ช่วงที่ 3
กรองทอง- ช่วงสุดท้ายนะคะ ช่วงนี้จะมาไล่เรียงคำถาม ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ทยอยๆ ถามเข้ามา รวมไปถึงคำถามล่าสุดที่เข้ามาด้วย เดี๋ยวจะมาถามคุณสนธิกัน ให้คุณสนธิตอบ คุณอ๊อดบอกว่า อยากถามคุณสนธิ ลูกสาวกำลังจะเรียนจบ ม.6 เทอมนี้ ลูกสาวอยากเรียนธุรกิจการบิน ไปสอบ 2 ที่แล้ว ไม่ติด ยังค้างอีก 2 ที่ จะไปสอบต่อดีไหมคะ แต่ตอนนี้สอบได้ครู ทางเลือกผมไม่ค่อยเข้าใจ จะให้ไปหาสอบอย่างอื่นดีหรือทางด้านใดดี
สนธิ- อันแรกนี่ ไม่ควรเรียนเลยธุรกิจการบิน
จินดารัตน์- ทำไมคะ
สนธิ- เหตุผลเพราะว่า ธุรกิจการบินนั้นงานมันมีไม่มาก มันมีข้อที่ 1 คือ แอร์การบินไทย หรือว่าไปสมัครเป็นแอร์ของชาติต่างๆ 2.อันนึงคือ ถ้าจะทำคือเป็นพวกกราวด์พวกนี้ แต่ว่าธุรกิจการบินพอเรียนแล้ว มันเรียนเจาะจงไปทางด้านนี้ ถ้าไม่ได้งานธุรกิจการบิน แล้วคุณจะไปทำอะไร เหมือนกับว่าถูกบีบให้มาเรียนเฉพาะเรื่องนี้โดยเฉพาะ วิธีเรียนผมคิดว่า น่าจะเรียนอะไรที่กว้างๆ มากกว่า ความจริงการสอบเป็นครูได้ สอบเข้าครูได้ไม่เลว คือเพียงแต่ว่าอย่าไปมองว่า อาชีพครูเป็นอาชีพที่ต่ำต้อยไม่ใช่ ถ้าเป็นครูที่ดีจริงๆ มีแต่คนต้องการ ต้องรู้จริงนะ รู้จริงสอนเป็นจริง เอาจริงเอาจัง ผมคิดว่าครูเทียบกับธุรกิจการบินแล้ว สำหรับผมแล้วผมเลือกครูก่อน
จินดารัตน์- เพราะเดี๋ยวนี้หลายโรงเรียน มาตรฐานในการรับครูเข้ามาสูงมาก
สนธิ- สูงมากตอนนี้ และเงินเดือนครูค่อนข้างจะปรับตัวขึ้นสูงตาม
กรองทอง- เรื่องเศรษฐกิจธุรกิจกันบ้างนะคะ อันนี้น่าสนใจ คุณต้นคราฟบอกว่า ตัวแทนลิขสิทธิ์แกรมมีรีดทรัพย์ร้านทุกอย่าง 20 บาท เพราะเปิดเพลงให้ลูกค้าฟัง แล้วยังมีอีกหลายร้านที่โดนลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ยิ่งตำรวจเป็นคนพาพวกนี้มาเองอีกแล้ว ยังขู่ให้จ่ายเงินเพื่อยอมความไป เรื่องจะได้จบๆ ไปไม่ต้องขึ้นศาลปรับเป็นแสน คนที่กลัวจะยอมจ่าย น้อยคนมากจะยอมต่อสู้ในชั้นศาล คุณลุงสนธิมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรครับ
สนธิ- เรื่องนี้นะครับ ง่ายนิดเดียวประการแรก ถ้าหากคุณเอาเพลงเขามาเปิด แล้วคุณไม่ได้ทำมาหากินกับเพลงเขา คือ คุณไม่ได้ไปเปิดเป็นคาราโอเกะ แล้วคิดค่าคาราโอเกะแล้วก็ร้องเพลง สมมุติว่าคุณเปิดร้านอาหารอยู่ แล้วคุณเอาเพลงเปิดเพื่อให้คนฟังให้มีความสุข แล้วคุณคิดค่าอาหาร ไม่ได้บวกค่าเพลง หรือคุณเปิดเพลงไว้ในร้านขายของ ร้านโชว์ห่วยคุณ เข้าใจไหมครับแล้วเขามาจับคุณ คุณสู้ได้ เพราะมีคำพิพากษาออกมาแล้วนะ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8220/2553 คดีนี้พนักงานอัยการ จ.