xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 23 พ.ย. 2555 (ต่อ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ช่วงที่ 3

จินดารัตน์- กลับมาอีกช่วงหนึ่ง คุณเติมข้องใจ มาไม่ทันช่วงคุณสนธิวิเคราะห์ว่า ทำไมผู้นำเราถึงเป็นเยี่ยงนี้ได้ คุณเติมคิดอย่างไร

เติมศักดิ์- เรื่องที่สื่อตะวันตกมองว่า

จินดารัตน์- เขาใช้คำแรงนะ

สนธิ - playful glances ภาษาไทยคือ เล่นหูเล่นตา flirt คือการให้ท่า ผมคิดว่าการที่หนังสือพิมพ์เขียนขนาดนี้ เป็นการเขียนแบบไม่ให้เกียรติเลย คล้ายๆ ว่าโอบามาได้เปรียบ คนที่เสียคือ ยิ่งลักษณ์ เพราะเป็นผู้หญิง

จินดารัตน์- มีความเห็นของคนไทยในแมรีแลนด์ เขียนจดหมายมาว่า มีโอกาสอ่านข่าวจากสื่อ มีความรู้สึกคลื่นไส้ เพราะนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ตอกย้ำ(โดยภาษากายที่สาธารณะได้เห็น) ถึงข้อนินทาที่ชาวต่างประเทศมีต่อหญิงไทยอยู่แล้ว เธอเป็นคนไม่มีศักดิ์ศรี ไม่รู้จักการวางตัวในสังคม ขาดบุคลิกภาพ คงไม่เคยได้รับการสั่งสอน อบรม เปิดโอกาสให้ชาวโลกวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่จำเป็น และเราต้อง และเราต้องระทมทุกข์กับความอับอายในการประพฤติปฏิบัติตัวของเธอ และความมักง่ายของนายทักษิณและข้าราชการหลายคนที่ทำกับประเทศบ้านเกิดเมืองนอน

สนธิ - เป็นความเห็นที่สมบูรณ์มาก แต่อย่างที่ผมบอก ผมมองอีกมิติหนึ่ง มิตินี้ผมไม่ได้ปฏิเสธ แต่ผมจะเพิ่มมิติในเรื่องออทิสติก

เติมศักดิ์- ผมเห็นด้วยว่า สื่อตะวันตก รวมทั้งสื่อไต้หวัน ทำเกินเหตุ

สนธิ - คำถามว่า เขาทำเกินเหตุหรือคนของเราทำเกินเหตุก่อนเขาเลยทำเกินเหตุบ้าง

จินดารัตน์- เพราะถ้าไม่มีต้นเหตุ

เติมศักดิ์- คนที่ชอบทักษิณ คนที่ชอบยิ่งลักษณ์ จะต้องทำใจว่า ที่เขาวิจารณ์อย่างนี้เพราะต้นเหตุคือ ยิ่งลักษณ์

สนธิ - ต้นเหตุ ทำไมยิ่งลักษณ์ถึงเป็นคนอย่างนี้ นั่นคือมิติของผม ผมพยายามมองว่า เขามีความพิการทางสมอง เพราะเขาเป็นออทิสติกอ่อนๆ

จินดารัตน์- มีความบกพร่องการควบคุมอารมณ์

สนธิ - ที่พูดไม่ได้แก้ตัวให้เขา แต่เป็นการอธิบายความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นอย่างนี้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วคนจะผิดซ้ำผิดซากไปได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นพฤศจิกาคม ประเทศซิดนีย์ จังหวัดหาดใหญ่ แล้วมีความรู้สึกเฉยๆ กับการทำผิดพลาด ไม่ตื่นเต้น ไม่เดือดร้อน และมีความรู้สึกว่า ทั้งที่ตัวเองรู้ว่าภาษาอังกฤษไม่ดี แทนที่จะใช้ล่ามก็ไม่ใช้ นี่คือลักษณะการอยากแสดงออกของคนเป็นออทิสติก ออกโชว์ออฟ ถ้าเป็นคนธรรมดาสามัญ จะรู้สึก ภาษาอังกฤษฉันไม่เก่ง ขอใช้ล่าม หรือมีความรู้สึกว่า ฉันพลาดมาหลายครั้ง

เติมศักดิ์- แม้แต่การอ่านแถลงการณ์ในทีวีพูลเมื่อคืน บอกว่าม็อบมีแนวโน้มรุนแรงต้องประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่รู้รู้ตัวรึเปล่าว่า ตัวเองเคยอยู่ในม็อบเผาบ้านเผาเมือง

สนธิ - ดูซิว่าตัวเองเคยอยู่ในม็อบเผาบ้านเผาเมืองรึเปล่า ซื้อแฮมเบอร์เกอร์ ซาลาเปาไปแจก ตัวเองก็อยู่ในม็อบ เป็นคนไม่มีความจำอะไรทั้งสิ้น คำที่อ่านแถลงการณ์ เนื่องจากตัวเองไม่ได้เขียน มีคนเขียนให้ก็อ่านใหญ่เลย อ่านเป็นนกแก้วนกขุนทอง

จินดารัตน์- เห็นแล้วว่ามีการตัดต่อนับสิบครั้ง เราทำทีวีเราจะรู้ว่าเวลาอ่านสคริปต์ต่อเนื่องเป็นอย่างไร ดูจะสังเกตเห็น แสดงว่าต้องเทกหลายครั้ง

เติมศักดิ์- ให้คุณสนธิวิเคราะห์ม็อบ เสธ.อ้าย พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร

สนธิ - พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยแกนนำของพวกผม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง คุณพิภพ ธงไชย ตัวผม และ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ มีมติเป็นเอกฉันท์ รวมทั้งพันธมิตรฯ รุ่น 2 ด้วยว่า เราจะไม่เข้าร่วมม็อบนี้ ที่เราไม่เข้าร่วมไม่ใช่เรารังเกียจ แต่เรามีความรู้สึกว่าเรากำลังทำงานให้ชาติบ้านเมืองอีกวิธีหนึ่ง เช่น การที่เราเร่งเสนอ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมใหม่ เรากำลังจะเสนอแก้กฎหมายคอร์รัปชัน ว่าการคอร์รัปชันต้องไม่มีอายุความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมมีความเชื่อว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงได้2 ลักษณะ ลักษณะหนึ่งคือว่า คนที่เปลี่ยนแปลงได้มีอยู่กลุ่มเดียวเท่านั้นคือ ทหาร เราต้องมีทหารที่มองปัญหาทะลุ รู้ว่าขืนปล่อยให้เหตุการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ต่อไป ชาติบ้านเมืองพังทลายแน่นอน ทุกอย่างนะครับ และต้องไม่เป็นทหารที่เห็นแก่ได้ ที่เห็นแก่งบประมาณที่จะได้จากรัฐบาล เพื่อมาซื้ออาวุธตัวเองจะได้มีค่าคอมมิชชั่น หรือไม่ใช่เป็นทหารที่แอบไปรับเงินฝ่ายตรงข้าม รับเงินฝ่ายทักษิณมา เพื่อไม่ให้แก้ไขปัญหาต่างๆ

