xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ฟันธง “คนอยู่ดูไบ” ฮุบมติชนเต็มตัวแล้ว รวมหัว รบ.เดินหน้าล้มสถาบันฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ฟันธง “คนอยู่ดูไบ” เป็นเจ้าของมติชนเต็มตัวแล้ว แฉเป็นแหล่งซ่องสุมพวกซ้ายอกหัก รวมหัวรัฐบาลเดินหน้าขบวนการล้มเจ้า เห็นได้ชัดจากกรณีไม่ให้จุดพลุ-บทอาเศียรวาทกำกวม เพื่อลดความสำคัญของวันเฉลิมฯ



 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ”  

วันนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ช่วงหนึ่งว่า วันที่ 5 ธ.ค. คนที่ไปร่วมรับเสด็จฯ ออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร ตนประเมินขั้นต่ำ 5 แสนคนขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องตลก เหมือนรัฐบาลจงใจจะไม่ให้ประชาชนได้ใกล้ชิดกับพระเจ้าอยู่หัว เช่น เสียงที่พระองค์ท่านมีพระราชดำรัส หลายๆ จุดไม่ได้ยินเสียง รวมถึงกรณีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล บอกไม่ให้มีการจุดพลุเพราะเสียงดัง เป็นคำพูดที่บัดซบ เพราะเขาจุดกันมาตลอด วันเฉลิมพระชนมพรรษาวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันที่แต่ละประเทศที่ทำพลุ เขาจะมาแข่งกันจุดให้พระเจ้าอยู่หัว ส่วนงานมหรสพที่ท้องสนามหลวงที่ต้องมีทุกปี ปีนี้เก็บเงียบไปหมด ตนคิดว่ามันเป็นขบวนการ

นายสนธิกล่าวต่อว่า การออกมหาสมาคมทางสีหบัญชร ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 ซึ่งผิดปกติมาก เพราะการออกมหาสมาคมสีหบัญชรนี่ต้องเป็นงานพิธีใหญ่ เช่น ครบ 5 รอบ ครบ 6 รอบ หรือว่าเป็นพิธี อย่างเช่นพระองค์ท่านเสด็จนิวัติพระนคร แต่งวดนี้พระองค์ท่านออก แล้วก็เป็นระยะเวลาตั้งกี่ปีแล้ว 6 ปีเต็มๆ ที่วันเฉลิมพระชนมพรรษา เขาใส่สีชมพูกัน แต่ปีนี้กะทันหันที่ทางสำนักพระราชวังให้ประชาชนใส่สีเหลือง เพราะเป็นสีวันพระราชสมภพ ส่วนสีชมพูนั้นเป็นเหมือนเคล็ด ในการทำให้สุขภาพดี

อีกทั้งการให้ทหารมาถวายสัตย์ปฎิญานต่อหน้าพระองค์ท่าน ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นครั้งแรกต่อหน้าประชาชน ปกติเขาจะจัดสวนสนามกันเอง พระเจ้าอยู่หัวเป็นประธาน และที่น่ารัก ประชาชนกล่าวตามด้วย พอถึงจุดที่ “ทหารรักษาพระองค์” ประชาชนเปลี่ยนเป็น “ประชาชนรักษาพระองค์” พูดง่ายๆ ทหารวันนี้ไม่ได้สาบานตัวต่อพระเจ้าอยู่หัวอย่างเดียว แต่ให้ประชาชนรับรู้ด้วย เพราะฉะนั้น ทหารคนไหนที่ชั่ว แอบชั่ว แอบรับเงินทักษิณ แล้วไปมีอะไรกับญาติของเขาในทางชู้สาว ต้องรู้ตัวเอง

ตนถือว่าเป็นสิริมงคลของชาติ ที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นคนกล่าวคำปฏิญาณ และเชื่อว่าถ้าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวคำปฏิญาณ โดนโห่แน่นอน เหมือนกับที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ โดนโห่ แล้วมหัศจรรย์มาก ที่ทุกจุดโห่เหมือนกัน

แล้วมีการวางยากัน ในงานนั้นมีเสื้อแดงเอาของเสื้อแดงไปวางขาย ตนอ่านเกมว่าเพื่อให้ประชาชนทำร้าย แล้วมันก็จะหาเหตุทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ประชาชนที่มานี่มีสติ ก็เลยแค่ไล่ออกไป

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าทหารส่วนใหญ่เปล่งเสียงปฏิญาณต่อเบื้องพระพักตร์มีความรู้สึกตามนั้นจริง แต่ทหารชั้นผู้ใหญ่บางคนที่หน้าด้าน คนที่ก็รู้ว่าใคร อย่าให้ตนเอ่ยชื่อเลย วันนี้ในกระเป๋ามีบัญชีเงินฝากอยู่เมืองนอกร้อยๆ ล้าน ไปรับเงินที่เมืองนอก เป็นเพราะรุ่นพี่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง รุ่นน้องก็เอาด้วย แล้วรุ่นน้องกินยาว กินหนักหน่อยเพราะอยู่นาน ถวายสัตย์ปฏิญาณกับพระเจ้าอยู่หัว ปากก็พูด แต่ลับหลังก็รับเงิน

ทหารบางคนชอบพูดว่าทำตามนโยบายรัฐบาล แต่ลืมไปว่าจอมทัพคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าพระเจ้าอยู่หัวล่มสลาย ชาติก็ล่มสลายด้วย เพราะฉะนั้นทหารมีหน้าที่รักษาความมั่นคง จงรักภักดี ปกป้องพระมหากษัตริย์ อย่างพวกออกมาเคลื่อนไหวยกเลิกมาตรา 112 ไม่เห็นทหารที่บอกว่าจงรักภักดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บัญชาการทหารบกคนนี้ ทำอะไรที่แสดงออกให้เห็นชัดเจนเลย ดีแต่ปาก แล้วแอบไปตกลงกับพรรคเพื่อไทย ว่าอย่าเอาเรื่องนี้เข้ามาเพราะจะทำให้ตัวเองลำบากใจ ไม่อยากมีเรื่องมีราวกับใคร แล้วมาพูดด้วยความเท่ว่า การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง

จากนั้นนายสนธิกล่าวถึงบทอาเศียรวาทของมติชน ว่าแม้แต่พระบรมฉายาลักษณ์ที่เลือกใช้ เป็นภาพใส่เนกไทสีแดง แล้วพื้นแบ็กกราวนด์เป็นสีชมพูออกแดง เหมือนกับจงใจ บทอาเศียรวาทบาทที่หนึ่ง เขาเขียนว่า “วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง ลมแล้งในใจไห้โหยหา ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา” แปลว่า ฟ้าก็คือพระเจ้าอยู่หัว ได้รับรู้ถึงความทุกข์ยากและปัญหาการทำเกษตรกรรม และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยมีฝนหลวงพระราชทานมาเพื่อแก้ไขปัญหา

บาทที่สอง “วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร” ที่แปลความหมายก็คือว่า ฝนหลวงพระราชทาน (ลมร้อนลมเย็น) นี่คือฝนหลวง เป็นปัญหา (อาจจะมาในเวลาที่ไม่เหมาะสม) จึงทำให้ผลผลิตเสียหาย ประชาชนหมดหวัง และตั้งคำถามว่า ฟ้านั้นคืออย่างไร คือถ้าอ่านกลอนบทนี้แบบไม่คิดก็จะเห็นว่าไม่มีอะไร แต่ถ้าอ่านเพื่อหาความหมายก็จะเห็นว่า คนที่แต่งกลอนนี้ ต้องการจะตำหนิติเตียนพระเจ้าแผ่นดินในด้านพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชา และรวมทั้งการกระทำที่ไม่บังควรในบาทสุดท้ายที่ใช้คำว่า “ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร” กล่าวคือ พระมหากรุณาธิคุณนั้นมีความดีอย่างไรนั่นเอง มันเหมือนกับกรณี นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่เคยออกมาตั้งคำถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าในหลวงทรงงานหนัก ลักษณะกลอนเป็นอย่างนี้จริงๆ มติชนชอบพูดสองแง่สองง่าม ขอถามว่าอาเศียรวาทคุณจะเขียนสรรเสริญผู้คนสักคนหนึ่ง เขียนให้คนเข้าใจหน่อยได้หรือไม่ อ่านแล้วไม่ต้องตีความ การที่เขียนให้ตีความแสดงว่ามีเจตนาร้าย

หลังจากนั้นนายสนธิ นำบทอาเศียรวาทจากหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆมาอ่านเพื่อเปรียบเทียบและกล่าวว่า ของหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆ ไม่มีความหมายกำกวม ยกเว้นมติชนฉบับเดียว และทุกฉบับลงชื่อคนเขียนหมดยกเว้นมติชน

ตนจะให้ดูอะไรอย่างหนึ่ง ปีที่แล้ว วันที่ 5 ธันวาคม 2554 มติชนเขียนอย่างนี้ “รองน้ำค้างค้างหยดหมดราวป่า มาร้อยสร้อยภาษาวรรณศิลป์ อันไพเราะเสนาะไม่เคยได้ยิน จากแดนดินถิ่นสถานวิมานใด ประโลมทุกข์ที่ทอดอาลัยระทด ให้ปรากฏกำลังขึ้นครั้งใหม่ กี่ขุนเขาขอบฟ้าจะฝ่าไป มุ่งตามรอยบาทไท้ไม่ลดละ” ทำไมปีที่แล้วยังเขียนชัดเจน แต่ทำไมปีนี้กำกวม เพราะว่าวันนี้มติชนเป็นของคนที่อยู่ดูไบแล้วใช่หรือไม่ ตนกล้าฟันธงเลย

ปี 2554 ตอนนั้นมติชนยังไม่เปลี่ยนมือ ตอนนั้นเจ้าของแท้จริงกำลังดำเนินการเพื่อซื้อมติชน ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ซื้อง่าย มติชนเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวที่ได้โฆษณาราชการเยอะที่สุด เพราะเจ้าของรัฐบาล กับเจ้าของมติชนคือคนเดียวกัน เลยสั่งให้ข้าราชการทุกกระทรวงลงโฆษณา กำไรก็มากขึ้น ราคาหุ้นขึ้น เลยไม่ต้องสนใจยอดขาย

ไม่เพียงแต่มติชนรายวัน แต่มติชนสุดสัปดาห์ก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน แล้วหนักกว่าด้วย ในบาทที่สอง เขาเขียนว่า “ไร้เชื้อไร้ชาติขาดข้าง ไร้จนหนทางร้างฐาน ตราบเหงื่อน้ำตารินดินดาน” หมายถึงว่าคนลำบาก ทุกเชื้อชาติยากจน บรรทัดสุดท้าย “โพธิ์ใหญ่ทุกย่านอยู่เจริญ” แต่ต้นโพธิ์โตเอาๆ แต่ประชาชนเดือดร้อน นี่มันเลวทรามบัดซบ คุณกำลังบอกว่า ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า แต่ว่าพระเจ้าอยู่หัวมีความสุข ร่ำรวย เจริญขึ้น นี่คือแนวคิดของพวกซ้ายอกหัก ซ้ายต้องการล้มเจ้า

นอกจากนี้ยังสามารถเห็นถึงเจตนาของมติชนได้อีกจากหน้าปกมติชนสุดสัปดาห์ฉบับ “เนปาลกรณีศึกษา” ตอนนั้นกษัตริย์เนปาลถูกยึดอำนาจแล้วคืนอำนาจให้ประชาชนโดยรัฐสภา มติชนขึ้นทันทีว่า case study ปกติมติชนสุดสัปดาห์ไม่เคยสนใจเกี่ยวกับต่างประเทศ แต่เผอิญเรื่องนี้พวกฝ่ายซ้ายที่ซ่องสุมกันอยู่แล้วรู้เห็นเป็นใจกับเจ้าของหนังสือพิมพ์ เห็นว่ากรณีนี้จะกระทบสถาบันกษัตริย์เมืองไทยเลยเอาขึ้นปกทันที รวมถึงหน้าปก “รักที่สุดคือในหลวง ห่วงที่สุดคือคนที่รักในหลวงจนเสียสติ” นี่ขนาดเราเสียสติมาปกป้องท่าน ยังทำกันขนาดนี้ ถ้าไม่เสียสติปกป้องแล้วพระองค์ท่านจะถูกรุกรานขนาดไหน

นายสนธิกล่าวด้วยว่า มติชนช่วงหลังนี้มันคือแหล่งซ่องสุมของพวกซ้ายอกหัก คนดีๆ ในมติชนลาออกกันเยอะ และบัดซบที่สุดคือวันเฉลิมพระชนมพรรษา มันไปขายโฆษณาให้หน่วยงานราชการห้างร้าน ให้ลงโฆษณาเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อรับเงินมา แล้วขณะเดียวกันก็มาเล่นสองแง่สองง่ามกับพระองค์ท่าน

พวกฝ่ายซ้ายที่อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อก็รู้ อยู่เบื้องหลัง ทุกอย่าง วางแผนว่าจะต้องโค่นสถาบันกษัตริย์อย่างไร ต้องใช้วิธีไหน รวมไปจนถึงการลดพระเกียรติ ทำให้ประชาชนห่างจากพระองค์ท่านในงานเฉลิมพระชนมพรรษานี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ให้จุดพลุ พูดง่ายๆ ว่าลดความสำคัญของวันเฉลิมพระชนมพรรษาไปซะ มันเป็นยุทธศาสตร์ที่วางไว้แล้ว ด้วยการบั่นทอนไปทีละเรื่องๆ มันเป็นขบวนการจริงๆ

สรุปมติชนไม่ใช่หนังสือพิมพ์ มันคือเครื่องมือ ตนเชื่อว่าคนที่ดูไบซื้อแล้วผ่านนอมินี ไม่อย่างนั้นไม่เลวขนาดนี้ สังเกตอย่างเสื้อแดงเวลาสู้มีสื่อในมือ มีทีวี 3 ช่อง มีคลื่นวิทยุชุมชนเต็มไปหมด แต่ก่อนมีหนังสือพิมพ์เรดนิวส์ แต่ตอนนี้ไม่มีเพราะมีมติชนแล้ว

นายสนธิ กล่าวต่อว่า อยากให้จับตาดูหนังสือพิมพ์เครือมติชนดีๆ ตนพูดไม่ผิดหรอก มันขายไปแล้ว ทิศทางจะต้องออกมา ดังนี้ 1.มีนัยที่จะทำให้สถาบันกษัตริย์สั่นคลอน 2.เชียร์ยิ่งลักษณ์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะทำอะไรถูกหมด

แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีแอร์โฮสเตสสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค ว่า คุณผึ้งเป็นแฟนพันธุ์แท้พันธมิตรฯ เขาจะนั่งอยู่แถวหน้าตลอด ตนเห็นใจแต่ก็เห็นด้วยว่ามันจบด้วยดีที่ตัดสินใจลาออก เพราะงานนี้คุณผึ้งก็ผิดที่เอาความลับของลูกค้ามาเปิดเผย ซึ่งเขาก็ยอมรับผิด

