ฮุน เซนมากกว่า ไม่ใช่พระราชินีองค์นี้

เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่าความเชื่อแบบโง่ๆ แบบนี้ ไม่รู้ใครหลอกใคร ก็มาพูดกันรู้กันอยู่ภายใน บอกว่าต้องมารับรองเรียกมาเถอะมาเยอะๆ รับรองออกแน่ กระแสดีมาก แล้วเขาบอกเลยว่าถ้ามีเรื่องกับตำรวจ ประชาชนโดนรังแก ทหารออกแน่นอน แต่เรารู้ว่าทหารไม่มีวันออก ไม่ควรจะไปเดินในเกมนั้น ตนถึงบอกพี่น้องพันธมิตรฯว่าถ้าอึดอัดใจอยากจะไปชุมนุมไปเถอะ แต่ให้ไปอย่างมีสติ ถ้าไม่ชอบมาพากลถอยก่อน

และพูดมาตลอดเวลาจากประสบการณ์ที่มีมาว่าไม่มีทางที่จะไปล้มรัฐบาลชุดนี้ด้วยการชุมนุม มันหน้าด้านเสียอย่าง ก่อนนี้ที่เปลี่ยนขั้วได้ เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายุบพรรคพลังประชาชน ถึงต้องเลือกนายกฯ ใหม่ และนายเนวิน ชิดชอบ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แอบจับมือกัน เหตุผลเพราะนายเนวิน ไม่พอใจที่การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งหลังสุด นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี คนของตัวเองไม่ได้นั่งคมนาคม ประกอบกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มองว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง เลยมองว่าถ้าอย่างนั้นให้ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นั่นคือการตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร อันนี้พิสูจน์ชัด เรียกพวกนายบรรหาร ศิลปอาชา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เข้าไปทุกคน บอกถ้าไม่มายกพวกรวมกับประชาธิปัตย์ ก็จะปฏิวัติ ไอ้พวกนี้เลยต้องเอาด้วย ขอถามต่อแล้วถ้าทหารออกมาจริง จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เพราะฉะนั้นแล้วเมืองไทยตอนนี้ที่เหนื่อยที่สุด คือเราจะทำอย่างไรที่จะให้ความรู้คน เพราะความรู้นี่สำคัญมาก แม้กระทั่งพันธมิตรฯหลายคนกลับมาต่อว่าตนทำไมไม่ออก

นายสนธิ กล่าวต่อถึงการชุมนุมของพันธมิตรฯ ว่า การชุมนุมครั้งที่แล้ว โดนวางงานหมด ที่มัฆวานไม่ควรจะมีเรื่องแต่มีเรื่อง เพราะมีไอ้คนบ้าคนหนึ่งที่อ้างตัวเองว่า เป็นแกนนำพันธมิตรฯภาคใต้ พาพันธมิตรฯ จากสนามม้าไปที่หน้ามัฆวาน เพื่อต้องการมีเรื่อง ตนถึงกลัวเรื่องพวกนี้ พอเราพูดไปก่อนชุมนุมก็หาว่าไปขัดขวาง เลยเตือนแบบอ้อมๆ พูดตรงๆก็ไม่ได้ เพราะว่าโดยพื้นฐานแล้ว พล.อ.บุญเลิศ เป็นคนดี มีจิตใจบริสุทธิ์ แต่ว่าทีมงานที่เข้าไปร่วม มีบางคนโทรมาหา นายเทิดภูมิ ใจดี ให้ออกมาเพราะมั่นใจว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งคิดผิดแล้วเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความคิดไม่ได้ต่างจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่บอกว่า เหลืองกับแดงคือตัวปัญหาของประเทศชาติ



คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 30 พ.ย. 2555

รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2555 เวลา 20.00-22.30 น. ดำเนินรายการโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และนางสาวนงวดี ถนิมมาลย์ ร่วมดำเนินรายการ

จินดารัตน์- สวัสดีค่ะ

นงวดี- สวัสดีค่ะ ต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ วันนี้พบกันอีกหนึ่งศุกร์นะคะ กับเวลาดีๆ สองทุ่มโดยประมาณ แต่จบเมื่อไร ไม่แน่

จินดารัตน์- แต่ละเรื่องที่เราจะคุยกันหัวข้อต่างๆ นานาเราก็จะบอกว่ามีอะไรบ้าง เรามีหน้าที่ถามอย่างเดียว แต่คนที่จะอธิบายก็คือเจ้าของรายการ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล สวัสดีค่ะ

สนธิ- เสื้อสวยจังเลย

จินดารัตน์- ก็เสื้อนี้มาขายวันพฤหัสฯ วันแรก ไม่ถึงเที่ยงหมดก่อนเลยค่ะ มาขายเมื่อเช้า ไม่ถึงเที่ยงก็หมดแล้ว แล้วโทรศัพท์กันถล่มทลาย ปรากฏว่าผู้ทำ ก็คือพันธมิตรฯ รักคุณเท่าฟ้า ฝากแจ้งมาว่าทำทั้งหมด 3,000 ตัว ตอนนี้เหลืออยู่แค่ 300 ตัว ที่จะนำมาจำหน่ายวันอาทิตย์วันเดียว

นงวดี- ยังมีอีก มีแค่ 300

จินดารัตน์- แต่วันเสาร์ไม่มีขายนะ ผลิตไม่ทัน แล้วผ้าเหลืองขาดตลาด เลยเหลือแค่ 300 ตัว เพราะฉะนั้นคนที่โชคดี มาเช้าก็ได้ไปก่อนเลยวันอาทิตย์ 300 ตัวเท่านั้น

สนธิ- แต่ยังมีเสื้อ

จินดารัตน์- มีอีกแบบหนึ่งมูลนิธิยามฯ

สนธิ- มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน

นงวดี- สวยเหมือนกัน เป็นสีสวยมาก

สนธิ- สีสวยมาก

จินดารัตน์- มีโปโล

นงวดี- อันนี้จะเป็นคอโปโล ขออนุญาตข้างหน้าจะเป็นโลโก้ของยามเฝ้าแผ่นดิน

จินดารัตน์- ด้านหลัง นี่นะคะคุณผู้ชมด้านหลัง

นงวดี- อันนี้แบบโปโล แบบนี้เป็นคอกลม เขียนว่า We love the king มีลายข้างหน้า และข้างหลัง อันนี้ผ้าดีมาก

จินดารัตน์- มีจำหน่ายเหมือนกัน

นงวดี- วันพรุ่งนี้ จริงๆ จำหน่ายมาตั้งแต่ 29 -30 แล้ว แต่ว่าพรุ่งนี้จะมีจำหน่ายอีก 1 วัน เสาร์ 1 ธันวาคม ตั้งแต่ 9 โมงครึ่งจนถึง 4 โมงเย็น สำหรับเสื้อโปโลที่สักครู่พี่แอนถือนั้น บริจาคตัวละ 300 เสื้อคอกลมอันนี้บริจาคตัวละ 200 หรือว่าจะสนใจสอบถามข้อมูลก่อน หมายเลขโทรศัพท์ 02-629-5400

จินดารัตน์- มีข้อความฝากประชาสัมพันธ์ คุณผู้ชมคงจะรับทราบข่าวนี้แล้ว ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องชาวไทย ร่วมทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ เวลา 10.00 น. โดยแต่งกายสีวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั้นก็คือ

สนธิ- สีเหลือง ผมอยากให้ .. ผมจะพูดฝากไปที่พ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และท่านผู้ชมที่ชมรายการนี้อยู่ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นพันธมิตรฯ วันที่ 5 พวกเราชาวพันธมิตรฯ ทุกคนจะต้องพยายามทำให้เหลืองทั้งแผ่นดินให้ได้ เพราะว่าทางฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ต้องการประเทศไทยเป็นแดงทั้งแผ่นดิน ของเรานี่เหลืองทั้งแผ่นดิน

ถ้าผมทวนความจำนิดหนึ่ง อยากให้พี่น้องพันธมิตรฯ และแอน กับนง คงจำได้ว่า สีเหลือง เสื้อตัวแรกที่ออกมาเป็นเสื้อยืดคอกลมที่เขียนว่า "เราจะสู้เพื่อในหลวง" เสื้อตัวนั้นออกมาเมื่อประมาณกันยายน ปี พ.ศ.2548 เสื้อตัวนั้นเป็นเสื้อที่ออกมาช่วงที่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกถอด แล้วเราตัดสินใจที่จะสู้ และผมเห็นมาตั้งแต่ปี 2548 แล้วว่า ขบวนการจาบจ้วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกิดขึ้นแล้ว ด้วยวิธีการหลายวิธีการ โดยการรู้เห็นเป็นใจของรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะนั้น แม้กระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เอง ก็มีการแสดงออกและการพูดจาที่ทำให้อดคิดไม่ได้ ว่ามีขบวนการนั้นซ่อนอยู่ในพรรคไทยรักไทย และเป็นที่ทราบกันอยู่ว่าที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สำคัญๆ ก็คือพวกซ้ายหลงยุค ซ้ายจัด ที่มีความปรารถนาที่จะโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ แม้กระทั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทยทุกวันนี้ ก็คือกากเดนของพรรคไทยรักไทยในอดีต ก็มีหลายคนที่พยายาม เอ่ยชื่อก็ไม่เสียหายอะไร เพราะว่าเป็นความจริง อย่างเช่นนายแพทย์เหวง โตจิราการ คนพวกนี้เป็นคนที่ไม่เอากษัตริย์ และพยายามที่จะดิ้นรนแก้รัฐธรรมนูญ แล้วก็ยกเลิกมาตรา 112

ต่อมาเมื่อมีการคัดค้าน หรือว่าพวกพันธมิตรฯ ออกมาต่อสู้ และในที่สุดแล้วทหารเอง ความที่ไม่รู้จะรักชาติด้วยวิธีไหนที่ไม่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัว ก็เลยคิดว่าส่งสัญญาณไปที่พรรคเพื่อไทย ว่าอย่ายุ่งมาตรา 112 ได้ไหม ถ้าคุณยุ่งมาตรา 112 คุณกำลังบังคับให้ผมจะต้องออกมาปฏิวัติยึดอำนาจ ก็เลยเกิดกระบวนการยุติเรื่องนี้ แต่ว่าการยุตินั้นเป็นแค่ฉากบังหน้า เบื้องหลังกระบวนการคนพวกนี้ยังเดินหน้าอยู่ รวมไปจนถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยบางกลุ่ม เช่น คณะนิติราษฎร์ ซึ่งเอาเรื่องมาตรา 112 ออกมา

แอน กับนงคงจำได้ว่าทุกๆ ปีวันเฉลิมพระชนมพรรษา ถ้าเราจำได้ วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอนันต์ มีอยู่ปีหนึ่งที่ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี วันนั้นเสื้อเหลืองเต็มแผ่นดินเลย เต็มถนนพระราชดำเนินเลย วันนั้นเป็นจุดเปลี่ยน จุดเปลี่ยนตรงที่ว่าทำให้ทักษิณ ชินวัตร เริ่มรู้ว่าตัวเองนั้นหาได้มีบารมีเท่าพระเจ้าอยู่หัวไม่

แล้ววันนั้นที่มีคนเสื้อเหลืองออกมามากมายมหาศาล เป็นวันที่ต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา นายบอยซ์ ซึ่งตอนนั้นกำลังอี๋อ๋อกับฝ่ายพรรคเพื่อไทย กับทักษิณ ชินวัตร อยู่ เห็นก็ตกใจ บอกว่า โอ้โฮในหลวงท่านยังมีบารมีมากขนาดนั้น ก็เลยทำให้นายราล์ฟ บอยซ์ เริ่มเปลี่ยนจุดยืน เริ่มเข้ามาหาคนที่ใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วก็เข้ามาตีสนิท เพราะฉะนั้นแล้วจะพูดไปว่านี่คือสงครามจิตวิทยาก็ได้

ทีนี้พอมาถึงยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่อยู่เบื้องหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ดำเนินการในเรื่องของการออกมากล่าวหาพรรคเพื่อไทย ตลอดจนกลุ่มทักษิณ ชินวัตร ว่าจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ และทำให้กลุ่มตัวเองจะต้องลาออกจากพรรคนั้นเพื่อมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ นั่นคือนายเนวิน ชิดชอบ ณ เวลานั้น การที่จะทำเรื่องทำราวที่จะออกมาเพื่อสนับสนุนให้เห็นว่าประชาชนยังรักพระเจ้าอยู่หัวมากมาย ก็จำเป็นที่จะต้องเอาภาพของวันที่พระองค์ท่านออกสีหบัญชร จำได้มั้ย ที่มีคนใส่เสื้อเหลืองหมด แต่ความที่ไม่อยากจะใช้สีเหลือง เพราะจะหาว่าเป็นสีเดียวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ไปเปลี่ยนสีในทีวีให้เป็นสีชมพูซะ คือมันเป็นอะไรก็ไม่รู้ มันรังเกียจสีเหลืองเหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเราพันธมิตรฯ ใช้สีเหลือง ก็เพราะว่า หนึ่งเป็นสีพระราชสมภพของพระองค์ท่าน เป็นสีของจันทร์ พระองค์ท่านทรงประสูติวันจันทร์ เพราะฉะนั้นแล้วเราออกมาสู้เพื่อในหลวง และเราสู้ไม่ผิด เพราะจากนั้น 2548 จนถึงวันนี้พิสูจน์ชัด และสิ่งที่เราเห็นเมื่อปี 2548 ปลายปี 2548 ที่คนยังมองไม่เห็น การต่อมาได้พิสูจน์ชัดเจน ได้เริ่มพิสูจน์ชัดเจนว่า สิ่งที่เราสู้นั้นถูกต้องหมดเลย ไม่ได้ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นแล้วยุคเนวิน ชิดชอบ สุเทพ เทือกสุบรรณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลัวว่าถ้าทำการโปรโมชั่นออกไป จะกลายเป็นส่งเสริมคนสีเหลืองคือ พวกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถึงทำได้แม้กระทั่งการเปลี่ยนสีเสื้อในทีวีให้เป็นสีชมพู ช่วงหลังคนที่ต้องการแสดงออกว่า รักในหลวง เอาในหลวงแต่ไม่เอากับเรา ใส่เสื้อสีชมพูแทน เข้าใจไหม สังเกตไหม