เพราะฉะนั้นถ้าทหารไม่ขยับบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไม่ได้ มีอีกมิติหนึ่งต่อเนื่อง ถ้าทหารขยับเหมือน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินขยับ แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร นี่คือคำถามซึ่งท้าทายมาก ถ้าต่อไปแล้วจะมีคนอย่าง พล.อ.สุรยุทธมา ถ้าอย่างนั้นต้องใช้ออปชัน 2 ดีกว่า ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นไปอย่างนั้น ออปชัน 2 นี่ผมเชื่อและผมคิดคือว่า หลายคนตำหนิผมว่า ผมแช่งประเทศไทยหรอ ผมไม่ได้แช่ง สังคมไทยเป็นสังคมของความด้อยปัญญา จะมีเฉพาะพวกพันธมิตรฯ และคนอีกไม่มากที่เข้าใจปัญหาจริงๆ พันธมิตรฯ เข้าใจปัญหาว่า ปัญหาบ้านเมืองอยู่ที่ไหน แต่ที่เหนือแล้วเขาเรียกว่า ประชาชนลั้นลา ไม่เดือนร้อน

เติมศักดิ์- ไม่รู้ร้อนรู้หนาว

สนธิ - น้ำมัน 3 ลิตร 100 กว่าไม่รู้สึก ช่างมันกูทนได้ทนไป เขาให้ส่วนลดซื้อรถยนต์คันหนึ่ง แสนหนึ่ง ซื้อก่อนซื้อมาแล้วฉิบหายเป็นแถว ปีหน้าดูโดนยึดรถกันแหลกราญ หรือว่าสื่อมวลชนเองเป็นตัวเหตุ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น สนใจแต่เรื่องส่วนตัว สนใจแต่ประโยชน์ตัวเอง เหมือนกับชาติบ้านเมืองมันเป็นอะไรบางอย่างที่ทุกคนยอมเห็นให้มันเดินไปโดยไม่มีทิศทาง แล้วมันจะฉิบหายก็ปล่อยให้ฉิบหายไป เพราะฉะนั้นแล้วผมถึงบอกว่า ต้องปล่อยให้ชาติล่มสลาย เมื่อล่มสลายแล้วไอ้คนที่ลั้นลา ตัวนี้จะกลับกลายเป็นพลังที่ย้อนกลับมา และจะทำให้ประชาชนทั้งประเทศเริ่มเปลี่ยนแปลงประเทศได้

ข้อที่ 1 คุณเอาเงินที่ไหนมาจำนำข้าวต่อ 7 แสนล้านบาท ที่ต้องเพิ่มจากของเก่า ข้อที่ 2 คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง พูดมาแล้วว่า การจำนำข้าวครั้งนี้ถ้าจะขาดทุนไม่เกิน 3 แสนล้าน แต่ไม่เคยมีใครคิดอีกมุมหนึ่งว่า แล้วมึงเรื่องอะไรทำให้รัฐบาล ประเทศไทยต้องขาดทุน 3 แสนล้าน ใครได้ 3 แสนล้าน ชาวนาได้กี่เปอร์เซ็นต์ อันที่ 3 น้ำมันที่จะขึ้นต่อไป 4. หนี้สาธารณะ ทันทีที่เขาเซ็นอนุมัติ หรือผ่านการกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ในการเป็นงบแก้น้ำท่วม จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มเป็น 47-48 เปอร์เซ็นต์ จะถึง 50 เปอร์เซ็นต์

เติมศักดิ์- จะชนเพดานแล้ว

สนธิ - ชนเพดาน ประเทศไทยมีปัญญาไหม ที่จะมาบริการหนี้ก้อนนี้ แล้วอีกไม่นานจะเอาหนี้ที่จะสร้างเพิ่มอีก 2 ล้านล้านเข้า ถ้า 2 ล้านล้านเข้านี่ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ความสามารถของเราในการใช้หนี้ ในการหาเงินเข้ามามันน้อย ของเราหาได้เพียง 15 เปอร์เซ็นต์จีดีพี ใช่ไหม เท่ากับว่าเราหาได้น้อยกว่าหนี้ 4 เท่า ที่มาใช้บริการหนี้ เพราะฉะนั้นแล้วข้าวยากหมากแพงแน่นอนปีหน้า การล่มสลายทางเศรษฐกิจแน่นอนที่สุด เอกชนอาจจะรอด แต่ประชาชนจะลำบากมาก หนี้เสียธนาคารจะเริ่มสูงขึ้น ธุรกิจจะเริ่มล้มละลายกันมากขึ้นมหาศาล รัฐบาลจะไม่มีตังค์ เวลารัฐบาลไม่มีตังค์มันไม่มีจริงๆ นะ คุณจะเอามาจากไหน เพราะนักการเมืองยังโกงกินอยู่ เพราะฉะนั้นแล้วโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่างจะฉิบหายหมด งบประมาณจะปิดหีบไม่ได้ จะไม่มีงบประมาณเข้าไป เพราะว่าเมื่อเป็นหนี้ 2 ล้านล้านแล้ว จะเร่งสร้างงบประมาณ จะตั้งงบประมาณใหม่เพื่อเป็นงบประมาณขาดดุลต่อไปเรื่อยๆ ตายห่าแล้วงานนี้ นั้นคือการพินาศฉิบหายของประเทศไทยในปีหน้า พอถึงตอนนั้นคนตกงานจะเยอะขึ้น ชาวนาขายข้าวไม่ได้ เพราะรัฐบาลมันไม่มีสิทธิ์ที่จะไปจำนำข้าวต่อปีหน้าอีก เพราะข้าวปีนี้ไม่รู้จะเอาไปขายใคร ถูกไม่ถูก

