xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

Woman’s Touch ปรากฏการณ์สะท้าน 3 โลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากไปทั้ง “สามโลก” เลยทีเดียวสำหรับอากัปกิริยาของ “นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีไทยในขณะให้การต้อนรับ “นายบารัค โอบามา” ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาที่เดินทางมาเยือนราชอาณาจักรไทย

ก็จะไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์และถูกนำไปล้อเลียนอย่างไรไหว เพราะภาพแต่ละภาพที่ปรากฏต่อสายตาสาธารณะชน โดยเฉพาะลีลา Woman’s Touch ของนายกรัฐมนตรีไทย นั้น ช่างยั่วยวนด้วยจริตจก้านชวนวาบหวิวเหลือประมาณ ราวกับปรารถนาจะทอดสะพานรักให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรอย่างนั้น กระทั่งเล่นเอาบุรุษเหล็กอย่างนายบารัค โอบามาถึงกับ “เก็บอาการไม่อยู่” ต้องส่งสายตาและรอยยิ้มอันหวานฉ่ำเข้าตอบโต้ ราวกับเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามัน มิ ผิดเพี้ยน

แถมไม่ใช่แค่ครั้งเดียว หากแต่ทั้งสองคนยังแอบ “เล่นหูเล่นตา” ตลอดเวลาระหว่างการพบปะอีกหากหาก

ที่น่าสนใจก็คือ ไม่ใช่แค่ในโลกสังคมออนไลน์และไม่ใช่เฉพาะสื่อไทยเท่านั้น หากแต่สื่อต่างประเทศต่างก็พากันวิจารณ์ พร้อมทั้งล้อเลียนสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างครึกโครม

“เดลิเมล์ออนไลน์” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวของหนังสือพิมพ์เก่าแก่แห่งประเทศอังกฤษพาดหัวว่า The charmer-in-chief: Obama gets flirty as he schmoozes with Thai prime minister on first stop of historic Asia visit จากนั้นก็บรรยายถ้อยความในย่อหน้าถัดๆ มาว่า The president and Prime Minister Yingluck Shinawatra could be seen laughing together and exchanging playful glances through a state dinner at the Government House in Bangkok on Sunday

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เดลิเมล์กำลังมองว่า กิริยาของนายกฯ หญิงไทยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น ประหนึ่งเป็นการ “เล่นรักหว่าน สเน่ห์” ระหว่างผู้นำทั้ง 2

ขณะที่ Weekly World News นำเรื่องไปใส่สีตีไข่ใหญ่โตพาดหัวว่า THAI PM FALLS IN LOVE WITH OBAMA แปลเป็นไทยว่า “นายกฯ ไทยตกหลุมรักโอบามา” ส่วนเว็บไซต์ “ดรัดจ์ รีพอร์ต” ที่ให้คำอธิบายปรากฏการณ์ส่งตาหวานระหว่าง นายกฯยิ่งลักษณ์ของไทยกับประธานาธิบดีโอบามาโดยใช้คำว่า “Flirtasian”

แต่ที่เด็ดที่สุดก็คือ “เคทีย์ วีเอวร์” คอลัมนิสต์สาวแห่งบล็อกเกอร์ข่าวออนไลน์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอย่าง “Gawker” ซึ่งมีฐานอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ระบุว่า ประธานาธิบดีโอบามา วัย 51 ปี ซึ่งมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วกลับแสดงพฤติกรรมที่ไม่ต่างจาก “หนุ่มโสด” ระหว่างช่วงที่ใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดกับผู้นำหญิงของไทยขณะเดินทางเยือนไทยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่สาธารณชนชาวอเมริกัน จำเป็นต้องหยิบยกขึ้นมาถกกัน หลังจากที่ภาพลักษณ์ของผู้นำสหรัฐฯต้องมัวหมองเพราะถูกสื่อต่างประเทศหลายสำนักรุมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม

บทความชิ้นล่าสุดของบล็อกข่าว “Gawker”ระบุว่า ภาพความสัมพันธ์ของโอบามาและน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ปรากฏผ่านสื่อทั่วโลกนั้น ทำให้ยากเหลือเกินที่จะเชื่อได้ว่า ผู้นำทั้ง 2 เป็นเพียงแค่ “เพื่อนกัน” เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ภาพที่ปรากฏสู่สายตาชาวโลกยังทำให้ชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยคิดว่า นายกรัฐมนตรีหญิงของไทยเป็น “สตรีข้างกายแบบลับๆ” ของโอบามา จนทำให้เกิดคำถามตามมาว่า“ใครคือสตรีคนนั้นที่อยู่กับประธานาธิบดีของฉัน?”