จินดารัตน์- ใช่คะ

สนธิ- เพิ่งจะมีปีนี้เป็นปีแรก เป็นปีแรกที่สำนักพระราชวังพูดออกมาชัดเจนว่า ปีนี้ให้ใส่สีเหลือง ทีนี้สีเหลืองเผอิญในทางการเมืองเป็นสีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตอนนี้การเมืองมีสีเหลือง สีแดง สีฟ้า ยุคหนึ่งสมัยที่นายเนวิน ชิดชอบ คือสีน้ำเงินเข้ม แต่เนื่องจากว่าสีอะไรก็ตาม ถ้าเกิดขึ้นเพียงเพื่อจะเป็นสีเฉพาะกิจ มันก็อยู่เฉพาะกิจ สีน้ำเงินก็หายไป เหลือสีฟ้าซึ่งเป็นสีพรรคการเมือง สีแดงคือสีพรรคเพื่อไทย มีพวกเราสีเหลือง ซึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นแล้วคนอย่างเช่น นายอนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก หรือหลายคนที่มีอำนาจอยู่ จะพูดตลอดเวลาว่า เหลืองกับแดงทะเลาะกัน ใช่ไหมครับ ทีนี้ถ้าวันที่ 5 ธันวาคม พวกเราออกมากันทั่วบ้านทั่วเมือง ผมคิดว่าสีแดงคงจะต้องใส่สีเหลืองมั้ง คือถ้าคุณไม่ใส่สีเหลืองแสดงว่า คุณต้องพูดตรงๆ เลยว่า คุณไม่ใช่พวกพระเจ้าอยู่หัวแล้ว

แอนจำได้ไหม 193 วัน ในทำเนียบรัฐบาล ถ้าผมจำไม่ผิดผมเป็นคนพูดเอง วันนี้เรามาพูดกันให้ชัดเจน คุณเอาพระเจ้าอยู่หัวหรือเปล่า ถ้าคุณเอาคุณมายืนข้างผม หรือคุณเอาผมมายืนข้างคุณ คุณไม่ต้องมายืนข้างผม ผมยืนข้างคุณเอง ถ้าคุณไม่เอาคุณบอกมา ปรากฏว่า สีแดงคือสีที่ไม่เอาพระเจ้าอยู่หัว สีแดงคือ สี นปช. และสีแดงคือสีที่ไม่เอาพระเจ้าอยู่หัว และ นปช.คือพวกพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นสรุปได้เลยว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่เบื้องหลังเป็นพรรคที่ไม่เอาสถาบันกษัตริย์ แต่ทางการเมืองจำเป็นต้องเล่นลิ้น โกหกหลอกลวง การที่ไม่ไปแตะมาตรา 112 นั้นเพราะว่าถูกจับได้ เพราะกลัวว่าทหารจะปฏิวัติ ตัวเองถึงไม่ เคยไหมที่นายเฉลิม อยู่บำรุง บอกว่าจะมาเล่นงานคณะนิติราษฎร์ ที่จะแก้มาตรา 112 ไม่เคยพูด พูดอยู่อย่างเดียวจบแล้ว 112 ไม่พูดกันแล้ว ในทำนองว่า พูดแล้วเดี๋ยวจะเข้าตัว เพราะฉะนั้นวันที่ 5 ธันวาฯ ต้องเหลืองทั้งแผ่นดิน ต้องเหลืองให้เห็นว่า แผ่นดินนี้แท้ที่จริงแล้วคือ สีเหลือง เป็นสีของเรา แต่ว่าเราใส่ออกมาเพราะว่า เราบอกเราจะสู้เพื่อในหลวง และเราสู้โดยหลักการ เราสู้โดยอุดมการณ์ เราสู้โดยไม่มีผลประโยชน์ เราสู้เพื่อแผ่นดินไทย เราสู้เพื่อในหลวง เพราะแผ่นดินนี้เป็นของในหลวง เราสู้คอร์รัปชั่น เราก็สู้เพื่อในหลวง เพราะว่าพระองค์ท่านบอกว่า การโกงกินคอร์รัปชั่นเป็นการทำลายชาติ เราสู้ให้คนดีเข้าไปทำงาน และป้องกันไม่ให้คนชั่วมีอำนาจ เราสู้เพื่อในหลวง เพราะว่าเราสู้ตามพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน เราสู้เพื่อเศรษฐกิจพอเพียง เราสู้ตามปรัญชาชีวิตของพระองค์ท่าน

เพราะฉะนั้นแล้วคนที่ใส่เสื้อสีเหลือง ที่เริ่มจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นคนที่มีจิตบริสุทธิ์ เราไม่ได้สู้เพื่อพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง สีฟ้าสู้เพื่อพรรคประชาธิปัตย์ สีน้ำเงินสู้เพื่อนายเนวิน ชิดชอบ สีแดงสู้เพื่อทักษิณ ชินวัตร มีแต่พวกเราที่สู้เพื่อในหลวงอยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นแล้วพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องภูมิใจ ดูครับเสื้อใน นั้นคือเสื้อที่เราสู้เพื่อในหลวง 2548

จินดารัตน์- แอนยังจำได้ว่า ตอนที่เราทำเสื้อนี้ออกมาใหม่ๆ มีคนค่อนแคะว่าเราว่า ทำไมหรอจะไปสู้เพื่อท่านทำไมหรอ

สนธิ- ท่านสบายดีอยู่แล้ว เป็นไปแล้วพอผ่านไปอีกไม่กี่ปี ปีสองปีก็เริ่มเห็นแล้วไง การจาบจ้วงการออกเว็บไซต์ต่างๆ แม้กระทั่งการโพสต์ภาพของท่านลงยูทิวบ์ อย่างชนิดที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างมหาศาล ทุกคนเพิ่งจะถึงบางอ้อตอนหลัง แล้วจำได้ไหมตอนที่ ศอฉ.ตั้งมา มีขบวนการล้มเจ้าอีก เพิ่งจะมาคิดตอนนี้เหตุผลเพราะว่าพรรคเพื่อไทยมีอำนาจ เพราะฉะนั้นผมฟันธงได้เลยว่า ปรัชญาเบื้องหลังที่แท้จริงของพรรคเพื่อไทย คือพรรคที่ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ เพราะคนที่มีอำนาจ คนที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย จำนวนคนที่อยู่นั้นคือ พวกซึ่งวางแผนล้มกษัตริย์ทั้งสิ้น

จินดารัตน์- เพราะวันนี้เราก็เรียกร้องให้ที่เสื้อแดงเขาออกมาบอกว่า อย่ามาว่าเขาว่าไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ เขารักและเทิดทูน ถ้ารักและเทิดทูนกรุณาวันที่ 5 ใส่เสื้อเหลืองมา

สนธิ- แล้วก็เลิกใส่เสื้อแดงซักทีได้ไหม

จินดารัตน์- เรารู้อยู่แล้วว่า สัญลักษณ์เสื้อแดงนั้นคืออะไร

สนธิ- ใช่

จินดารัตน์- ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกของการเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพ คือวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่เราจะใส่เสื้อเหลืองกัน ครั้งที่แล้วเป็นการฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

นงวดี- ซึ่งพระองค์ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก เป็นกษัตริย์ที่ทรงครองราชย์นานที่สุดในโลกเมื่อปี 49

สนธิ- มาพร้อมกับคำพูดของคุณสุเมธ ตันติเวชกุล
คำพูดของคุณสุเมธ ตันติเวชกุล น่าจะเป็นคำพูดที่ผมคิดว่าพวกนักการเมือง ถ้ามีสำนึก ควรจะถวายคืนอำนาจให้พระเจ้าอยู่หัว จริงๆ นะ เพราะว่าพระองค์ท่านพูดผ่านคุณสุเมธ ตันติเวชกุล ชัดเจนมาก ว่าพระองค์ท่านขอเป็นจอมทัพนำทัพเพื่อแก้ปัญหาความยากจน พระองค์ท่านพูดชัดเจนว่า การแก้ปัญหายากจนคือประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่การเอาเงินภาษีอากรไปแจกคน เพราะนั่นคือการหาเสียง การซื้อเสียง ผมยังจำได้ว่าพุทธทาสท่านมีคำพูดออกมาว่า ประชาธิปไตยคือประโยชน์ของคนส่วนใหญ่

ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดขึ้นได้ 2-3 อย่าง อย่างแรก เราต้องช่วยคนจนให้มีสถานภาพที่ดีขึ้น การช่วยให้คนจนก็คืองานซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้ทำมาตลอดชีวิตของพระองค์ท่านทั้งสองพระองค์ คือการที่ไปช่วยแก้ภัยพิบัติให้ประชาชน ไปช่วยส่งเสริมอาชีพ ไปช่วยให้เพาะเลี้ยง ปลูกเลี้ยง ไปช่วยให้รู้จักปฏิบัติตน ใช้เงินใช้ทองให้ถูกต้อง รู้จักประหยัด รู้จักปลูกพืชผักที่ถูกต้อง ไปช่วยไม่ให้น้ำท่วม ไปหาแหล่งน้ำให้ นี่คือการช่วยคนยากจนที่แท้จริง เมื่อคนยากจนสามารถที่จะมีน้ำเอามาทำไร่ไถนา ทำทางด้านเกษตรกรรม เมื่อคนยากจนสามารถจะรวมตัวกันเพื่อต่อรองในเรื่องราคาสินค้า โดยรัฐบาลเข้ามาช่วย เมื่อคนยากจนสามารถที่จะพัฒนาอาชีพตัวเองขึ้นมา และเป็นคนดี รู้จักใช้เงินใช้ทองในลักษณะที่พอเพียง นี่คือการปรับสถานภาพคนยากจนให้ดีขึ้น ก็คือการสอนให้คนตกปลา

แต่ว่ารัฐบาลตั้งแต่สมัยทักษิณ ชินวัตร เข้ามาสอดแทรกในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงมีพระชนมายุมากแล้ว ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะออกไปดำเนินการ และพระองค์ท่านไม่ค่อยสบาย นายทักษิณก็สอดแทรกตรงนั้นเข้าไป เหมือนกับทำงานให้ท่าน แต่ไม่ได้ทำงานให้ท่าน ทำงานให้ตัวเอง เพื่อเอาคะแนนเสียงเข้ามาหาตัวเอง เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าตัวเองนั้นเป็นพระเจ้า และไม่ได้ไปสอนประชาชนให้รู้จักตกปลา แต่ไปเอาเงินภาษีอากรของพวกเราเอาไปแจก แล้วก็แจกพวกหัวคะแนน ให้หัวคะแนนไปแจกต่อ เพื่อที่จะเห็น ผมเคยพูดจำได้มั้ยมีรายการอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมบอกว่า ประชาชนคนไทยทั่วประเทศยังกราบไหว้บูชาพระเจ้าอยู่หัว เห็นว่าพระเจ้าอยู่หัวมีคุณูปการต่อแผ่นดิน แต่ว่าจะเทิดทูนทักษิณ ชินวัตร เหตุผลเพราะว่าทักษิรเอาเงินไปให้ ประชาชนไม่รู้หรอกเงินนั้นคือเงินภาษีอากร แล้วให้เพื่อหวังให้ประชาชนลงคะแนนเสียงให้ตัวเอง แจกหวยใต้ดิน เงินกองทุนเอย ทุกอย่าง เอสเอ็มอี เอสเอ็มแอล ทุกอย่าง ในที่สุด แล้วพร้อมกับหาเสียงเลือกตั้งก็เอาเงินไปซื้อเสียง เพื่อให้มายกมือในสภา เหมือนกับที่เพิ่งเห็นไปเมื่อวันที่ 28 ใช่มั้ย คุณจะอภิปรายยังไงก็ตาม ไม่มีความหมาย หลักฐาน ถึงแม้ว่าจะขนเงินที่คอร์รัปชันจากเรื่องการจำนำข้าว เอามาวางให้ดูว่านี่คอร์รัปชัน ถึงจะจับได้ก็ตาม แต่มันก็จะยกมือในสภา แล้วมันก็บอกมันชนะทุกที

ผมจำได้ว่าผมเคยขึ้นศาลครั้งหนึ่ง มีท่านผู้พิพากษาท่านหนึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้องพวกผม แล้วทนายของทักษิณก็มาให้การ ท่านผู้พิพากษาท่านถามง่ายๆ ว่า สรุปแล้วพวกคุณมีเสียงเข้ามาในสภาแล้ว พวกคุณยกมือแล้ว มันให้สิทธิคุณที่จะทำอะไรในโลกนี้ก็ได้ใช่ไหม ถึงผิดคุณก็ทำให้ถูกใช่ไหม อึ้ง ทนายคนนั้นอึ้ง แล้วนี่คือการเมืองเมืองไทย นี่คือการเมืองเมืองไทยจริงๆ นะแอน สังเกตให้ดีๆ แล้วเป็นยังไงล่ะ เถียงกัน หมอวรงค์นี่พูดดีมาก ผมยังชมเลย หลักฐานมาจากไหน แต่ในที่สุดเราก็รู้ว่า พอเคาะระฆังเป๊ง ยกมือ ออกมา กลับ ก็คุยโม้กันใหญ่ว่าผมได้เสียงมากที่สุด แล้วมีความหมายอะไร ถูกมั้ยแอน ประชาธิปไตยแบบนี้มันไม่ใช่ประชาธิปไตย มันเป็นธนาธิปไตย คือประชาธิปไตยที่ใช้เงิน ใครมีอำนาจรัฐ ก็เอาอำนาจรัฐไปซื้อจิตใจคน จะซื้อด้วยวิธีไหนก็ตาม เมื่อซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้สิทธิ สังเกตมั้ยคนที่เล่นการเมืองแบบนี้ จะมีคำพูดนายเฉลิม พูดประจำตลอดเวลา หรือว่าคนที่พูดตลอดเวลาว่า 15 ล้านเสียง ผมมีอยู่ 15 ล้านเสียง แสดงว่า 15 ล้านเสียง คุณทำโทษนะแอน คุณทำเหี้ยอะไรก็ได้ใช่ไหม