ระยอง เป็นโจทก์ นางสุรินทร์ คำพวง เป็นจำเลย ประเด็นคือว่า เขาบอกจำเลยคือคุณสุรินทร์ คำพวง ประกอบกิจการค้าขายอาหารตามสั่ง และเครื่องดื่ม จำเลยคุณสุรินทร์เปิดแผ่นซีดีเพลง กำลังใจที่เธอไม่รู้ อันเป็นลิขสิทธิ์ของคู่เสียหาย ซึ่งผมไม่รู้ว่าใคร ซึ่งได้มีผู้ทำขึ้นหรือดัดแปลงขึ้นให้ลูกค้าในร้านอาหารจำเลยสั่ง คือ เปิดให้ฟัง ไม่ปรากฏว่า จำเลยเปิดเพลงเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าฟังเพลงโดยการเรียกค่าตอบแทน หรือเรียกเก็บเพิ่มรวมไปกับอาหาร หรือเครื่องดื่มแต่อย่างใดนะครับ
ปรากฏว่า จำเลยถูกอัยการดำเนินการ แล้วจำเลยสารภาพก็ผิดนะ แต่ศาลพิพากษาว่าไงรู้ไหม ศาลพิพากษาว่าการกระทำของจำเลย ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 70 วรรค 2 เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิดของบทมาตราดังกล่าว ซึ่งต้องเป็นการกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์ คือการเปิดคาราโอเกะ การคิดเงินค่าเพลง แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ไม่อาจจะลงโทษจำเลยได้ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศ และวิธีพิจารณาทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิอาญา มาตรา 185 วรรค 1 ตอนหลังโจทก์อุทธรณ์ และฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืนก็ไม่ผิด
เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าไปคุณควรจำเอาไว้นะครับ ใครก็ตามฟังไว้ คดีการเปิดเพลง ให้จำเอาไว้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8220/2553 คำพิพากษาศาลฎีกาหมายเลข 8220/2553 เพิ่ง 2 ปีที่แล้ว ถ่ายเอกสารเก็บเอาไว้ ถ้าตำรวจมาไถเงินก็ยื่นให้ดูว่านี่คือคำพิพากษาศาลฎีกา ถ้าคุณมาเล่นงานฉัน ฉันจะเล่นงานคุณ ฟ้องคุณข้อหา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะศาลฎีกาพิพากษามาแล้ว ตราบใดที่คุณไม่ได้เปิดเพลงและเก็บเงินเขา คุณเปิดเพลงในร้าน คนมากินข้าว คุณอยากจะเปิดเพลงให้เขาฟัง
กรองทอง- ก็สร้างบรรยากาศ
สนธิ- เพื่อสร้างบรรยากาศ หรือรู้สึกกรณีนี้เป็นกรณีที่เขาเปิดร้านขายของ ใช่มั้ย อยู่ในร้านขายของ
จินดารัตน์- ทุกอย่าง 20 บาท
สนธิ- ทุกอย่าง 20 บาท ก็คือไปซื้อของ ไปซื้อของในร้าน เขาเปิดเพลงให้คนมีความสุข อารมณ์เย็น ไม่ผิด