คุณผึ้งได้เขียนในเฟซบุ๊กปกป้ององค์กร พร้อมทั้งแจงที่ต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบที่ทำผิดกฎ และอยากให้ทุกคนยอมรับและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของสังคม จะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข อันนี้สำคัญมาก นัยของจดหมายนี้ จริงๆ แล้วลึกซึ้งมากกว่าการลาออก ข้อแรก เป็นคนที่รักองค์กร ไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด และสำคัญที่สุดคือยอมรับว่าตัวเองทำผิดก็ต้องรับ

ส่วนลูก พ.ต.ท.ทักษิณ ตนเห็นใจและไม่เห็นใจ เห็นใจคือคนเราต้องรักพ่อตัวเอง รักพี่รักน้อง แต่ไม่เห็นใจตรงที่ว่า เวลารักอย่ารักแบบตาบอด แต่มันช่วยไม่ได้ เรื่องของครอบครัวบางทีต้องตัดใจ ต่อให้พ่อเลวแค่ไหน ในสายตาของลูกพ่อยังเป็นคนดี แสดงว่าปัญหาไม่อยู่ที่ลูก ปัญหาอยู่ที่พ่อ ฉะนั้นถ้าพ่อรู้ตัวเองทำไม่ดีแล้วกระเทือนถึงลูก พ่อต้องไม่ทำ





คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 7 ธ.ค. 2555

รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2555 เวลา 20.00-22.30 น. ดำเนินรายการโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และนางสาวกรองทอง เศรษฐสุต ร่วมดำเนินรายการ

กรองทอง - สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธินะคะ

จินดารัตน์ - ทักทายเจ้าของรายการกันดีกว่า สวัสดีค่ะ

สนธิ - สวัสดีครับ

จินดารัตน์ - นั่นเป็นภาพประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา แอนเชื่อว่าคนไทยที่รักพระเจ้าอยู่หัว จะต้องกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

สนธิ - ผมยังขนลุกเลย ลุกทั้งอยู่ในสถานที่นั้น เมื่อกี๊ดูเองก็ยังลุก ขนลุกซู่เลยนะ

กรองทอง - แล้วดูได้กี่ครั้งก็ได้ความรู้สึกเดียวกัน

สนธิ - ดูได้ตลอด

กรองทอง - และยิ่งมากขึ้นๆ ด้วย

จินดารัตน์ - คุณสนธิเป็นจุดหนึ่งในนั้น

สนธิ- ผมเป็นจุดๆ หนึ่งในนั้น แกนนำพันธมิตรฯ ก็เป็นจุดๆ หนึ่งในนั้น พวกเราทุกคนเป็นจุดๆ หนึ่งในนั้น พวกเราไปกัน...

จินดารัตน์- แต่เช้าตรู่เลยใช่มั้ยคะ

สนธิ- ก็ไม่เช้านะ เทียบกับพี่น้องทุกคน เราไปเกือบ 7 โมง มีพันธมิตรฯ มาจองที่กันตั้งแต่วันที่ 4 ตอนบ่ายโมง ก็จองที่กันแล้ว กินนอนกันที่นั่นเลย

กรองทอง- บางคนมาตั้งแต่วันที่ 3 นะคะ ที่มีนักข่าวไปทำข่าว เขาบอกว่าตอนครั้งก่อนเขามา ว่ามาเช้ามืดแล้วนะ แต่ยังอยู่ท้ายแถว คราวนี้เลยมาขอวันที่ 3

สนธิ- มาครั้งนี้มีข้อสังเกตอย่างหนึ่ง คือคนมากันเยอะ ทุกคนมาเหมือนกับจะมาให้กำลังใจพระเจ้าอยู่หัว ว่าพระองค์ท่าน พวกข้าพระพุทธเจ้ายังรักพระองค์ท่าน แล้วยังพร้อมที่จะอยู่กับพระองค์ท่าน ปกป้องพระองค์ท่าน เหมือนกับพวกเราจะไป เราเป็นจุดๆ หนึ่ง จุดๆ หนึ่งเพื่อให้มีหลายจุด หมื่นจุด แสนจุด ล้านจุด จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เป็นประเด็นว่าพระองค์ท่านจะเห็นเราหรือเปล่า ไม่ใช่ เราต้องมาให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้ และผมมีความรู้สึกค่อนข้างที่จะหงุดหงิดกับรัฐบาลชุดนี้และเจ้าหน้าที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ประเมินว่าคนไปแสนกว่าคน มันทุเรศมาก ถ้ามองดูคน หน้าลานพระรูปไม่ต้องพูดถึงเลยไปจนกระทั่งถึงผ่านฟ้า ตรงนั้นเนื่องจากไม่ได้กั้นถนน คนไม่อยู่ แต่จะอยู่ริมข้างทางยาวไปตลอด ผมเชื่อว่าวันนั้น มองค่อนข้างจะประเมินขั้นต่ำ 5 แสนขึ้น

จินดารัตน์- ประชาชนที่อยู่สองข้างทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกศิริราช เยอะมาก

สนธิ- เยอะมาก แล้วไม่ไปไหนด้วย เห็นพระองค์ท่านเสด็จฯ ผ่านไปแล้วก็รอรับตอนไปและรอรับตอนพระองค์ท่านเสด็จฯกลับ

แล้วมันตลก รัฐบาลชุดบ้า เหมือนจงใจ พยายามจะไม่ให้ประชาชนกับพระเจ้าอยู่หัว ได้ใกล้ชิด เช่น เสียงที่พระองค์ท่านมีพระราชดำรัส หลายๆ จุดไม่ได้ยิน ทีวีไม่เวิร์ก ไม่นับอะไรกับ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ชื่อเดิมชื่อ นิวัฒน์บุญทรง คนเคยทำงานไอบีเอ็มมาก่อน แล้วมาทำกับทักษิณ ได้ดิบได้ดี

คำพูดที่บอกว่า ไม่ให้มีการจุดพลุเพราะเสียงดัง เป็นคำพูดที่บัดซบ บัดซบ บัดซบ เพราะเขาจุดกันมาตลอด เมืองไทย วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันที่แต่ละประเทศที่ทำพลุ เขาจะมาแข่งกันจุดให้พระเจ้าอยู่หัว มี 2 ประการ ประการแรก โชว์ความสามารถ ประการที่ 2 เอาเทคนิคใหม่ๆ ของการจุดพลุมาทดลองที่เมืองไทย เพื่อกลับไปใช้ในประเทศเขา เพราะฉะนั้นแล้ว วันที่ 5 หน้าโรงแรมโอเรียนเต็ล ผมยังจำได้เลย มีเรือจอด แล้วก็พลุขึ้นมา ไม่ว่าจะจีน ไม่ว่าจะเป็นทางยุโรป หลายประเทศมา แต่ไอ้หมอนี่ นิวัฒน์บุญทรง นิวัฒน์ธำรง ... ผมเรียกมันนิวัฒน์บุญทรงดีกว่า มันมาพูด การกระทำของนายนิวัฒน์ฯ การกระทำของเทคโนโลยีที่จะให้ประชาชนไม่ค่อยได้ยินเสียง เหมือนกับพยายามเป็นขบวนการ แล้วคุณไม่สังเกตหรือว่า ปีนี้เป็นปีเดียวที่เริ่ม ที่ไม่ได้มีความสวยสดงดงาม ที่ให้ประชาชนได้เห็น สังเกตมั้ย .. เงียบ

กรองทอง- ไฟประดับ ไฟเฉลิมพระเกียรติ

สนธิ- ไฟเฉลิมพระเกียรติ เงียบ

กรองทอง- ไฟเฉลิมพระเกียรติราชดำเนินนี่อีกเรื่อง

สนธิ- อันที่ 2 การแสดงออก หรือการละเล่น ที่จะให้ประชาชนได้รับความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นละคร ลิเก ไม่มีเลย

กรองทอง- ที่ท้องสนามหลวงที่ต้องมีทุกปี

สนธิ- ไม่มีเลย เก็บเงียบไปหมดเลย คือผมคิดว่ามันเป็นขบวนการ และเดี๋ยวเราจะต่อด้วยอาเจียนวาทของหนังสือพิมพ์มติชน

จินดารัตน์- เป็นอาเจียนวาท

สนธิ- เป็นอาเจียนวาทของหนังสือพิมพ์มติชน เราเอาเรื่องนี้ก่อน เราเอาเรื่องวันที่ 5 ก่อน

จินดารัตน์- ที่คุณสนธิพูดเมื่อตอนต้นรายการ แล้วก็มีข้อความหนึ่งที่คงจะเป็นความเห็นเดียวกัน มีหลานกับยายคุยกันใช่มั้ยว่า ว้า รู้อย่างนี้นอนอยู่บ้านดูดีกว่า จะได้เห็นพระองค์ชัดๆ คุณยายก็เลยบอกว่า ที่มาไม่ได้อยากให้ตัวเองได้เห็นพระองค์นะ แต่อยากให้พระองค์เห็นว่ามีคนไทยรักท่านมากขนาดไหน

สนธิ- ถูกต้อง รักพระองค์ท่านมาก ผมคิดว่าวันที่ 5 มันทำคนช็อกไปเยอะ

จินดารัตน์- อกแตกตาย

สนธิ- จริงๆ แล้วประเทศไทยเหลืองทั้งแผ่นดิน และการออกมหาสมาคมทางสีหบัญชร ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 นะรู้สึก ซึ่งผิดปกติมาก เพราะการออกมหาสมาคมสีหบัญชรนี่ต้องเป็นงานพิธีใหญ่ ครบ 5 รอบ ครบ 6 รอบ หรือว่าเป็นพิธี อย่างเช่นพระองค์ท่านเสด็จนิวัตพระนคร สมัยก่อน ที่ไปประพาสที่ต่างประเทศ หรือว่าพระบรมราชาภิเษก อะไรทำนองนี้ แต่งวดนี้พระองค์ท่านออก แล้วก็เป็นระยะเวลาตั้งกี่ปีแล้ว 6 ปีเต็มๆ ที่วันเฉลิมพระชนมพรรษา เขาใส่สีชมพูกัน แล้วปีนี้กะทันหันเลย ทางสำนักพระราชวัง ซึ่งเข้าใจว่าคงจะเป็นพระราชประสงค์ของพระองค์ท่าน ที่จะให้ประชาชนใส่สีเหลือง เพราะสีเหลืองเป็นสีพระราชสมภพ ส่วนสีชมพูนั้นเป็นเหมือนเคล็ด ในการทำให้สุขภาพดี แล้วสีที่เป็นกาลกิณีกับพระองค์ท่านคือ สีแดง อันนี้ชัดเจน สีเหลืองคือ สีพระราชสมภพ สีชมพู 6 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องสุขภาพ ปรากฎว่า ใส่สีเหลืองแถบชมพู แสดงว่าสุขภาพดีแล้ว มีนัยน่าคิดหลายๆ อย่าง

การให้ทหารมาถวายสัตย์ปฎิญานต่อหน้าพระองค์ท่าน ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นครั้งแรกต่อหน้าประชาชน คือทหาร อย่างน้อยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ถ้าจะจัดธรรมดาเป็นประเพณี เขาจะจัดสวนกันเอง พระเจ้าอยู่หัวเป็นประธาน พิธีสวนสนาม แต่งวดนี้ไม่ต้องสวน งวดนี้มาถวายสัตย์ปฏิญานต่อหน้า ที่น่ารัก ประชาชนกล่าวตาม พอถึงจุดที่ทหารรักษาพระองค์ ประชาชนเปลี่ยนเป็น ประชาชนรักษาพระองค์ พูดง่ายๆ ทหารวันนี้ ไม่ได้สาบานตัวต่อพระเจ้าอยู่หัวอย่างเดียว ให้ประชาชนรับรู้ด้วย เพราะฉะนั้น ทหารคนไหนที่ชั่ว แอบชั่ว แอบรับเงินทักษิณ แล้วไปมีอะไรกับญาติของเขาในทางชู้สาว ต้องรู้ตัวเอง

ผมถือว่าเป็นสิริมงคลของชาติ ที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นคนกล่าวคำปฏิญาณ ผมเชื่อว่าถ้าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวคำปฏิญาน โดนโห่แน่นอน เหมือนกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดนโห่ สมศักดิ์ โดนโห่ เป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก

จินดารัตน์- หลายคนไม่ได้ดูคลิปนี้

สนธิ- ไม่ได้ดู เพราะเขาตัดเสียง แต่ว่าอยู่ในเหตุการณ์จะรู้ พอยิ่งลักษณ์พูด คนโห่ ทีวีตัดภาพยิ่งลักษณ์ออก เอาภาพพระเจ้าอยู่หัว มา ก็ทรงพระเจริญ พอตัดไปยิ่งลักษณ์ก็โห่ อัตโนมัติ ผมอยู่ตรงนั้น เพราะผมเดินไปวันที่ 5 ตอนเช้า 7 โมง กับพี่ลอง อ.ปานเทพ ตั้ว พอเข้าไปสักพักผมเดินออกมาเข้าห้องน้ำ ทรมานมาก เดินออกยากมาก พอเข้าห้องน้ำเสร็จกลับเข้าไม่ได้แล้ว เต็ม ขี้เกียจแหวก ก็เลยยืนตรงแยกมิสักวัน พอได้ยินเสียงโห่รู้ทันที ไม่ได้นัดหมาย พอยิ่งลักษณ์พูดก็โห่ สมศักดิ์พูดโห่ ภาพตัดไปที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ พอตัดกลับมาที่ยิ่งลักษณ์ สมศักดิ์ โห่ พอถึงประธานศาลฎีกาพูด ทุกคนเงียบ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทุกคนเงียบ พิสูจน์ชัดเจนว่า ประชาชนไม่เอานักการเมืองชั่วๆ ไม่เอาจริงๆ

จินดารัตน์- เป็นแบบนี้เกือบทุกจุด

สนธิ- ทุกจุด แล้วมีการวางยากัน ในงานนั้นมียัยบ้าคนหนึ่งพวกเสื้อแดง เอาของเสื้อแดงไปขาย ผมอ่านเกม วางเพื่อให้ประชาชนทำร้าย แล้วมันก็จะหาเหตุทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ประชาชนที่มานี่ไม่ใช่ควาย เหมือนพวกมัน มีสติ ก็เลยไล่ออกไป เลยต้องขนของออกไป เขาวางงานไว้อย่างนี้เลยนะ

กรองทอง- คือถ้าเกิดวันนั้นมีความรุนแรงเกิดขึ้นนะ รับรองเลย มติชน ข่าวสด จะต้อง..