จินดารัตน์- ชอบอ้างว่า เป็นเสียงส่วนใหญ่

สนธิ- ชอบอ้างว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ เอาแล้วถ้าอย่างนั้น 12 ล้านเสียง ของประชาธิปัตย์คุณไม่ฟังเขาเลยหรือ ใช่ไหม แล้วที่เหลือตั้งไม่รู้กี่สิบล้านเสียง คุณไม่ฟังเขาเลยหรือ คุณถือว่าคุณได้ 15 ล้านเสียง เพราะฉะนั้นแล้วประชาธิปไตยระบบนี้คือการทำลายชาติ ทำลายบ้าน ทำลายเมือง มันกัดกร่อนสังคมไทยไปอย่างมาก และนี้คือที่มาของมัน

จินดารัตน์- เราถึงต้องปฏิรูปใช่ไหมคะ

สนธิ- การเมืองแบบนี้มันเดินหน้าต่อไป อย่างไงก็เดินไม่ได้แอน ไม่มีทาง เพราะว่าเราผ่านมาเห็นแล้ว ว่าพอเป็นพรรคพลังประชาชน พอพรรคพลังประชาชนถูกยุบเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พอพรรคประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้ง มาเป็นพรรคเพื่อไทย มันก็ไปพรรคโน้นทีพรรคนี้ที แต่มันเหมือนกันหมด การฉ้อราษฎร์บังหลวงเหมือนกันหมด ไม่ได้ต่างอะไรกัน พรรคเพื่อไทยโดนเรื่องจำนำข้าว พรรคประชาธิปัตย์โดนเรื่องไทยเข้มแข็ง ต่างกันตรงไหน ตอบผมหน่อย

จินดารัตน์- ต่างกันแค่ชื่อโครงการ

สนธิ- ต่างกันแค่ชื่อโครงการ

จินดารัตน์- แต่จำนวนเงินพอๆ กัน

สนธิ- จำนวนเงินพอกัน คือมีการรับใต้โต๊ะ ฉ้อราษฎร์ จริงๆ ก็คือ ฉ้อราษฎร์บังหลวงนั้นเอง โกงหมดทุกอย่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็โดน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็โดนในกรณีซื้อเรือ กลับมาสมัยยุคพรรคประชาธิปัตย์ โดนเหมือนกันไม่ใช่หรอ เรื่องบอลลูน และเรื่องไม้ชิ้นทำตก(***)

จินดารัตน์- แหย่แย้

สนธิ- ใช่ไหมเหมือนกัน ถูกไหม จะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือเป็น พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มันก็มีปัญหาในเรื่องการซื้ออาวุธเหมือนกัน ถูกตรวจสอบเหมือนกัน และในที่สุดยกมือผ่านกัน

จินดารัตน์- บรรยากาศในสภาฯ น้ำเน่ายิ่งกว่าแรงเงาอีก เดี๋ยวอันนี้เด็ดมากเลย

สนธิ- ผมรู้จะพูดเรื่องอะไร เชิญเลย

จินดารัตน์- แอนขอยกไปเบรกหน้าดีกว่า เราจะยกยอดไปเบรกหน้า มาวิเคราะห์กันดูว่า ประชาชนที่เอาละเขารู้ความจริงว่า ไม่มีศัตรูและมิตรแท้

สนธิ- ไม่มี ไม่มี ก่อนไปเรามาขายของกันนิด ท่านผู้ชมครับ อย่าหาว่าผมขายของจนเกินไป มีท่านผู้ชมบางคนเขียนมา จริงๆ สิ่งที่ผมนำมามอบให้ เป็นสิ่งที่ดี เหมือนอย่างเสื้อ เราขายเสื้อท่านอยากจะซื้อเสื้อสีเหลืองท่านก็ไปซื้อได้ไม่เป็นไรหรอก แต่บางอย่างซื้อที่อื่นไม่ได้ เช่น พระ พระที่เราสร้างใครจะมาสร้าง อย่างที่เราบอกว่า พระรุ่นนี้สร้างด้วยจิตบริสุทธิ์ของคนที่ชุมนุมใน 158 วัน จิตใจบริสุทธิ์มาชุมนุมเพื่อที่จะสู้เพื่อเรียกร้องแผ่นดินไทย ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของต่างชาติ และเขาปั้นพระขึ้นมา ใช้จิตบริสุทธิ์ ใช้ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ที่มาอวยชัยให้พรที่พวกเราในการต่อสู้ ใช้มวลสารต่างๆ ต่อสู้ขึ้นมา จนกระทั่งเกิดมาเป็นพระรุ่นนี้ อย่างที่เรียนให้ทราบว่า 9 นิ้ว

จินดารัตน์- 9,999

สนธิ- 10,000 ลบ 1 บาท และ 5 นิ้ว

จินดารัตน์- 4,000 บาท ลบ 1 บาท

สนธิ- 5,000

จินดารัตน์- 4,000

สนธิ- 3,999 แล้วชุดนี้

จินดารัตน์- 2,999

สนธิ- 2,999 อย่างที่เรียนให้ทราบว่า ทำไมพันธมิตรฯ ต้องมี เพราะว่าพระรุ่นนี้คือพระที่สะท้อนให้เห็นว่า นี่คือบ้านพันธมิตรฯ แต่เพื่อความเข้าใจไม่ให้เข้าใจผิด ดอกไม้นี้ไม่มี มีแต่กล่องกระดาษ

จินดารัตน์- คือมันมีที่มาที่ไป

สนธิ- มีที่มาที่ไปใช่ไหม

จินดารัตน์- เฮียบุ๋งบอกว่า เฮ้ยทำไมแถมกล่อง เฮียบุ๋งเป็นคนบอกเองในรายการ ก่อนจะถึงจันทร์ ผมหมายถึงกล่องกระดาษที่จะส่งให้

สนธิ- เอาละครับ อย่างไงพระเอาไปกล่องไม้ก็วางไม่ได้ เพราะว่าพระต้องไปวางตามจุดต่างๆ ที่เจ้าของบ้านต้องการวาง

จินดารัตน์- และหิ้งไม่ควรมีกล่องอย่างนี้

สนธิ- หิ้งไม่ควรจะมีกล่อง ควรจะเปลือยไปเลย พระรุ่นนี้สวยมาก จองอีกรู้สึกกุมภาพันธ์จะหมดเวลาจองแล้ว หมดแล้วหมดเลย จะไม่ทำเพิ่มไปมากกว่านั้น

จินดารัตน์- คือเราทำตามจำนวนที่สั่งจองเท่านั้น

สนธิ- ตามจำนวนที่คนต้องการจอง ผมอยากจะให้ท่านผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อเป็นพันธมิตรฯ แท้แล้ว แต่ละบ้านควรจะมีไว้บูชาสักหนึ่งองค์ องค์ใหญ่แพงไป เอาองค์เล็กก็ได้

จินดารัตน์- หน้าตัก 5 นิ้ว

สนธิ- หน้าตัก 5 นิ้ว นี่ 3,999 ศักดิ์สิทธิ์มากครับ ของซึ่งเราขาย ที่อื่นไม่มี อย่างเช่นเครื่องทำน้ำด่าง วันนี้ต้องพูดอีกครั้งหนึ่ง

จินดารัตน์- วันนี้คุณสนธิจะมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง ที่เกี่ยวข้องกันด้วย

สนธิ- มีเรื่องสุขภาพมาเล่าให้ฟัง เครื่องทำน้ำด่างล็อตสุดท้ายหมดไปแล้วนะครับ มีคนจองหมดแล้ว และทางโรงงานที่ผลิต ทางประเทศจีนเขายืนยันมาว่าเขาจะเร่ง ล็อตสุดท้ายที่จะได้กันเดือนมีนาคม เขาจะเร่งให้ได้กุมภาพันธ์

จินดารัตน์- ก่อนตรุษจีน

สนธิ- ก่อนตรุษจีน เขาจะส่งมา เพราะฉะนั้นก็จะเร็วขึ้นมาอีกเดือนกว่า ถามว่ายังมีเหลือไหม ไม่มีแล้ว แต่เผอิญ...

จินดารัตน์- เกินออเดอร์ด้วยค่ะ

สนธิ- แต่เผอิญมีอยู่ประมาณ 600 ราย ที่สั่งจองมายังไม่ได้โอนเงิน สำหรับเราแล้วถ้ายังไม่ได้โอนเงิน ถือว่ายังไม่ได้จอง จองแต่ปาก ถ้าโอนเงินก็จะเข้าคิวทันที เพราะฉะนั้นเหลืออีก 600 ราย 600 รายนี้ถ้าใครโอนเงินเข้ามา จัดการเรียบร้อย ก็ได้คิว ตกลงสรุปพูดง่ายๆ ว่า 600 รายนี้มีเรียบร้อยแล้ว คนจองมา

จินดารัตน์- คือใครจ่ายก่อนก็ได้ไปก่อน

สนธิ- ใครจ่ายก่อนคนนั้นได้ก่อน ไม่จำเป็นว่าคุณยังไม่ได้จองเลย แต่คุณสามารถจะจ่ายตอนนี้คุณจะแซง 600 รายนั้นไปได้เลย

จินดารัตน์- เพราะ 600 รายนั้นต้องเรียนว่า เราจะต้องเอาเงินไปสั่งซื้อเป็นล็อตๆ หากเงินได้ตามจำนวนเมื่อไรเราก็จะไปจ่ายตังค์เขา

นงวดี- หมายความว่าถ้าสมมุติโทร ยังไม่ได้จอง แต่ถ้าจองวันนี้แล้วสมมุติจ่ายทันที ก็คือเราก็เข้าคิวเลย แล้ก็จะได้ของทันวันก่อนช่วงตรุษจีน

สนธิ- ครับ ได้ของประมาณนั้น แล้วก็มีคนพยายามที่จะไปทำเว็บไซต์ บอกว่าเอาโรงงานเดียวกันมา แล้วขายถูกกว่า อย่าไปฟังครับ โกหกหมด เพราะว่าเอเอสทีวี เป็นเอเยนต์ของเครื่องทำน้ำด่างอันนี้รายเดียว แล้วก็อยากจะให้รีบกันนิดหนึ่ง เพราะว่าถ้ามันหมดแล้วหมดเลย เราเองก็ไม่อยากจะขายอะไรมากมายนัก นอกจากว่ามีความต้องการมากขึ้น เพราะว่าเครื่องทำน้ำด่างนั้นมีประโยชน์มาก อย่างที่เคยเล่าให้ฟัง ไม่อยากจะเอาเรื่องภาพยนตร์ วิดีโอ เรื่องลำไส้ให้ดูอีก หลายคนบอกว่าเห็นแล้วทานข้าวไม่ลง แต่วันนี้เอาเป็นเรื่องที่พิสูจน์ชัดเจน คือทางเกาหลี ใช่มั้ย ประเทศเกาหลีเขามาพิสูจน์ เขาเอาสัตว์มาพิสูจน์ เขาเอาหนู เขาเอาคนไม่ได้ เอาหนูมาพิสูจน์ว่า 2 ตัว ตัวหนึ่งให้ทานน้ำธรรมดา ตัวหนึ่งให้ทานน้ำด่าง แล้วก็ให้มาพิสูจน์ดูว่าเป็นยังไง

นงวดี- ก็จะมีที่เขาทำการทดลองนะคะคุณสนธิ เขาจะแบ่งหนูออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้ดื่มน้ำธรรมดา อีกกลุ่มหนึ่งให้ดื่มน้ำด่าง เสร็จแล้วเขาก็จะวัด

สนธิ- วัดน้ำตาล

นงวดี- วัดน้ำตาล วัดหลายอย่าง ส่วนแรกเขาจะวัดน้ำตาลในหนูทั้งสองกลุ่มนี้ ปรากฏว่าหนูกลุ่มที่ดื่มน้ำธรรมดา ปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเลือด

สนธิ- จะสูงกว่า

นงวดี- สูงขึ้น คือสูงขึ้นทั้งสองกลุ่ม แต่ว่าหนูที่ดื่มน้ำธรรมดาจะสูงขึ้นมาก สูงขึ้นมากเลย ส่วนหนูที่อยู่ในกลุ่มที่ดื่มน้ำอัลคาไลน์ หรือน้ำด่าง สูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สนธิ- ก็คือน้ำด่างจะช่วยต้านน้ำตาลในเลือดถึงประมาณ 34 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับน้ำธรรมดา ใช่มั้ยคุณนง

นงวดี- ใช่ค่ะ นั่นเป็นเรื่องของน้ำตาลในเลือดนะคะคุณสนธิ ซึ่งเดี๋ยวต่อไปจะมีประโยชน์มากสำหรับบรรดาผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องโรคเบาหวาน

จินดารัตน์- อย่างในภาพที่คุณผู้ชมเห็นอยู่ ตัวเลขซ้ายมือ 69 ก็คือหนูที่ดื่มน้ำปกติ ส่วนขวามือ ตัวเลขปริมาณน้ำตาลในเลือด 53 หนูที่ดื่มน้ำด่าง

นงวดี- ใช่ค่ะ ก็ถือว่ามีน้ำตาลในเลือดที่ไม่ต่างกันมาก แต่อย่างที่เรียนก็คือ พอผ่านไปสัก 2 สัปดาห์ ก็มาวัดอีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่ากราฟ สีเขียวคือหนูที่ดื่มน้ำธรรมดา (Ordinary water) ส่วนสีแดงเป็น Mineral Alcaline water เป็นน้ำด่าง ระดับที่สูงขึ้น 203 กับ 153 คือต่างกันเลย

สนธิ- ต่างกันมาก คือถ้าเอาหนูเป็นมาตรฐาน สรุปง่ายๆ ก็คือว่า เอาหนูเป็นมาตรฐานนะ สรุปง่ายๆ ว่าดื่มน้ำด่างแล้วน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มน้อยกว่าดื่มน้ำธรรมดา หรืออีกนัยหนึ่งว่า หนูที่ดื่มน้ำด่างโอกาสเป็นเบาหวานน้อยกว่าหนูที่ดื่มน้ำธรรมดา หรือว่าโอกาส ปริมาณน้ำตาลในเลือดที่เป็นเบาหวานอยู่แล้วจะลดลง

นงวดี- ซึ่งผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานจะรู้ดีมากว่า จะควบคุมน้ำตาลมันยากมาก มันต้องคุมอาหาร ปรับพฤติกรรมตัวเอง ทุกสิ่งอย่าง