ขณะเดียวกันภาพการแสดงออกที่หวานเยิ้มดังกล่าวระหว่างผู้นำสหรัฐฯและไทย ยังถูกเคทีย์ วีเวอร์ คอลัมนิสต์สาว นำมาบรรยายขยายความแบบเจาะลึกออกเป็น 7 ช็อตโดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรงเกินรับไหว

ตามต่อด้วยสื่อจีนอย่าง “ไชน่า เดลี่” ก็ผสมโรงด้วย โดยหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้นำภาพและข่าวชุดเดียวกันออกเผยแพร่ พร้อมกับพาดหัวข่าวเนื้อหาทำนองวิพากษ์วิจารณ์การพบกันครั้งนี้ว่า นายโอบามาและนายกรัฐมนตรีสาวสวยของไทยดูเหมือนจู๋จี๋กันออกนอกหน้า รวมทั้งมีการชี้ให้เห็นถึง “กลิ่นอาย” ความ “เจ้าชู้” ที่ล่องลอยอยู่ในบรรยากาศโดยรอบภาพถ่ายระหว่างผู้นำทั้งสอง

นอกจากนี้ยังมี “ลอเรน วิคทอเรีย เบิร์ก” คอลัมนิสต์หญิงแห่ง “โพลิติก 365” สื่อออนไลน์ชื่อดังของสหรัฐฯ ซึ่งเป็น “กระบอกเสียง” ของชุมชนคนผิวสีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันในสหรัฐฯ ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงภาพความสัมพันธ์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงของไทย โดยระบุว่า หากจะพิจารณาในเชิงความสัมพันธ์ทางการทูตแล้ว ต้องถือว่า ภาพความสัมพันธ์ระหว่างโอบามากับยิ่งลักษณ์ที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกนั้น ถือเป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐฯกับไทยได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี มีการตั้งข้อสังเกตเชิงเปรียบเทียบว่า ภาพความสัมพันธ์ที่ดูดูดดื่มเกินกว่ามิตรภาพทางการทูตตามปกติ ระหว่างผู้นำสหรัฐฯและนายกรัฐมนตรีของไทย แทบจะเห็นแตกต่างได้อย่างสิ้นเชิงกับภาพในยามที่ประธานาธิบดีโอบามา อยู่เคียงข้างกับผู้นำหญิงเหล็กของโลกอย่าง นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี

ลอเรน วิคทอเรีย เบิร์ก ยังทิ้งท้ายว่า บางที ประชาชนชาวอเมริกัน อาจจะมีโอกาสได้เห็นการเดินทางเยือนสหรัฐฯอย่างเป็นทางการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในเร็วๆนี้ รวมถึง การที่นายกฯหญิงของไทยอาจได้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารค่ำกับโอบามา ณ ทำเนียบขาว ในไม่ช้า แต่มีเงื่อนไขว่า นางมิเชลล์ โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งสหรัฐฯที่เป็น “ตัวจริงเสียงจริง” จะต้องยินยอมเสียก่อน

ทั้งนี้ การที่โพลิติก 365 เปรียบเทียบภาพในยามที่ประธานาธิบดีโอบามา อยู่เคียงข้างกับผู้นำหญิงเหล็กของโลกอย่าง นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนีนั้น ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็ไม่เกินเลยไปนัก ยิ่งถ้าหากนำไปเปรียบเทียบกับ “นายเวิน เจียเป่า” นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็จะพบว่า อากัปกิริยาของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่มีต่อนายเวิน เจียเป่านั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

รอยยิ้มอันหวานฉ่ำเหนือริมฝีปากคู่งามและแววตาระยิบระยับเชิญชวนที่ เคยปรากฏขณะยืนอยู่เคียงข้างโอบามานั้น มิได้ปรากฏให้เห็นระหว่างการเยือนของนายเวิน เจียเป่าเลยแม้แต่น้อย