สนธิ- อ๋อ แน่นอนๆ

กรองทอง- พาดหัวข่าวหัวไม้ตัวเบ้อเริ่มในวันต่อมา

สนธิ- มติชนมันเปลี่ยนชื่อหนังสือพิมพ์ไปแล้ว ผมตั้งชื่อว่ามติตีน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่ามันเป็นมติตีนตรงไหน ไอ้หนังสือฉบับนี้มันชั่วมาก แล้วผมมีความรู้สึก .. เดี๋ยวค่อยพูดตอนหลังดีกว่า อย่าเพิ่งเปิดตอนนี้ เดี๋ยวจะรู้กันหมด แต่ว่าวันนั้นมีเด็ก 2 คน ซึ่งพันธมิตรฯ รู้จัก น้องใบพลู กับน้องข้าวตู ข้าวตูเป็นพี่สาวใบพลู ใบพลูกับข้าวตูจะไปเล่นที่ออฟฟิศ ข้าวตูนี่ร้องไห้เลยนะ พอเห็นพระเจ้าอยู่หัว ร้องสะอึกสะอื้นเลย ถามว่าทำไม บอกว่าดีใจที่ได้เห็นพระเจ้าอยู่หัว

(VTR)

สนธิ- น่ารักจริงๆ

จินดารัตน์- ใบพลูนี่สุดยอดเลยค่ะ เห็นบอกตะเบ็งสุดเสียงเลย

สนธิ- ตะเบ็งสุดเสียงเลย

กรองทอง- ประชาชนรักษาพระองค์จริงๆ

สนธิ- ครับ ประชาชนรักษาพระองค์

จินดารัตน์- รุ่นจิ๋ว .. น้องข้าวตูนี่มาร่วมชุมนุมกับเราตั้งแต่ 193 วัน พอ 158 วัน ใบพลูมา

กรองทอง- ส่งน้องมาด้วย

จินดารัตน์- ทุกคนหลังเวทีก็ตกใจ เอ๊ะ ทำไมข้าวตูไม่โตขึ้นเลย ตัวเท่าเดิม นี่คือใบพลู น้องข้าวตูอีกทีนะคะ น่ารัก ร่วมขบวนไปกับคุณสนธิ

สนธิ- ร่วมไปด้วยครับ แล้วพอกลับไปตอนเที่ยง 2 คนนี่เหนื่อย ไปที่บ้านพระอาทิตย์ กินข้าวเสร็จหลับยาวเลย หลับถึงเย็นเลย สลบไสล ข้าวตูนี่นั่งดูทีวี เอามือพาด หลับปุ๋ยเลย ใบพลูก็ไปหลับเหมือนกัน

กรองทอง- แล้ววันนั้น นอกจากทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าพระพักตร์ ต่อหน้าประชาชน ประชาชนทั้งประเทศเป็นพยานเลยนะ เป็นพยานเลย แล้วถ้าเกิดทำอะไรที่ผิดไปจากคำปฏิญาณนะ มันต้องรู้สึกอะไรในใจ บ้างมั้ย ? ต้องถาม

จินดารัตน์- ต้องมีทหารบางคนที่...

สนธิ- ผมเสียใจที่คุณประยุทธ์ไม่ได้เป็นคนอ่าน เพราะว่าคำพูดที่ปฏิญาณตน ผมว่าน่าจะเสียดแทงหัวใจคุณประยุทธ์มาก

จินดารัตน์- นี่ยืนข้างๆ อาจจะเปล่งเสียงได้ไม่ถนัดถนี่เท่าไร

สนธิ- ผมมีความรู้สึกว่าเขาหงุดหงิดมากหลายๆ เรื่อง

จินดารัตน์- เห็นมีภาพๆ หนึ่ง หลายคนกำลังหาภาพนี้อยู่นะคะ ทหารม้ารักษาพระองค์ 2 นาย นั่งอยู่บนหลังม้า แล้วตะโกนสุดเสียง กล่าวคำปฏิญาณ ภาพกล้องตัดไปพอดี มีหลายคนเขาอยากได้ภาพนั้น เขาบอกว่า ขอดูหน้าหน่อยสิ ทหารของประชาชน ของพระราชา แต่ว่า ก็อย่าไปคาดหวังว่า ผบ.เหล่าทัพ คนไหนจะเปล่งเสียงดังขนาดไหน วัดเดซิเบล ผบ.ทบ.อาจจะเสียงเบาที่สุด ทหารบางคนเปล่งเสียงต่อหน้าพระพักตร์ ต่อประชาชนอีกกี่ล้านคน ต่อไปนี้เวลาจะทำอะไรให้นึกถึงคำปฏิญาณที่คุณกล่าวไว้ด้วย

สนธิ- ผมเชื่อว่าทหารส่วนใหญ่จะนึกถึง แต่จะมีทหารชั้นผู้ใหญ่บางคนที่หน้าด้าน วันนี้ในกระเป๋าตัวเองมีบัญชีเงินฝากอยู่เมืองนอกร้อยๆ ล้าน อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลยว่าใคร แต่แอนก็รู้ว่าใคร นุ๊กก็รู้ว่าใคร แต่เราไม่บอกกัน ชิมิชิมิไม่บอกใช่มั๊ย เรารู้กันใช่มั๊ย ไปรับเงินที่เมืองนอก คนที่คุณก็รู้ว่าคือใคร หลายร้อยล้าน

จินดารัตน์- ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกแล้ว

สนธิ- รุ่นพี่ทำให้ดูเป็นตัวอย่างรุ่นน้องก็เอา รุ่นน้องกินยาว กินหนักหน่อยเพราะอยู่นาน เงินฝากไว้เมืองนอก จ่ายเงินที่เมืองนอก

จินดารัตน์- เกษียณสบาย

สนธิ- สัตย์ปฏิญาณกับพระเจ้าอยู่หัว ปากก็พูด แต่ลับหลังก็รับ

ทหารบางคนลืมไปว่า โดยพื้นฐานชอบพูดว่า ทำตามนโยบายรัฐบาล แต่ลืมไปว่า จอมทัพคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถามว่า ถ้าชาติล่มสลาย พระเจ้าอยู่หัวล่มสลายมั๊ย เพราะฉะนั้นทหารมีหน้าที่รักษาความมั่นคง จงรักภักดี ปกป้องพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่มาตรา 112 ออกมาโดยนายวรเจตน์ กลุ่มนิติราษฎร์ ผมไม่เห็นทหารที่บอกว่าจงรักภักดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บัญชาการทหารบกคนนี้ ทำอะไรที่แสดงออกให้เห็นชัดเจนกับฝ่ายตรงกันข้ามว่า ถ้าคุณยังเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไปคุณกับผมมีเรื่องกัน ไม่มีเฉย เฉยหมดทุกเรื่อง ดีแต่ปาก พูดตลอดเวลา แล้วแอบไปตกลงกับพรรคเพื่อไทย คุณอย่าเอาเรื่องนี้เข้ามานะ ถ้าคุณเอาเข้ามาผมลำบากใจ เดี๋ยวผมลำบากใจ ผมไม่อยากมีเรื่องมีราวกับใคร พูดง่ายๆ ว่าผมไม่อยากทำตามที่ผมถวายสัตย์ปฏิญาณไว้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วมาพูดด้วยความเท่ว่า การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ผมเป็นทหารผมฟังนโยบายรัฐบาล ที่คุณให้คำสัตย์ปฏิญาณกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คุณให้ได้อย่างไร

คุณไม่รู้หรือว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าศาสนาอยู่ไม่ได้พระมหากษัตริย์ก็อยู่ไม่ได้ พระมหากษัตริย์อยู่ไม่ได้ศาสนาก็อยู่ไม่ได้ แล้วชาติก็อยู่ไม่ได้ ระหว่างพระมหากษัตริย์กับนักการเมือง... นายกฯหัวแม่...พวกนี้ พวกนี้คือนักการเมืองมาแล้วจากไป แต่ถ้าทำนโยบายอะไรซึ่งเป็นอันตรายต่อชาติ นั่นคือเป็นอันตรายต่อพระมหากษัตริย์เช่นกัน แล้วคุณยังมีน่ามาพูดหรือว่าคุณทำเพื่อ ตามนโยบายรัฐบาล คุณไม่เคยรู้เรื่องอะไรแม้แต่นิดเดียว ผมถึงบอกว่าไอ้พวกนี้มันต้องบัดซบๆๆ บัดซบทรีไทมส์ ถึงบอกไง เพราะฉะนั้นแล้วยุติฮีได้ แล้วสังเกตได้อย่างนะ สมัยนี้เรามีผู้บัญชาการทหารบกที่ลอยไปลอยมา คำรามที่โน่นที คำรามที่นี่ที แล้วก็เดินตามนายกฯ รอรับงบประมาณกระทรวงกลาโหมมา ซื้ออาวุธ แล้วก็ชอบพูด เดี๋ยวเครือข่ายนั้นต้องดูว่าใครหมิ่นเจ้าบ้างนะ ปัดโธ่ ไอ้บ้า! เขาหมิ่นมากี่ปีแล้ว ไอ้ควาย! เขาหมิ่นมากี่ปีแล้ว เดี๋ยวเอาไว้ค่อยอีกเบรคดีกว่า

จินดารัตน์- อุ่นเครื่องค่ะ

สนธิ- อุ่นเครื่องๆ แต่วันนี้เครื่องร้อนแน่ ไม่ต้องห่วง

จินดารัตน์- พลาดไม่ได้นะคะคุณผู้ชม แต่แฟนรายการเรานี่ไม่เคยเปลี่ยนช่องไปไหน แม้กระทั่งคนที่เกลียดเรามากๆ ก็ดูเราทุกวัน

สนธิ- อ๋อ นั่งดูอยู่

จินดารัตน์- งั้นเอาข่าวประชาสัมพันธ์ก่อนนะคะคุณสนธิ

สนธิ- เชิญเลยครับ

จินดารัตน์- โครงการพระพุทธพิทักษ์ไทยทศพิธจำลอง ที่เราให้พ่อแม่พี่น้องสั่งจองกันเข้ามา ปรากฏว่าคนที่โอนเงินมาเป็นค่าจองพระในเดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายน เฉพาะ 2 เดือนนี้นะคะ เดือนตุลาคม และพฤศจิกายน จองแล้วแต่ยังไม่ได้รับหลักฐานในการรับพระ ที่โครงการจัดส่งไปให้ทางไปรษณีย์ กรุณาติดต่อด้วยนะคะ 02-280-6914 อัตโนมัติ 9 คู่สาย ในเวลาทำการนะคะ เพราะว่าเราจำเป็นที่จะต้องส่งใบรับพระ หลักฐานนี้ เพราะเดี๋ยวท่านผู้ชมจองแล้วจะไม่มีเอกสารหลักฐานมารับวันที่เราให้มารับ เพราะฉะนั้นโทรศัพท์ด่วนนะคะ คนที่จองในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2 เดือนนี้เท่านั้นนะคะ 02-280-6914 ค่ะ

กรองทอง- แล้วก็ขอประชาสัมพันธ์งานเสวนาปฏิรูปการเมืองของพี่น้องพันธมิตรฯ เรานะคะ ที่จะจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคมนี้ ที่ จ.หนองคาย งานจะเริ่มตั้งแต่ 10.00-18.30 น. จัดขึ้นที่โรงแรมแกรนด์พาราไดซ์ หนองคาย ก็อยากจะเชิญพี่น้องประชาชนทุกท่าน สามารถเข้าไปร่วมงาน ไปฟังข้อเท็จจริงกันว่าทำไมคนไทยถึงต้องซื้อแก๊ส ถึงต้องจ่ายค่าน้ำมันแพง ทั้งๆ ที่ประเทศไทยผลิตได้เอง และส่งออกได้ด้วย ภายในงานจะพบกับแกนนำพันธมิตรฯ ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 รวมไปถึงนักวิชาการ และผู้ปราศรัย วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคมนี้ ที่โรงแรมแกรนด์พาราไดซ์ หนองคาย จ.หนองคาย ค่ะ

จินดารัตน์- ส่วนเรื่องเครื่องทำน้ำด่างนะคะ ปรากฏว่ามีข่าวดีมาบอก อ.ปานเทพ ฝากมาบอกว่าตอนนี้เราสามารถสั่งจองเครื่องเพิ่มได้อีก 500 เครื่อง

สนธิ- ครับ เราเพิ่มเป็น 500 เครื่อง แต่ว่าทันทีที่เรารู้ว่าเราเพิ่มอีก 500 เครื่อง คนจองแล้วจ่ายเงินมาแล้ว 150 เครื่องทันที

จินดารัตน์- ก็เหลือเพียง 350 เครื่อง

สนธิ- เหลือแค่ 350 เครื่อง

จินดารัตน์- ซึ่งจะถึงกรุงเทพฯ ประมาณต้นเดือนมีนาฯ ก็จะส่งประมาณปลายเดือนกุมภาฯ กว่าจะถึงก็ต้นเดือนมีนาฯ เพราะฉะนั้นจะเหลือแค่ 350 เครื่องเท่านั้นนะคะ ที่จะได้ต้นเดือนมีนาคมนี้ สั่งจองได้ที่หมายเลข 02-633-5353 ถึงเที่ยงคืนทุกวัน หรือถ้าคนที่อยากจะได้เร็ว กลัวจะหลุด 350 เครื่องนี้ มาที่เอเอสทีวีช็อปเลย แล้วก็มาจ่ายตังค์ไว้เลย เขาก็จะลิสต์รายชื่อเก็บเอาไว้ให้เลย ก็จะได้ต้นเดือนมีนาคม

สนธิ- ใครจ่ายก่อนคนนั้นเข้าคิวก่อน

จินดารัตน์- ค่ะ เขาบอกว่าเครื่องไม่ทันปีใหม่ จะเอาไปให้ของขวัญทันที ขอแนะนำค่ะ ง่ายด้วย เอาใบจองใส่ซองแล้วก็ผูกโบว์เป็นของขวัญ