สนธิ- คืออาหารก็คุม แต่ถ้าดื่มน้ำด่างแทนน้ำธรรมดา จะช่วยได้อย่างมหาศาล

จินดารัตน์- นอกจากน้ำตาลแล้ว ก็ยังตรวจสอบเรื่องไขมันในเลือดด้วย

สนธิ- ที่เขาเรียกว่าคอเลสเตอรอลนะ เอ๊ะ หนูมีคอเลสเตอรอลด้วยเหรอ

นงวดี- ตัวเล็กแค่นั้นเนาะ

จินดารัตน์- คือหนูเนี่ย (ชี้ตัวเอง)

นงวดี- อ่อ หนูแอน

จินดารัตน์- ก็ 2 เดือนนะคะ เขาให้ดื่มน้ำ หนึ่งกลุ่มดื่มน้ำธรรมดา จากปริมาณไขมันในเลือด 77 พุ่งสูงขึ้นเป็น 356 แต่หนูที่ดื่มน้ำด่าง จาก 70 ขึ้นไปแค่ 285 คือมันขึ้นล่ะแต่ขึ้นช้า น้อยลง

นงวดี- ขึ้นน้อยกว่า นี่ทดลองสองแบบเลยนะคะ น้ำตาล กลุ่มต่อมาก็เป็นคอเลสเตอรอล อีกอันหนึ่งนี่อึ้งเลยนะคะ เขาเอาเซลล์มะเร็งฉีดเข้าไป

สนธิ- อ๋อ ใช่ เขาถึงต้องทดลองกับหนูไง เพราะถ้าทดลองกับคน เอาเซลล์มะเร็งไปฉีดให้คน ไม่มีใครยอมให้ฉีดหรอก ก็เลยเอาหนูเป็นตัวอย่าง ก็เอาเซลล์มะเร็งฉีดเข้าไปใช่มั้ย

นงวดี- ใช่ค่ะ ฉีดเข้าไปในหนูแบบนี้เลยนะคะ 2 กลุ่ม 2 ตัว แล้วก็เหมือนเดิม คือ ตัวหนึ่ง/กลุ่มหนึ่งให้ดื่มน้ำธรรมดา อีกกลุ่มหนึ่งดื่มน้ำด่าง ปรากฏว่าพอผ่านไป 15 วัน เขาให้เอาหนู เดี๋ยวเขาจะมาห้อยหัวให้ดูว่าลักษณะรูปร่างของหนู เปลี่ยน คือที่ปูดๆ อยู่นั่นคือเซลล์มะเร็งที่มันโต ทางด้านขวามือ ส่วนด้านซ้ายมือเป็นหนูที่ดื่มน้ำด่าง ขนาดเห็นชัดเจนเลยว่ามันไม่โต กับมันโตมาก

สนธิ- ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ต้องพูดดีๆ นะครับ เดี๋ยวโดน อย.เล่นงาน ถ้าเอาหนูเป็นมาตรฐานในการวิจัยครั้งนี้ จะเห็นว่าการดื่มน้ำด่างจะทำให้เซลล์มะเร็งอยู่ตัว หรือไม่ก็ลดน้อยลง

นงวดี- มีก้อนเนื้อเล็กกว่าที่ดื่มน้ำธรรมดาได้อย่างเห็นชัด

จินดารัตน์- ก็คือเขาบอกประมาณ 2 เท่าเลยนะคะ

นงวดี- เขาเอามาวัดให้ดูเลยนะคะ ได้ 10.78 มิลลิเมตร กับ 20.11 มิลลิเมตร

สนธิ- เท่าตัวเลยนะ

จินดารัตน์- ก็คือถ้าเขาผ่าออกมา เอาเซลล์มะเร็งที่ปูดๆ ออกมา แล้วเอาไปชั่งน้ำหนัก หนูที่กินน้ำด่าง ที่ดื่มน้ำด่าง เซลล์มะเร็งจะมีน้ำหนักเพียงแค่ 2.3 กรัม แต่ขวามือคือเซลล์มะเร็งของหนูตัวที่ดื่มน้ำธรรมดา จะมีน้ำหนัก 4.8 กรัม ก็คือเท่าตัวอีกเหมือนกัน

นงวดี- นี่คือเขาผ่าก้อนมะเร็งออกมาให้ดูเลยว่างั้น

สนธิ- เขาผ่าก้อนมะเร็งเลยใช่มั้ย

จินดารัตน์- เอามาดู วัดขนาด ชั่งน้ำหนักเลยค่ะ แล้วเขาก็ไปดูการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งด้วย ด้วยการเอาปอดของหนูออกมาดู

สนธิ- ต้องฆ่าหนูแล้วเอาปอดมา

จินดารัตน์- ปรากฏว่าที่เห็นอยู่นี่ จุดสีดำกระจายอยู่ทั่วปอด

นงวดี- จุดๆ ที่เห็นคือกลุ่มเซลล์มะเร็ง

สนธิ- ที่ดื่มน้ำธรรมดา

จินดารัตน์- ซ้ายมือก็คือที่ดื่มน้ำธรรมดา มีประมาณ 260 จุด แต่ขวามือคือหนูที่ดื่มน้ำด่าง 15 วัน มีเซลล์มะเร็งปรากฏแค่ 145 จุดเท่านั้น

สนธิ- เท่าตัวเหมือนกันใช่มั้ย

จินดารัตน์- ใช่ค่ะ ก็คือเราจะเห็นได้ว่าน้ำด่างมีผลต่อการต่อต้านการขยายตัวของเนื้องอกและเซลล์มะเร็งอย่างมาก

นงวดี- ก็เป็นหลายๆ ส่วนที่ คือทดลองเขาเอามาให้ดู

สนธิ- คือต้องเรียนท่านผู้ชมที่บ้าน และแอน กับนง นิดหนึ่ง เราไม่ได้มามีอาชีพในการขายเครื่องกรองน้ำอะไรทั้งสิ้น แต่เผอิญโดยผ่านท่านอาจารย์แก่นฟ้า ซึ่งเป็นคนต้นคิดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นร่วมกับอาจารย์ขวัญดินคิดเรื่องปุ๋ยขวัญดิน ท่านเป็นนักวิศวะ และท่านศึกษาในเรื่องน้ำด่างมานานแล้ว และผ่านมาทางอาจารย์ปานเทพ ทั้งสองคนคุยกันถูกคอ มีการทดสอบทดลองและในที่สุด อาจารย์แก่นฟ้าบอกว่า น้ำด่างจะมีประโยชน์ และทางสันติอโศกใช้น้ำด่างรับประทานมานานแล้ว แต่วิธีการทำน้ำด่างของสันติอโศกนั้นใช้ขี้เถ้า และเอาน้ำเทเข้าไปผสม แล้วกรองออกมาหลายชั้น มันจะมีรสที่มันเฟื่อน เฟื่อนมากๆ อาจารย์แก่นฟ้าเป็นนักวิจัยค้นตลอดเวลาเลย แกค้นพบเครื่องทำน้ำด่างทั่วโลก ซึ่งทำได้เหมือนกับที่ฝ่ายสันติอโศกทำ เป็นเพียงแต่ว่าใช้ไฟฟ้า แยกประจุลบกับประจุบวกออก ประจุลบคือ น้ำด่าง ประจุบวกคือ กรด ทีนี้พอแกทดสอบไปเรียบร้อยแกบอกว่า เท่าที่ดูมาใช้ได้หมดเลยไม่ว่าจะเป็นของญี่ปุ่น ของเกาหลี ของอเมริกา และแกมาเจอของจีนเครื่องนี้ เครื่องนี้พอแกมาดูแล้ว แกตรวจสอบเครื่องว่าเป็นอย่างไรบ้าง ปรากฏว่าเครื่องของจีนมีอุปกรณ์ที่สมบูรณ์คือ มีเพลทเขาเรียกว่า แผ่นที่เครื่องโครเมียม แพลตตินั่ม

จินดารัตน์- เป็นตัวแยกประจุ

สนธิ- เป็นตัวแยกประจุมี 8 แผ่น สูงสุด ซึ่งเครื่องของอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีที่มี 8 แผ่นก็มี แต่ว่าราคามันต่างกัน 2-3 เท่า

จินดารัตน์- เป็นแสนเลย

สนธิ- เป็นแสน อย่างเช่นเครื่องที่มี 5 แผ่นของเกาหลี 5 แผ่นเองขายตั้ง 60,000 แค่เครื่องนี้ 8 แผ่น ขายแสน ในขณะซึ่งของจีน ซึ่งเขาผลิตเพื่อขายให้ทาง เป็นรับจ้างผลิตให้บริษัทที่แคนาดา ที่อเมริกา ที่อเมริกาใต้ เขาทำ 8 แผ่น เราสามารถเอามาขายได้ที่ราคา 35,000 ถูกกว่า 5 แผ่นของเกาหลี อาจารย์แก่นฟ้าเลยบอกมา พอดีพวกเราเป็นพวกที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของคน และเราโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครือผู้จัดการ และพวกพันธมิตรฯ เป็นพวกซึ่งชอบมาทางด้านธรรมชาติบำบัด เพราะว่าผมเองส่วนตัวก็ชอบ ผมมีความรู้สึกว่า สุขภาพที่ดีคือ สุขภาพที่ป้องกัน ไม่ใช่สุขภาพที่รักษา อะไรที่หลีกเลี่ยงยาได้จะหลีกเลี่ยง ตั้งแต่ก่อนที่อาจารย์ปานเทพจะมาสนใจทางด้านนี้แล้ว ผมเป็นคนซึ่งข้อแรกผมไม่ทานยา ผมเป็นหวัดผมก็ไม่ทาน เพียงแต่ว่าอาจารย์ปานเทพไปศึกษาเรื่องฉี่มาก่อน ผมเลยเริ่มทานฉี่ และผมดีขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏว่า ในที่สุดที่ทานฉี่ เพราะว่าฉี่มีฤทธิ์ด่างถูกไหม เลยในที่สุดถ้าอย่างนั้นเราก็ทานน้ำด่าง เลยได้เครื่องอันนี้มา พอได้เครื่องอันนี้มาเลยถือโอกาสเอามามอบให้กับพันธมิตรฯ ท่านผู้ชม แน่นอนเราก็มีกำไร เครื่องหนึ่งหลายพันบาท เราถือว่ากำไรก้อนนี้ไม่ได้เข้ากระเป๋าผม เอามาเข้าเอเอสทีวีเพื่อมาจ่ายเงินเดือนพวกเรา เข้ากระเป๋าพนักงาน

จินดารัตน์- คือเป็นเดือนๆ

สนธิ- ซึ่งคือการ พอมามองแล้วคือ เครื่องกรองน้ำแต่ต่างกว่าเครื่องกรองน้ำที่มันสามารถแยกน้ำออกเป็น 2 อัน ประจุบวกคือ น้ำกรด ประจุลบคือ น้ำด่าง เลยทาน ผมก็เลยทานมาตลอดน้ำด่าง ทุกวันนี้สุขภาพดีมาก อะไรหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกรดไหลย้อนก็ไม่มี ทุกอย่างดีหมดเลย เดี๋ยวนี้ทำอาหารใช้น้ำด่างทำ ชงกาแฟใช้น้ำด่างชง มีปัญหาว่าเวลาไปเมืองนอกกลุ้มใจอยู่เพราะไม่มีน้ำด่างทาน ใช่ไหมครับ เลยคิดว่าเมื่อมันเป็นเช่นนี้ เลยแนะนำให้ท่านผู้ชม ทีนี้ปรากฏว่า ขายดิบขายดี สั่งจนกระทั่งทางโรงงานเขาทำไม่ทัน ล็อตสุดท้าย 1,500 เครื่อง สั่งมาเดิมทีเขาจะบอกเดือนมีนาคม ตอนนี้เหลือแค่ต้นก่อนตรุษจีน แต่ปัญหามีอยู่ว่า ถ้าเราไม่เก็บเงินสด เราไม่โอนไปให้เขา เขาไม่ส่งมาให้เรา เพราะว่าเราไม่ใช่เป็นคู่ค้า และเอเอสทีวีไม่ได้มีบัญชีธนาคารอะไร เพราะว่าเราไม่ได้กู้เงินใคร เพราะว่าเราไม่มีปัญญาไปกู้เขา ทุกวันนี้หมุนจ่ายเงินเดือนแทบตายอยู่แล้ว เราเลยต้องหวังใครจะเอาต้องจ่ายเงินสดมา เราส่งไปรู้สึกจะส่งไปล็อตหนึ่งแล้ว ล็อตที่ 2 กำลังจะมาแล้วเร็วๆ นี้ นี้ล็อตที่ 3 อยู่ 1,500 ท่านผู้ชมที่ต้องการเป็นเงินผ่อน เดี๋ยวรอสักครู่ เดี๋ยวเราจะเจรจาให้

จินดารัตน์- จัดการเรื่องระบบก่อน

สนธิ- จัดการเรื่องระบบเรียบร้อย และพอได้เรียบร้อยแล้วสามารถจะผ่อนเดือนละ 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี เพราะราคาขายๆ 35,000 บาท

จินดารัตน์- เพราะฉะนั้นหมายเลขโทรศัพท์ที่จะสั่งจองได้ โทรเข้ามาที่คอลเซ็นเตอร์ 02-633-5353 รับจองถึงเที่ยงคืนทุกวันช่วงนี้ 600 เครื่องที่มีคนจองอยู่แล้ว ยังไม่ได้จ่ายสตางค์ รีบมาจ่าย เพราะว่าถ้าคนอื่นมาจ่ายก่อน เราจะให้สิทธิเขาก่อน

สนธิ- เราให้สิทธิเขาก่อน คือแซงคิวไปเลย

จินดารัตน์- มีเพื่อนมาเล่าให้ฟังคุณสนธิบอกว่า น้ำกรดที่มันออกมาอีกฝั่งหนึ่ง เอาไปถูพื้นไปล้างจาน