จินดารัตน์- เมื่อกี้คุยกับ พี่สุรวิชช์ พี่สุรวิชช์ บอกว่า เอ๊ะ มันตั้งใจให้เราซื้อแผ่นมาแล้วฟังซาวนด์อะเบาต์คนเดียว
กรองทอง- เหมือนกับลูกค้าเข้ามานั่ง เดี๋ยวโดนตำรวจมารีด พี่ฟังซาวนด์เบาต์นะคะ ระหว่างรอ หนูกลัวตำรวจ
จินดารัตน์- มีคำถามจากพันธมิตรฯ ดี.ซี.คุณธัชพงษ์ ถามมาว่า ทำไมประเทศจีนซึ่งมีศักยภาพทางเทคโนโลยีพอสมควร และเป็นประเทศมหาอำนาจใหญ่มาก จึงไม่สามารถก้าวข้ามญี่ปุ่นและเกาหลีในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพได้
สนธิ- ผมว่า พี่ธัชครับ ก้าวข้ามไปหลายกรณีแล้ว อย่างกรณีอุปกรณ์เครื่องมือโทรคมนาคม บริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยีเขาสูงกว่าเอ็นอีซี สูงกว่าของญี่ปุ่นไปแล้ว เขาก้าวข้ามไปแล้วนะครับ อันที่สอง สินค้าที่มีคุณภาพ ผมคิดว่าจีนอยู่ในช่วงยุคกลางของญี่ปุ่น และเกาหลี ช่วงยุคแรก และยุคกลางของญี่ปุ่น และเกาหลี สินค้าก็เป็นสินค้าที่เสียง่าย สมัยก่อน สมัยที่พวกเรายังหนุ่มๆ อยู่ สินค้าญี่ปุ่น สินค้าเกาหลี ผลิตออกมาแล้วเจ๊งทุกราย ใช้ไปเดี๋ยวเดียวก็พัง จีนในขณะนี้อยู่ในสภาพแบบนี้ แต่ว่าการตลาดและความกดดันจากลูกค้าที่ใช้ของ จะบีบให้จีนหันกลับไปเน้นคุณภาพดีขึ้น ให้มากขึ้น เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าในที่สุดแล้วจีนก็จะก้าวข้ามตรงนี้ไป
จินดารัตน์- มีอีกคำถามหนึ่งนะคะ คุณธัชพงษ์ เช่นเดียวกัน ถามว่า หากผู้ใดผู้หนึ่งมีอันเป็นไปที่ทำให้ไม่อาจจะช่วยเหลือตัวเองได้อีกต่อไป และไม่ต้องการให้เป็นภาระแก่พี่น้อง ลูกเต้า หรืออื่นๆ จะทำอัตวิบากกรรม เห็นด้วยหรือไม่ ขอข้อคิดในแง่ของสังคม กฎหมาย สิทธิในการตัดสินใจกับตนเองและศาสนาด้วย
สนธิ- ผมคิดว่าในศาสนาพุทธ การฆ่าตัวตาย ถือว่าเป็นบาปที่สูงที่สุด บาปสูงมากเลย เพราะว่าชีวิตมนุษย์ ถ้าฆ่าตัวตายแล้ว ในหลักพุทธศาสนาจะต้องรับกรรมยิ่งใหญ่มาก แต่ในเรื่องของสังคม ผมคิดว่าการทำเช่นนี้ก็เป็นสิทธิส่วนตัว ถ้าจะฆ่าตัวตาย ถ้าไม่คำนึงเรื่องศาสนาเข้าไป ในเรื่องของกฎหมาย มันเป็นเรื่องที่แต่ละประเทศมีไม่เหมือนกัน แต่อย่างว่านะ คนถ้ามันจะฆ่าตัวตายแล้ว กฎหมายก็ทำอะไรไม่ได้ ถูกมั้ย ก็เหลืออยู่ประเด็นเดียว คือในเรื่องของศาสนา และสังคม สังคมก็คือว่า บางครั้งเรายังมีลูกหลานที่เขายังรักเราอยู่ เขามีความรู้สึกว่าถึงเราจะช่วยตัวเองไม่ได้ เขายินดีที่จะช่วยเรา เพราะฉะนั้นคนที่คิดจะฆ่าตัวตายก็คือว่า ดูแล้วไม่มีใครสนใจ ไม่มีลูกหลานสนใจ ลูกหลานสาปแช่งให้ตายๆ ไป ก็เลยตายให้มันดูซะ เหมือนกับประชดชีวิตไปอย่างนั้น