สนธิ- จริงๆ

จินดารัตน์- คนได้รับคงดีใจนะคะ เป็นของขวัญล้ำค่า และที่สำคัญคือเพื่อสุขภาพ

สนธิ- ผมมีแขก เพื่อนคนหนึ่ง ชื่อคุณอิ่ง คุณอิ่งเป็นคนโคราช คุณแม่อายุ 96 เป็นแฟนพันธุ์แท้พันธมิตรฯ เลย ไม่ได้เลย ต้องดูเอเอสทีวีตลอดเวลา แล้วคุณแม่เป็นมะเร็ง มาเข้าโรงพยาบาลที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ผมก็ไปเยี่ยม ท่านก็ดีใจมาก จับไม้จับมือ ตอนหลังคุณอิ่งก็เอาน้ำด่างให้คุณแม่ทาน ปรากฏว่าคุณอิ่งยังไม่ได้ซื้อเครื่อง ซื้อแล้วแต่เครื่องยังไม่มา ก็เลยมาซื้อน้ำด่างที่เอเอสทีวีช็อป เอาไปให้คุณแม่ทาน ทานได้ 2-3 วัน คุณอิ่งก็แจ้งมาว่า คุณสนธิ หมอเขามาตรวจเลือด ออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ดีมากเลย อาการดีขึ้นมามากเลย นี่คุณอิ่งเล่าให้ฟัง ผมก็เลยมีหน้าที่โทรไปหาคุณอิ่ง บอกว่า พอใช้ไป 2-3 วันแล้ว น้ำด่างเหลืออีกเยอะมั้ย บอกเหลืออีกนิดหนึ่ง เลยส่งขวดใหญ่ไปให้ ให้ทานน้ำด่างตลอดเวลา

จินดารัตน์- สุขภาพเกี่ยวข้องกับปริมาณออกซิเจนในเลือด ครั้งที่แล้วให้ดูเอาหนูมาทดลองของเกาหลีกับญี่ปุ่นเขาทำ แบ่งหนูเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งดื่มน้ำปกติ กลุ่มหนึ่งดื่มน้ำด่าง ปรากฎว่า ทั้งน้ำตาล คลอเรสเตอรอล ไขมันในเลือดลด น้อยกว่าหนูที่ดื่มน้ำปกติ 30-40% วันนี้เราจะดูอนุมูลอิสระ เป็นออกซิเจนที่สูญเสียอิเล็กตรอน

ที่เกาหลีทดสอบ อนุมูลอิสระที่เป็นออกซิเจนสูญเสียอิเล็กตรอน ไม่เสถียร เข้าไปทำปฏิกิริยาในร่างกายหลายอย่าง รวมทั้งทำลายเซลล์ ทำลายพันธุกรรม ทำให้แก่เร็ว เกิดโรคต่างๆ อนุมูลอิสระออกซิเจนเกิดได้ตลอดเวลา แม้แต่ออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไป นี่คือการทดลองกับหนู ทำการทดลอง 20 วัน ผลทดสอบปรากฎว่า อนุมูลอิสระของออกซิเจนในปอดหนูที่ดื่มน้ำธรรมดา วัดได้ 600 หน่วย ในปอดของหนูที่ดื่มน้ำด่าง วัดค่าอนุมูลอิสระออกซิเจน ได้เพียง 510 หน่วย เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ หนูที่ดื่มน้ำด่าง มีอนุมูลอิสระออกซิเจนน้อยกว่า 18% ระยะเวลา 20 วัน

จากค่าอนุมูลอิสระออกซิเจนในไต ปรากฎว่าในหนูที่ดื่มน้ำธรรมดา สูงถึง 590 หน่วย ขณะที่หนูดื่มน้ำด่าง มีค่าเพียง 380 หน่วย น้อยกว่าเยอะมาก ค่าตับ ปรากฎว่า หนูดื่มน้ำธรรมดา 410 หน่วย ดื่มน้ำด่าง 330 หน่วย น้อยกว่า 20%

แสดงว่า น้ำด่างเมื่อมีประจุไฟฟ้าลบ จะเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระ ทำให้แปลงสภาพกลายเป็นน้ำ ยิ่งไปกว่านั้น น้ำด่างยังช่วยจ่ายอิเล็กตรอนเพื่อกำจัดอนุมูลอิสระของออกซิเจนได้อีกด้วย

การทดสอบที่ญี่ปุ่น ทดสอบกับมนุษย์ 3 สัปดาห์ เขาทดสอบจากสถาบันอาหารแห่งชาติ ชื่อว่า National General Institute Japan เป้าหมายการตรวจวัดครั้งนี้ ดูอัตราความเร็วในการไหลของเลือดในช่องทางที่กำหนดให้ เป็นการรับอาสาสมัคร ผู้ชายดื่มน้ำด่าง ทิ้งไว้ 30 นาที ตรวจเลือดใหม่อีกครั้ง ก่อนดื่มน้ำด่างตรวจแล้ว 1 ครั้ง ผ่านไป 30 นาทีตรวจอีกครั้ง การไหลของเลือดจะลื่น เร็วขึ้น การอุดตันน้อยลง

ที่เกาหลี ศูนย์วิจัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยไฮซู ทดสอบกับคน 15 คนเป็นโรคเบาหวาน ปรากฎว่า ดื่มน้ำด่าง ผู้หญิงอายุ 65 ปี ก่อนดื่มน้ำด่าง วัดน้ำตาลได้ 324 หลังจากบำบัดด้วยน้ำด่าง น้ำตาลในเลือดเหลือ 210 รายที่ 2 ผู้ชายอายุ 53 ก่อนดื่มน้ำด่าง วัดน้ำตาลได้ 250 หลังจากบำบัดปรากฏว่า น้ำตาลลดลงเหลือแค่ 204 ผู้หญิงคนที่ 3 อายุ 69 ปี ก่อนดื่มน้ำด่าง น้ำตาล 254 หลังบำบัดด้วยน้ำด่าง น้ำตาลในเลือดลดเหลือ 144 รายที่ 4 ก่อนดื่มน้ำด่าง น้ำตาลในเลือด 400 บำบัดน้ำด่างน้ำตาลในเลือดเหลือ 168-186

สนธิ- ตั้งแต่ผมทานน้ำด่างรู้สึกเปลี่ยนแปลง มีความสดชื่นมากขึ้น เหมือนระบบดีขึ้น แต่อธิบายไม่ได้ เพราะประการแรก ผมไม่เป็นเบาหวาน ผมเพียงแต่รู้ตัวเองว่ามีความคึกคัก และมีความรู้สึกว่าตัวเบา

จินดารัตน์- คนที่เคยล้างพิษตับจะรู้ว่าล้างลำไส้ เหมือนตัวเบา ดูดซับอาหารได้ดี ปลอดโปร่งโล่งสบาย หมอชินย่า ใช้น้ำด่างล้างลำไส้ให้ผู้ป่วย บำบัดด้วยน้ำด่าง ลำไส้สะอาดขึ้น

สนธิ- ผมเชื่อว่าเกี่ยว ทุกวันนี้ผมดื่มน้ำด่าง เฉลี่ยวันละ 6-7 แก้ว ตอนเช้า 2 แก้ว ปกติเป็นคนตื่นเช้าทานน้ำ 2 แก้ว ไปที่ทำงาน กาแฟใช้น้ำด่างชง อยู่ที่ทำงานทานประมาณ 3-4 แก้ว กลับบ้านทานอีก 2-3 แก้ว น้ำแกงก็ใช้น้ำด่าง ทุกอย่างที่เคยใช้น้ำทำอาหาร รับประทาน เป็นน้ำด่างหมด

จินดารัตน์- แม่บ้านแฮปปี้ที่สุด ใช้น้ำด่างล้างผักผลไม้ให้ลูก น้ำกรดเอาไปล้างห้องน้ำ ถูพื้น

สนธิ- ล้างชามสะอาดมาก

กรองทอง- ใครอยากหาของขวัญปีใหม่นี่แหละใบจอง

สนธิ- เอาใบจองผูกโบว์ให้ ดีที่สุด เอาโบชัวร์น้ำด่างให้อ่านด้วย

จินดารัตน์- บอกเบอร์โทร. 0-2633-5353

กรองทอง- ส่ง SMS แสดงความคิดเห็นกันได้ในรายการ วันนี้หลายคนอยากแสดงความคิดเห็น หรือเสนออะไร คำถามอะไร พิมพ์ N1 ตามด้วยข้อความ ส่งมาที่ 4850770

จินดารัตน์- พักกันก่อน ช่วงหน้ากลับมา เครื่องร้อนแล้ว พักสักครู่

ช่วงที่ 2

กรองทอง- กลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 นะคะ มาเริ่มคุยทุกเรื่องกับสนธิค่ะ ตอนนี้หลายคนอยากให้คุณสนธิพูดถึง เอาเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น ที่คนเขาวิพากษ์วิจารณ์ บางคนทนไม่ได้ บางคนบอกว่าไม่นึกไม่ฝันเลยว่าชีวิตนี้จะได้เห็นอะไรที่โจ่งแจ้งขนาดนี้ คือเราทุกคนรับรู้มาตลอดล่ะ เรื่องของการหมิ่น เรื่องของการดึงฟ้าต่ำ จาบจ้วง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนกับว่ามันโจ่งแจ้ง เปิดหน้ากันขนาดนี้ ก็คือบทอาเศียรวาทที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน และตีพิมพ์ในวันที่ 5 ธันวาคม แล้วก็มีหลายคนที่ออกมาวิจารณ์ ตัวหนังสือพิมพ์มติชนเองก็ออกมา .. บางคนบอกว่ามาแถ ตอนนี้คือสีข้างนี่แถอยู่

จินดารัตน์- ถลอกหมดแล้ว

กรองทอง- สรุปแล้วทางมติชนเองเขาบอกว่าอยากจะให้คนที่อ่าน ตีความบทอาเศียรวาทนี้แบบไม่มีอคติ ไม่แบ่งสี แบ่งฝ่าย

สนธิ- ไม่มีเลย กลุ่ม ตีความยังไง ไม่มีความอคติ คือกรรมส่อเจตนา เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่ามติชน ซึ่งผมจะเรียกว่ามติตีน มีเจตนายังไงบ้าง เรามาดูก่อน แล้วคุณนุกไม่รู้ มันไม่ใช่แค่มติชนรายวันนะ มติชนสุดสัปดาห์ก็มีอีกอันหนึ่ง เรามาดูมติชนรายวันก่อน ดูภาพรวมนะครับ เอาภาพขึ้นให้หน่อยมติชนรายวันที่มีบทอาเศียรวาท

บทอาเศียรวาทคือบทสรรเสริญ ลงมาข้างล่างหน่อย รู้สึกจะมีรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

กรองทอง- คือจะมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ด้านบน

สนธิ- ครับ อยู่บ้างบน ผมอยากให้เห็นทั้งภาพเลย แล้วเดี๋ยวผมจะอ่านอาเศียรวาทของมติชนให้ฟัง

กรองทอง- คือมีคนเขาตั้งข้อสังเกตว่า พระบรมฉายาลักษณ์มีตั้งหลายรูป

สนธิ- ไม่เลือก

กรองทอง- ทำไมถึงต้องเลือกภาพนี้มา

สนธิ- เลือกภาพนี้ ใส่เนกไทสีแดง แล้วพื้นแบ็กกราวด์เป็นสีชมพูออกแดง เหมือนกับจงใจ บทอาเศียรวาทของมติชน เขาเขียนอย่างนี้ครับท่านผู้ชม "วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง ลมแล้งในใจให้โหยหา ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" เขาก็พยายามแก้ตัว เขาบอกว่า จริงๆ งานนี้เป็นงานอธิบายเรื่องฝนหลวง เขาพยายามพูดเรื่องฝนหลวง คล้ายๆ ว่าเคยได้กลิ่นอายยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา พูดง่ายๆ ก็คือว่า แห้งแล้งแล้วก็มีฝนหลวงมาก็ดีใจ พอเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ..

จินดารัตน์- ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร

สนธิ- โอเค เรามาดูบทที่หนึ่ง บทที่หนึ่งเขาเขียนว่า "วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง ลมแล้งในใจให้โหยหา ข้าวกล้านาไร่ได้กลิ่นอาย ยามฝนขวนขวายมุ่งหมายมา" แปลว่า ฟ้าก็คือพระเจ้าอยู่หัว ได้รับรู้ถึงความทุกข์ยากและปัญหาการทำเกษตรกรรม และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยมีฝนหลวงพระราชทานมาเพื่อแก้ไขปัญหา การแปลความของบทแรกนี้ ยังสอดคล้องต่อเนื่องกับผลในบทแรกนี้

บทที่สอง วันหนึ่งเมฆคลุ้มเป็นกลุ่มก้อน ลมร้อนลมเย็นเป็นปัญหา พฤกษ์พุ่มชอุ่มช้ำท่วมน้ำตา ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร ที่แปลความหมายก็คือว่า ฝนหลวงพระราชทาน (ลมร้อนลมเย็น) นี่คือฝนหลวง เป็นปัญหา (อาจจะมาในเวลาที่ไม่เหมาะสม) จึงทำให้ผลผลิตเสียหาย ประชาชนหมดหวัง และตั้งคำถามว่า ฟ้านั้นคืออย่างไร คือถ้าเราอ่านกลอน 2 บทนี้ ถ้าอ่านแบบไม่คิดก็จะเห็นว่าไม่มีอะไร แต่ถ้าอ่านเพื่อหาความหมายที่ผู้แต่งต้องการที่จะสื่อความ ก็จะเห็นได้ว่า คนที่แต่งกลอน 2 บทนี้ ต้องการจะตำหนิติเตียนพระเจ้าแผ่นดิน ในวันสำคัญ คือวันที่ 5 ธันวาคม และการตำหนิติเตียนนั้นเป็นการตำหนิติเตียนเรื่องใหญ่ ทั้งในด้านพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะพระมหากษัตริย์ และรวมทั้งการกระทำที่ไม่บังควร ในบาทสุดท้ายที่เขาเขียน ใช้คำว่า "ฝันว่าฟ้าสว่างดีอย่างไร" กล่าวคือ พระมหากรุณาธิคุณนั้นมีความดีอย่างไร นั่นเอง คุณจะแถยังไง นี่ไง ดูรูป เห็นมั้ย

จินดารัตน์- เนกไทสีแดง

สนธิ- เนกไทสีแดง พื้นสีชมพูออกแดง เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เหมือนกับสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่เคยออกมาตั้งคำถามว่า คุณรู้ได้ยังไงว่าในหลวงทรงงานหนัก ลักษณะกลอนเป็นอย่างนี้จริงๆ คือมติชนมันชอบพูดสองแง่สองง่าม แล้วมันออกมาแถ อธิบาย อธิบายว่าความหมายของนั้นมันเป็นอย่างนี้ๆๆ ผมถามว่าอาเศียรวาท คุณจะเขียนสรรเสริญผู้คนสักคนหนึ่ง เขียนให้คนเข้าใจหน่อยได้ไหม

จินดารัตน์- คืออ่านแล้วไม่ต้องตีความ

สนธิ- อ่านแล้วไม่ต้องตีความ การที่คุณเขียนให้ตีความ แสดงว่าคุณมีเจตนาร้าย เผอิญผมก็เตรียมเอกสารมาพอสมควร ผมอยากให้ไปที่ เดี๋ยวยังมีอีกนะของมติชนสุดสัปดาห์ เรามาดูหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นกัน ดูสไลด์แผ่นที่ 3 อันนี้ของหนังสือพิมพ์แนวหน้า ขออนุญาตอ่านนะครับ