สนธิ- สะอาดมากเลยใช่ไหมแอน

จินดารัตน์- สะอาดมาก และที่สำคัญเขาบอกว่า เขามีน้องหมาตัวใหญ่ กลิ่นมันจะแรง เล่นๆ บางทีฟอกสบู่ไม่หาย ยกเว้นสบู่พี่โสภณ เขาบอกเอาน้ำกรดลูบแขนกลิ่นหายเกลี้ยง แบบไม่น่าเชื่อ ต้องขอบคุณข้อมูลคุณกอบ คุณเจี๊ยบมาบอกวันนี้

สนธิ- ถ้าที่บ้านธรรมดาต้องซื้อเครื่องกรองน้ำ แทนที่จะไปซื้อเครื่องกรองน้ำ 2-3 หมื่นบาท จ่าย 35,000 บาท แล้วซื้อเครื่องกรองน้ำแต่ว่าแยกน้ำด่าง กับน้ำกรด ของแอนเริ่มใช้ยังที่บ้าน

จินดารัตน์- ใช้แล้วคะลูกค้าได้ดื่มกันทั่ว

นงวดี- เขาถามว่าใหญ่ขนาดไหน บางคนอาจจะบอกไม่ใหญ่เลย แล้วก็หน้าตาดีด้วย

จินดารัตน์- ประมาณกว้างซักฟุตหนึ่ง สูงซักฟุตครึ่ง ภาพที่เห็น

สนธิ- ที่เห็นเป็นเหมือนกับสายที่เป็นสาย เขามีปุ่มให้กด กดเป็นน้ำด่างก็ได้ กดเป็นกรดก็ได้ ธรรมดาเราก็กดเครื่องมือทานน้ำธรรมดา รองใส่ขวดทิ้งเอาไว้ 3-4 ขวด ให้ลูกกิน ให้พ่อกิน ให้แม่กิน ให้ปู่กิน ตากิน ยายกิน เท่ากับว่าซื้อมาอันหนึ่งใช้ได้ไปตลอดชีวิตเลย

จินดารัตน์- และที่สำคัญคือ แอนทดลองด้วยตัวเอง กรองเอาไว้ใส่ขวดเอาไว้ ปิดฝาหรือถังน้ำ 4 วันมาแล้ว ค่าความเป็นด่างยังเท่าเดิม เพราะฉะนั้นหลายคนกังวลว่า ต้องไปแบบไปกรองใหม่ไหม สดๆ ร้อนๆ ใส่นี้ได้เลย ใส่แกลลอนใส่ถังได้เลย

สนธิ- 3-4 วันได้เลย

จินดารัตน์- ได้เลย

นงวดี- เดี๋ยวเราพักสักครู่ แต่เมื่อสักครู่แอนบอก ใครที่อาจจะกังวล แต่ฉันไม่ได้จ่ายตังค์ก่อนอย่างนี้ ธนาคารปิดไงคุณสนธิ อาจจะมาจ่ายที่เอเอสทีวี

สนธิ- จ่ายที่เอเอสทีวีช็อปเลยก็ได้ครับ

นงวดี- จองได้คิวเลย จ่ายพรุ่งนี้เลยก็ได้ ถ้าใจร้อน

จินดารัตน์- เดี๋ยวพักกันก่อน ช่วงหน้ามีหลายประเด็นที่คุณสนธิจะต้องพูดถึง ที่ขาดไม่ได้คนถามเข้ามาถล่มทลายในหน้าเฟซบุ๊ก คือเรื่องเสธ.อ้าย ว่าจะไปอย่างไง บางคนเขาบอก ผมขนลุกเลย คุณสนธิพูดเมื่อวันศุกร์ เขาชุมนุมวันเสาร์ คุณสนธิพูดเหมือนตาเห็น

นงวดี- เอาเทปมาดูอีกครั้ง ขนลุกไปดูไป

สนธิ- ว่าแต่ว่าพี่โสภณของผม ดีขึ้นหน่อยหรือยัง คิดถึง เอาๆ เดี๋ยวพักก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมา

จินดารัตน์- อีกนิดหนึ่งเรื่องภัยพิบัติที่ข้อมูลที่เราจะให้คุณผู้ชม และไปฝากอีเมล์เอาไว้ หน้าเฟซบุ๊ก โปรดิวเซอร์เราบอกว่า พี่ผมส่งประมาณปีหนึ่งยังไม่ครบเลย เอาเป็นว่า ผมลิงก์เอาไว้ให้แล้วที่หน้าเฟซบุ๊ก คุยทุกเรื่องกับสนธิ ตอนนี้มีคนเข้าไปที่ลิงก์ดาวน์โหลด 10,000 กว่าคนแล้ว ไปดูกันได้ว่า เขาไม่สามารถส่งได้ เขาบอกว่าหลายพันคน นี่เลย

สนธิ- เดี๋ยวเตือนหน่อยถ้าพูดเรื่องนี้นิดหนึ่ง เรื่องภัยพิบัติผมมีข้อมูลใหม่ที่จะเล่าให้ฟังด้วย

นงวดี- งั้นพักกันก่อน พักกันสักครู่

--------------------------------

ช่วงที่ 2

นงวดี- กลับมาคุยกันต่อกับคุยทุกเรื่องกับสนธินะคะ เมื่อสักครู่ก็ทิ้งท้ายกันเอาไว้ หลายคนสนใจมาก เพราะว่าตอนนี้สภาพแวดล้อมในโลกเรามีอะไรหลายๆ อย่างแปลกๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทุกที

จินดารัตน์- จนน่ากลัว

นงวดี- ใช่ เมื่อสักครู่ยังบอกคุณสนธิเลยว่า มีข่าว ไม่นานมานี้เอง 2-3 วัน ที่หาดบันได ที่ออสเตรเลีย อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นสีแดง แล้วเราก็ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่

สนธิ- คือเขาให้มองอย่างนี้ ผมจำได้ว่าตอนที่ผมบวชครั้งแรกเมื่อประมาณปี พ.ศ.2542 สิบสามปีที่แล้ว ผมบวชกับหลวงพ่อยา ที่วัดกุดโพนทัน ที่หนองบัวลำภู เป็นวัดป่า ท่านจะเป็นคนซึ่งศึกษาเรื่องธรรมชาติมาก ท่านเป็นพระที่เชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพร แล้วท่านก็เป็นคนสอนผมเอง บอกน้ำจะท่วมแล้ว หลวงพ่อรู้ได้ยังไง ดูมดสิ มดมันโผล่ขึ้นมาแล้ววิ่งขึ้นต้นไม้

นงวดี- ดูจากธรรมชาติ

สนธิ- คือธรรมชาติจะบังคับให้สัตว์ มดมันจะอยู่ในรู อยู่ในโน้นอยู่ในนี้ พอเริ่มมีกระแสน้ำมา มันจะวิ่งหนี เขาก็เลยบอกว่า ถ้าจะดูธรรมชาติที่มันจะเพี้ยนหรือไม่เพี้ยน ให้ดูพวกสัตว์ อย่างเช่นปลาวาฬ ช่วงหลังปลาวาฬมาเกยหาดตายกันเป็นแถวเลย ปลาวาฬนี่เป็นสัตว์ที่อยู่ในน้ำเย็น น้ำมันเริ่มอุ่น มันอยู่ไม่ได้ มันก็เลยว่ายมา แล้วก็มาเกยหาดตายกัน

ทีนี้ถ้าเราดูการตายของปลาวาฬ มันไม่ใช่เพิ่งตายนะ บ่อยเลยนะตอนนี้ ปริมาณความถี่ของการตายของปลาวาฬยิ่งวันยิ่งเยอะ เดี๋ยวนี้ ที่มาเกยหาด แอนว่าน้ำเพิ่มขึ้น 1 องศา กับ 2 องศา เยอะมั้ย เยอะมาก ผมไม่รู้ว่าท่านผู้ชมเคยไปออนเซ็นมั้ย บ่อน้ำแร่ ที่เขาเรียกว่าฮอตสปริง ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจะมีหลายบ่อบ่อน้ำแร่นะ เขาจะมีอุณหภูมิให้ดู ผมจำได้ว่าผมเคยไปแช่น้ำแร่ที่เมืองฟูกุโอกะ เขาจะมีบ่อน้ำแรที่เป็นศูนย์น้ำแร่ เขาเอาน้ำแร่มาจากที่ต่างๆ มาให้ บ่อหนึ่ง 40 องศา ก็ร้อนแล้วนะ พอเราไปลงอีกบ่อหนึ่ง 41 องศา หูย ทำไมมันร้อนกว่าเก่าจมเลย ไปลงอีกบ่อหนึ่ง 42 องศา ร้อนกว่าเก่าอีกมหาศาลเลย เพราะฉะนั้นอุณหภูมิน้ำเพิ่มขึ้น 1 องศา หรือ 2 องศา มีผลมากเลย มหาศาล มหาศาลจริงๆ

ลองหลังตาวาดภาพที่เขาบอกว่าน้ำทะเลตอนนี้อุ่นขึ้น เขาบอก 2 องศา นึกดูสิ ถ้าอย่างนั้นพวกสัตว์ที่อยู่มันไม่ไหวแล้ว มันไม่ไหว เพราะฉะนั้นแล้วพวกปลาวาฬ พวกการเปลี่ยนทิศทาง เขาเรียกว่า migration ที่ต้องเปลี่ยนไปที่อื่น ซึ่งสมัยก่อนเคยมี แล้วไม่มี .. สมัยก่อนเคยมี แล้วไม่มีไปแล้วตอนนี้ มันเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าภัยธรรมชาติกำลังจะเกิดแล้ว ผมคิดว่าถ้ามี ที่สำคัญภัยธรรมชาติที่จะเกิด มันก็เกิดอยู่ 2 อย่าง อย่างแรก นี่เราพูดตามหลักวิทยาศาสตร์นะ อย่างแรกก็คือน้ำท่วม น้ำท่วมเราไม่ต้องไปฟังพ่อแม่ครูอาจารย์ทำนายหรอก ไม่ต้องให้ท่านนั่งฌาณแล้วบอกหรอก เราใช้จิตสำนึก หรือสามัญสำนึกเราพิจารณาดูก็แล้วกัน นับวันยิ่งท่วมมากขึ้นใช่มั้ย

จินดารัตน์- ใช่ค่ะ

สนธิ- อันนี้เรายอมรับใช่มั้ยว่าเป็นกติกาซึ่งเรายอมรับกันแล้ว ถ้านับวันน้ำยิ่งท่วมมากขึ้น คำถามคือทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ แล้วทำไมสมัยก่อนน้ำไม่ท่วมเยอะขนาดนี้ สมัยก่อนน้ำไม่เคยท่วม ไม่ใช่ไม่เคยท่วม แต่ไม่ถี่ ไม่มากเหมือนปัจจุบัน ไม่ถี่และไม่มากเหมือนปัจจุบัน สมัยก่อนนานมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อสัก 70-80 ปีที่แล้ว น้ำเคยท่วมกรุงเทพฯ ผมยังจำได้เลย พระรูป น้ำท่วมขึ้นมาขนาดที่เรียกว่ามิดหัว ต้องพายเรือ แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงหลายสิบปีถึงเกิดครั้งหนึ่ง แต่ช่วงหลังนี่เกิดถี่

สองปีที่แล้วที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ ปีที่แล้วสิ วันนี้ที่ยังไม่มี ปีนี้ยังไม่มี แต่ไม่ใช่ไม่มี ก็มี คือเดี๋ยวนี้น้ำถ้าไม่ท่วมก็แล้งไปเลย แห้ง ไม่มีน้ำ มีก็มีมากเกินไปเลย ยุโรปเองก็เริ่มรู้สึกแล้ว ตั้งแต่อเมริกามีพายุแซนดีมา ยุโรปตอนนี้กำลังเริ่มลงทุนแล้วนะที่จะสร้างเขื่อนปิดกั้นอะไรหลายอย่าง น้ำแข็งที่ขั้วโลก น้ำแข็งที่ภูเขาหิมาลัยเริ่มละลายแล้ว ขั้วโลกก็ละลาย เพราะฉะนั้นแล้ว โดยพื้นที่แล้ว 1.น้ำมากกว่าเก่าแล้ว ยังไม่ต้องรออากาศนะ ไม่ต้องรอฝนนะ เอาแค่น้ำแข็งที่มันละลายมา ที่ผมพูดคราวที่แล้วว่า ถ้าน้ำแข็งมันละลายปั๊บ จากขั้วโลก ขั้วโลกพื้นที่ก็เบาขึ้น น้ำก็หนักขึ้น มันก็เหมือนตาชั่ง ถ้าโลกเหมือนตาชั่ง ถ้าส่วนน้ำมันหนักขึ้น แล้วส่วนดินเบาลง แกนโลกก็จะเอียง เพราะฉะนั้นแล้วถ้ามันเอียง เป็นไปได้มั้ยว่า ทิศตะวันตก จะกลายเป็นทิศเหนือ แล้วทิศตะวันออกจะกลายเป็นทิศใต้ ถ้ามันมาวันนั้น มันเกิดเอียงขึ้นมาวันนั้น ก็แสดงว่าเมืองไทยจะเริ่มเข้าสู่พื้นภูมิภาคที่จะต้องเจออากาศหนาว

จินดารัตน์- หนาว มีหิมะ

สนธิ- หนาว มีหิมะ แล้วหลายๆ เมืองที่ไม่เคยมีหิมะ ก็เริ่มมีหิมะแล้ว อันนี้จะบอกว่าไม่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว ด้วยเหตุนี้ น้ำเป็นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คือพื้นที่ของโลก ซึ่งมันเป็นหินซ้อนๆ กัน สุดแล้วแต่ว่าจะเป็นจุดเชื่อมตรงไหนบ้าง อย่างที่คราวที่แล้วที่ผมอธิบายว่ามีทั้งหมด 12 จุดเชื่อม ของเมืองไทยนะ รอยเลื่อน ที่หนักที่สุดที่เขาเคยทำนายไว้ก็คือที่แคลิฟอร์เนีย จำได้มั้ยที่เคยมีแผ่นดินไหวที่แคลิฟอร์เนีย แคลิฟอร์เนียทางใต้ ซูเปอร์ไฮเวย์มันหักกลางเลยนะ แล้วถามว่าวันหนึ่งถ้ารอยเลื่อนถ้ามันเลื่อนแบบนี้ที่แคลิฟอร์เนียทางเหนือ สะพานโกลเดนเกตก็หักเหมือนกันนะ คราวที่แล้วก็หักนะ เบย์บริดจ์ ที่เชื่อมระหว่างซานฟรานซิสโก กับเมืองโอ๊กแลนก์ ก็หัก ด้วยเหตุนี้ ถามว่าจะเลื่อนต่อไปมั้ย เลื่อน มันต้องเลื่อนแน่นอน มันไม่เลื่อนไม่ได้ ทำไมมันต้องเลื่อนล่ะ เพราะ 1. น้ำมันละลาย มันก็เลื่อน 2. การทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดิน มันก็มีสิทธิที่ทำให้เลื่อนได้ แล้ว 3. พื้นที่ข้างล่างซึ่งเป็นน้ำมัน ถูกดูดน้ำมันออกหมด มันเกิดมีความว่างขึ้นมา เป็นช่อง ก็ต้องทรุดลงมา

