พท.ยกผลโพลโวรัฐบาลสอบผ่านญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เตรียมแถลงผลงาน 1 ปีรัฐบาลผ่านทีวี วิทยุ 15 ธ.ค. “หมวดเจี๊ยบ” พิลึกโยน “เสธ.อ้าย” รับผิดชอบแอร์โฮสเตสสายการบินดังโพสต์ข้อความอยากสาดกาแฟใส่ “แพทองธาร”ยัน พท. พร้อมส่งคนชิงผู้ว่าฯกทม. อ้างพบรองผู้ว่าฯ กทม.ซุ่มหาเสียงให้ “สุขุมพันธ์” ขู่ส่ง กกต.สอบ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคประเมินการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมาว่า การทำหน้าที่ของส.ส.แม้ไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็สอบผ่าน ส่วนผลการสำรวจความคิดเห็นต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ผลโพลของพรรคตรงกับโพลทั่วไปโดยพบว่า ฝ่ายค้านสอบตกเนื่องจากมุ่งโจมตีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประชาชนเริ่มเบื่อหน่ายการเมืองที่มุ่งแต่จะโจมตีกันเป็นรายบุคคล อาทิ การอภิปรายถึงนายกรัฐมนตรีในประเด็นเล็กน้อยในเชิงเสียดสี ดูหมิ่น เช่น การพูดผิด ก็นำมาอภิปรายอย่างหนักทั้งที่เป็นเรื่องของคนทั่วไปที่ใครๆ ก็ย่อมมีการพูดผิดกันบ้าง
“วันนี้อยากเห็นการจับมือกันทำงานเพื่อประเทศ ไม่ใช่วันๆ จ้องแต่จะล้มรัฐบาล หากพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ปรับท่าทีอาจจะถูกโดดเดี่ยว ดูได้จากกรณีที่พรรคฝ่ายค้านแทบทุกพรรคยังยกมือให้กับนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศต่อไป อย่างไรก็ตามพรรคมอบหมายให้รัฐมนตรีติดตามผลของการอภิปรายด้วยว่า เรื่องใดมีใครเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือข้าราชการ ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบเอาผิดทันที เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง”
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า พรรคจะทำการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 1 ปี ผ่านทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกช่อง ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป โดยเนื้อหาสาระจะเป็นการทำงานที่ได้ทำไปแล้วตามนโยบาย เช่น ด้านเศรษฐกิจ สังคม และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับทราบ จากนั้นก็จะนำเข้าสู่การแถลงผลงานต่อรัฐสภาเมื่อมีการเปิดสมัยประชุม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค. พร้อมกันนี้พรรคได้จัดทำวีซีดี ความยาว 15 นาที รวบรวมผลงานรอบปีที่ผ่านมาและนโยบายที่จะทำในปีต่อไปให้ส.ส.นำไปอธิบายต่อประชาชนและขอความร่วมมือส.ส.ทุกเขตให้เข้าถึงประชาชนตามที่ได้รับการไว้วางใจให้มากที่สุดด้วย
สำหรับเนื้อหาที่จะแถลงผลงานตามที่พรรคได้ประเมินนั้นพบว่า การดำเนินนโยบายมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 70 และได้ประเมินข้อดีข้อด้อยของนโยบายจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และรับฟังรายงานสรุปจากรัฐมนตรีที่รับผิดชอบแต่ละกระทรวงแล้ว ซึ่งนโยบายไหนดีแล้วก็จะให้รัฐมนตรีเร่งดำเนินการให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องรอให้ครบเทอม 4 ปี
ด้านร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเพื่อไทยขอลงมติว่าฝ่ายค้านติดเอฟ โดยเฉพาะพฤติกรรมอภิปรายที่ก้าวไม่ข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ มุ่งทำลายรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ลักไก่อภิปรายในประเด็นที่ไม่ได้ยื่นถอดถอน ปฏิบัติหน้าที่แบบมีอคติ ไร้วุฒิภาวะ ใช้อารมณ์เหนือเหตุผลทำให้เกิดการปิดกั้นสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเพราะเอาแต่เล่นเกมการเมืองมากเกินไป