"กรองสร้อยพุทธรักษาบุปผาสวรรค์ อภิวันท์บาทภูมินทร์แผ่นดินสยาม บูชาพ่อแห่งแผ่นดิน ระบินพระนาม บรมครูผู้ปราบปรามอวิชชา นักปกครองทรงทศธรรมนำไผท นักประชาธิปไตยไกรเกริกหล้า นักวิทยาศาสตร์ทรงศาสตร์ศิลป์ดินน้ำฟ้า สุดยอดนักพัฒนาโลกาภิวัตน์ เลิศนักคิดทฤษฎีเพื่อชีวิต เลิศนักปราชญ์ราชบัณฑิตนักปฏิบัติ อัครศิลปินอภิญญาโลกาพิพัฒน์ ถวายพระพรพระไตรรัตน์จิรัฐิติกาล โสตถิ์เทอญ" นายประนอม ซองทอง ประพันธ์ แนวหน้า เห็นมั้ยชัดเจนมากอาเศียรวาท

เอาล่ะ ไม่เป็นไร นายฐากูร บุญปาน ดูอีกอันหนึ่ง เดลินิวส์

"ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่ง ขอเป็นมิ่งขวัญไผทไปทั่วหล้า ขอเห็นรอยพระสรวลกลับคืนมา ขอถวายชีวาด้วยชีวิต" ดร.จุไรรัตน์ วรรณยิ่ง เดลินิวส์ ชัดมั้ย

กรองทอง- ทุกคนเข้าใจตรงกัน เข้าใจในความหมายตรงกัน

สนธิ- โพสต์ทูเดย์ "เพียงแค่เห็นหน้าพ่อก็พอแล้ว พ่อผ่องแผ้วก็สุขใจหาใดเหมือน รอยยิ้มพ่อคือคำคอยย้ำเตือน ไม่เคยเลือนเหงื่อพ่อไหลเพื่อใครกัน น้อมประนบตั้งจิตอธิษฐาน กราบบนบานไตรโลกามหาสวรรค์ ขอให้พ่อแช่มชื่นทุกคืนวัน เป็นมิ่งขวัญธำรงดั่งธงชัย ชีวิตพ่องดงามด้วยความรัก แจ้งประจักษ์มั่นคงไม่สงสัย ชีวิตพ่อคือธรรมอันอำไพ สว่างใสใจประชามหาชน" โพสต์ทูเดย์ คุณ ณ กาฬ เลาหะวิไลย ชัดเจนมั้ย

ไทยรัฐ "ราชธรรม ธ ส่องถ้วน ธรณิน มิตรมิ่งพระภูมินทร์ แน่วน้อม บารมีดั่งองค์อินทร์ อวยอุ่น พระเอย รายร่มพระบาทพร้อม ไพร่ฟ้าสุขศานติ์" ไทยรัฐ

เอาล่ะ มาเอเอสทีวี ผู้จัดการ "เอกองค์นวมินทร์แห่งที่ 9 พระจักรินทร์ภูมิพล มิ่งขวัญแห่งปวงชน พระเปี่ยมล้นความเมตตา ทรงงานทนุชาติ บำรุงศาสตร์ป้องประชา งานหนักสองหัตถา มุ่งพัฒนาชาติก้าวไกล ร่มเย็นพระบุญญา ปวงประชาสุขกายใจ เนิ่นกาลนานเพียงไร น้ำพระทัยห่วงประชา ตรัยรัตน์ดลสราญ พระปณิธานลุสิทธา เจริญชนม์พรรษ ยั่งยืนกว่า 100 ปีเทอญ" นายสุดใจ แดงเจริญ ประพันธ์

เท่าที่ผมอ่านให้ฟัง ยกเว้นมติชน มีอาเศียรวาทของหนังสือพิมพ์ฉบับไหนบ้างที่อ่านแล้วต้องแปล มีของมันฉบับเดียว แล้วมีมันฉบับเดียวนะ ที่เขียนอาเศียรวาทแล้วไม่ลงชื่อคนเขียน ทุกฉบับเขาลงหมดเลย มันแถ ผมจะบอกให้รู้ มันแถ ผมจะให้มันดูอะไรอย่างหนึ่ง ปีที่แล้ว วันที่ 5 ธันวาคม 2554 มติชนเขียนอย่างนี้

"รองน้ำค้างค้างหยดหมดราวป่า มาร้อยสร้อยภาษาวรรณศิลป์ อันไพเราะเสนาะไม่เคยได้ยิน จากแดนดินถิ่นสถานวิมานใด ประโลมทุกข์ที่ทอดอาลัยระทด ให้ปรากฏกำลังขึ้นครั้งใหม่ กี่ขุนเขาขอบฟ้าจะฝ่าไป มุ่งตามรอยบาทไท้ไม่ลดละ" ทำไมปีที่แล้วคุณยังเขียนชัดเจน

จินดารัตน์- แล้วมันมีอยู่คำหนึ่งระบุถึงพระมหากษัตริย์ รอยบาท แต่ปีนี้ไม่มีแม้แต่น้อยที่จะระบุ

สนธิ- ใช่ มุ่งตามรอยบาทไท้ ไม่ลดละ เดินตามรอยพระบาทพระเจ้าอยู่หัวอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ทำไมปีที่แล้วคุณเขียนแล้วชัดเจน ทำไมปีนี้คุณมากำกวม ที่คุณกำกวม เพราะว่าวันนี้หนังสือพิมพ์มติชนไม่ใช่ของคุณแล้วใช่มั้ย หนังสือพิมพ์มติชนเป็นของคนที่อยู่ดูไบแล้วใช่มั้ย ผมกล้าฟันธงเลย คนที่อยู่ดูไบคือเจ้าของหนังสือพิมพ์มติชนทุกวันนี้ ผมกล้าฟันธง

ทีนี้ นุก กับแอน และท่านผู้ชมด้วย อ่านแค่มติชนรายวัน มาดูมติชนสุดสัปดาห์ ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน อาเศียรวาทในมติชนสุดสัปดาห์ หนักกว่ามติชนรายวัน มันพูดยังไง "ร่มโพธิ์ร่มไทรใหญ่กว้าง บ้างบางได้บูชาอาศัย ลูกนกลูกกามาใกล้ไกล เย็นในพระบรมโพธิสมภาร" โอเคถูกต้อง เข้าใจใช่มั้ย

บาทที่ 2 "ไร้เชื้อไร้ชาติขาดข้าง ไร้จนหนทางร้างฐาน ตราบเหงื่อน้ำตารินดินดาน"หมายถึงว่าคนลำบาก ทุกเชื้อชาติยากจน บรรทัดสุดท้าย "โพธิ์ใหญ่ทุกย่านอยู่เจริญ" แต่ต้นโพธิ์โตเอาๆ แต่ประชาชนเดือดร้อน นี่มันเหี้ย! ไอ้หนังสือพิมพ์มติชนทั้งเครือมันเหี้ยๆๆ ผมต้องพูดกันอย่างนี้ มันเลวทรามบัดซบ เจตนา กรรมเป็นเครื่องส่อเจตนา ปี 2554 ตอนนั้นมติชนยังไม่เปลี่ยนมือ มาปีนี้เปลี่ยนมือเต็มตัวแล้ว คุณไม่เห็นหรือมติชน คุณมาแถอะไร คุณเขียนอาเศียรวาท ..โทษนะ .. ส้นตีนอะไร ที่คุณเขียนแล้วคุณต้องอธิบาย

กรองทอง- ใช่ ทำไมจะต้องมา..

จินดารัตน์- สองรอบด้วยค่ะ

สนธิ- ทำไมต้องมาอธิบาย ผมว่าเผลอๆ นายฐากูรนั่นล่ะเป็นคนเขียน เพราะสัมผัสของกลอนเลวมาก

จินดารัตน์- ห่วยแตก

สนธิ- ห่วยแตกเลย

จินดารัตน์- ภาษาที่ใช้ก็แย่มาก

สนธิ- ภาษาที่ใช้ห่วยแตก

กรองทอง- คือถ้าเกิดว่าเป็นฉบับอื่นเขาจะลงชื่อผู้ประพันธ์

สนธิ- ถูกต้อง มีมันฉบับเดียวที่ไม่เคยลง

กรองทอง- แต่อันนี้ไม่ลงชื่อผู้ประพันธ์ เขาบอกว่า

สนธิ- เพราะมันมีเจตนาร้าย

กรองทอง- คือเขาแถไป เขาบอกว่าที่ไม่ลงชื่อผู้ประพันธ์ เพราะว่าคนที่ประพันธ์เลยจุดที่จะต้องการชื่อเสียง ต้องการอะไรมาแล้ว เขาก็เลยไม่ลงชื่อ

สนธิ- นี่คือตรรกะ ไม่ใช่หัวแม่ตีนนะ ตรรกะส้นตีน เข้าใจหรือยัง เพราะฉะนั้นแล้วมันชัดเจน งานนี้ แล้วไอ้มติชนช่วงหลังมันคือแหล่งซ่องสุมของพวกซ้ายอกหัก คนดีๆ ในมติชนลาออกกันเยอะเลย คุณดูสิ มติชนเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวที่เชลียร์ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกเรื่อง เรื่องราวของการคดโกง เรื่องราวของการโกงจำนำข้าว มันไม่เคยสนใจ ยิ่งลักษณ์คือนางฟ้าเทพธิดาของมัน และที่อุบาทว์และบัดซบที่สุดคืออะไรรู้มั้ย วันเฉลิมพระชนมพรรษา มันไปขายโฆษณาให้หน่วยงานราชการห้างร้าน ให้ลงโฆษณาเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อรับเงินมา แล้วขณะเดียวกัน มันมาเล่นสองแง่สองง่ามกับพระองค์ท่าน

หนังสือพิมพ์มันนี่นะ โรงพิมพ์มันนี่นะ คนที่ทำอยู่นะ มันบัดซบๆๆ ต้องเรียกว่าจัญไร 3 ครั้ง ไม่รู้จะพูดยังไง คุณแถไม่ขึ้นหรอก คุณแถไม่มีวันขึ้น เพราะว่าชัดเจน เมื่อกี้อธิบายแล้ว คือข้อแรก ถ้าคุณเขียนอาเศียรวาทแล้วคุณยังต้องให้แปล แสดงว่าคุณไม่ได้มีเจตนาดี ถูกมั้ย อาเศียรวาทต้องชัดเจน ก็ผมอ่านให้ฟังไง ทุกฉบับ ไม่ว่าฉบับไหนก็ตาม

กรองทอง- ไม่ต้องตีความ

สนธิ- ไม่ต้องตีความเลย

กรองทอง- ไม่ต้องแปล ไม่มีใครสงสัย

สนธิ- ไม่มีใครสงสัยเลย ดูไทยโพสต์ "กรองมาลัยพุทธรักษาบูชาพระบาท พ่อแห่งชาติพระเดชพระคุณอุ่นเกษา กรองหญ้าแพรกดอกมะเขือเหนือศิรา น้อมวันทาบรมครูปูชนี พระทรงครองทศธรรมทรงนำชาติ นำสุขสู่ประชาราษฎร์สุชาติสุขี แม้หนาวร้อนมิผ่อนพักสักนาที คือวิถีพระทรงสอนนิกรไทย พระเสโทท่วมพระพักตร์ประจักษ์โลก ชาติไทยโชคภูมิบาลนานสมัย เฉลิมพระชนม์ถวายชีวิตทั้งจิตใจ ถวายชัยทรงสุขสันต์นิรันดร์เทอญ" นายประยอม ซองทอง

ประยอม ซองทอง เขาเป็นศิลปินแห่งชาติ เขายังใส่ชื่อของเขาเลย ของคุณแน่แค่ไหน ก็เพราะคุณมีเจตนาร้าย คุณถึงไม่ใส่ชื่อ คุณแถไปสิ ผมนี่ไม่เข้าใจนายขรรชัย บุนปาน

นายขรรชัย บุนปาน จบจากมหาวิทยาลัยศิลปากร พี่สาว คุณหญิงไขศรี เคยเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยศิลปากร แล้วมีน้องชาย ซึ่งมีหนังสือพิมพ์... แบบนี้ โธ่! มติชนสุดสัปดาห์ เลวบัดซบมากพอๆ กันเลย

คุณพูดได้อย่างไร บาทที่สอง "ไร้เชื้อไร้ชาติขาดข้าง ไร้จนหนทางร้างขาร คราบเหงื่อน้ำตาลรินดินดาน โพธิ์ใหญ่ทุกย่านยังอยู่เจริญ" คุณกำลังบอกว่า ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า แต่ว่าพระเจ้าอยู่หัวมีความสุข ร่ำรวย เจริญขึ้น นี่คือแนวคิดของพวกซ้ายอกหัก ซ้ายต้องการล้มเจ้า

จินดารัตน์- บอก ผบ.ทบ.เลยไหมคะ วันนี้เห็นสั่งกองกำลังให้จับตาพวกหมิ่น

กรองทอง- แก๊งล้มเจ้า

สนธิ- ดีแต่ปาก ผบ.ทบ.คนนี้ ดีแต่คำราม เพราะฉะนั้นแล้วเจตนา หากทุกฉบับเขียนแล้วต้องแปลอาเศียรวาท เป็นอีกเรื่อง ทุกฉบับไม่เคยมีที่อ่านแล้วต้องแปล สุดแล้วแต่จะจับจุดไหนของพระเจ้าอยู่หัว แล้วสรรเสริญพระองค์ จะจับจุดที่พระองค์ท่านเป็นเทียนนำชาติ หรือจับที่พระองค์ท่านมุมานะทำงานหนักเพื่อประชาชน หรือจับที่พระองค์ท่านเป็นกำลังใจให้ชาติบ้านเมือง ได้ทั้งนั้น อ่านแล้วไม่ต้องแปล มีฉบับเดียวทั้งรายวัน รายสัปดาห์

นายขรรค์ชัย บุนปาน สมัยก่อนผมเรียกพี่ช้าง ผมไม่เรียกเลย เรียกแล้วเสียปาก เป็นอัปมงคลต่อปาก คนแบบนี้ทำหนังสือพิมพ์แบบนี้ แถไป ซ่องสุมผู้คนสองแง่สองง่าม ไม่ได้มีแค่นี้ กระบวนการมีตลอด