แล้วที่สำคัญก็คือภูเขาไฟที่ยังไม่ได้ระเบิดมีอีกเยอะ ผมถึงบอกผมกลัวญี่ปุ่นที่สุด ญี่ปุ่น ไต้หวัน เพราะว่าทั้งญี่ปุ่น ทั้งไต้หวัน เป็นดินแดนภูเขาไฟญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวในโลกนี้ที่มีบ่อน้ำพุร้อนมากที่สุดในโลก ลองไปเช็กดูได้ทุกเมืองเลย โอซากาก็มี โตเกียวก็ ฟูกุโอกะก็มี ฮอกไกโดก็มี ซัปโปโรก็มี ทุกแห่งมีหมดเลย ที่ไหนที่มีน้ำพุร้อน ที่นั่นข้างล่างเป็นภูเขาไฟ เพราะถ้าไม่มีภูเขาไฟน้ำจะร้อนได้ยังไง ใช่มั้ยนี่เป็นเรื่องสามัญสำนึก commonsense เลย แล้วถ้าสมมุติแผ่นดินมันเกิดเคลื่อน สมมุติว่ามันไม่ได้เคลื่อนแค่ 9 ริกเตอร์ มันเกิดเคลื่อนสักประมาณ 11 ริกเตอร์ แผ่นดินมันแยก ภูเขาไฟซึ่งมันถูกดินถูกหินเป็นชั้นๆ มันกด หินมันเกิดแตกขึ้นมา ภูเขาไฟมันเกิดระเบิดขึ้นมาทีละ 10 ลูก ญี่ปุ่นจะเหลืออะไร ถึงบอกว่าภัยพิบัติมันเกิดขึ้นได้ มันเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เกิดขึ้นไม่ได้ เหมือนอย่างที่ผมอธิบายให้ฟัง

เคยมีใครคิดบ้างมั้ยว่าปีที่แล้วน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ ไม่มีใครนึก น้ำมา เดี๋ยว 3 วันก็ลด 7 วันก็ลด เอ้าตาย อยู่ถึง 2 เดือน ร้องกันกระจองอแงเลย เพราะฉะนั้นแล้วอะไรก็ตามที่จะมาในอนาคต อย่าไปคิดว่ามันจะอยู่แค่ 3-4 วัน ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นแน่ๆ เพียงแต่เราไม่ทราบว่าเมื่อไรเท่านั้นเอง ก่อนหน้านั้นนานมาแล้วครั้งหนึ่ง พอเราพูดเรื่องนี้ผมยังจำได้เลย หลวงพ่อญาที่ผมเคารพ พระอาจารย์ที่ท่านมรณภาพไปแล้ว ท่านเตือนผมเลย สนธิอีกหน่อยน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ จะท่วมประเทศ ท่านพูดเลยนะเชื่อพ่อ ท่านพูดอย่างนี้ เชื่อพ่อว่าน้ำจะท่วม ตอนแรกเราเอาไปเล่าให้ใครฟัง ตอนแรกเราบ้าอยู่พักหนึ่ง เราไปหาที่แถวโน้นอยู่ที่สูงๆ เตรียมผมก็ไม่มาสักที อย่างไงก็ไม่มา เวลานอนเราไม่รู้ แต่ถ้ามันมาเหมือนปีที่แล้วมันมา เราไม่รู้ตัว

จินดารัตน์- ไม่รู้เรื่องเลย

สนธิ- จู่ๆ มันก็มา เคยมีไหมแอน ตั้งแต่แอนโตมา เคยมีไหมว่า กรุงเทพฯ แผ่นดินไหว ไม่มี เพิ่งจะมีคราวนี้ เห็นไหม เพิ่งจะมีครั้งนี้คราวนี้เท่านั้นเอง และพอเมืองไทยมันเกิดแผ่นดินไหวจากพม่ามา พม่าคือแหล่งสำคัญที่มันจะไหวเลย รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ตรงนั้น

จินดารัตน์- รอยเลื่อนใหญ่

สนธิ- รอยเลื่อนใหญ่ ถ้ามาถึงกรุงเทพฯ แน่นอน

จินดารัตน์ - เพราะเมืองกาญจน์โดนไปเต็ม

สนธิ- เมืองกาญจน์โดนไปเต็มๆ และขอให้เชื่อว่า เขื่อนที่เขาบอกว่า ไม่มีทางป้องกัน คุณจะไปป้องกันได้อย่างไร ไม่มีทาง ผมยังเชื่อ และนอกจากนั้นแล้ว อากาศเพี้ยนมีมากขึ้นในขณะนี้ เพี้ยนมากเลย หลายประเทศหน้าหนาวไม่หนาว และหน้าหนาวเกิดร้อนขึ้นมา ในขณะเดียวกันวันนี้ที่ทางจีน ทางตะวันออกเฉียงเหนือจีนมณฑลเหอหลงเจียง ฮาร์บิน พวกนี้ ผมเพิ่งมองโกเลีย ผมเพิ่งดูเว็บไซต์ลบ 40 องศาเซลเซียส ผู้หญิงเอาผ้าคลุมหัว เอาผ้าปิดขนตามีน้ำแข็งเกาะเลย

จินดารัตน์- เขาบอกมันเคยมีข่าวว่า บ้านไฟไหม้ถังแก๊สระเบิด น้ำฉีดไม่ออก

สนธิ- ฉีดไม่ออก

จินดารัตน์- มันเป็นน้ำแข็งเลย

สนธิ- แล้วถ้าไม่ปิดหูอะไรพวกนี้ โดนมากระชากหูหลุดทั้งอันเลย ทำเป็นเล่นไป เขาถึงเรื่องตลกบอกว่า ถ้าฉี่ต้องดีดเปาะ

จินดารัตน์- อันนี้ยิ่งกว่าโจ๊กพี่โสอีก

สนธิ- ภัยพิบัติน่ากลัว และโลกกำลังก้าวไปสู่จุดนั้น

จินดารัตน์- มีสายการบินเขาอิดออดกระปิดกระปอยนิดหน่อย ต่อว่ารายการคุณสนธิ

สนธิ- จริงเปล่า

จินดารัตน์- ที่เอาข้อมูลมาบอกจากนาซา

สนธิ- ไม่ๆ สายการบินอะไร ขอเอ๋ยชื่อหน่อย

จินดารัตน์- สายการบินภายในนี้แหละ เป็นนักบินเขามาเล่าให้ฟัง เขาบอกว่ามีคุยกันบอกว่า ดูช่วงไฮซีซั่นคนเริ่มลังเลจะเดินทาง

สนธิ- แล้วจะทำอย่างไร ผมไม่ได้เป็นคนพูด

นงวดี- แค่เอาข้อมูลมาเล่าให้ฟัง

สนธิ- มันเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เขาบอกว่าในช่วงวันที่ 21 ธันวาคม จนกระทั่งถึงต้นปี เป็นช่วงที่พายุสุริยะจะมาและจะแรงมาก ช่วงนั้น อันนี้คือนาซาเขาบอกมา และถ้าพายุสุริยะมันแรง มันจะรบกวนคลื่นการสื่อสาร

จินดารัตน์- ที่เขาจะพูดคือ คนดูรายการนี้เยอะ ฟังแล้วพ่อหมอเขาพูดอะไรมันค่อนข้างจะตรง

สนธิ- โดยส่วนตัวผม ผมก็ไม่ไป ผมไม่ไปอยู่แล้ว

จินดารัตน์- ช่วงปลายปี 21 ธันวาคม

สนธิ- 21 ธันวาคมผมไม่ไป ธรรมดาช่วงปีใหม่ผมจะไปปฏิบัติธรรม ข้ามปีทุกปีจะทำเช่นนั้น แต่งวดนี้แทนที่จะนั่งเครื่องบินไปอุดรฯ ผมจะขับรถไปแทน เปลี่ยนเวย์

จินดารัตน์- ตายและ ระยะสั้นๆ จะเป็นอะไรหรือเปล่าไม่รู้

สนธิ- เปล่าๆ แต่คืออย่างนี้ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เขาบอกว่า ช่วงวันที่ 21 ธันวาฯ และผมไม่ได้เป็นคนพูด นาซ่าเขาบอกเอง เขาบอกว่าพายุสุริยะ ซันสตอม เขาบอกว่ามันจะแรงมาก ถ้ามันแรงแล้วเครื่องมือการสื่อสารมันจะขาดเป็นช่วงๆ ด้วยเหตุนี้ตรรกะเขาบอกว่า ถ้าอย่างนั้นเครื่องบินๆ ช่วงนั้น เกิดพายุสุริยะมาติดต่อหอการบินไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้บินอยู่เท่าไหร่ หอการบินบอกให้ลดมาบินที่ ลดมาอีกซัก 3,000 ฟุตไม่ได้ยิน แล้วทำอย่างไร เราไม่รู้

จินดารัตน์- ลงก็ลงไม่ได้

สนธิ- ลงก็ลงไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร

จินดารัตน์- ไม่ได้หมายถึงเกิดขึ้นทุกวัน เอาอย่างละกันแล้วแต่

สนธิ- แล้วแต่ดวง

นงวดี- เราก็รู้ไว้ รู้ไว้ใช่ว่า

สนธิ- ผมยังเชื่อว่า คนที่ถือศีล 5 หรือว่าคนที่ทำคุณงามความดีไว้ คนที่ไม่คดโกงคน ไม่คดโกงแผ่นดิน ไอ้พวกนักการเมืองผมเชื่อว่า มันตายกันหมด

จินดารัตน์- แล้วสาบานไว้เยอะด้วย

สนธิ- สาบานไว้เยอะ ไอ้ที่อยู่ในสภาฯ ผมว่าตายยกสภาฯ และอดีตนักการเมืองทั้งหลายตายยกเข่ง และทหารชั่วๆ อีกหลายคน ทั้งที่เกษียณอายุแล้ว และที่ยังไม่เกษียณก็ตาย คือผมคิดว่า ถ้าใครทำบาปทำกรรมไว้กับแผ่นดิน ภัยธรรมชาติมาเอาไปหมดไม่เหลือ พวกเราไม่เป็นอะไรหรอก ผมยังเชื่ออย่างนั้น

จินดารัตน์- คิดดีทำดี

สนธิ- คิดดีทำดี ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ผมถึงบอกว่า บางทีบางคนก็เซ็ง ผมบอกไม่ต้องเซ็ง อีกไม่นานพวกห่านี่ โทษนะ ก็ตายหมด แล้ววันนั้นจะรวยอันดับ 1 ของประเทศไทย ติดอันดับฟอร์บส์ก็ไม่มีความหมาย ใช่ไหมครับ ถ้าน้ำท่วมตึกประมาณซัก 4 ชั้น กรุงเทพฯ อยู่ไม่ได้ คุณจะไปอยู่ที่ไหน กรุงเทพฯ เป็นอย่างนี้ คุณจะไปอยู่เซี่ยงไฮ้คุณก็อยู่ไม่ได้ ถูกไม่ถูก คุณจะไปอยู่ฮ่องกง ไปดูเกาะฮ่องกงยังเหลืออยู่หรือเปล่า คุณจะไปอยู่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ คุณขึ้นเครื่องบินขึ้นไม่ได้ สรุปคุณก็นั่งเรือเหมือนพวกเรา และคุณไปหาที่สูงอยู่ พอคุณไปหาที่สูงอยู่ คุณมีเงินอยู่ล้านหนึ่ง ขอซื้อข้าวซักถุง ผมไม่ให้มึงหรอก

นงวดี- อยู่ไม่ได้

สนธิ- อยู่ไม่ได้ ผมยังอยาก ผมอยากเป็นความคิดส่วนตัวผมนะ ผมอยากจะเริ่มสร้างชุมชน ที่เริ่มคิดว่าถ้ามีวันนั้นเกิดขึ้นมา เราจะไปอยู่ด้วยกัน เราต้องหาที่ๆ เราจะอยู่ แต่ไม่ใช่หมายความว่า ไปถึงที่นั้นแล้วแต่ละคนจะมีบ้านคนละหลัง ไม่ใช่ครับ ไปอยู่แบบชุมชนเลย เป็น community เคยเห็นไหมที่บ้านนอก ศาลาวัดกว้างๆ ที่วัด โรงทานอย่างนั้น ข้างบนยกพื้น และข้างบนมีพระนั่ง และพ่อแก่แม่แก่ก็นั่ง ลักษณะอย่างนั้นแล้วก็นอนกัน ผู้ชายฟากหนึ่ง ผู้หญิงฟากหนึ่งใช้ห้องน้ำรวม

จินดารัตน์- เริ่มปรับวิธีคิด

สนธิ- เริ่มปรับวิธีคิด ต้องเริ่มทานผักมากขึ้น ต้องมีการเตรียมตัวไว้ไม่เสียหายแอน เชื่อผม

จินดารัตน์- ละกิเลสบ้าง

สนธิ- ละกิเลส

จินดารัตน์- คุณสนธิพูดไปเรื่องที่มีคนโทรมาถามแอนเยอะเลย ขายเมื่อไหร่

สนธิ- ไม่ขาย

จินดารัตน์- งั้นเตือนเรื่องการเดินทาง แต่ว่าจะให้ดีก่อนเดินทางช่วยเช็กสายการบินด้วยว่า มีนักการเมืองโกงชาติบ้านเมืองบนเครื่องหรือเปล่า จะได้ไม่ต้องไปด้วย จะได้ไม่ต้องซวยด้วย

สนธิ- เขาพูดเลยหรอ ผมทำให้

จินดารัตน์- เขาบอกว่า คนมาพูดกันเยอะ ผู้โดยสารเขาไม่บินหรอกช่วงนี้ คุณสนธิพูดวันนั้นในรายการ

สนธิ- ตายละผม

จินดารัตน์- แอนเลยบอกว่า พี่ได้ดูใช่ไหม ผมได้ดูครับ ผมรู้เป็นข้อมูลจากนาซ่า แต่บังเอิญรายการคนดูเยอะ และเขาเชื่อด้วย เขาเชื่อในสิ่งที่คุณสนธิไปเตือนมาบอก คิดดูคนเข้าไปดาวน์โหลด

นงวดี- เป็นหมื่น

จินดารัตน์- เป็นหมื่น

สนธิ- หมื่นกว่าราย ยังมีชุดหนึ่ง ที่เป็นแผนที่ ที่มีแผนที่ว่า จะท่วมกรุงเทพฯ ท่วมตรงไหน และในที่สุดให้เห็นว่า สุพรรณฯ จะเป็นปากอ่าว

จินดารัตน์- โปรดิวเซอร์พูดมาเลย พอก่อน เริ่มไม่ไหวแล้ว ขอตั้งตัวนิดหนึ่ง

นงวดี- พร้อมเมื่อไหร่จะมาลิงก์ให้ดาวน์โหลดกัน

จินดารัตน์- จากเรื่องนี้เราไปเรื่อง

นงวดี- เอาเรื่องนี้บ้างไหม รู้สึกว่าปากท้อง คนเขาถามกันมาเยอะ

จินดารัตน์- ปากท้อง?