ขณะที่ในประเทศไทย สิ่งที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์หนักก็คือ อากัปกริยาที่นางสาวยิ่งลักษณ์กระทำต่อนายบารัค โอบามานั้น จะกระทำด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่นั่นมิใช่อากัปกิริยาอันพึงประสงค์ซึ่งถูกกาละและเทศะ

แน่นอน คงไม่มีใครปฏิเสธถึงความเซ็กซี่ที่ดำรงอยู่ในเรือนร่างของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ได้ เพราะเมื่อไล่พินิจเรือนร่างของนายกฯ ปูทั้งตัวแล้ว ก็มิอาจมีความเห็นเป็นอย่างอื่นไปได้ว่า เธอเป็นนายกฯ ที่มีแรงดีดสะท้อนทางเพศหรือที่ฝรั่งเขาใช้คำว่า Sex Appeal ที่ไม่แพ้ใครเช่นกัน

ไม่เช่นนั้น นิตยสารสำหรับผู้ชายวัยตกมันอย่าง FHM ฉบับ ประจำเดือนกรกฎาคม 2555 โดยคอลัมน์นิสต์ชื่อดังอย่าง “ดร.เลิฟ” ซึ่งจัดอันดับ 20 สาวสุดเซ็กซี่ในดวงใจตลอดกาล คงไม่ยกตำแหน่งตำแหน่งสาวสุดเซ็กซี่ อันดับที่ 1 ให้ พร้อมเบียดเซ็กซี่ตัวแม่อย่าง อาทิ มาเรีย โอซาวาหรือมิยาบิ , น้องอ้อย-โชระ อาโออิ , เชอรี่ สามโคก , จ๊ะ คันหู หรือกาละแมร์ ไปเป็นที่เรียบร้อย

ไม่เช่นนั้นแล้ว“คริส อากีโน” น้องสาวคนสวยของประธานาธิบดีเบนีโญ อากีโนที่ 3 แห่งฟิลิปปินส์ คงไม่ทวิตเตอร์ชื่นชมว่า “เธอสูง เพรียวบาง และดึงดูดใจมาก!! ในวัย 44 ปี ช่างเหมาะสมกับ PNOy” แสดงความปรารถนาที่จะให้ “คุณปู” มาเป็นพี่สะใภ้หรือใช้ศัพท์ชาวบ้านๆ ว่า อยากได้มาเป็น “เมีย” พี่ชายของเธอที่ยังคงครองตัวเป็นโสดกันเลยทีเดียว

ไม่เช่นนั้นแล้ว ขุนทหารระดับบิ๊กของไทยเชื่องราวกับแมวนอนหวด พร้อมกับดาหน้ากันออกมาปกป้องเธอกันอย่างจ้าละหวั่น เพราะสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งเรือนกายในขณะเดินตรวจแถวทหารกองเกียรติยศมาแล้ว

แต่นางสาวยิ่งลักษณ์คงลืมไปว่า ขณะนี้เธอดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย การวางตัวและอากัปกิริยาของเธอที่สื่อออกไปก็ควรตระหนักและพึงสำเหนียกรู้ให้มาก เพราะล้วนแล้วแต่ทำในนามของประชาชนคนไทยและประเทศไทย ไม่ใช่กระทำในนามส่วนตัวหรือน้องสาวคนเล็กของครอบครัวชินวัตร

จะว่านี่คือปฏิบัติการ Woman’s Touch ดังที่นางสาวยิ่งลักษณ์เคยกล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งในหมู่เกาะทะเลจีนใต้ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นว่า "บางทีดิฉันสามารถนำเอาความเป็นผู้หญิง (Woman’s Touch) เล็กๆ น้อยๆ มาจัดการปัญหาความขัดแย้งนี้ได้" ก็คงไม่ใช่ เพราะนี่ไม่ใช่การนำความเป็นผู้หญิงมาใช้ตามนิยามที่เธอให้ไว้ข้างต้น หากแต่น่าจะเป็นการไม่สำรวมกิริยาโดยใช้ Woman’s Touch ที่ไม่ถูกครรลองคลองธรรมกระทั่งสื่อต่างชาตินำไปล้อเลียนกันอย่างสนุกปาก