หน้าปกมติชนสุดสัปดาห์ฉบับ เนปาลกรณีศึกษา ชอบทำวิธีนี้ เช่น ตอนนั้นกษัตริย์เนปาลถูกยึดอำนาจแล้วคืนอำนาจให้ประชาชนโดยรัฐสภา ขึ้นทันทีว่า case study เมื่อเนปาลคืนอำนาจให้ประชาชน หนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ คนสนใจเรื่องอะไรเกี่ยวกับต่างประเทศบ้าง ไม่เคย แต่เผอิญเรื่องนี้ พวกฝ่ายซ้ายที่ซ่องสุมกันอยู่ แล้วรู้เห็นเป็นใจกับเจ้าของหนังสือพิมพ์ เห็นว่ากรณีนี้จะกระทบสถาบันกษัตริย์เมืองไทย เอาขึ้นปกทันที โดยลืมคนโง่ก็มีเยอะที่อ่านแล้วเห็นด้วย แต่ไม่เข้าใจว่า คุณเอากษัตริย์เนปาลมาเทียบกษัตริย์ไทยได้อย่างไร กษัตริย์ไทยทรงทศพิธราชธรรม กษัตริย์เนปาลเคยมีไหม คนมาเป็นล้าน พอพระองค์ท่านออกสีหบัญชร คนลุกขึ้นมา ทรงพระเจริญ เด็กเล็กร้องไห้เพราะดีใจเห็นพระองค์ท่าน แล้วพระองค์ท่านกล่าวคำอวยพรให้ประชาชน ประชาชนร้องไห้ ผู้แก่ผู้เฒ่า ผมยังขนลุกซู่ ยังน้ำตาคลอเลยส่วนตัวผม กษัตริย์เนปาลไม่มี แต่ไอ้พวกนี้ นี่คือฝีมือมติชน อย่าไปซื้อ นอกจากไม่ซื้อแล้วต้องเหยียบย่ำ หนังสือพิมพ์เลวๆ แบบนี้ สรุปไม่ใช่หนังสือพิมพ์ มันคือเครื่องมือ ผมเชื่อว่าคนที่ดูไบซื้อแล้วผ่านนอมินี ไม่อย่างนั้นไม่เลวขนาดนี้

สังเกตอย่าง เสื้อแดงเวลาสู้มีสื่อในมือ ทีวี 3 ช่อง เอเชียอัพเดท วอยซ์ทีวี และดีเอ็นเอ็น วิทยุมีคลื่นชุมชนเต็มไปหมด แต่ก่อนมีหนังสือพิมพ์เรดนิวส์ ทำไมไม่มีเพราะมีมติชนแล้ว พี่น้องครับ คนที่ดูไบเป็นหนังสือพิมพ์มติชน ผมฟันธง

หน้าปกอีกเล่มเลว ประเด็น รักที่สุดคือในหลวง ห่วงที่สุดคือคนที่รักในหลวงจนเสียสติ นี่ขนาดเราเสียสติมาปกป้องท่าน ยังเอา...เหยียบแผ่นดินไทยแบบนี้ ถ้าไม่เสียสติปกป้องแล้ว..จะรุกรานท่านขนาดไหน เราไม่ได้เสียสติพวกมันคือคนชั่วช้าสารเลว และจ้องทำลายท่าน เพราะรู้ดีว่าท่านไม่มีทางตอบโต้ ยิ่งมีรัฐบาลเป็นพวก มีผู้บัญชาการทหารบกดีแต่ปาก มีใครล่ะ นี่คือสัตย์ปฏิญาณซึ่งประชาชนที่ลานพระรูปต้องบอกว่า ประชาชนรักษาพระองค์ นี่คือคำพูดซึ่งผมพูดมานานแล้ว ตั้งแต่ 193 วัน ว่าในหลวงไม่มีใครอีกแล้วนอกจากพวกเรา เหตุการณ์เดือน ก.ย.2548 ที่ผมใส่เสื้อเหลือง เขียนว่า เราจะสู้เพื่อในหลวง ไล่ไปทีละเรื่อง ชัดเจนไหม

จินดารัตน์- แต่ก่อนคนหัวเราะเยาะเรา

สนธิ- ถ้าผมไม่ออกมาสู้ ดา ตอร์ปิโด ตำรวจจะจับดา ตอร์ปิโด ไหม พอจับทนายหน้าหอคนสนิทเนวิน ตอนนั้นเนวินอยู่เพื่อทักษิณ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผม ฟ้องผม ศาลเพิ่งยกฟ้องเมื่อเร็วๆ นี้ วันนี้ทำไมทนายเนวิน หรือนายเนวิน ไม่ให้ตำรวจแจ้งจับมติชน

จินดารัตน์- เปลี่ยนหัวหนังสือพิมพ์เถอะ

สนธิ- ก็มีนักกวีในโซเชียลมีเดีย

กรองทอง- มติชนบอกว่า ให้ตีความแบบไม่มีอคติ แสดงว่าคนมีอคติมีเยอะมาก ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีคนออกมาโต้

สนธิ- อะไรไม่สำคัญ ผมเอามติชนปีที่แล้วอาเศียรวาท ปีที่แล้วคุณเขียนอ่านแล้วไม่ต้องแปลความหมาย เพราะตอนนั้นหนังสือพิมพ์มติชนยังไม่เปลี่ยนเจ้าของ เจ้าของแท้จริงกำลังดำเนินการเพื่อซื้อมติชน อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ซื้อง่าย มติชนเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวที่ได้โฆษณาราชการเยอะที่สุด เพราะรัฐบาลตัวเอง รัฐบาลของเจ้าของมติชนคนเดียวกัน สั่งให้ข้าราชการทุกกระทรวงลงโฆษณาในมติชน กำไรมากขึ้นราคาหุ้นขึ้น

จินดารัตน์- มิน่า ยอดขายเท่าไหร่ไม่สน

สนธิ- ยอดขายตก ไม่มีใครซื้อ

กรองทอง- พอเกิดเรื่องจะมีประชาชนบอกว่า เรามาร่วมกันแบน ไม่ต้องซื้อหนังสือพิมพ์

สนธิ- อย่าซื้อ

จินดารัตน์- ไม่ซื้อสิ่งพิมพ์ทุกชนิดในเครือมติชน

สนธิ- ไม่ว่าจะเป็น ประชาชาติธุรกิจ อย่าไปซื้อ พอกเก็ตบุ๊ค เวลาไปศูนย์หนังสืออย่าเดินเข้า ไปร้านกาแฟถ้ามีมติชนบอกเฮียเปลี่ยนหนังสือพิมพ์ได้ไหม ไม่อย่างนั้นจะไม่กิน

กัลยากรณ์ นาคสมภพ น้องเอิร์น เขาโกรธ เอาอาเศียรวาทที่มติชนเขียน แล้วเขาเขียนว่า "วันหนึ่งฟ้าสว่างกระจ่างแจ้ง ดั่งแดนดินที่แห้งแล้งกลับสดใส ข้าวกล้านาไร่ต่างผลิใบ สายฝนชโลมใจมุ่งหมายมา วันหนึ่งเมฆคลุ้มคลุมนคร ธ คลายร้อนผ่อนเย็นซึ่งปัญหา ทรงสถิตย์ในดวงใจปวงประชา เห็นแล้วว่าฟ้าสว่างเป็นอย่างไร"

จินดารัตน์- อย่างนี้ไม่ต้องตีความ

กรองทอง- อ่านแล้วเข้าใจ ทุกคนเข้าใจตรงกัน

สนธิ- หรืออีกอัน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่งมา "วันนี้ฟ้ากระจ่างสว่างชัด เทิดกษัตริย์ขัตติยธรรมอันเหลือหลาย ปวงพสกนิกรมามากมาย มาด้วยใจพร้อมพลีกายจึงหมายมา ไม่ว่าฝนเมฆคลุ้งจะกี่ก้อน จะลมอ่อนจะร้อนไปใช่ปัญหา ปวงพสกเปล่งคำขอคลอน้ำตา พระองค์ ธ พระราชาพระเจริญ" ต้องตีความไหม

จริงๆแล้วไม่มีบทอะไรดีเท่าบทอาเศียรวาทให้หนังสือพิมพ์มติชน ของบิลลี่ โอแกน เข้มตลอด ผมจะอ่านให้ฟัง น้องบิลลี่บอกว่า "อาเจียรวาทชาติหมาประสาหนอน แต่งคำหอนโหยหวนชวนคลื่นเหียน มติหมาภาษาสัตว์ร่วมกัดเกรียน จงวนเวียนเดียรัจฉานสถานเอย" บิลลี่ โอแกน

กรองทอง- ชอบมาก

สนธิ- อยากฟังอาเจียรวาทของสนธิบ้างไหม 2 บรรทัดให้มติชน"สักวันหนึ่งเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ให้มึงไปอยู่กับไอ้บ้าที่ดูไบกันให้หมด"

จินดารัตน์- ดีค่ะ ดี ไปอยู่กับเจ้านายมัน

สนธิ- ไปอยู่กับเจ้านายมัน หนังสือพิมพ์มติชนวันนี้มันไม่ใช่หนังสือพิมพ์อีกต่อไปแล้ว อย่าไปเรียกมันว่าหนังสือพิมพ์ มันเป็นเครื่องมือทางการเมือง และเป็นเครื่องมือในการบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์โดยใช้วิธีแยบยล โดยหลอกเอาคนที่ไม่เข้าใจเหตุการณ์ ยังไปอ่านหนังสือพิมพ์มันอยู่ แล้วก็ทำเรื่องสองแง่สองง่าม อาเศียรวาททั้งรายวันและรายสัปดาห์ เลว ชัดเจน รายวันเถียงเอาสีข้างถู แต่มันไม่เคยมาเถียงเรื่องรายสัปดาห์ รายสัปดาห์ร้ายกว่านะ

กรองทอง- ชัดกว่าด้วยนะ

สนธิ- ชัดกว่าเยอะเลย

จินดารัตน์- ก่อนไปรายสัปดาห์ แอนขออนุญาตอ่านของ อ.ปราโมทย์ ส่งตรงมาจากนิวยอร์กนะคะ อ.ปราโมทย์ อยู่อเมริกาตอนนี้ก็ทนไม่ไหว อ.ปราโมทย์ เขียนมาว่า "หากมึงเป็นทางเลือกเสือกทุกเรื่อง จะไม่เปลืองเวลาเขียนมาให้ นี่มึงชาติน้ำเน่าเห่าจัญไร จะแก้ตัวอย่างไรก็เชิญเลย อันวาระศักดิ์สิทธิ์นิมิตดี มีพระเลี่ยงบาลีกันไหมเหวย เคยอย่างไรสวดอย่างนั้นของมันเคย ไม่เปรียบเปรยให้คนแปลสองแง่มุม"

สนธิ- ถูกต้อง อ.ปราโมทย์ พูดถูก คือประเด็นหลักๆ ก็คือว่า การเขียนอาเศียรวาทนั้น ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขียนแล้วต้องแปล อาเศียรวาทต้องชัดเจน แล้วยิ่งเขียนอาเศียรวาทให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธันวาคม มีมันเจ้าเดียว ไอ้หนังสือพิมพ์มติชนส้นตีนนี่ ที่ไม่ยอมลงชื่อผู้ประพันธ์ เพราะมีเจตนาร้าย มันบอกเขาก้าวข้าม ก้าวข้ามส้นตีน โทษทีวันนี้ผมต้องหยาบ พี่น้อง ต้องขอประทานโทษ นี่ผมยังหยาบน้อยนะ ก้าวข้ามส้นตีน เพราะว่าฝีมือการเขียนมึงนี่ส้นตีนมาก

จินดารัตน์- ห่วยแตก

สนธิ- ห่วยแตกเลย แล้วบอกก้าวข้ามไปแล้ว เผลอๆ ผมยังไม่แน่ใจนะนายฐากูรเป็นคนเขียนหรือเปล่า ต้อบอกนะ คุณเป็นคนเขียนหรือเปล่า ออกมาชี้แจงตั้ง 3 ครั้ง 4 ครั้ง แสดงว่าแผลมันเยอะ แสดงว่าลึกๆ แล้วมันรู้

จินดารัตน์- ร้อนเลย

สนธิ- ร้อน

จินดารัตน์- เพราะว่าตอนนี้มีกลุ่มคนที่เขาไม่พอใจอย่างมาก วันนี้เขาไปถึงที่หน้ามติชน แล้วก็วางหรีดและสาปแช่ง เดี๋ยวมันจะมีมากกว่านี้ ขอเตือนไว้ด้วยความหวังดี

สนธิ- เลวทรามต่ำช้า คือไม่รู้ว่าจะพูดยังไง อย่าไปเรียกมันหนังสือพิมพ์ เขาบอกว่าไอ้หนังสือพิมพ์มติชนนี่ผมไม่ได้เอาไปอ่าน เอาไปห่อของ ห่อของยังให้เกียรติมันมากไป

กรองทอง- ใช่ ยังดูใช้ประโยชน์ได้

สนธิ- ยังดูใช้ประโยชน์มากกว่า จริงๆ

จินดารัตน์- เขาบอกเช็ดกระจกยังไม่สะอาดเลย งั้นขออนุญาตเอาไปรองอึหมาได้มั้ย

สนธิ- ผู้หญิงคนหนึ่งในเฟซบุ๊ก เขาบอกว่าเขาคิดดูว่าจะทำยังไงกับหนังสือพิมพ์มติชน เศษหนังสือพิมพ์มันหลุดเข้ามา เขาบอกเขาใช้ไปห่อผ้าอนามัยใช้แล้ว

คืออย่างนี้ หนังสือพิมพ์มติชนในช่วงหลังมันถูกซ่องสุมด้วยคนที่เป็นมือเป็นเท้าให้กับพวกซ้ายอกหัก ซ้ายล้มเจ้า ที่อยู่กับทักษิณ ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อก็รู้ อยู่เบื้องหลัง ทุกอย่างที่วางแผนจะต้องโค่นสถาบันกษัตริย์ยังไง ต้องใช้วิธียังไง รวมไปจนถึงการลดพระเกียรติ ทำให้ประชาชนห่างจากพระองค์ท่านในงานเฉลิมพระชนมพรรษานี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเขา ไม่ว่าจะเป็นการไม่ให้จุดพลุ เข้าใจหรือยัง คือพูดง่ายๆ ว่าลดความสำคัญของวันเฉลิมพระชนมพรรษาไปซะ

กรองทอง- คือเหมือนกับทำไปเพราะต้องทำ

สนธิ- ทำไปเพราะเขาต้องทำ

กรองทอง- ทำไปตามหน้าที่

สนธิ- มันเป็นยุทธศาสตร์ มันวางไว้แล้ว มันถึงพูดตลอดเวลา มันบอกว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมายุมากแล้ว อายุมาก สุขภาพไม่ดี มันบอกมันรอได้ เข้าใจหรือยัง เพราะฉะนั้นในช่วงการรอมันก็เลยบั่นทอนไปทีละเรื่องๆๆ เข้าใจหรือยัง

จินดารัตน์- นี่มันขบวนการใหญ่มาก

สนธิ- มันเป็นขบวนการจริงๆ แล้วเราก็ดี ที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดีแต่โฮ่งๆๆ เป็นอยู่แค่นี้ พูดอยู่ตลอดเวลา คุณหยุดพูดเสียทีได้มั้ย รำคาญ