นงวดี- ใช่ เพราะคนก็ถามเข้ามาเยอะ มีกลิ่นเศรษฐกิจนิดหนึ่งนะคะ เรื่องที่ทำให้เกิดความวุ่นวายสับสนในกลุ่มของเอกชน มันมาจากเรื่องของค่าแรง 300 บาท ที่ทางเอกชนเขาว่านะคะ แต่เราดูในมุมที่ว่า ค่าแรง 300 บาทที่รัฐบาลเดินหน้า และกำลังจะมีผล 1 มกราคมนี้ มันจะเกิดอะไรกับประเทศไทยบ้าง

สนธิ- คือ ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน นง ส่วนแรกคือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีคนอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือธุรกิจใหญ่ อย่างเช่นกลุ่มปูนซิเมนต์ไทย กลุ่มซีพี อาจจะเป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มียอดขายเป็นหมื่นล้าน เป็นแสนล้านพวกนี้ อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มนักธุรกิจระดับเล็ก มีบริษัท มีโรงงานเล็กๆ มีเอสเอ็มอี พวกนี้ที่อยู่ต่างจังหวัด รัฐบาลนี่เวลาเจรจากันสภาอุตสาหกรรมฯ ก็จะมีบทบาทในการซึ่งเป็นการจัดตั้งคณะกรรมการ กรอ. รัฐ-เอกชน ก็จะคุยกันทุกเรื่อง อย่างเช่น กรอ.ประชุมกับฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจบอกว่าต้องการให้ปรับ รัฐบาลช่วยเรื่องดอกเบี้ย อย่างโน้นอย่างนี้ก็ว่ากันไป คือเขาก็จะคุยกับเฉพาะองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ทีนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ ก็จะมี 2 กลุ่มนี้แย่งชิงกัน สมัยก่อนก็จะเป็น ทางปูนซิเมนต์ไทยจะผูกขาดตำแหน่งประธาน พอมาช่วงหลังบางคนก็ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพวกพ่อค้ารายย่อย เพื่อมาชิงอำนาจกัน เพราะถ้าใครได้ขึ้นมาคนนั้นก็มีสิทธิที่จะตั้ง agenda ได้ เข้าใจหรือยัง

ทีนี้มาช่วงหลัง กลุ่มสภาอุตสาหกรรมฯ คนซึ่งเป็นประธานก็ค่อนข้างจะมาทางจะมาทางสายพวกบริษัทใหญ่ๆ บริษัทใหญ่ๆ นี่ถ้ารัฐบาลเขาตั้งมูลค่า ถ้าตั้งค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เขาไม่เดือดร้อน เพราะทุกวันนี้เขาก็ไม่จ้างใครวันละ 300 อยู่แล้ว เขาจ้างหมื่นกว่าๆ เขาไม่เดือดร้อนนี่ อีกกลุ่มหนึ่งก็เดือดร้อนสิ เขาบอกว่าถ้า 300 บาทนี่เขาตาย

จินดารัตน์- กลุ่มขนาดกลาง

สนธิ- กลุ่มขนาดกลางและขนาดเล็ก เขาตาย ทีนี้ผมอยากจะฝากอย่างนี้ คือการแย่งชิงกันในเรื่องอำนาจ ในเรื่องขององค์กร สมาคม เพื่อที่จะไปเป็นตัวแทนในการต่อรองกับรัฐบาลก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ผมอยากจะพูดในเรื่องของหลักคิดในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ

ค่าแรงขั้นต่ำ โดยหลักคิด ก็คือพูดง่ายๆ ว่า พวกสหภาพแรงงานก็จะมีความรู้สึกว่าต้องสู้ให้พวกแรงงาน ทีนี้เผอิญในช่วงหลังพวกเราไม่ค่อยได้พิจารณาในเรื่องของความหลากหลายในเรื่องแรงงาน เราจะมองว่าถ้าเป็นแรงงานแล้ว มันต้องเริ่มที่ขั้นต่ำก่อน เพราะว่าเราไปเลียนแบบฝรั่ง ฝรั่งเขามีที่เรียกว่า minimum wage ค่าแรงขั้นต่ำ

อย่างที่อเมริกาสมัยก่อนที่ผมไปเรียนสหรัฐอเมริกา มันมี minimum wage ชั่วโมงหนึ่ง 1.25 เหรียญ วันนี้ minimum wage ของอเมริกาขึ้นไปเป็น 6 เหรียญ หรือ 8 เหรียญแล้ว 6 เท่า หรือ 8 เท่า แต่มันกี่ปีแล้วล่ะ มันนานเกินไปแล้ว

ทีนี้ minimum wage ของอเมริกา เนื่องจากอเมริกามันมีคนซึ่งทำงานพาร์ตไทม์เยอะ เด็กนักศึกษา ไปทำงานล้างชาม ไปทำงานปั๊มน้ำมัน ไปขายแฮมเบอร์เกอร์ ไปทำงานสตาร์บัคส์ เข้าเฉพาะวันเสาร์-วันอาทิตย์ หรือว่าเข้าเฉพาะตอนเย็น 2 ชั่วโมง หรือเข้าตอนเที่ยง ความหลากหลายของอเมริกามันจะมี minimum wage เยอะมาก มันก็เลยจำเป็นต้องมี minimum wage เกิดขึ้น

ทีนี้เมืองไทย เมืองไทยลักษณะการทำงานเป็นชั่วโมงไม่ค่อยมี ก็เหมากันเป็นเดือนไปเลย ถูกมั้ยครับ หรือเหมากันเป็นวัน อย่างเช่นค่าแรงของคนซึ่งทำงานก่อสร้าง เหมาเป็นวัน ถามว่าคนทำงานก่อสร้างได้หรือเปล่าวันละ 300 บาท ผมว่าขึ้นอยู่กับประเภทการก่อสร้าง ถูกมั้ย หลายๆ ประเทศวันหนึ่งเขาได้เกิน 300 วันละ 300 ถามว่าวันละ 300 ที่กรุงเทพฯ กับวันละ 300 ที่สุรินทร์ เหมือนกันมั้ย ไม่เหมือน งานประเภทเดียวกันที่สุรินทร์เขาอาจจะจ้างแค่ 50 หรือ 200 เพราะค่าครองชีพที่กินอยู่มันไม่เหมือนกัน แต่ว่าก็มีคนพูดอีกเหมือนกัน น้ำมันที่กรุงเทพฯ เท่าไร สุรินทร์ก็แพงกว่ากรุงเทพฯ เท่านั้น

เขาก็บอกว่า คนสุรินทร์ก็ใช้แฟ้บ ใช้โอโม คนกรุงเทพฯ ก็ใช้เหมือนกัน ต่างกันตรงที่ว่าตรงอาหารการกินมากกว่า คนสุรินทร์อาจจะมีอะไรที่เป็นพื้นบ้าน ที่กินง่าย ถูก ค่าเช่าบ้านอาจจะไม่มี ค่ารถก็น้อย มันก็จะมีการทดแทนกันไป ผมก็เลยมองอย่างนี้ ผมมองว่าจริงๆ แล้วถ้าเราเปิดใจให้กว้าง ถ้าเราจะแก้ปัญหาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เราต้องปล่อยค่าแรงให้ลอยตัว เพราะสมมุติว่าถ้านงเป็นเจ้าของกิจการ ถ้านงจ้างคนมาทำงาน รายวัน ถ้านงให้เขา เขาไม่พอ เขาจะทำกับนงมั้ย

นงวดี- ก็คงไม่

สนธิ- เขาไม่ทำอยู่แล้ว อันนี้ก็คือซัพพลาย-ดีมานด์ที่แท้จริง แต่เราไม่เคยคิดตรงนี้ เหตุผลเพราะว่าบ้านเรามีดีมานด์ปลอม ซัพพลายจริง ส่วนใหญ่นะดีมานด์จะปลอม แต่ซัพพลายจะจริง หรือบางครั้งทั้งซัพพลาย ทั้งดีมานด์ ปลอมหมดเลย สู้ให้มันลอยตัวดีกว่า

คำกว่าลอยตัวแปลว่าอะไร แปลว่า เอางี้ แอน แอนจะจ้างคนที่จะมาช่วยงานที่บ้าน มากินอยู่ด้วยกัน แอนจ้างเขามั้ยเดือนละ 6-7 พันบาท เดี๋ยวนี้ ไม่ได้แล้ว

นงวดี- หายาก

สนธิ- คือถ้ารวมค่ากิน ค่าที่พักที่อยู่ในบ้านเรา กินอาหาร 3 มื้อ แล้วให้หยุดวันอาทิตย์อีกวันนะ เบ็ดเสร็จนะ ถ้ารวมเงินเดือน 6 พันบาท ถ้าเบ็ดเสร็จที่อยู่กับเรา เงินเดือนเขาก็ 9 พันกว่าบาท หรือ 7 พัน ก็ต้องหมื่นกว่าแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วนี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่เราไม่ค่อยยอมรับกันเรื่องนี้ หน้าที่ของรัฐบาลมีหน้าที่อะไรบ้าง หน้าที่ของรัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องให้การสนับสนุนแรงงาน โดยพัฒนาแรงงานต่างๆ ให้มีฝีมือสูงขึ้น ในขณะเดียวกันอย่าไปส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานโดยที่ไม่ใช้ความสามารถ ทักษะในการทำมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าตัวเอง ถ้าทำอย่างนี้ได้เมื่อไร ประเภทรับจ้างทำของอย่างเมืองนอกมันจะลดน้อยลง

นงวดี- แล้วจะเกิดอุตสาหกรรมประเภทที่ต้องคิดมากขึ้น พัฒนา

สนธิ- แน่นอนๆ เพราะถ้าเรา เมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มใช้คำว่าค่าแรงขั้นต่ำ เมื่อนั้น เราก็จะเกิดภาวะการณ์ บอก เนี่ยนะ อีกหน่อยอุตสาหกรรมก็หนีไปอินเดีย หนีไปแอฟริกา ถ้าอย่างนั้นวงจรอุบาทว์นี่ไม่มีวันจบ ไม่จบ จะจบได้อย่างไร เหมือนกับวันนี้ผมยกตัวอย่างให้ฟัง สินค้าทางเกษตร เราจะตอบตลอดเวลาเลยว่า ข้าวเราสู้ข้าวเวียดนามไม่ได้ เวียดนามผลิตข้าวมากขึ้น พม่าจะผลิตข้าวมากขึ้น แต่เราไม่เคยถามตัวเราเองกลับ ถ้าวันหนึ่งประเทศไทยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย สินค้าการเกษตรทุกอย่างของเราเป็นปุ๋ยอินทรีย์หมด เท่ากับว่าผลิตผลทางการเกษตรของเราเป็นออแกนิกส์หมด ใช่มั้ย ถามว่าในโลกนี้..

จินดารัตน์- มีสักกี่ที่

สนธิ- มีสักกี่ที่ที่จะผลิตสินค้าที่เป็นออแกนิกส์ แล้วราคาออแกนิกส์จะสูงกว่าราคานั้น นี่ผมยกตัวอย่าง นงเข้าใจแล้วใช่มั้ย เพราะนงทำข่าวเศรษฐกิจ นงจะเข้าใจสิ่งที่ผมพูด แต่รัฐเราไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ ไม่เคยคิดจะทำเรื่องพวกนี้ จริงๆ แล้วถ้ารัฐจะเข้าไปแทรกแซง ต้องเข้าไปแทรกแซงอุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมรับจ้างทำของ ถ้าอุตสาหกรรมที่รับจ้างทำของ สิ่งที่เขาได้ ได้อยู่อย่างเดียวคือค่าแรง ก็คือว่า ฝรั่งเดี๋ยวนี้มันฉลาด สมมุติมันจ้างนงทำรองเท้าไนกี้คู่หนึ่ง มันจะรู้เลยวัตถุดิบเท่าไร คู่นี้ใช้เวลาทำกี่นาที มันคำนวณให้เสร็จเรียบร้อยแล้วมันบวกค่าแรงให้นง 7 เปอร์เซ็นต์ครึ่ง สิ่งที่เราได้ เราได้แค่ค่าแรง ซึ่งเราไม่เคยได้บ้าบอคอแตกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เคย เพราะฉะนั้นแล้วพวกรับจ้างทำของต้องไล่ไปให้หมด แต่ถ้าอุตสหากรรมใดก็ตามที่มี value added หรือที่เรียกว่ามูลค่าเพิ่มขึ้นมา พวกนี้ล่ะที่ 1. รัฐต้องเข้าไปดู รัฐต้องไปช่วย ช่วยในเรื่องของการออกแบบ ให้เงินกู้ราคาถูก ถ้ามีการทำอะไรก็ตาม ถ้าต้องการความช่วยเหลือในแง่ของรัฐบาลลงทุนให้ก่อน ในเรื่องของการออกดีไซน์เซ็นเตอร์ให้ ก็ช่วยเขา เพื่อให้เขาผลิตสินค้าซึ่งเป็นของเขาเองและมีมูลค่าเพิ่ม ค่าแรงจะได้สูงขึ้น ถึงวันนั้น วันละ 500 ก็จะไม่พอ มันขึ้นอยู่กับเราเลือกนะ

เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเรายังมาอยู่ลักษณะอย่างนี้สินค้าการเกษตรทุกอย่างของเราเป็นปุ๋ยอินทรีย์หมด เท่ากับว่าผลิตผลทางการเกษตรของเราเป็นออแกนิกส์หมด ใช่มั้ย ถามว่าในโลกนี้..