เติมศักดิ์- ไปไม่ได้

สนธิ - ไปไม่ได้ ไม่มีทางไปได้เลย ไม่มีทาง รถยนต์โดนยึด แบงก์เริ่มมีเอ็นพีแอลสูงขึ้น กิจการเริ่มปิด แม้กระทั่งแบงก์บางแบงก์จะถูกบังคับให้เพิ่มทุน เหตุผลเพราะว่าทุนต่ออัตราส่วนหนี้มันเริ่มน้อยลงแล้ว ถูกไม่ถูก แบงก์จะต้องรัดเข็มทันที จะต้องไม่ปล่อยกู้ นี่แหละมันคือวันที่เรียกว่า ไฟลามทุ่ง แต่มันฉิบหายไปแล้วจะทำอย่างไรได้ ถูกไม่ถูก ด้วยเหตุนี้ถึงตรงนั้น การปฏิวัติประชาชนอาจจะเป็นไปได้ เพราะตอนนั้นคนจะบอกว่า จะเริ่มเข้าใจแล้วแม้กระทั่งเสื้อแดงบางคนจะเริ่มเข้าใจแล้วว่า ที่ลำบากกันทุกวันนี้ เพราะปัญหานักการเมือง ถูกไม่ถูก

แล้วในที่สุดเขาจะเห็นว่า นักการเมืองรวยเอารวยเอา แต่ประชาชนนี่จนลงจนลง พวกเสื้อแดงที่ทำมาค้าขายแล้วมาร่วมกับเสื้อแดงจะเห็นว่า ทำไมแกนนำไม่เดือดร้อน มีเงินมีทองใช้กัน แต่ทำไมเขาเดือดร้อนมาก เขาลำบากมาก ประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้ตรงนี้ ตรงนี้ที่เรามองว่า ถ้าจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยเปลี่ยนตรงนี้ แต่ด้วยความเคารพผมคิดว่า สิ่งที่ เสธ.อ้ายทำนั้น เป็นการระบายความรู้สึกของคนที่อึดอัดใจ และอดทนไม่ได้ คือต้องเข้าใจว่า พันธมิตรฯ มีอยู่ส่วนหนึ่งที่รับไม่ค่อยได้ ยิ่งมีความรู้สึกอคติส่วนตัวกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งผมพยายามให้มองในมิติที่เขาเป็นออทิสติก แต่คนพวกนี้จะรับไม่ได้ ยิ่งคุณยิ่งลักษณ์ไปให้ท่าเขา หรือไปเล่นหูเล่นตา ผู้หญิงที่เป็นพันธมิตรฯ หรือผู้หญิงที่ไม่ชอบทางฝ่ายคุณยิ่งลักษณ์ยิ่งรับไม่ไหว แล้วมาเจอคำขู่ขวัญของเฉลิม อยู่บำรุง เลยมีความรู้สึกว่า ต้องมาร่วมม็อบ เสธ.อ้าย ซึ่งผมคิดว่า ไม่ผิดถ้าจะไประบาย แต่เป็นเพียงแต่ผมอยากจะให้ไปด้วยสติ จนกระทั่งผมยังไม่รู้เลย ยังเห็นข่าวล่าสุดยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คือบอกว่า เสธ.อ้ายบอกว่า มีทีเด็ด ผมไม่รู้ว่ามีทีเด็ดอะไร ในฐานะเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อันนี้พูดเรื่องส่วนตัว ถ้าผมจะไปร่วมกับใครถ้าเขามีทีเด็ดแล้วเขาไม่บอกผม ผมไม่รู้เหมือนกันนะ ผมก็ต้องกลัว เพราะผมต้องระวัง เพราะว่า 7 ตุลาฯ มันเป็นบาดแผลที่มันอยู่ในใจผมไม่มีวันหาย ลแวผมกลัวมากเรื่องนี้ บางคนเขาบอกว่า มันจะต้องมีเรื่อง ผมก็ไม่รู้มันจะมีเรื่องได้อย่างถ้าไม่มีการหาเรื่อง คำถามมีอยู่ว่า แล้วจะมีการหาเรื่องหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ แต่ว่าผมก็บอกว่า ถ้าพันธมิตรฯคนไหนอึดอัดใจทนไม่ไหวก็ไปเถอะ ทีนี้ปัญหาของ พล.อ.บุญเลิศ ซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลยนะ ไม่เคยเจอ บางคนก็ไปเที่ยวอ้าง แม้กระทั่งวันนี้ตำรวจยังมีลิสต์รายชื่อออกมาเลยว่าผมมีส่วนอยู่เบื้องหลัง หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ASTV ไม่ต้องพูดเลย เพราะเราไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลชุดนี้อยู่แล้วในการทำงานไมต้องมาถาม เราไม่ได้อยู่ตรงข้ามคุณ แต่เราอยู่ตรงข้ามกับสิ่งที่คุณทำ เมื่อผมไม่รู้จักแล้ว ผมก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ผมรู้แต่ว่าถ้าเขาทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี เพื่อให้ประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็น แสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยในรัฐบาลชุดนี้ผมเอาด้วย ผมเห็นด้วย ถ้าพี่น้องอยากไปก็ไป แต่เขาจะทำอะไรต่อ แล้วเขาจะล้มรัฐบาลนี้อย่างไรผมไม่รู้ ไม่เคยมีใครมาเล่าให้ผมฟัง ว่าเค้าจะล้มอย่างไร เพราะผมยังเห็นว่าประเทศไทยถ้าจะเปลี่ยนแปลงมีทหารชุดเดียวที่เปลี่ยนแปลงได้ เปลี่ยนแปลงแล้วมาตั้งคนที่มีคุณภาพมาไปทำงาน แต่ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงแล้วไปเอาคนอย่างคุณสุรยุทธ์ มาผมก็ไม่เอาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นแล้วผมก็เหมือนอยู่ในความมืดเหมือนกันนะ เพราะทุกคนก็บอกว่าเอาให้ครบล้าน คำถามคือครบล้านแล้วยังไง ตอบผมหน่อยซิ คุณจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร

จินดารัตน์- เสธ.อ้าย ประกาศว่า จะไม่มีการเคลื่อนพล

สนธิ - ผมไม่รู้ คือคุณจะประกาศหรือไม่ประกาศผมยังไม่รู้ว่าเมื่อครบล้านแล้วยังไง ซึ่งทางนี้ก็ยังไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าเขามีทีเด็ดอะไรหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆทางฝั่งรัฐบาลโง่แบบสังคังจริงๆ โง่แบบบัดซบเพราะว่ารัฐบาลยิ่งมีเฉลิมเข้ามาด้วย เฉลิมเป็นคนที่เรียกแขกได้เก่งจริงๆ แล้วตัวเองก็เป็นคนขี้ขลาดตาขาวนะ หลบหนี ทุกอย่าง ใช้ตำรวจทำทรมาณตำรวจจากบ้านนอกมาเป็นพันๆเป็นหมื่นคนเลย ข้าวก็กินแต่ข้าวบูด ที่พักก็ไม่มี ที่ขี้ที่เยี่ยวยังไม่รู้จะไปขี้เยี่ยวที่ไหน แล้วยืนอยู่ทั้งวันทั้งคืน ถ้าผมเจอม็อบพวกนี้ผมจะไม่ให้มีตำรวจเลย ผมจะปล่อย เติม คุณจะทำอะไร จะยึดทำเนียบ อ๊ะ ผมให้ยึด คุณจะยึดรัฐสภาผมให้ยึด ยึดแล้วยังไงล่ะ เพราะอำนาจรัฐบาลยังอยู่ เพราะในเมื่อเขายังนับถือระบบรัฐสภาอยู่ นับถือเรื่องมืออยู่ คุณยึดรัฐสภาเขาก็ไปยกมือตรงแถวหอประชุมกองทัพบก ผมเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะให้เต็มใจให้เพราะสนิทสนมกันมาก แต่ที่ผมกลัว ผมกลัวว่าถ้ามีการเปลี่ยนแปลงโดยทหารออกมา ผมกลัวว่าจะเป็นการเปลี่ยนขั้วอีกครั้ง ทำไมรู้มั้ย เพราะบางครั้งทหารมีความรู้สึกอึดอัดใจ แต่ในขณะเดียวกันทหารชั้นผู้ใหญ่บางคนซึ่งกุมอำนาจอยู่มีความรู้สึกว่าถ้าเปลี่ยนแล้วกูต้องได้ มีความรู้สึกว่าถ้าเปลี่ยนแล้ว กูจะได้อยู่งวดเดียวคือว่า สลับขั้ว เพราะถ้าสลับขั้วเมื่อไหร่พรรคทหารใหญ่เลย เพราะทั้งเสื้อแดง เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ จะต้องพึ่งพรรคทหาร เพราะฉะนั้นแล้วพรรคทหารใครเป็นหัวหน้าพรรคก็ตามจะมีสิทธิ์ในการต่อรองเจรจาว่ารัฐมนตรีกลาโหมผมเอาคนนี้นะ ผมขอรัฐมนตรีเพิ่มอีกคนโอเคมั้ย

เติมศักดิ์- เหมือนตอนเปลี่ยนขั้วเมื่อปี 52

สนธิ - ถูกต้อง แต่งวดนี้ข้อเรียกร้องมากกว่าเก่า เพราะถ้าไม่มีทหารจะเปลี่ยนขั้วได้อย่างไร แล้ววันนี้เนี้ย พรรคเพื่อไทยก็มีงูเห่าอยู่หลายกลุ่มที่พร้อมจะไปแล้วถ้ามาแล้วได้ตำแหน่งสลายได้ทันที ตั้งพรรคใหม่ได้นี่ ไม่จำเป็นต้องอยู่เพื่อไทย มีพรรคที่จดทะเบียนแล้วก็สวมใส่เข้าไป ออกมายกมือให้ประชาธิปัตย์ ชาติพัฒนาไม่มีอะไรนี่ คุณบรรหาร ไม่มีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว มีอย่างเดียวขอตำแหน่ง ผมพร้อมจะไปที่ไหนก็ได้ ลงรูขี้รูเยี่ยวผมก็ไป ขอให้ผมมีตำแหน่ง ผมพอใจอย่างนี้แล้ว

ในที่สุดแล้วพรรคทหารก็จะกุมอำนาจประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย วันดีคืนดีถ้าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรไม่พอใจก็มาคุยกับพรรคเพื่อไทยได้ เห็นหรือยัง รักษาสถานภาพตัวเองให้เป็น ผบ.ทบ.ต่อไป รักษาสถานภาพให้ลูกพี่ตัวเองที่อยู่เบื้องหลังมีอำนาจมีผลประโยชน์และเมื่อตัวเองเกษียณอายุ ตัวเองอาจจะไปเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ผมกลัวตรงนี้มากกว่าถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลง เหมือนสมัยประวิตร อนุพงษ์ แต่ว่าถ้าทางพล.อ.บุญเลิศ คิดว่าจะมีทหารออกมาเปลี่ยนแปลงในกระบวนทัพที่เขาเชื่อว่าเปลี่ยนแล้วประเทศชาติจะแช่เเข็งนักการเมือง ผมคิดว่ายาก อาจจะได้ ถ้าหากเขอยอมที่จะให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว พล.อ.อนุพงษ์ เป็นรัฐมนรีกลาโหม แล้วก็ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็น ผบ.ทบ.ต่ออีก 2 ปี ครบ 2 ปีค่อยออกมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหมแล้วพล.อ.อนุพงษ์ ไปเป็นรองนายกฯ นี่คือพรรคทหาร เขามองอยู่แค่นี้ ส่วนชาติบ้านเมืองจะฉิบหายอย่างไรเขาไม่สนใจ เพราะในใจบอกตลอดเวลาว่า คนซึ่งเป็นตัววุ่นประเทศไทยคือ เสื้อเหลืองและเสื้อแดง แต่วันนี้เผอิญใกล้ชิดเสื้อแดงมาก ช่วงหลังใส่หมวกสีแดงตลอด แสดงสัญลักษณ์ให้เห็นว่าพวกเดียวกับคุณ อาละวาดหนัก ไม่เหมือนแต่ก่อน สมัยก่อนพอบอกว่า ยิ่งลักษณ์จะมาพบผม คุณยิ่งลักษณ์จะมาพบประยุทธ์ ประยุทธ์ไม่ให้พบ ตอนนี้ไม่ต้องพบแล้วเดินตามก้นยิ่งลักษณ์ ความเป็นศักดิ์ศรีประยุทธ์หมดแล้ว

หรืออย่างเดียวถ้าจะให้มีการเปลี่ยนแปลงถ้าเขาต้องเป็นคนทำ เขาต้องได้

จินดารัตน์- มีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ ระดับหัวๆ กองทัพอาจไม่อีนังขังขอบแต่ระดับล่างๆ ระดับกำลังพลอาจทนไม่ไหว