กรองทอง- ที่ปฏิญาณไว้ จะยอมตายเพื่อพิทักษ์ไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ ยังสู้ใบพลูไม่ได้เลย

สนธิ- สู้ข้าวตู ไม่ได้ คุณประยุทธ์ดูหลานผม เขาจริงจัง ตั้งใจไม่สร้างภาพ รักเป็นรัก มาที่บ้านพระอาทิตย์ สิ่งแรกที่เขาและพี่สาว เขาวิ่งขึ้นไปไหว้คุณตา ตาใบพลูมาแล้ว ก็หอม ใบพลูไปกราบพระในห้องพระ แล้วก็ลงไปเล่น

กรองทอง- งานวันที่ 5 ถ้าไม่มีพลังสีเหลืองของประชาชน

สนธิ- เขาพยายามบล็อกไม่ให้ประชาชนมามาก หลายคนพาประชาชนมาโดยเป็นหน่วยงานราชการ พระเจ้าอยู่หัวยังมาไม่ถึงเลย บอกเฮ้ยกลับ อย่างนั้นเลย แม่ค้าขายของเสื้อแดง วางหมากไว้เพื่อให้มีการทะเลาะเบาะแว้ง ทุบตี ทำร้ายร่างกาย เพื่อให้ดูว่าเสื้อเหลืองเกเร แต่ไม่สำเร็จ

จินดารัตน์- คิดกลับกัน ถ้าเป็นคนเสื้อเหลืองเอาของไปขายในดงเสื้อแดง

สนธิ- ตายเลย

กรองทอง- วันนั้นถ้าดูในคลิป มากสุดแค่ตะโกนด่า ไม่แตะตัว ไม่ทำร้ายร่างกาย ข้าวของไม่ทำเสียหาย

จินดารัตน์- ไปจับกลุ่มคุยกับแม่ค้าเสื้อแดงที่สี่แยกคอกวัวต่อนะแม่นางคนนี้ เขาบอกว่า โดยพวกเสื้อเหลืองถล่ม

สนธิ- ต้องดูเจตนาหนังสือพิมพ์เครือมติชน น่ากลัว วางแผนลึกซึ้ง

จินดารัตน์- หน้าปกมติชนรายสัปดาห์แต่ละเล่ม

กรองทอง- พยายามเฉียดไปเฉียดมา

สนธิ- ทำคล้ายหนังสือฟ้าเดียวกัน ครั้งหนึ่งฟ้าเดียวกัน เปรียบเทียบสถาบันกษัตริย์เหมือนจอห์นนี่วอล์กเกอร์ ครั้งหนึ่งพูดถึงงานพระบรมศพสมเด็จพระพี่นาง ที่เอาไม้ตะเคียนมาเป็นโลงศพ ทำสารคดีว่า ไม่ตะเคียนแต่ละต้นใช้เวลาปลูกไปตัดมาจะเสียหายกับป่าอย่างไร จะใช้วิธีนี้

ผมไม่รู้จะพูดอย่างไร เหมือนกับที่มติชน นามสกุลโสณกุล หม่อมเต่านา ที่บอกว่า ห่วงที่สุดคือคนที่รักพระเจ้าอยู่หัวอย่างไร้สติ ขนาดเราเป็นอย่างนี้มันยังทำถึงขนาดนี้ ถ้าเราไม่ลุกขึ้นสู้ วันนี้พระเจ้าอยู่หัวอยู่ที่ไหน พระองค์ท่านอยู่ที่ไหน พระองค์ท่านพูดไม่ได้ พระองค์ท่านแสดงออกไม่ได้ ผมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย โดนดำเนินคดี สมัยหนึ่งนายเนวินกับพวก สมัย 193 วัน ให้ทนายอดีตผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ไปแจ้งความว่าผมเอาคำพูดดา ตอร์ปิโด มาพูดบนเวที ตอนนั้นเขาอยู่กับทักษิณ ไปแจ้งความผมว่าผมหมิ่น ดำเนินคดีจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง บอกผมไม่มีเจตนา ผมทำเพื่อปกป้อง กี่ปีแล้ว ตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่ผมออกไปวันนั้น เขาไม่ดำเนินคดียัยดา ตอร์ปิโด แล้วอีกกี่คน เยอะแยะ

ผมถึงบอกว่า ลึกๆ พรรคเพื่อไทยคือพรรคมีเจตนาล้มสถาบันกษัตริย์ ทุกอย่าง นปช.ไม่เอาเจ้า ต้องการล้มเจ้า

กรองทอง- ที่ย่ำยีจิตใจคนไทยอีกอย่าง เสนอชื่อพวกเคยจาบจ้วง เข้ารับพระราชทานเครื่องราชย์ ก่อแก้ว พิกุลทอง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ พิชิต ชื่นบาน

สนธิ- เป็นกระบวนการที่ทำให้พระองค์ท่านช้ำใจ ทนได้ทนไป จะทำอย่างนี้ตามกระบวนการ ตามขั้นตอน ถ้ารัฐบาลเสนอไม่ให้ก็ไม่ได้ เพราะ ส.ส.มีสิทธิ์ได้เครื่องราชย์ทุกคน แต่เขาสามารถเลือกได้จะให้ใคร เขาก็เสนอชื่อไป พระองค์ท่านจะไม่ให้ก็ไม่ได้ เพราะว่าเท่ากับพระองค์ท่านไปแทรกแซงการทำงาน เห็นหรือยัง นี่ไงคือวิธีการสั่นคลอน วิธีการล้ม เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ เป็นฉาก ก่อนที่จะเกิดสงครามที่แท้จริง คือพวกนี้ต้องการจะล้มในที่สุด

ไอ้นักการเมืองฝ่ายเพื่อไทยก็รับประทานไป ข้างหลังก็ มึงรับประทานไป แบ่งมาให้กูบ้าง เอาเงินมา ให้พวกฝ่ายซ้าย เอาเงินมา เอาอย่างนี้ดีกว่า เราทำหนังสือพิมพ์เกือบตาย ทำสื่อมวลชนเกือบตาย เพื่อสู้กับความถูกต้อง เราไม่เคยมีเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องนะ เราต้องขอให้พี่น้องบริจาค เราต้องมานั่งขายเครื่องทำน้ำด่าง ทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่มันเอาเงินที่โกง แล้วไปซื้อหนังสือพิมพ์มติชน แล้วก็เอาโฆษณาของรัฐบาลที่มันสั่งได้ ให้ลงโฆษณาหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เยอะๆ ไปดูสิ มันมีหนังสือพิมพ์มติชนฉบับเดียวที่ได้โฆษณาของรัฐบาลเยอะที่สุด

ที่บัดซบที่สุดก็คือว่า มาสองแง่สองง่ามกับบทอาเศียรวาท แต่ในขณะเดียวกันตัวเองไปขายโฆษณา ทรงพระเจริญ วันเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ดูมันเลวมั้ย

จินดารัตน์- มีคนโพสต์ในเฟซบุ๊ก แอนอ่านแล้วแอนก็รู้สึกดีนะคะ เขาบอกว่า หมดเวลาที่เขาจะนั่งดูไอ้กลุ่มคนเหล่านี้ย่ำยีพระมหากษัตริย์อีกแล้ว หมดเวลาที่เขาจะนั่งดูเฉยๆ แล้ว เขาก็เลยปลุกให้คนที่รักพระเจ้าอยู่หัวลุกขึ้นมาปกป้องท่านบ้าง คนที่เคยนั่งอยู่เฉยๆ เป็นพลังเงียบ นั่งดูเงียบๆ ได้แต่นึกสงสารท่าน ได้แต่ด่าสาปแช่งไอ้พวกนี้ แต่ไม่เคยออกหน้าออกเสียง ให้ลุกขึ้นมาได้แล้ว ถึงเวลาที่เราจะต้องเปิดตัว

สนธิ- เอาอย่างนี้ แอน ผมเห็นด้วย แต่ผมอยากจะให้ท่านผู้ชมจับตาดูหนังสือพิมพ์เครือมติชนดีๆ ผมพูดไม่ผิดหรอก มันขายไปแล้ว ทิศทางมันจะต้องออกมา ในทิศทางข้อที่ 1 มีนัยที่จะทำให้สถาบันกษัตริย์สั่นคลอน 2. เชียร์ยัยปูอย่างเต็มที่ ยัยปูทำอะไรถูกหมก เอ๋อแค่ไหนก็ตาม มันบอกน่ารัก ทุกอย่าง นี่คือทิศทางของมติชน สังเกตได้ ไม่ต้องไปดู ฟันธงไปได้เลย ไม่มีวันจะเปลี่ยนไปจากตรงนี้ได้เลย บ้านเมืองจะฉิบหายยังไง มันก็จะบอกว่ายัยปูทำถูก ผมว่าพวกคุณนี่นะ พวกเสื้อแดงนี่นะ ถ้าคุณไม่รักพระเจ้าอยู่หัว คุณเอาเสื้อมาใส่ใหม่ดีกว่า แล้วคุณเขียนว่าเรารักทักษิณมากกว่าในหลวง แน่จริงใส่ไปสิ ให้มันชัดเจนไปเลย

กรองทอง- เปิดตัวไปเลย

สนธิ- เปิดตัวไปเลย ใช่มั้ย ทีนี้มันมาซุ่มซ่อนแบบนี้ แล้วใช้อำนาจรัฐ อย่างคนอย่างนิวัฒน์บุญทรง มาทำเรื่องที่มันไม่มีตรรกะ ไม่มีเหตุไม่มีผลว่าห้ามจุดพลุ แล้วตัวเองก็อธิบายไม่ได้ บอกเสียงดัง แล้วที่เขาจุดกันมาเป็นสิบๆ ปี เขาไม่ดังเหรอ ประชาชนชอบ เพราะประชาชนรู้ว่าเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา ประชาชนต้องการความบันเทิง ต้องการความรื่นเริง ประชาชนดีใจที่วันนี้เป็นพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เห็นพลุแล้วประชาชนฮือฮา ลูก พ่อกับแม่พาลูกไป อุ้มลูกไปยืนดู ไปดูที่สนามม้า พ่อๆ ดู ลูกๆ เห็นมั้ย นี่คือความสุขของครอบครัว เป็นวันพ่อ แต่มึงเสือกมาพูดบอกว่า หนวกหู หนวกหูพ่อมึงสิ

กรองทอง- บอกว่าสิ้นเปลืองด้วย

สนธิ- สิ้นเปลือง แล้วที่มึงแดกกัน จำนำข้าว มันไม่สิ้นเปลืองหรือไง นิวัฒน์ธำรง นิวัฒน์บุญทรง ฟังให้ดีๆ คุณทำอะไรเขารู้ขี้รู้ไส้หมด คุณจะรับใช้ทักษิณ ไม่ว่ากัน แต่ว่าให้มันพองามได้มั้ย

จินดารัตน์- พอห้าม คนออกมาด่าเยอะ ก็ปฏิเสธพัลวัน กลับลำ ไม่เคยห้าม

กรองทอง- โยนกันก่อน โยนให้ไปถามคนนั้น คนนั้นโยนให้ไปถามคนนี้ สรุปสุดท้ายก็เลยบอกว่า ใครจะจุดก็ได้

สนธิ- ขี้ขลาดตาขาว ชอบลอบทำร้าย ลอบกัด พวกนี้เป็นพวกที่ลอบกัดพระเจ้าอยู่หัวตลอดเวลา สันดานหมาลอบกัด ให้รู้ด้วย

กรองทอง- วันนั้นก็เลยเป็นวันที่คนไทยนอนฟังเสียงพลุแล้วมีความสุขแล้วมีความสุขที่สุดเลย

จินดารัตน์- มากค่ะ โดยเฉพาะต่อพงษ์

กรองทอง- คือไม่ต้องออกไปดูนะ ว่ามีพลุ แค่นอนฟังว่าวันนี้เสียงพลุเพราะมาก

สนธิ- เราจะพักสักนิดมั้ย

จินดารัตน์- พักก่อนก็ได้ค่ะ แล้วช่วงหน้ากลับมาดู ผู้หญิงคนหนึ่งที่รักพระเจ้าอยู่หัวมาก แล้วก็เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เดี๋ยวคุณสนธิจะวิเคราะห์เรื่องนี้ให้ฟัง พักสักครู่ค่ะ

ช่วงที่ 3

จินดารัตน์- มีอีกหลายประเด็นที่จะคุยกัน แต่ว่าขอเลือกประเด็นเด็ดๆ ก็แล้วกัน เรื่องของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค แต่ก่อนจะไปถึง หลายคนเขาบอกอยากให้คุณสนธิวิพากษ์การเมืองสักนิดนะ วันนี้ เรื่องของธาริต เพ็งดิษฐ์ หน่อยมั้ยคะ

สนธิ- เอาประเด็นไหนล่ะ คือผมเห็นใจคุณอภิสิทธิ์ กับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ นะ แต่ผมก็ยังเชื่อใน ผมก็ยังดีใจที่คุณสุเทพ กับคุณอภิสิทธิ์บอกว่าพร้อมที่จะไปสู้ในศาล ก็ดีแล้ว ผมเห็นด้วย แต่ว่าคุณสุเทพ กับคุณอภิสิทธิ์ ก็บอกว่าเป็นเรื่องการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนก็บอกว่าเป็นเรื่องการเมือง เอาการเมืองมาเล่นเขา ผมว่าน่าจะทำใจตรงนั้นไปได้ เพราะว่าทุกคนก็โดนการเมืองทั้งนั้น สมัยผมโดนข้อหาผู้ก่อการร้ายก็การเมืองเหมือนกันไม่ใช่เหรอ สมัยนั้น ใช่มั้ย แล้วขณะที่เราร้องเรียนไปบอกว่าข้อหาผู้ก่อการร้ายมันเกินเลย เพราะเราไม่ได้มีอาวุธ เราไม่ได้ไปทำร้ายใคร เราไม่ได้เผาบ้านเผาเมือง คุณอภิสิทธิ์เองก็แสดงจุดยืนมาตั้งแต่สมัยนั้น แล้วในที่สุดตัวเองก็ได้มาพิสูจน์ในสมัยนี้ ว่าถ้าไม่ผิดก็ไปพิสูจน์กันในศาล ไม่ต้องกลัว แล้วคุณอภิสิทธิ์ก็บอกว่า คุณอภิสิทธิ์ไม่แทรกแซงการทำงานของตำรวจ วันนี้เฉลิมก็บอกเหมือนกัน บอกว่าไม่แทรกแซง ใครจะไปสั่งอัยการได้ คุณเฉลิมเขาพูด