จินดารัตน์- มีสักกี่ที่

สนธิ- มีสักกี่ที่ที่จะผลิตสินค้าที่เป็นออแกนิกส์ แล้วราคาออแกนิกส์จะสูงกว่าราคานั้น นี่ผมยกตัวอย่าง นงเข้าใจแล้วใช่มั้ย เพราะนงทำข่าวเศรษฐกิจ นงจะเข้าใจสิ่งที่ผมพูด แต่รัฐเราไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ ไม่เคยคิดจะทำเรื่องพวกนี้ จริงๆ แล้วถ้ารัฐจะเข้าไปแทรกแซง ต้องเข้าไปแทรกแซงอุตสาหกรรมที่เป็นอุตสาหกรรมรับจ้างทำของ ถ้าอุตสาหกรรมที่รับจ้างทำของ สิ่งที่เขาได้ ได้อยู่อย่างเดียวคือค่าแรง ก็คือว่า ฝรั่งเดี๋ยวนี้มันฉลาด สมมุติมันจ้างนงทำรองเท้าไนกี้คู่หนึ่ง มันจะรู้เลยวัตถุดิบเท่าไร คู่นี้ใช้เวลาทำกี่นาที มันคำนวณให้เสร็จเรียบร้อยแล้วมันบวกค่าแรงให้นง 7 เปอร์เซ็นต์ครึ่ง สิ่งที่เราได้ เราได้แค่ค่าแรง ซึ่งเราไม่เคยได้บ้าบอคอแตกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เคย เพราะฉะนั้นแล้วพวกรับจ้างทำของต้องไล่ไปให้หมด แต่ถ้าอุตสหากรรมใดก็ตามที่มี value added หรือที่เรียกว่ามูลค่าเพิ่มขึ้นมา พวกนี้ล่ะที่ 1. รัฐต้องเข้าไปดู รัฐต้องไปช่วย ช่วยในเรื่องของการออกแบบ ให้เงินกู้ราคาถูก ถ้ามีการทำอะไรก็ตาม ถ้าต้องการความช่วยเหลือในแง่ของรัฐบาลลงทุนให้ก่อน ในเรื่องของการออกดีไซน์เซ็นเตอร์ให้ ก็ช่วยเขา เพื่อให้เขาผลิตสินค้าซึ่งเป็นของเขาเองและมีมูลค่าเพิ่ม ค่าแรงจะได้สูงขึ้น ถึงวันนั้น วันละ 500 ก็จะไม่พอ มันขึ้นอยู่กับเราเลือกนะ

เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเรายังมาอยู่ลักษณะอย่างนี้ค่าแรงขั้นต่ำก็จะเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรม นายจ้างก็ทะเลาะกับลูกจ้าง ในขณะเดียวกันพรรคการเมืองก็เอาประเด็นค่าแรงมาเล่นการเมือง เพราะว่าพรรคเพื่อไทยไปสัญญาว่าจะขึ้นค่าแรง 300 บาท ทั่วประเทศไทย แอน กาฬสินธุ์จ้าง 300 บาท ได้มั้ยล่ะ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว จะเป็นไปได้ยังไง ร้านขายก๋วยเตี๋ยว เด็กส่งก๋วยเตี๋ยว ทำงานร้านก๋วยเตี๋ยว ล้างชามเสร็จเรียบร้อย ให้วันละ 300 บาท เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวบอกอั๊วสู้ไม่ได้หรอก ปิดร้านดีกว่า

นงวดี- ปิดร้านดีกว่า ทำก๋วยเตี๋ยวกินเองดีกว่า

สนธิ- นี่ไง นี่คือปัญหาใหญ่ อะไรที่มันควรลอยตัว มันเสือกไม่ลอยตัว อะไรที่ควรจะควบคุม มันเสือกไม่ควบคุม เสือกปล่อยให้ลอยตัว อย่างเช่นน้ำมัน แก๊ส เพราะฉะนั้นแล้ว ตอนนี้เคลียร์แล้วใช่มั้ย เรื่องบางเรื่องนี่จะต้องปล่อยให้ลอยตัว ไม่ลอยตัว แล้วมาทะเลาะกันคราวนี้ ก็เกิดอะไรขึ้นล่ะ ทั้งสองฝ่ายก็พยายามที่จะวิ่งเข้าหา ทั้งกิตติรัตน์ ณ ระนอง วิ่งเข้าหายิ่งลักษณ์ วิ่งเข้าหาคนโน้นคนนี้ เพื่อขอให้รัฐบาลช่วย support แต่รัฐบาลก็อยากจะ support ฝ่ายที่สนับสนุนค่าแรง 300 เพราะว่ามันจะเข้านโยบายที่รัฐบาลต้องการ ผลประโยชน์ทางการเมืองเพื่อการหาเสียง แต่มันทำให้ภาพรวมทั้งหมดมันพังทลายไปหมด และนี่คือการเมืองเพื่อตัวเอง ไม่ใช่การเมืองเพื่อเหตุเพื่อผล อย่าทำหน้าเซ็งอย่างนี้สิแอน

นงวดี- อย่างนี้หมายความว่าตั้งแต่ 1 มกราคมนี้ เขาจะขึ้นเป็น 300 เท่ากันทั่วประเทศแล้ว แปลว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าก็จะวุ่นวายปั่นป่วน

สนธิ- มันก็จะวุ่นวาย อันแรกคุณจำไม่ได้เหรอ เขาให้ปริญญาตรี 15,000 ผมถามว่าลูกจ้างประจำที่เขาทำงานกับทางด้านรัฐบาลอยู่ มีใครได้ 15,000 บ้าง ไม่มี ยังคงได้ 9,000 อยู่เหมือนเดิม 8,000 อยู่เหมือนเดิม คืออะไรก็ตามถ้าทำแล้วมันไม่สามารถทำได้ แล้วมาโกหกเพื่อสร้างภาพ อย่าไปทำ มันมีแต่สร้างความฉิบหาย แล้วเมืองไทยก็เป็นอย่างนี้จริงๆ

จินดารัตน์- มีแต่นโยบายที่ใช้หัวคิด แต่หัวแม่เท้าคิด

สนธิ- ตรรกะหัวแม่ตีน อย่างที่ผมบอก

จินดารัตน์- เขามัวแต่เล่นเกมการเมืองในสภา ฝันว่าได้นอนกับคนนั้นคนนี้อยู่

สนธิ- เอ้า จะพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ เอาเลย

จินดารัตน์- ก็เป็นภาพที่คนดูแล้วก็ได้แต่ ...

สนธิ- รับไม่ได้

จินดารัตน์- ใช่ค่ะ

สนธิ- ผมเห็นด้วย

จินดารัตน์- เพราะมันเสื่อมทรามลงทุกวัน

สนธิ- มันสะท้อนให้เห็นเนื้อแท้การเมืองไง ว่าในสภาคุณจะเอากันให้ตายให้ได้เลย แต่พอหลังสภาแล้ว คุณแอบจับมือกัน คุยกัน เพราะฉะนั้นแล้วด้วยเหตุผลนี้ ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเลยแม้แต่นิดเดียว การเมืองเมืองไทยมันไม่ได้ไปไหนหรอก ถ้าคนเขาบอกว่า ดูสิ

นงวดี- มันก็จะด่ากันอยู่อย่างนี้ล่ะ

จินดารัตน์- ด่าเขาไปหยกๆ

นงวดี- นอกสภาปุ๊บ รักกัน

สนธิ- รักกัน

นงวดี- จับมือกัน จูบกัน

สนธิ- ผมถึงไม่ประหลาดใจที่คนบอกว่า ลึกๆ แล้วสุเทพ เทือกสุบรรณ กับทักษิณ ชินวัตร สนิทกันมาก เพราะผ่านคนกลาง คนชื่อธีรศักดิ์ สุวรรณยศ เพราะธีรศักดิ์ สุวรรณยศ เป็นเพื่อนสนิทของสุเทพ แล้วธีรศักดิ์เขาซี้ย่ำปึ้กกับเยาวเรศ ชินวัตร แต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว สมัยที่สุเทพ เทือกสุบรรณ ตั้งสหกรณ์โค-ออป ที่สุราษฎร์ฯ ทักษิณก็ลงทุนด้วย เหมือนกับให้เงินสนับสนุนด้วย เพราะฉะนั้นแล้วการเมืองก็ว่าไป ก็มานั่งด่ากันในสภา ชี้หน้าด่ากัน จะฆ่ากันทางการเมืองก็ไม่เป็นไร แต่พอถึงที่สุดแล้วลับหลังก็จับมือกันได้

จินดารัตน์- พูดก็พูดนะคะ รูปของคุณรังสิมา โดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะ บรรดาสาวกแมลงสาบยังทนไม่ได้เลย ก็เลยต้องออกมา คุณรังสิมาออกมาขอโทษ แล้วก็โบ้ยไปว่าทีมงานเขาร้องขอ

สนธิ- ทีมงานอะไร

จินดารัตน์- ทีมงานรายการ

สนธิ- รายการอะไร

จินดารัตน์- คมชัดลึก เนี่ยค่ะ เขาบอกว่าร้องขอว่าให้ช่วยถ่ายรูป

สนธิ- คุณรังสิมาไม่ได้ใช้สติ ไม่มีพุทโธอะไรในตัวเลยเหรอว่าการที่แกจะไปทำเช่นนี้มันแปลว่าอะไร

นงวดี- จริงๆ ถ้าคิดตั้งแต่แรกอาจจะไม่ต้องไปออกรายการด้วยซ้ำ

สนธิ- ไม่ต้องไปออกรายการ ไปออกทำไม เพื่ออะไร คนเราต้องมีศักดิ์ศรีนะครับ ใช่มั้ย สมมุติว่า.. เอาอย่างนี้ดีกว่า ต้องขอโทษที่ต้องพูดเรื่องนี้ ผมมีน้องที่รักกันมากคนหนึ่ง เขาจะแต่งงานเดือนหน้า เขาเอาบัตรมาให้ผม ผมก็ขอบคุณ ผมอวยชัยให้พร ผมเดิมทีก็จะตั้งใจฟัง แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ดีมากนะ เขารู้ว่าจุดยืนผมอยู่ตรงไหน เขาบอก แต่ผมต้องเรียนคุณสนธิให้ทราบนิดนะครับ ว่าเผอิญคุณพ่อผมเขาสนิทกับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี มาก แล้วเชิญคุณพัลลภ ปิ่นมณี มา ก็เข้าใจว่าคงเป็นประธาน ผมก็บอก ถ้าพี่ไม่ไป คงไม่ว่าพี่นะ เขาบอกผมเข้าใจครับ ผมก็ต้องไม่ไป ผมทำใจไม่ได้

จินดารัตน์- ใช่ค่ะ

สนธิ- ถ้าผมไปแล้ว เกิดคุณพัลลภเข้ามา เอ๊ย สนธิ น้อง เป็นไง กอดกัน อ้าวผมหมาเลยสิงานนี้ อุดมการณ์ไม่เหมือนกัน ปรัชญาชีวิตไม่เหมือนกัน จุดยืนไม่เหมือนกัน ต้องแยกทางกันเดิน ต้องแยกทางกันเดินเลย อย่าว่าแต่ไปงานแต่งงานเลย ถ้าเข้าไปทานอาหารร้านไหนเห็นคนที่เราไม่ชอบนั่งอยู่ ผมเดินออกเลย ผมทำใจไม่ได้ ไม่ใช่เป็นคนซึ่งแข็ง คือผมไม่ใช่ประเภทยอมหักและไม่ยอมงอ ไม่ใช่ เราเป็นอะไร ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนเขาเห็นเรา ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Perception ถูกมั้ย ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า How do you preceive? How people preceive you? ประชาชนเขามองคุณยังไง เหมือนกับที่คุณรังสิมา มาทำอย่างโน้นอย่างนี้กัน นั่งด่ากันในสภาเละเทะไปหมดเลย หรือว่าเทพไท

นงวดี- กินข้าว

สนธิ- กินข้าวกับอริสมันต์ ที่ลาสเวกัส อย่างนี้

จินดารัตน์- ต้องมีคู่เอกด้วย คุณอภิสิทธิ์กอดกับใครเอ๋ย

นงวดี- เนวิน ตอนที่เขาจะตั้งรัฐบาล

สนธิ- ใช่ๆ นี่ไง

นงวดี- อิน จัน

สนธิ- อิน จัน แฝดอินจัน

จินดารัตน์- ดีนะไม่ก้มต่ำกอดใต้เข็มขัดคุณอภิสิทธิ์

สนธิ- และพวกขบวนการเสื้อแดง ที่ตั้งคนแรกคือ คุณเนวิน คุณเนวินอยู่เบื้องหลังเสื้อแดงทั้งหมด

จินดารัตน์- ผู้ให้ก่อกำเนิด

สนธิ- เป็นก่อกำเนิด เมืองไทยถึงบอกว่า พวกเราเป็นอย่างนี้ ทำไมพวกเรา มันต้องมีชุมชนของพวกเราเองแล้ว

นงวดี- ใช่เขาบอกว่า จริงๆ ถ้าคนดูเอเอสทีวี และเห็นรูปพวกนี้จะไม่ตกใจ คือจะสว่างและรู้ขึ้นมาทันทีว่า มันเป็นอย่างนี้ตั้งนานแล้ว และมันเป็นตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว

คลิก! อ่านต่อ


กำลังโหลดความคิดเห็น