สนธิ - มีอยู่แล้วในขณะนี้ ปัญหาคือว่า ทหารมีวินัยสูง เพราะฉะนั้นถ้าทางหัวมีคำสั่งห้ามเขาจะไม่กล้าทำ แต่ผมไม่รู้ ผมทำนายไม่ได้เพราะเรื่องแบบนี้หกคะเมนได้เหมือนกัน ผมสรุปง่ายๆ ผมเห็นด้วยถ้าคุณบุญเลิศออกไปชุมนุมเพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วย แต่ที่ผมไม่เข้าใจ ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย คือแล้วจะจบอย่างไร เปลี่ยนอยู่เรื่อยจุดยืน เสร็จแล้วผมไม่รู้ว่า ที่บอกว่ามีทีเด็ด มันเป็นอย่างไร เพราะผมไม่เคยรู้

จินดารัตน์- เปลี่ยนจุดยืนอยู่เรื่อย กลายเป็นจุดแข็งเขาหรือเปล่า ทำให้ทักษิณกับรัฐบบาลกลัวเพราะเดาไม่ออก

สนธิ - อาจจะมองได้ในลักษณะนั้น แต่ผมไม่ทราบ ส่วนตัวผมไม่รู้จบอย่างไร คุณเติมว่าจบอย่างไร

เติมศักดิ์- ไม่รู้เหมือนกัน

สนธิ - ผมไม่รู้จบอย่างไร ผมไม่อยากออก ถ้าผมไม่รู้คำตอบ

เติมศักดิ์- เปรียบเทียบกับตอนที่เราต้าน พ.ร.บ.ปรองดอง เรารู้ว่าเราจะอยู่จนกว่า

สนธิ - จนกว่าเขาต้องถอย พ.ร.บ.ปรองดอง ถ้าเขาไม่ถอยเราไม่ไป อันนี้ชัดเจน แต่ของเขาผมไม่รู้จริงๆ ผมก็บอกพันธมิตรฯ ถ้าใครอยากไปก็ไป ผมไม่มีสิทธิ์ห้าม อีกอย่างพันธมิตรฯ เป็นคนมีปัญญาทั้งนั้นไม่ใช่โง่ วิเคราะห์เป็น ดูออก ตัดสินใจไป หลายคนบอกพี่หนูขอไปหนูทนไม่ไหว ไม่เป็นไรไป อยากไปแสดงออก อยากไปฟังคนนู้นด่าคนนี้ ตามสบาย แต่ให้ระวังตัวหน่อย ไปอย่างมีสติ อย่าไปทำอะไรที่ดูแนวโน้มแล้วผิดกฎหมาย

จินดารัตน์- เขาขุดบ่อล่อปลาไว้เยอะ

สนธิ - ถ้าผมเป็น พล.อ.บุญเลิศ ผมจะ อย่าเข้าใจผมผิดนะ ผมจะให้เลื่อนการชุมนุมพรุ่งนี้

เติมศักดิ์- เพราะอะไร

สนธิ - จะได้ป่วนไปหมดพวกตำรวจ

เติมศักดิ์- อุตส่าห์มากางเต็นท์ ทำครัว

จินดารัตน์- กลับแล้วเราค่อยชุมนุม

สนธิ - กลับปั๊บเรานัดชุมนุมอีกทีมให้ลงมาอีกที ทำแบบนี้ 3 ทีตาย

จินดารัตน์- เพราะเราอึดกว่าเยอะ

สนธิ - มาจากต่างจังหวัด เบี้ยเลี้ยงก็ไม่ให้ ผู้บัญชาการสั่งผู้การ ผู้การจะคว้กเงินทำไมก็บอกผู้กำกับรับผิดชอบ ผู้กำกับเหงื่อแตก จะเอาเงินที่ไหนจ่ายลูกน้อง เพราะตำรวจใครตำรวจมันคนนั้นต้องดูแล

จินดารัตน์- วันนี้แอนขับรถผ่านเห็นแล้วน่าสงสาร

สนธิ - พวกตำรวจระดับล่าง เขาด่าแม่เต็มไปหมด พามาลำบาก คนเป็นหมื่น ปวดท้องขี้จะไปขี้ที่ไหน

จินดารัตน์- แล้วชุดที่ใส่

สนธิ - ร้อน แดดเปรี้ยงปร้าง

เติมศักดิ์- ที่เรากลัวคือ อย่าให้เป็นอัปรีย์ไปจัญไรมา

สนธิ - อันนั้นคือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด ผมกลัวว่าจะเป็นการเปลี่ยนขั้ว

จินดารัตน์- แล้วเข้าวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม

สนธิ - เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่นิดเดียว

เติมศักดิ์- คำว่า อัปรีย์-จัญไร ไม่หมายถึงแค่นักการเมือง

สนธิ - ตอนนี้มีพรรคทหารเพิ่มอีกพรรค ไม่ได้จดทะเบียนกับ กกต. แต่เป็นคนจัดการเรื่องใครจะเป็นรัฐบาล ทำตัวเยี่ยงนักการเมือง

เติมศักดิ์- เราเคยเรียก พรรคราชการ

สนธิ - นั่นละ พรรคทหารแล้วตอนนี้

จินดารัตน์- คุณเมศพล ถามว่า คุณสนธิคิดว่า การชุมนุมของเสธ.อ้าย จะยืดเยื้อหรือไม่ คาดว่าจะรุนแรงหรือเปล่า ผลที่จะตามมาคืออะไร

สนธิ - ผมไม่รู้จริงๆ มีใครรู้บ้างตอบผมหน่อย

จินดารัตน์- ถามต่อ คุณสนธิคิดว่า เสธ.อ้าย จะทำให้นักการเมืองถูกแช่แข็งตามที่พูดได้หรือเปล่า

สนธิ - ก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน ผมไม่รู้จริงๆ

จินดารัตน์- อยากให้คุณสนธิวิเคราะห์สถานการณ์ชุมนุม

สนธิ - ก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน มีใครรู้บ้าง

จินดารัตน์- เสธ.อ้าย บางทีก็อาจจะไม่รู้

สนธิ - ใช่ ผมว่า พล.อ.บุญเลิศที่ปรึกษาเยอะเหลือเกิน คนนู้นจะเอาอย่างนี้ คนนี้จะเอาอย่างนั้น พล.อ.บุญเลิศจึงออกมาพูดจาไม่เหมือนกันแต่ละครั้ง