กรองทอง- ส่วนประเด็นทางการเมืองนะคะ วันนี้คำถามที่ถามเข้ามามากก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการชุมนุมวันที่ 24 พฤศจิกายน หลายคนก็อยากให้คุณสนธิวิเคราะห์ หลายคนก็เป็นห่วง อย่างคุณอรชรบอกว่าไม่อยากให้เกิดการสูญเสียอีกค่ะ
สนธิ- ผมจะวิเคราะห์อาทิตย์หน้าดีกว่า เพราะว่าการจะวิเคราะห์แบบนี้มันต้องมองการเมืองเป็นส่วนรวม ในขณะนี้ถ้าให้ผมวิเคราะห์สั้นๆ ก็คือว่า การเมืองเมืองไทยมันถึงขั้นที่ มันก็มีอยู่ 2 ขั้วเท่านั้นเอง ขั้วหนึ่งคือพรรคประชาธิปัตย์ อีกขั้วหนึ่งคือพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องล้มพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ขึ้น พรรคเพื่อไทยก็ต้องล้มพรรคประชาธิปัตย์ วิธีการล้มก็ไม่เหมือนกัน พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นตอนนั้น พรรคเพื่อไทยก็เอาเสื้อแดงมาชุมนุมที่ราชประสงค์ และก่อเหตุเผาบ้านเผาเมือง และทำให้พรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการเล่นการเมืองมากกว่าแก้ปัญหา ก็มีความรู้สึกว่าถ้านั่งคุยการเมืองกับพรรคเพื่อไทย หรือพวกเสื้อแดงแล้ว จะทำให้การเมืองดีขึ้น นั่นก็คือทำให้ตัวเองไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการกล้าตัดสินใจ นั่นคือที่มาของการต้องไปประกันตัวให้เขา เอา วีระ มุสิกพงศ์ มานั่งคุยด้วย เอา กร ทัพพะรังสี เอา กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ไปเจอคนโน้น ไปเจอคนนี้ ไปเจอพวกเสื้อแดง และไปนั่งโต้วาทีกับหมอเหวง โดยสรุปก็คือว่า เสื้อแดงโดยมีพรรคเพื่อไทยอยู่ข้างหลัง ก็ใช้เสื้อแดงบีบพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้ยุบสภาเร็วขึ้น ให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้น ในขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องพยายามที่จะหาทางใช้มวลชน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ซ่อนตัวอยู่ในมวลชนวันที่ 24 ที่จะเกิดขึ้น มาบีบให้ทางด้านนี้ตัดสินใจว่าจะทำยังไง เขาก็หวังว่าอาจจะยุบสภา คือสรุปแล้วมันก็มีแค่ 2 คนเท่านั้นเองที่จะตีกันไปตีกันมา ส่วนไอ้พวกเรา เราไม่เอาทั้งซ้ายไม่เอาทั้งขวา เพราะเราคิดว่าเหี้ยไป จัญไรมา เราไม่เอา เราถึงกลายเป็นหมาหัวเน่า ไม่มีใครชอบเรา