เหมือนกับนักการเมืองเขาจะมีชุดภาษาของเขา ที่เขาจะต้องว่ากันไปเอง ผมเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่อย่างน้อยที่สุดคุณอภิสิทธิ์ยังได้มีสิทธิไปพิสูจน์ในศาล ผมเองก็จะไปพิสูจน์ในศาลเหมือนกัน แต่ผมก็มีบางเรื่องที่ผมไม่มีสิทธิแม้กระทั่งจะไปพิสูจน์ในศาล อย่างเช่นการโดนยิงไง ผมโดนยิงในยุคคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ เรื่องก็เงียบไป ไม่ได้มีการทำต่อสมัยนั้นเลย ตั้งแต่คุณธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เกษียณอายุไป ถูกดึงไปเป็นรองเลขาธิการฝ่ายความมั่นคง ก็เงียบ ไม่มีใครดำเนินคดีต่อ เพราะฉะนั้นผมกลับแย่กว่าคุณอภิสิทธิ์อีก สิทธิที่จะไปพิสูจน์ในศาล ไม่มีเลย คุณอภิสิทธิ์ยังโชคดีที่ได้มีสิทธิ โอกาสไปพิสูจน์ในศาล ก็อย่าไปโทษธาริต เพ็งดิษฐ์ เขาเลย ธาริตเขาก็คงจะ..ไม่รู้สิ ผมว่าเขาก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว สมัยที่เขาขึ้นไปค้านการประกันตัวของนายจตุพร ไง จำไม่ได้เหรอ แล้วก็ไม่ใช่คุณอภิสิทธิ์ กับคุณสุเทพ เหรอ ที่ไปพูดกับศาลบอกช่วยให้ประกันตัวหน่อย คุณธาริตเขาคงจะแค้นตั้งแต่สมัยนั้นล่ะมั้ง

กรองทอง- คือถ้าย้อนกลับไปตอนนั้น คุณธาริตเป็นคนเดียวเลยนะ ที่เดินขึ้นศาลเพื่อที่จะไปคัดค้านการขอประกันตัวของจตุพร แล้วเหมือนกับหัวเดียวกระเทียมลีบ

สนธิ- เพราะฉะนั้นแล้ว คุณธาริต วันนี้ก็เลยพลิกค่าย เทหมดหน้าตัก ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เกหมดหน้าตัก

จินดารัตน์- คบไอ้นี่ดีกว่าคบไอ้นั่น

สนธิ- มันก็ต้องทำใจกันวันนี้ ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรให้มันสะเทือนใจมากไปกว่านี้ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นเรื่องยาว เอาเป็นว่า ผมดีใจที่คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ พร้อมที่จะสู้ในศาล และไม่ยอมให้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขของการปรองดอง ก็ดี ผมเห็นด้วย แต่ก็หมายความว่าก็ต้องทนเอาหน่อยนะ มันก็อีกนาน กว่ามันจะมาถึงวันที่เขาจะพิสูจน์ได้ว่าคุณอภิสิทธิ์บริสุทธิ์ ซึ่งหลายๆ ท่านก็บอกว่า เรื่องนี้ถ้าขึ้นถึงศาลแล้วยังไงก็หลุด เมื่อถ้ามันจะหลุดแล้วก็สู้กันไป เพียงแต่ว่า ผมเชื่อในกฎแห่งกรรมนะ จริงๆ

จินดารัตน์- จะได้ลิ้มรสบ้าง

สนธิ- มันจริงๆ นะใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นจริงๆ ผมถึงบอกว่าเรื่องพวกนี้ผมไม่เคยประมาทเรื่องกฎแห่งกรรม ทำอะไรไว้กับใคร ตัวเองได้รับจริงๆ ผมก็พูดได้แค่นี้ คุณแอน การเมือง

จินดารัตน์- สู้ๆ นะตัวเอง ให้กำลังใจ ไหนๆ ก็จะไปพิสูจน์ในชั้นศาลแล้ว

กรองทอง- แต่ธาริตเขาก็พูดดีนะ เขาบอกว่า ก็ต้องให้มารับทราบข้อกล่าวหาช่วงนี้ล่ะ เพราะว่าเดี๋ยวเปิดประชุมสภาแล้วเดี๋ยวมีเอกสิทธิ์ ไม่ยอมมารับทราบข้อกล่าวหา เขาก็ยอมรับ ไม่ต้องให้มีใครครหาว่าทำไมต้องเร่งรีบให้รับทราบข้อกล่าวหาช่วงนี้

จินดารัตน์- ถูกของเขา

กรองทอง- ถูกของเขาจริงๆ มีอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องที่คุณผึ้ง แอร์โฮสเตส สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค

สนธิ- คุณผึ้งนี่เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้พันธมิตรฯ นะ เขาจะนั่งอยู่แถวหน้าตลอด

จินดารัตน์- ใช่ แอนเห็นพี่ผึ้งบ่อยมาก

สนธิ- เวลาชุมชน เวลาแกว่างเว้นจากการบิน แกก็บินกลับจากฮ่องกงมา แกบินจากฮ่องกงมาแล้วแกก็จะมานั่งเชียร์อยู่ตลอด ผมคิดว่าอย่างนี้ ผมเห็นใจคุณผึ้งนะ แต่ผมก็เห็นด้วยว่ามันจบด้วยดีที่คุณผึ้งตัดสินใจลาออก เพราะว่าตอนที่เกิดเหตุ ผมก็พูดกับชัชวาลย์ ผมบอก ชัช งานนี้ผึ้งมันผิดนะ เพราะว่าประการแรก ยัยอุ๊งอิ๊งจะเป็นใครก็ตาม เขาเป็นผู้โดยสาร เขาเป็นลูกค้าของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค แล้วผึ้งเป็นคนทำงานให้บริการคาเธ่ย์แปซิฟิค ถึงจะแค่คิดก็ตาม แต่ไม่ควรที่จะเอาเรื่องนี้ไปพูดในเฟซบุ๊ก เท่ากับว่าเหมือนเอาความลับของลูกค้าไปเปิดเผย อันนี้ผิดกติกา ซึ่งผมคิดว่าผึ้งเขายอมรับ ผมคิดว่าสิ่งหนึ่งซึ่งผึ้งเขาเขียนในเฟซบุ๊ก ที่สำคัญที่สุดผมคิดว่าน่าจะเป็น 2 พารากราฟ ผมอยากจะอ่านให้ฟัง เขาบอกว่า "ผึ้งขอขอบคุณและเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนๆ ทุกคนที่ให้กำลังใจ แต่กฎระเบียบต่างๆ ที่มีไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยขององค์กร เราในฐานะสมาชิกขององค์กร ก็ต้องให้ความเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเหมือนกัน กฎหมายที่มีไว้เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม ทุกคนก็ควรที่จะเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน ผึ้งจึงอยากให้ทุกคนสนับสนุนการตัดสินใจของผึ้งด้วยนะคะ และโปรดอย่าตั้งข้อรังเกียจสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคในการรักษามาตรฐานของบริษัทเลยค่ะ" ปกป้องบริษัทอีก ไม่ได้โกรธบริษัท

"ผึ้งมั่นใจว่าสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคที่ผึ้งทำงานมานานถึง 24 ปี เป็นสายการบินที่มีมาตรฐานความปลอดภัยและบริการในระดับโลก พนักงานทุกคนได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดและมีความเป็นมืออาชีพสูง เมื่อผึ้งทำผิดกฎข้อบังค้บของบริษัท ผึ้งก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกับทุกคน ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องยอมรับโทษ ถ้าเราทุกคนยอมรับและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของสังคม ทุกคนก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ผึ้งอยากเห็นสังคมไทยเป็นสังคมที่มีกฎระเบียบและเคารพกฎหมาย ประเทศชาติของเราจะได้พัฒนาและมีความสงบสุข" อันนี้สำคัญมาก

จินดารัตน์- นี่คือจดหมายที่เขียนในวันที่ตัดสินใจลาออก

สนธิ- ใช่ นัยของจดหมายนี้ จริงๆ แล้วลึกซึ้งมากกว่าการลาออก ข้อแรก เป็นคนที่รักองค์กร ยังออกมาปกป้ององค์กรอยู่ว่าเป็นองค์กรที่ดี อย่าไปเข้าใจองค์กรผิด ที่ผิดคือฉัน ที่สำคัญที่สุดคือ ยอมรับว่าตัวเองทำผิดก็ต้องรับผลของการทำผิดไป อันนี้น่าจะไปถึงคุณอุ๊งอิ๊งได้ ลูกสาวของทักษิณ ว่าถ้าอุ๊งอิ๊งมีความอับอายขายหน้าบ้าง อุ๊งอิ๊งก็ต้องบอกพ่อว่า พ่อขา แอร์คนนั้นเขารับผิดแล้ว เขาลาออก เขายอมรับเขาผิดกฎ อุ๊งอิ๊งว่าพ่อน่าจะกลับมาติดคุกนะ

จินดารัตน์- กลับมารับผิดบ้าง

สนธิ- มารับผิดบ้าง อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ทำให้อุ๊งอิ๊งขายหน้าเขา ไม่ใช่แอร์คนที่เขารับผิด เขายอมรับกติกา เขาผิดและเขาออกแล้ว แต่พ่อก็ยังอวดดีอยู่ หนีอยู่ข้างนอก แล้วก็เที่ยวไปประชุม ครม.ข้างนอก แล้วสั่งการอายิ่งลักษณ์ ให้อายิ่งลักษณ์ทำโน่นทำนี่ อุ๊งอิ๊งว่าอันนี้มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้านะ อุ๊งอิ๊งทนไม่ไหว มันเป็นความฝันไปหรือเปล่าเนี่ย

จินดารัตน์- ฝันค่ะ ฝันมากเลยค่ะ

สนธิ- ฝันมากเลยใช่มั้ย

จินดารัตน์- มากเกินจริงค่ะ ไม่มีทางฝันจะเป็นจริง เพราะลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น

สนธิ- แต่ผมก็บอกคุณผึ้งเขาไปแล้ว คุณผึ้งเขาก็ได้มีโอกาสได้สนทนากับผม ผมบอกว่า ผึ้ง ต้องถือว่าธรรมะจัดสรรนะ เพราะว่าเขาอยู่คาเธ่ย์แปซิฟิคมา 24 ปี คนๆ หนึ่งทำงานบนอากาศ บนเครื่องบิน มา 24 ปี ต้องถือว่าเป็นเวลาที่นานมากพอสมควรแล้ว ปีนี้ 47 แล้ว คุณผึ้ง รู้สึกจบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มั้ง จบ มช. จบ 23 ก็เป็นแอร์เลย 24 ปี ผมว่าถึงเวลาแล้วมาเริ่มชีวิตใหม่ดีกว่า แล้วผมคิดว่าคนอย่างเขาทำอะไรก็เจริญ เพราะทำไมรู้มั้ย ข้อแรกเขาเป็นคนรักชาติรักบ้านรักเมือง เขาเป็นคนรักชาติมากนะ ข้อที่ 2 ที่สำคัญคือ เขาเป็นคนรู้ผิดชอบชั่วดี

จินดารัตน์- ยับยั้งชั่งใจได้

สนธิ- ยับยั้งชั่งใจได้ และที่สำคัญที่สุดคือ เขาเป็นคนกล้ายอมรับผิด อันนี้ต้องถือว่าเป็นคุณสมบัติที่เลอเลิสประเสริฐศรี ใครก็ตามที่รู้ว่าตัวเองผิดและยอมรับผิด ต้องให้การยกย่องเขา

จินดารัตน์- แมนกว่าบางคนอีก

สนธิ- แมนกว่าบางคน แล้วแมนกว่าหนังสือพิมพ์บางฉบับที่แถ สีข้างถลอกไปหมดเลยตอนนี้ เขามีคำพังเพยว่า เถียงข้างๆ คูๆ ใช่มั้ย แต่มติชนนี่กระโดดลงคูเถียงเลย ไม่ใช่ข้างๆ คูๆ แล้ว แล้วผึ้งยังมีความใจถึงมากกว่านายฐากูร บุญปาน อีก แล้วก็นายขรรชัย บุญปาน มีความนักเลง

จินดารัตน์- ภาษาวัยรุ่นเขาบอก โห โคตรแมนเลย

สนธิ- โคตรแมนเลย ภาษาอังกฤษเขาเรียก Cool

กรองทอง- แล้วตัดสินใจแบบเด็ดเดี่ยวด้วยนะ

จินดารัตน์- แล้วก็ไม่ได้เสียใจในสิ่งที่ตัวเอง ..

สนธิ- รายได้เขานะ ผมคุยกับเขา ตกเดือนละแสนกว่าบาทนะ รายได้ทั้งเงินเดือน ทั้งค่าบิน อะไรพวกนี้ คนจู่ๆ รายได้หายไปเดือนละแสนกว่าบาทนี่นะ บางคนต้องร้องห่มร้องไห้ ตีโพยตีพาย เขาไม่ ที่สำคัญคือคนที่ไปประท้วงที่สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค ผมอยากจะรู้ว่าจริงๆ แล้วพวกคุณมียางอายกันบ้างหรือเปล่า คือชาติบ้านเมืองที่มันฉิบหายทุกวันนี้ ก็เพราะว่าไอ้คนที่คุณเทิดทูนบูชา คุณเคยไปประท้วงเรื่องพวกนั้นบ้างมั้ย หรือคุณเคยไปทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองบ้างมั้ย แต่นี่คุณไปประท้วงเพียงเพราะว่าลูกสาวคนๆ หนึ่งซึ่งเป็นอาชญากร ที่เป็นนักโทษ โดนแอร์คนหนึ่งเขียนลงไปในเฟซบุ๊ก แล้วเขาไม่ได้ทำ คุณโกรธเคืองแทนเขา แล้วประเทศชาติที่ฉิบหายทุกวันนี้เพราะคนๆ หนึ่งทำให้ฉิบหาย คุณเคยสนใจบ้างไหม คนพวกนี้ที่ไปประท้วงนี่คือตัวปัญหาของประเทศชาติ

เมืองไทย คนที่มีอวิชชามันเยอะจนกระทั่งไม่รู้จะทำอย่างไร และสังคมไทยได้รัฐบาลแบบไหนสะท้อนให้เห็นคุณภาพคนในสังคม

กรองทอง- วิธีการที่แสดงออกต่อคนไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลจะเป็นวิธีแบบนี้ ขับไล่ ไล่ล่า

สนธิ- มีอยู่แค่นี้ เป็นพวกถ่อย

กรองทอง- เขาบอกต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

สนธิ- ประชาธิปไตยอะไรของคุณ พวกนี้ไม่เข้าใจประชาธิปไตย คนโง่จะถูกหลอก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับคนพวกนี้ กลุ้มใจ ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอะไร

คลิก! อ่านต่อ


กำลังโหลดความคิดเห็น