เติมศักดิ์- เพราะเป้าหมายหลายอันต้องเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ในระบบ

สนธิ - ผมเข้าใจว่ามีหลายคนมีวาระซ่อนเร้น เลยทำให้ทุกอย่างสับสน คือ พันธมิตรฯ ประชุม เวลาเคลื่อนสังเกตง่ายๆ ประชุมปั๊บเป้าหมายชัดเจน เรามีมติเห็นพ้อง อย่างมากที่สุดเราประชุมรุ่น 1 รุ่น 2 พร้อมกัน ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยบอก ถกเถียงเรียบร้อยงั้นเอาแบบนี้นะ ของเอาเป็นเอกภาพ เราพูดอะไรเราไม่ถอย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามเราประกาศแล้วทำอย่างที่พูด

เติมศักดิ์- มวลชนต้องรับรู้

สนธิ - ต้องรับรู้การตัดสินใจของเรา ทุกคนรู้หมด พอเราตัดสินใจเราจะขึ้นเวที หลังจบเทียนแห่งธรรม เราจะปราศรัย ต่อไปนี้เราจะทำอย่างนี้ๆ เพราะฉะนั้นมวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบาน เพราะว่าแกนนำไม่เคยมีความลับ บอกทุกคนหมดทุกเรื่อง เนื่องจากว่าของเราสันติอหิงสา เมื่อเราสันติอหิงสาเราไม่มีความลับ เพราะเราต้องการมวลชนให้รับรู้ว่า สิ่งที่เราทำเขาโอเคกับเราไหม ถ้าเขาไม่โอเคเราขอความเห็น ทุกครั้งเราจะทำอะไรเราตกลงกันอย่างนี้นะ พ่อแม่พี่น้องว่าอย่างไร ถ้าเห็นด้วยช่วยปรบมือ

เติมศักดิ์- เสธ.อ้ายชอบบอกว่าไม่เกิน 2 วัน

จินดารัตน์- คือสร้างเงื่อนไขให้ตัวเอง

สนธิ - ผมไม่รู้ว่า ทำไมถึงไม่เกิน 2 วัน ทำไมไม่วันเดียว ทำไมไม่ 3 วัน ทำไมไม่ปักหลักพักค้าง คือทุกอย่างต้องมีเหตุผล

เติมศักดิ์- ถ้าเสธ.อ้ายบอกว่ามาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้รัฐบาลเห็นว่ามีคนไม่พอใจมากขนาดนี้แล้วกลับ ยังสมเหตุสมผล แต่ถ้าบอกว่าจะแช่แข็งนักการเมือง ถามว่า 2 วันแล้วยังไงต่อ

สนธิ - ผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นวาทกรรมในยุคแรก เพราะว่าความที่ ถ้าพล.อ.บุญเลิศ ท่านมาทำเพื่อสลับขั้ว อย่างน้อยพันธมิตรฯ เยอะเลยคนไม่ไปร่วม แต่ถ้าบอกแช่แข็งนักการเมือง มันถูกใจพันธมิตรฯ ถึงไปกัน

จินดารัตน์- เพราะคำว่าแช่แข็งมาหลังวันที่ 28 สังเกตว่า วันที่ 28 ยังมีกลุ่มก้อนของพรรคการเมืองขึ้นบนเวที คนเลยเริ่มตั้งคำถาม หลังจากนั้นเสธ.อ้าย ถึงประกาศจะแช่แข็ง

เติมศักดิ์- ไม่เอาอัปรีย์ไปจัญไรมา ไม่ใช่เปลี่ยนขั้ว แต่ต้องการให้หยุดนักการเมือง 5 ปี

สนธิ - คำถามที่ผมถามต่อ แล้วจะหยุดอย่างไร นั่นต่างหากคือหัวใจสำคัญ

จินดารัตน์- อุบไว้ก่อน

สนธิ - เมื่ออุบไว้ก่อนผมเลยไม่กล้าที่จะตัดสินใจ ไม่กล้าออกความเห็น แต่ว่าผมเห็นความตั้งใจที่เขาต้องการแสดงออกถึงความรักชาติรักบ้านรักเมือง ผมเห็นด้วย ผมถึงบอกว่า ถ้าพี่น้องพันธมิตรฯ อยากไปก็ไป แต่แกนนำมีมติแล้วว่าเราไม่ร่วม

จินดารัตน์- อารมณ์ความรู้สึกพันธมิตรฯ ก็มีแบ่งแยกหลายกลุ่ม

สนธิ - แบ่งแยกแต่เขาไม่ทะเลาะกัน เขาขอกันนะ ขอไปนะ

จินดารัตน์- แบ่งแยกในที่นี้หมายถึงว่า กลุ่มหนึ่งรู้สึกว่า แค่ไประบายออก แสดงให้รู้ว่าเราไม่พอใจ ทนไม่ไหว อีกกลุ่มบอก ไปแล้วยังไงต่อ ไปดีไม่ไปดี แต่หลังๆ รัฐบาลเชียร์แขก ไปให้เขาหน่อย ถึงยังไม่รู้ว่าเขาจะไปทำอะไร

สนธิ - ยิ่งปิดกั้นประชาชน ยิ่งล้อมประชาชน ยิ่งเอาตำรวจมามากเท่าไหร่ กลุ่มที่ไม่แน่ใจไปหรือไม่ไปก็จะไปกัน เรียกแขกเก่งไอ้พวกนี้

เติมศักดิ์- อยากให้คุณสนธิวิเคราะห์หน่อยว่า รู้สึกอย่างไรถ้าไป 2 วันไม่มีอะไรแล้วเลิกกลับบ้านใครบ้านมัน มวลชนจะรู้สึกผิดหวังหรือเปล่า

สนธิ - ถ้าให้ผมวิเคราะห์ผมจะมองว่าจะมีคนหลายส่วน ส่วนใหญ่ก็จะมีความรู้สึกโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกหัวร้อนแรง ฮาร์ดคอร์ก็จะไม่พอใจ พันธมิตรฯฮาร์ดคอร์ก็ไม่น้อย ประเภทเมื่อไหร่จะออกสักทีถึงไหนถึงกัน ทำไมเงียบอยู่ คนพวกนี้จะไม่พอใจ แต่ส่วนที่เป็นกลางๆ แล้วไปแล้วก็มีความรู้สึกว่า ผมก็เข้าใจว่าจะมีการระวังตัวมากขึ้นในอนาคต คือผมไม่อยากจะพูดว่าเราคือทัพหลวงในที่สุด เค้าก็ต้องกลับมาให้ทางแม่ทัพทัพหลวงเป็นคนนำอีกที แต่เรานำแบบมีสติ ไม่ซี้ซั้วนำ เค้าก็ยอมรับการนำตรงนี้ไป