เพราะเราเห็นว่านักการเมืองคือตัวปัญหา แต่เราก็ไม่ห้าม เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคซึ่งบริหารชาติบ้านเมืองแย่มาก และทำให้คนลำบากมาก และมีการคอร์รัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องฉ้อราษฎร์บังหลวง พรรคการเมืองทุกพรรคก็โดน สุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดคมนาคม ถูกค้นพบว่ามีเงินซ่อนอยู่ในบ้าน ในยุคไหน ก็ยุคพรรคประชาธิปัตย์ และวันนี้กระทรวงศึกษาธิการในยุคพรรคประชาธิปัตย์ก็โดนเล่นงาน ขณะเดียวกันการจำนำข้าวพรรคเพื่อไทย ก็มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง เห็นมั้ย หันไปทางซ้ายก็ขี้ หันไปทางขวาก็ขี้ผสมข้าว แล้วจะให้ทำยังไง
จินดารัตน์- คุณพรชัย เสรีเจริญศักดิ์ รักในหลวง บอกว่า อยากให้คุณสนธิวิเคราะห์ ว่า ถ้าคนมาชุมนุม 24 พฤศจิกายนนี้ หลายแสน ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ แล้วจะจบอย่างไร
สนธิ- ผมไม่รู้ครับ ต้องถามคนจัด ต้องถามท่าน เสธ.อ้าย เพราะเขาเริ่มที่จะชุมนุมเขาก็บอกเขามีทีเด็ด แต่เขาจะชุมนุมเพื่ออะไร และมีทีเด็ดอะไร ผมไม่เคยรับรู้ ผมก็เลยไม่สามารถออกความเห็นได้
จินดารัตน์- มีคนถามเรื่องการทำธุรกิจเข้ามานะคะ คุณพรเลิศถามว่าในการทำธุรกิจ เมื่อคู่แข่งใช้วิธีสกปรก โดยให้เงินใต้โต๊ะกับฝ่ายจัดซื้อ เรามีวิธีการจัดการอย่างไร เพราะเราไม่มีนโยบายให้เงินใต้โต๊ะ ฝ่ายจัดซื้อจึงไม่สั่งสินค้าเรา
สนธิ- อันแรกผมคิดว่า ประการแรกสุด ในข้อเท็จจริงในสังคมไทยก็คือว่า ถ้าไม่จ่ายใต้โต๊ะฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายจัดซื้อมันก็ไม่ซื้อของเรา อันนี้คือสัจธรรม ต้องยอมรับตรงนี้ก่อน สอง ถ้าคุณจะสู้เรื่องนี้ มันมีวิธีเดียว คือคุณมั่นใจหรือเปล่า ประการแรก ของคุณราคาดีกว่าเขา และคุณภาพดีกว่าเขา หรือคุณภาพสู้เขาได้ เท่าเขา แต่ราคาดีกว่า ถ้าของคุณดีกว่า และคุณภาพดีกว่า ราคาถูกกว่า ทำไมคุณไม่เอาของที่ฝ่ายจัดซื้อ ซื้อฝ่ายตรงข้าม ที่จ่ายเงินใต้โต๊ะของคุณถือไปใส่กระเป๋าแล้วขอพบกรรมการผู้จัดการแล้ววางให้ดีเลยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ ยอมรับอย่างนะว่าถ้าคุณประท้วงไม่สำเร็จคุณขายของต่อไม่ได้แล้วนะ คิดเอา
กรองทอง- มีถามเรื่องสุขภาพนะคะ เรียนถามคุณสนธิ ว่า ทานปลาทะเลกับปลาแม่น้ำ อย่างไหนจะทำให้ไขมันที่ไม่ดีในร่างกายของเราหมดไป แล้วฤดูไหนควรจะทานปลาอะไร