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปรากฏข่าวคราวทำนองนี้กับนายกรัฐมนตรีหญิงของไทย และเชื่อว่า สังคมคงยังไม่ลืมภารกิจลับ “ว.5” ที่โรงแรมโฟร์ซีซันส์ที่ดังกระหึ่มเมืองไม่แพ้กัน และกระทั่งจนบัดเดี๋ยวนี้ ก็ยังไม่สามารถอธิบายให้สังคมเข้าใจได้ว่า เธอไปทำอะไรที่นั่น ทว่า ความวัวยังไม่ทันหาย เธอก็แสดง Woman’s Touch ให้ทั้งคนไทยและชาวโลกได้เห็นเป็นคำรบที่สอง

ความจริงถ้าจะว่าไปแล้วก็น่าเห็นใจประธานาธิบดีบารัค โอบามาอยู่ไม่น้อย ก็ใครเล่าจะอดใจได้ไหวในขณะที่มีหญิงสาวระดับเซ็กซี่ตัวแม่แห่ง FHM ส่งสายตาอันหยาดเยิ้มและรอยยิ้มที่ชวนให้วาบหวิวชนิดละลายหัวใจของผู้ชายให้เป็นผุยผงได้เช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการ Woman’s Touch ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น เพราะถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นการสานต่อความสัมพันธ์ดังกล่าวในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและสหรัฐฯ ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพอีกด้วย โดยเฉพาะภาพที่นายบารัค โอบามากำลังพูดคุยกับประธานาธิบดีเบนีโญ อากีโนที่ 3 แห่งฟิลิปปินส์ จะเห็นมือข้างซ้ายของประธานาธิบดีโอบามาที่ยืนออกไปสัมผัสต้นแขนของนายกรัฐมนตรีไทยอีกด้วย

หรือนี่คือปฏิบัติการ Woman’s Touch ที่ได้รับคำสั่งมาจากผู้เป็นพี่ชาย
ไม่เช่นนั้นแล้ว ในการโฟนอินของ นช.ทักษิณเข้ามายังเวทีชุมนุมของคนเสื้อแดงที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พี่แม้วคงไม่ชื่นชมอย่างออกนอกหน้าว่า “เพิ่งฟังสัมภาษณ์สดระหว่างนายบารัค โอบามากับนางสาวยิ่งลักษณ์ ฟังแล้วน้ำตาซึมในน้องสาวตัวเอง”

Woman’s Touch ของน้องปู สมใจพี่แม้วยิ่งนัก

Woman’s Touch ของน้องปูได้กลายเป็น“รูปแบบใหม่ของเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” ที่สมใจพี่แม้วยิ่งนัก
“เดลิเมล์ออนไลน์” แห่งประเทศอังกฤษ ใช้คำว่า flirty บรรยายความรู้สึกที่ได้เห็นปฏิกิริยาของผู้นำทั้งสอง
Weekly World News กับพาดหัวข่าว THAI PM FALLS IN LOVE WITH OBAMA
สื่อจีนอย่าง “ไชน่า เดลี่” ก็ร่วมนำเสนอปรากฏการณ์ Woman’s Touch
ปรากฏการณ์ Woman’s Touchที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก(ใช้เป็นภาพเปิด)



เปรียบเทียบกิริยาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ขณะให้การต้อนรับประธานาธิบดีโอบามาและนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ซึ่งจะเห็นว่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“โพลิติก 365” สื่อออนไลน์ชื่อดังของสหรัฐฯ นำภาพความสัมพันธ์ของประธานาธิบดีโอบามากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งประธานาธิบดีโอบามา อยู่เคียงข้างกับผู้นำหญิงเหล็กของโลกอย่าง นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี

“โพลิติก 365” สื่อออนไลน์ชื่อดังของสหรัฐฯ นำภาพความสัมพันธ์ของประธานาธิบดีโอบามากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งประธานาธิบดีโอบามา อยู่เคียงข้างกับผู้นำหญิงเหล็กของโลกอย่าง นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี

กำลังโหลดความคิดเห็น