เติมศักดิ์- ซึ่งในโอกาสต่อไปคงได้มาวิเคราะห์นะว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

สนธิ - อันนี้น่าสนใจ ผมอยากจะคุยเรื่องนี้มาก ผมอยากจะคุยเรื่องการเมืองสัก 2 เบรกเต็มเลย เอาตั้งแต่ต้นเลย ต้นการเมืองว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้เพราะอะไร ทำไมทหารถึงเป็นอย่างนี้

เติมศักดิ์- เพื่อจะได้มองประวัติศาสตร์แบบไม่ตัดตอนเป็นช่วงๆ มองป่าทั้งป่า

จินดารัตน์- งั้นจากการเมืองไปเรื่องปากท้องบ้างนะคุณสนะ คุณมิ้งค์เพิ่งเรียนจบ ตอนนี้ทำงานเป็นลูกจ้างอยากทำธุรกิจส่วนตัวมีไอเดียธุรกิจแล้วว่าจะทำอะไร อยากขอคำแนะนำว่าควรจะใส่ใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษในการเริ่มธุรกิจครั้งแรก

สนธิ - ผมคิดว่าควรจะใส่ใจเรื่องทุน ถ้าทุนจะทำไม่มีมากพอที่จะทำให้เราอยู่ได้ 1 ปี ข้อที่ 2 ทำธุรกิจตัวเองกับไปเป็นลูกจ้าง ไปเป็นลูกจ้างสิ้นเดือนเค้าก็จ่ายให้เรา ไปทำธุรกิจตัวเองต้องเป็นทั้งลูกจ้างเป็นทั้งเจ้านาย ขี้ข้า เป็นหมดทุกอย่าง ถามว่าทำได้มั้ย ที่ต้องลงไปลุย แล้วต้องทุ่มเทชนิดที่เรียกว่า คนที่เคยทำงานแล้วเป็นผู้จัดการบริษัท จู่ๆ ไปเปิดร้านอาหาร มันต้องไปซื้อกับข้าวเอง คุมอาหาร จับตาดูทุกอย่าง 24 ชั่วโมง ทนได้หรือเปล่า

จินดารัตน์- เตรียมทุนเตรียมใจเตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วคุณวิฑูรถามว่าเศรษฐกิจไทยปี 56 จะเกิดวิกฤตหรือไม่ ถ้ามีต้องเตรียมตัวอย่างไร การลงทุนควรชะลอมั้ย หรือการจัดการหนี้สินหรือเตรียมตัวขอสินเชื่ออย่างไร

สนธิ - ผมว่าเคลียร์หนี้ให้หมดก่อนดีกว่าถ้ามีปัญญานะ เพราะปี 56 ผมเชื่อว่าจะเป็นปีที่เผาจริงแล้ว หนักหนาสาหัสปีหน้า ออมได้รีบออม อะไรที่ของเก่าใช้อยู่จะเปลี่ยนรถใหม่อย่าเพิ่งเปลี่ยน นอกจากไม่เปลี่ยนแล้วยังเอารถไปเปลี่ยนเป็นแก๊ส แทนที่จะใช้เบนซิน ลดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง

จินดารัตน์- คุณมุกดาถามว่า ถ้ามีเงินในบัญชีในธนาคาร ธ.ก.ส.ตอนนี้จะมีความเสี่ยง

สนธิ - ถอนออกมาแล้วเอาไปฝากแบงก์กรุงเทพ แบงก์กรุงไทย หรือแบงก์กสิกรฯ ธ.ก.ส.โดยพื้นฐานเจ๊งแล้ว

จินดารัตน์- ถังแตก

สนธิ - ถังแตกแล้ว

จินดารัตน์- คุณหนู ธรรมะ อยากให้ทำนายว่า ควรลงทุนกับอะไรดีทอง คอนโด หรือ หุ้น

สนธิ - ผมยังเชื่อว่าทอง ทองแนวโน้มจะขึ้นต่อไปเรื่อยๆ จากนี้ไป เพราะว่าผมดูจอร์จ โซรอส มันขายหุ้นมันทิ้งแล้วซื้อทอง คนระดับจอร์จ โซรอส ถ้ามันตัดสินใจทอง แสดงมันเก็งทองจะต้องขึ้นแน่นอน

จินดารัตน์- คุณธวัชชัย อยากให้คุณสนธิพูดถึงเรื่องค่าแรง 300 บาท

สนธิ - ผมไม่เห็นด้วยกับค่าแรง 300 บาท เติม ผมว่าค่าแรงมันต้องลอยตัว ลอยตัวอย่างไรรู้ไหม บางครั้งคนมีฝีมือเขาอาจจะได้เกิน 300 500 ถูกไม่ถูก ในขณะเดียวกันคนที่ไม่มีฝีมือบางครั้งอาจจะได้ต้องได้ต่ำกว่า 300 หรือ 200 แต่ว่า มีข้อแต่อยู่ข้อหนึ่ง รัฐบาลถ้าปล่อยค่าแรงลอยตัว รัฐบาลต้องมีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาทักษะของแรงงาน เพื่อให้ทักษะแรงงานสูงขึ้น เพื่อที่จะไปกิน 400 500 ในอนาคต เพราะฉะนั้นคนอาจจะรับ 200 วันนี้ แต่ว่าถ้าเขาได้ไปพัฒนาตัวเขาเอง เขาจะมีสิทธิขึ้นเป็น 300 400 500 ในอนาคต นี่คือหน้าที่รัฐบาล แต่อีกหน้าที่หนึ่งคือ ต้องปล่อยค่าแรงลอยตัว เพื่อให้นี่คือการตลาดที่แท้จริง เศรษฐศาสตร์การตลาดที่แท้จริง เพื่อให้ค่าแรงมันแข่งกัน สมมุติว่าช่างไฟฟ้า คนที่เดินสายไฟฟ้าเก่ง เขาไม่ได้หรอกวันละ 500 300 ยังไม่ได้ เขาอาจจะได้ 800 900 ใช่ไหมครับ แล้วจากค่าแรงที่มีทักษะสูงมันแข่งกัน จะเป็นคำตอบให้เรากำหนดทิศทางการศึกษาเราได้ เช่น เราต้องไปเพิ่มหลักสูตร หรือไปเพิ่มเน้นอาชีวะ ทางด้านการไฟฟ้า ทางด้านการก่อสร้าง ทางด้านอะไรก็ว่ากันไป เข้าใจหรือยัง ใช่ไหมครับ