สนธิ- ผมเป็นคนชอบทานปลาแม่น้ำ เหตุผลเพราะปลาแม่น้ำจับสดๆมามันยังสดอยู่ ปลาทะเลจะมาตอนไหนก็ตามต้องแช่น้ำแข็งมา แล้วก็หลายครั้งก่อนจะแช่น้ำแข็งต้องราดฟอมาลีนก่อน แล้วค่อยแช่น้ำเเข็ง ผมจะเป็นคนที่หลีกเลี่ยงปลาทะเลตลอด
จินดารัตน์- บางคนเขาบอกว่าปลาทะเลเนื้อกระด้างกว่าปลาแม่น้ำจืด
สนธิ- อีกอย่าง ปลาทะเลพอแช่ฟรีซแช่น้ำแข็งนานเนื้อจะยุ่ย สังเกตซิ พอน้ำแข็งละลายเริ่มทอดเนื้อจะยุ่ย ผมชอบปลาแม่น้ำ
จินดารัตน์- ถามมาในเฟซบุ๊กค่ะว่า คุณณัฐพงศ์ ถามว่า คุณสนธิ เคยถามพระหรือผู้มีอภิญญาหรือไม่ว่าชาติของเราจะพ้นบ่วงกรรมสู่ยุคฟ้าสีทองผ่องอำไพเหมือนคำทำนายชะตาบ้านเมืองครับ
สนธิ- ผมไม่พูดดีกว่าเพราะผมรู้ พ่อแม่ครูอาจารย์เล่าให้ฟัง แต่ผมไม่พูดเดี๋ยวจะหาว่าผมอวดอุตริ
จินดารัตน์- แต่มีหวังมั้ยคะ เขาถามเรื่องเสธ.อ้าย คุณธีรวัฒน์ เขาพูดตรงๆ เลย ถ้าไล่เหี้ยไปแล้วพวกจัญไรมาเราทำไงกันดีครับ
สนธิ- ก็นี่ไง ผมยังคิดว่าสิ่งที่พันธมิตรฯ แกนนำกำลังวางแผนอยู่ อย่างน้อยที่สุดเป็นรูปธรรมชัดเจน 1.เราวางแผนที่จะทำ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมใหม่ เพราะนี่คือผลประโยชน์ของชาติ และผมคิดว่าการที่เราเสนอให้รัฐบาลปกป้องผลประโยชน์ของชาติการที่รัฐบาลปฏิเสธไม่ทำตามมันเป็นการวางบิลที่ชัดเจนมาก ส่อเจตนา ต่อไปเราอาจจะทำในเรื่องเสนอกฎหมายคอร์รัปชั่นว่าต้องไม่มีอายุความ ถ้าพรรคการเมืองทุกพรรคไม่เอาด้วย ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เอาผมก็อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เอา ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เอาด้วยแสดงว่าเพื่อไทยใช้ไม่ได้ แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอา เพื่อไทยไม่เอา เราก็รู้ได้ทันทีเลยว่าการที่เราไม่เอานักการเมืองเป็นสิ่งที่ถูกต้องหมด การต่อสู้มันจะมีหลายวิธีการ
จินดารัตน์- อยากให้คุณสนธิ พูดถึงเรื่องการชุมนุมวันที่ 24 ว่าใครได้ใครเสียอย่างไร แล้วประชาชนจะได้อะไรบ้าง
สนธิ- ผมคิดว่าประชาชนจะได้ระบาย ความคั่งแค้นแต่ระบายได้ไม่หมด เอางี้ดีกว่า โทษนะครับ เหมือนการขี้ไม่สุด ขี้คาก้น
จินดารัตน์- แล้วอะไรมันตามมารู้ไหมคะ ริดสีดวง
สนธิ- มีคำถามอีกมั้ย อีก 10 นาที เอาให้ครบ 4 ทุ่มครึ่ง ไหนๆก็รอมานานโทษฐานขายของนานไปหน่อยตอนเบรกแรก แต่ท่านผู้ชมครับ เราทดแทนให้แล้วนะครับ
กรองทอง - ตอนแผ่เมตตาคุณสนธิอโหสิกรรมให้คนสั่งยิงหรือไม่คะ มีวิธีคิดอย่างไรที่ไม่พยาบาท