ร.ท.หญิงสุณิสา แถลงว่า สืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่ผ่านมาภายใต้การนำของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ที่ระบุว่าควรมีการติดอาวุธให้กับผู้ชุมนุมนั้น พรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วงเพราะล่าสุดมีกรณีความรุนแรงเกิดขึ้นกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยแอร์โฮสเตสที่ตกเป็นข่าวก็ได้กล่าวยอมรับผ่านทางเฟซบุ๊กของตัวเองแล้วว่า ที่ต้องการสาดกาแฟใส่หน้า น.ส.แพทองธาร เพราะรับไม่ได้ที่พล.อ.บุญเลิศยุติการชุมนุม และมีความเกลียดตระกูลชินวัตรซึ่งเป็นทัศนคติที่รุนแรง
ทั้งนี้อยากถาม พล.อ.บุญเลิศว่าจะรับผิดชอบอย่างไรเพราะเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยยอมรับความเห็นที่แตกต่างและสิทธิการชุมนุม รวมทั้งการดูแความปลอดภัย แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงคือการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ดังนั้นขอให้พล.อ.บุญเลิศทบทวนท่าทีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอีก และขอให้กรณีของน.ส.แพทองธาร เป็นกรณีสุดท้ายที่มาจากทัศนคติที่เป็นอันตราย
นายจิรายุ กล่าวว่า ตนก็เคยเจอเหตุการณ์และได้รับการปฏฺิบัติที่ไม่ดีนักจากแอร์โฮสเตสสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคด้วย เช่น การชักสีหน้าไม่พอใจ หรือขอกาแฟก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ส่วนกรณีที่เป็นข่าวนั้นไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครทั้งนั้น ต้องแยกแยะระหว่างความชอบ อารมณ์ส่วนตัว และการปฏิบัติหน้าที่ พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนมีการศึกษาทำกัน ตนขอประณามพฤติกรรมของแอร์โฮสเตสคนดังกล่าวอย่างรุนแรง เราเป็นผู้โดยสารจะมั่นใจได้อย่างไรว่าถ้ามีความคิดเช่นนี้จะไม่มีการแอบใส่สิ่งสกปรกหรือของแปลกปลอมลงไปให้ผู้โดยสารที่ไม่ชอบหน้ากิน ต่อไปถ้าแอร์โฮสเตสหรือสจ๊วตนำเรื่องความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงมาแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ก็จะเกิดปัญหายุ่งยากไปใหญ่ ดังนั้นขอให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
นายจิรายุ กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยมีความพร้อม โดยจะเน้นนำเสนอนโยบายมากกว่าตัวบุคคล ทั้งนี้ พรรคได้ให้นโยบายติดตามการใช้อำนาจของผู้บริหารฝ่ายการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ใน กทม. ทั้งในส่วนของผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ กทม. ดังนั้นตนขอเตือนว่าต้องแข่งขันกันแบบยุติธรรม อย่าใช้กระสุนดินดำหรือใช้อำนาจเก่าที่มีอยู่ในมือ เพราะทีมเจาะเกาะติดลงพื้นที่เฝ้าระวังในกทม.ทุกเขต ได้เห็นการปฏิบัติตนไม่เป็นกลางจำนวนมาก และพฤติกรรมของผอ.เขต เจ้าหน้าที่กทม.บางคนที่เอื้อประโยชน์ให้กับบางพรรคการเมือง สามารถบันทึกภาพคนไปยืนแจกหนังสือเอกสารประชาสัมพันธ์ตัวนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.ตามสถานีรถไฟฟ้า แต่เนื้อหาด้านในเป็นการหาเสียงอย่างชัดเจน เพราะเป็นการแจกแจงผลงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ซึ่งได้รวมรวมข้อมูลพยานเอกสารหลักฐานเพื่อร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว เนื่องจากขณะนี้อยู่ในระหว่างที่มีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง กทม.