ทีนี้เราจะต้องถึงจุดๆ หนึ่ง เราต้องยอมรับว่า ค่าแรงบางอย่างมันอย่างไรมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น คนทำงานในบ้าน คนทำงานในบ้านเดี๋ยวนี้ ถึงจะเป็นพม่าก็ได้ มีใครจ้างต่ำกว่า 5,000 บ้าง ไม่มี อันนี้โดยอัตโนมัติมันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ถูกไม่ถูก ใช่ไหม แต่ว่าถ้าค่าแรงคุณบอกว่าจะต้องเป็น 300 คุณกำลังหมายถึงลูกจ้างที่ขายอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวหรอ ไอ้ตรงนั้นมันต้องเป็นความต้องการทางการตลาดของเขา แต่เราต้องมีโอกาสต้องมีช่องทางพัฒนาทักษะเขาให้ได้ แต่สิ่งที่ทำอย่างไรที่จะพัฒนาให้ธุรกิจขนาดเล็ก เกิดขึ้นได้อย่างมากที่สุด ธุรกิจที่ใช้เงินไม่เกิน 2-5 แสนบาท ธุรกิจเปิดร้านอาหาร ธุรกิจขายส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์เล็กๆ น้อยๆ เอสเอ็มอีจริงๆ เลย คือ เอสเอ็มอีจริงๆ ให้มันมีเยอะ ถ้ามีเยอะแล้วค่าแรงที่มันจะต้อง พนักงานก่อสร้าง แต่เดี๋ยวนี้พนักงานก่อสร้างไม่ได้ 200 มัน 300 อยู่แล้ว เขาหมายถึงใคร 300 เขาหมายถึงคนงานซึ่งทำบริษัทเอสเอ็มอีแล้ว ทำอยู่ในโรงงาน ค่าแรงวันละ 300 เขาสู้ไม่ไหว แต่ว่าถ้าคนพวกนี้มีทักษะได้ไปเรียนรู้ฝีมือโดยที่ไม่ต้องเสียเงินเขาก็ไม่มานั่งทำ 200 กว่าบาทหรอก เขาก็ไปทำงานที่จ่ายเขา 400, 500 เขาก็ไป โรงงานที่จ้างคนราคาถูกมันก็ต้องพัฒนาตัวขึ้นมาทำให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้แล้ว ที่เคยจ้าง 200 ก็จะจ้าง 200 ตลอด แล้วพอค่าแรงจะขึ้นก็จะโวยวายว่าอยู่ไม่ได้

จินดารัตน์- ก็สวนทางกันนะคะ คือวันนี้พอ 300 ปุ้บ SME เจ๊งกันหมด

เติมศักดิ์- มีคุณผู้ชมหลายคนถามว่า ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ที่เรากำลังรณรงค์อยู่ เพื่อทวงคืนพลังงานกลับคืนมาสำเร็จมากน้อยแค่ไหนแล้ว

สนธิ - คืองี้ พอร่างเสร็จแล้วเราพยายามให้ความรู้ประชาชนสักครั้งสองครั้งก่อน ตรงนี้แหล่ะที่เราจะติดต่อรัฐสภาและนายกรัฐมนตรี ตรงนี้แหล่ะที่เป็นจุดที่ประชาชนต้องเข้ามาร่วมมือกัน เราจะเอาประชาชนทั้งประเทศไทยยื่น

เติมศักดิ์- เพื่อทวงอำนาจในการจัดการพลังงานกลับมาสู่ประชาชน

สนธิ - เพื่อทวงทรัพย์สมบัติของประเทศชาติกลับมาแล้วออกมาจัดการให้มีความโปร่งใสให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับประเทศชาติมากที่สุด ตรงนี้ไม่มีใครปฏิเสธเรา พวกเสื้อแดงจะปฏิเสธเหรอนี่สมบัติคุณกับผมนะ นักการเมืองจะปฏิเสธมั้ย ถ้าปฏิเสธแปลว่านี่คุณต้องการโกงชาติใช่มั้ย ตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากเลยในการต่อสู้จะได้รู้เลยว่าใครบ้างที่เป็นนักการเมืองที่ช่วยบริษัทต่างชาติอยู่ ใครบ้างที่เป็นนักการเมือง ใครบ้าง เช่น พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล จะเอาอย่างไรกับ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมตรงนี้ ถ้าพงษ์ศักดิ์ไม่เห็นด้วย แสดงว่าพงษ์ศักดิ์ เป็นนอมินีทักษิณเพื่อมาจัดการเรื่องพลังงานให้ทักษิณ ใช่ไม่ใช่ ชัดเจนกว่าการชุมนุมที่ลานพระรูปฯ หรือเปล่า เป้าหมายชัด แล้วเงลาไปยื่นเราเชิญประชาชนทั้งประเทศไปยื่นพร้อมกัน ไม่มีสีเสื้อ เรานัดกันเลยวันไหนสักวันมั้ย

เติมศักดิ์- แล้วคราวนี้มันไม่ใช่ขั้วเหลืองขั้วแดง

สนธิ - มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติแล้ว ที่เราทนกันมานาน

จินดารัตน์- งั้นเรื่องการเมืองเดี๋ยวต้องเอาไว้คุยกันยาวๆ

สนธิ - เตือนท่านผู้ชมนิดหนึ่งเรื่องนี้

จินดารัตน์- เรื่องข้อมูลภัยพิบัตินะคะ เป็นไฟล์ เราจะส่งให้คุณผู้ชมสนใจทั้งหมด 20 กว่าท่านที่มีการทำนายเอาไว้ทั้งหมด เข้ามาในหน้าคุยทุกเรื่องกับคุณสนธิ หน้าเฟซบุ๊ก มีหัวข้อไว้แล้วแจ้งอีเมลมา เราจะให้ทีมงานส่งอีเมลไปให้

วันนี้หมดเวลาแล้วค่ะขอบคุณเจ้าของรายการ ขอบคุณคุณเติมศักดิ์ และขอบคุณคุณผู้ชมด้วย วันนี้ต้องลาไปก่อน สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น