สนธิ- วันที่ผมรู้สึกตัว ไหว้พระได้ วันแรกก็คือจะเป็น 10 วันหลังจากที่ผมผ่าตัด ออกมานอนบ้านได้แล้ว ที่บ้านพระอาทิตย์บนห้องพระ พอผมเริ่มค่อยๆคลานออกมากราบพระได้ สิ่งแรกที่ผมทำคือ ผมสวดมนต์สั้นๆ สวดนานไม่ได้เวียนหัว แล้วผมก็กรวดน้ำ ผมแผ่เมตตาให้คนที่ยิงผม คนที่ร่วมมือในการยิงผม คนที่ร่วมขบวนการ คนที่วางแผน คนที่รับรู้ 5 กลุ่ม ผมแผ่เมตตา กรวดน้ำให้เลย บอกอโหสิกรรมให้เขา ผมบอกว่าเวรกรรมทั้งหมดที่ทำกับผมก็ขอให้เป็นเวรกรรมที่เขาเจอด้วยตัวเขาเองแล้วกัน ผมไม่ถือโทษโกรธเคืองเขา และผมเชื่อว่า หลายคนที่พินาศฉิบหายเพราะว่าการแผ่เมตตา และกรวดน้ำทั้งนั้น กรรมใดใครก่อ
จินดารัตน์- คุณสุทธินี พงษ์พาณิชย์ บอกว่า เราไม่ต้องจัดหนักดีกว่ามั้ยมีคนอาสารักชาติออกมาทำหน้าที่บ้างแล้ว คุยเรื่องเพลงให้ฟังบ้างเถอะ
สนธิ- วันหลังเอาเรื่องเพลงมาพูดกันบ้าง
จินดารัตน์- คำถามสุดท้ายแล้วนะคะ คุณฐิติ บอกว่า อยากทราบว่าเวลามีเรื่องคับขันคุณสนธิปรึกษาหารือภรรยามั้ย
สนธิ- เป็นอะไรบางอย่างที่เราแยกกัน บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเราเป็นหัวหน้าครอบครัว และสองเป็นผู้ชายมักจะแบกอะไรไว้ แต่ภรรยาที่ดีเขาจะถามว่ามีอะไรหรือเปล่า ท่าทาง เหมือนกับเวลากลับมาจากศาลเขาก็ถามว่าเป็นไงบ้างที่ศาลวันนี้ ก็แลกเปลี่ยนกัน แต่อย่างว่าจะไม่พยายายามพูดอะไรมาก เพราะถ้าพูดมากไปเขาจะเป็นห่วง บางทีผู้หญิงจะไม่เข้าใจการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องศาล อธิบายให้คนฟังยาก
จินดารัตน์- กังวลคนเดียวก็พอแล้วนะคะ หมดเวลาแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับความคิดเห็นทางเฟซบุ๊กมีคนนึงเขาบอกของขึ้นเลยค่ะคุณลุง ยิ่งดูยิ่งแค้น มีคนหนึ่งบอกว่ากำลังชมรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ วันนี้สุดยอดเลยค่ะ มีอยู่ประโยคหนึ่งที่คุณสนธิ กล่าวว่า ประเทศไทยมีดีทุกอย่างเสียอย่างเดียวเสือกมีนักการเมือง 555 ถูกใจกันมากประโยคนี้ หลายคนนะคะ
กรองทอง- หมดเวลาแล้วนะคะสำหรับค่ำคืนวันนี้
จินดารัตน์- เบอร์โทร Call center
กรองทอง- ยังโทร.มาสั่งจองได้จนถึงเที่ยงคืนวันนี้ โทร.02 633 5353
สนธิ- ถ้าโทร.ไม่ติดพรุ่งนี้ไปที่ ASTV Shop
จินดารัตน์- เอาเงินสดไปจองเลย ใครจ่ายเงินก่อนก็มีสิทธิ์ได้รับก่อน วันนี้ลาไปก่อน ขอบคุณเจ้าของรายการที่ให้เรามานั่งคุยด้วย ขอบพระคุณผู้ชมทางบ้าน วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ
