xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 9 พ.ย. 2555 (ต่อ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สนธิ- วันนี้เขากระทืบคุณ เขาเอานิ้วบี้เสร็จเรียบร้อย แล้วเขาเยี่ยวรดคุณด้วย เขาไม่เยี่ยวรดคุณได้ไง เพราะเขาพูดชัดเจนเลยว่า เอกสารคุณไปหามาเป็นเอกสารเท็จ เขาพูดอย่างนี้เลย แล้วเขาดำเนินคุณต่อไป ยืด ป.ป.ช.เสียด้วยซ้ำ ใช่ไหมครับ แล้วคุณมาพูดได้อย่างไงว่า ให้ถอดยศทักษิณด้วยสองมาตรฐาน คุณยิ่งพูดยิ่งเข้าตัวคุณ วันนี้ผมพูดในฐานะคนทำงาน ผมไม่ได้เข้าข้างทักษิณ ชินวัตร และผมไม่ได้เข้าข้างอภิสิทธิ์ ผมยังยืนยันถ้าผมมีอำนาจวันพรุ่งนี้ ผมสั่งถอดยศทักษิณทันที ผมไม่ต้องการประนีประนอมกับความผิด ผมทำไปเลย เพราะฉะนั้นแล้วทุกอย่างคุณทำด้วยตัวคุณเอง ปัญหาเกิดขึ้นเพราะตัวคุณ และวันนี้เป็นบทพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง ว่าสิ่งที่คุณคิดว่า เขาจะประนีประนอมเห็นใจคุณ เขาไม่เห็นใจคุณ และวันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมันคิดจะประนีประนอมคุณหรือเปล่า ไม่คิด มันบี้คุณตายห่าเลย มันเอาพวกเสื้อแดง มันไปฟ้องศาล มันไปจัดการ เพื่อที่ให้ 91 ศพของมัน โยงถึงคุณให้ได้ เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์ชัดเจน ต้องเอาทักษิณ ต้องเอาสุเทพติดคุก มันประนีประนอมคุณไหม ผมอยากให้สาวกพรรคประชาธิปัตย์ฟัง แต่ช่วงที่คุณเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วนายสุเทพ เป็นรองนายกฯ คุณประนีประนอมเขาฉิบหายเลย เพราะคุณจะเล่นการเมือง คุณไม่ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศชาติ ไม่มี

เพราะฉะนั้นแล้วคุณมาบ่นอะไรวันนี้ คุณยังมาลอยหน้าลอยตาพูด จีบปากจีบคอพูดอีก อย่างโน้นอย่างนี้ คุณไม่มีสิทธิ คุณยื่นจดหมายไป 2 ฉบับ คุณเก่งอยู่แค่นี้ คุณยื่นจดหมายไป 2 ฉบับ แล้วเขาจะมาให้โอกาสคุณทำไม ในเมืองเขาค้นพบว่า หลักฐานมันชัดเจน เมื่อเขาบอกเท็จเขาดำเนินการตามหลักฐานที่ปรากฏว่า มันเท็จ เมื่อมันเท็จแล้วเขาให้คุณออก ถอดยศคุณทันที ในขณะซึ่งหลักฐานคุณก็มีเรื่องทักษิณ ชินวัตร ทำไมคุณจะต้องรอ ตำรวจทำ ถ้าคุณมาอ้าง พวกสาวกคุณมาอ้างว่า ตำรวจไม่ทำ ทำไมคุณไม่ลงไปบอก คุณคุมตำรวจคุณจะย้ายใครก็ได้ จะย้ายใครเป็นผู้การก็ได้ จะย้ายใครออกก็ได้ มันกลัวคุณจะตายห่า แต่คุณไม่ทำ เพราะคุณต้องการเล่นการเมือง เพราะฉะนั้นแล้วคุณมาบ่นอะไรวันนี้ ผมไม่ได้เห็นใจสุกำพล แต่ผมเข้าใจสุกำพล เพราะถึงเวลาที่เขาจะกระทืบคุณ เขากระทืบคุณจริง ไม่เหมือนคุณ

จินดารัตน์- กัดไม่ปล่อยเลยสุกำพล

สนธิ- ไม่เหมือนคุณ คุณใช้สุเทพมากระทืบพวกผม แต่พวกเสื้อแดงคุณไม่กระทืบเขาเลย วันนี้มันพิสูจน์ชัดอีกบริบทหนึ่งแล้ว ไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแอน เก๋ ชัดเจน แล้วพวกแมลงสาบทั้งหลายให้เข้าใจตรงนี้ด้วย ผมพูดด้วยความเท็จจริง คุณเลิกพูดได้แล้วว่า ตำรวจมันไม่ชงมา แล้วตำรวจมันขึ้นกับใคร แล้วคุณเป็นนายกฯ ทำห่าอะไร

จินดารัตน์- เด็กพม่าข้างบ้านเขาบอก โสน้ำหน้า

สนธิ- โสน้ำหน้าจริงๆ วันนี้คุณโดนแต่ละดอก แต่ละดอก แล้วคุณคอยดูถ้าปีหน้า ศาลโลกพิพากษาออกมาว่า ประเทศไทยเสียดินแดน คุณอย่าไปตำหนิยิ่งลักษณ์ ผมจะตำหนิคุณคนแรก เพราะคุณเสือก ไปยอมรับอำนาจศาลโลก นรกของคุณยังจะมาอีกแล้วปีหน้า

จินดารัตน์- อีกหลายเรื่อง

สนธิ- อีกหลายเรื่อง คุณอย่าทะลึ่งอวดดี แล้วพวกประชาธิปัตย์อย่าทะลึ่งอวดดีกับผมพูดตรงๆ ไอ้พวกสาวกประชาธิปัตย์ อีหมั่งๆ อะไร อีมิ้งหมั่งห่าอะไรเนี้ยะ เอากบาลคิดเสียบ้าง อย่าเอาหัวแม่ตีนคิด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไง และให้จำเอาไว้ วันนี้วีระ ราตรีไม่ได้กลับมาบ้าน ติดคุกเพราะพวกคุณ ปีหน้าถ้าศาลโลกพิพากษามาว่าไทยต้องเสียดินแดน เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี นายกษิต

กมลพร- เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ

สนธิ- เราบอกแล้วว่า ไปยอมรับอำนาจศาลโลกได้อย่างไง ไม่ต้องไปยอมรับมัน มันฟ้องศาลโลกเราไม่ต้องไป เราไม่ยอมรับก็จบแล้ว แหมมันต้องเข้าไปศาลโลกเพื่อความเท่

จินดารัตน์- ดัดจริต

สนธิ- ดัดจริต เก่งแต่เรื่องดัดจริต เดี๋ยวพูดไปมากเดี๋ยวจะหาว่ามีอคติกันอีก พูดไปแล้วหน้าแดง ของขึ้น

จินดารัตน์- เดี๋ยวมีผู้สนับสนุนรายการหลักมาจากแอฟริกา กับจีน

กมลพร- ส่งมาอีกเป็นลัง แล้วแมลงสาบกำลังวิ่งกันให้ขวักเลย

จินดารัตน์- จากเรื่องคนดัดจริตแล้ว โสน้ำหน้าจริงๆ แล้ว มาเรื่องเด็ด

กมลพร- เรื่องนี้ใช่ไหม

จินดารัตน์- วันนี้ไม่มีธูปไม่มีอะไรนะ

กมลพร- ใจเย็น

จินดารัตน์- แต่วันนี้จะมาจับโกหกกัน กสทช.

กมลพร- ถ้าเป็นสถานการณ์ปัจจุบันตามข่าว ศาลปกครองท่านได้รับเรื่องของที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ท่านไปขอร้องให้ไต่สวนฉุกเฉิน กับมีคำสั่งระงับชั่วคราว ในการออกใบอนุญาต 3 จี ซึ่งในเบื้องต้นศาลปกครองท่านรับเรื่องเข้าสารบบความ เดี๋ยวต้องรอกันสัปดาห์หน้า ลุ้นกันว่าจะมีการไต่สวนฉุกเฉินไหม แต่ยังมีอีกหลายปม ไม่มีธูปวันนี้ จริงๆ พี่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลายคนสะดุ้งเฮือกเลย

จินดารัตน์- เบ็ดเสร็จไปเรียบร้อยแล้วสัปดาห์นั้น แต่อันนี้คุณสนธิจะต้องเล่าให้ฟังมันมีอะไร

สนธิ- คืออย่างนี้ ในการประมูลอะไรก็ตามๆ ข้อราชการ มันจะมีเขาเรียกว่า TOR หรือ Terms of Reference คือเงื่อนไขของผู้มีสิทธิเข้าประมูล เขาจะระบุชัดเจนว่า ใครบ้างมีสิทธิเข้าประมูล เงื่อนไขการประมูลมีอย่างไรบ้าง และผู้ประมูลจะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง และในการประมูลนั้น จะให้ประมูลอะไรบ้าง เมื่อประมูลแล้วจะได้อะไรบ้าง เงื่อนไขพวกนี้ เขาเรียกเงื่อนไข TOR ที่ชัดเจน บริษัทต่างๆ ที่จะเข้าไปประมูลเรื่องพวกนี้ จะต้องอ่าน TOR ให้ละเอียด เมื่ออ่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว บริษัทต้องใช้สติปัญญาของการทำมาค้าขาย ต้องมาพิจารณาว่า ถ้าเข้ามาประมูลแล้วได้มาคุ้มไม่คุ้ม ตามเงื่อนไขอันนี้ ตามรายละเอียดข้อบังคับต่างๆ เหล่านี้ ตามผลประโยชน์ที่รัฐจะให้ถ้าประมูลได้คุ้มไม่คุ้ม เสี่ยงไม่เสี่ยง นี่คือลักษณะของ TOR ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่นานแสนนานแล้ว ทุกวันนี้ยังเป็นอยู่

เพราะฉะนั้นแล้วถ้า TOR ไม่ชัดเจน TOR มีความอ่อนไหวมากไป TOR มีความไม่มั่นคงในข้อเสนอที่รัฐจะให้ TOR ไม่ได้ปกป้องผู้ที่ประมูลได้ บริษัทที่จะต้องลงทุนมหาศาลจะไม่กล้า จะถอย นอกเสียจากว่า บริษัทที่เข้าประมูลรู้เห็นเป็นใจกับเจ้าของ TOR ว่าเข้ามาเถอะถึง TOR ไม่มั่นคงอย่างนี้ แต่คุณประมูลได้ทั้งนั้น

ทีนี้ กสทช.เขาก็มีทีโออาร์ แต่ทีโออาร์ เขาใช้คำว่า ไอเอ็ม เขาชื่อว่า Information Memorandum สรุปข้อสนเทศ ไอ้นี่ไม่ได้เปิดเผยสู่สาธารณะ ผมได้มา เมื่ออ่านทีโออาร์ Information Memorandum หรือทีโออาร์นี้ อ่านให้ละเอียดแล้ว สรุปง่ายๆ เขาโกหก 8 ข้อ ทั้งหมดเบ็ดเสร็จทั้ง 8 ข้อที่โกหก สรุปง่ายๆ คือเขารู้เห็นเป็นใจกับผู้ที่เข้าประมูล

จินดารัตน์- มันเอื้อประโยชน์

สนธิ- มันเอื้อประโยชน์หมด ทำไมรู้มั้ย ง่ายๆ หัวข้อที่สำคัญที่สุด คืออยู่ในหน้า 2 แผ่นที่ 2 ของเอกสารชิ้นนี้ เขาเขียนว่า สรุปข้อสนเทศนี้ก็คืออันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบข้อมูลเท่านั้น และไม่มีข้อผูกพันใดๆ เอ๊ะ มึงมีสรุปข้อสนเทศ มึงมีทีโออาร์ แล้วไม่ผูกพันได้ยังไง

จินดารัตน์- บอกเฉยๆ

สนธิ- เฉยๆ แล้วสรุปข้อสนเทศนี้ มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของพื้นฐานในการตัดสินใจการลงทุน หรือการประเมินมูลค่าประกอบการตัดสินใจเข้าร่วมประมูล และไม่ได้ถือเป็นคำแนะนำ กสทช.ใดๆ ทั้งสิ้น สรุปคือยังไงรู้มั้ย สรุปก็คือว่า เฮ้ย อะไรเกิดขึ้นในทีโออาร์นี้ ประมูลได้แล้ว อะไรเกิดขึ้น ถ้าผิดพลาดกูไม่รับผิดชอบนะ มันไม่ใช่ ทีโออาร์นี่ต้องให้ทุกคนอยู่ในกรอบกติกา อันนี้บอกว่าถ้าไม่อยู่ในกรอบ ไม่อยู่ในกติกา ฉันไม่เกี่ยวนะ แปลว่าอะไร คือมันต้องระบุชัดเจน ว่าผู้ใดทำผิดทีโออาร์จะไม่มีสิทธิ์ 1..2..3..4..5..6.. คุณอ่านให้ดีๆ นะ

กสทช.จะไม่แสดงตนแทน หรือรับประกัน หรือรับผิดชอบ หรือรับผิดใดๆ ในความถูกต้องแม่นยำ หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลในสรุปข้อสนเทศนี้ อะไรวะ! แกออก IM-Information memorandum แล้วเสือกเขียนบอกว่า สำนักงาน กสทช.จะไม่แสดงตนแทน หรือรับประกัน หรือรับผิดชอบ หรือรับผิดใดๆ ในความถูกต้องแม่นยำ หรือความสมบูรณ์ในสรุปข้อสนเทศนี้

จินดารัตน์- ลอยตัว

สนธิ- ไม่ใช่ลอยตัว น่ากลัวมั้ย ถ้าเก๋เป็นบริษัทต่างชาติ บริษัทมีเงินเป็นแสนๆ ล้าน แล้วต้องเข้าประมูลเป็นหมื่นๆ ล้าน ถ้ามาเจอข้อความที่บอกว่า ไม่แสดงตนแทน หรือรับประกัน รับผิดชอบ รับผิดใดๆ ในความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลนี้ จะเข้าประมูลมั้ย น่ากลัวฉิบหายนะ แสดงว่ามันรู้กันไง แต่ความกลัวของมัน มันจะปัดสวะออก เฮ้ย ไม่ต้องกลัว ผมเขียนไปอย่างนี้ แต่ว่าคุณประมูลได้เลย เข้าใจหรือยัง นี่คือการฮั้วในระดับหนึ่ง

ตลกมาก เมื่ออ่านดูแล้ว ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจที่ไม่มีเส้นสายทางการเมือง สนใจจะเข้าร่วมประมูล ถ้าคุณได้เอกสารสรุปข้อสนเทศที่มีความไม่แน่นอน และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามอำเภอใจ ไม่รับผิดชอบด้วย คุณจะกล้าประมูลมั้ย นอกเสียจากว่าคุณแอบจับมือกันเรียบร้อยแล้ว รู้กัน นี่ไง นี่คือตัวที่จับผิด ชัดเจน ชัดเจนเลย แต่ข้อที่จับโกหกเขา เอาสั้นๆ ก็แล้วกัน ก็คือว่า เป็น 8 ข้อของการโกหก อย่างเช่น ในหน้า 29 ระบุชัดเจนว่า เพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนการดำเนินมาตรการป้องกันมิให้การกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน หรือถ้าฮั้วกัน ในกิจการโทรคมนาคม โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการ ทรู เอไอเอส และดีแทค มีอำนาจเหนือตลาด คือพูดง่ายๆ ว่า ถ้าเอไอเอส บีบให้ทุกคนต้องยอมตามราคาเอไอเอส ทุกคนต้องจัดทำรายงานบัญชีแยกประเภทเพื่อให้ กสทช.นำใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมกีดกันการแข่งขันและการกำหนดราคาเพื่อขจัดคู่แข่งขัน และบีบส่วนต่างกำไร แต่ปรากฏว่า ข้อตรงนี้ไม่ได้มีเงื่อนไขอยู่ในนี้เลย ไม่มี

ข้อที่ 2 ในหน้าที่ 35 ข้อ 7.6.7 ผู้รับใบอนุญาตต้องกำหนดอัตราค่าบริการให้เป็นธรรม สมเหตุสมผลและไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ในการประมูลครั้งนี้ไม่ได้ระบุชัดเจนเลยว่าเมื่อประมูลได้แล้วจะคิดราคาเท่าไร มีมั้ย

จินดารัตน์/กมลพร- ไม่มีค่ะ

สนธิ- มีแต่เมื่อโดนด่ามากขึ้นก็อวดดี แสดงว่ากูนี่ปกป้องผลประโยชน์ผู้บริโภคนะ ตั้งราคาไว้เลยว่าจากนี้ไป 3G นาทีหนึ่งห้ามเกิน 78 สตางค์ เอ๊ะ ทำไมมึงไม่ตั้งก่อนล่วงหน้าล่ะ เห็นยังนี่คือโกหกแล้ว

ข้อที่ 3 ในหน้าที่ 36-37 กำหนดในหัวข้อกระบวนการขอรับใบอนุญาต ขั้นตอนการประมูลนะ เขาเขียนไว้อย่างนี้ ในกรณีที่ไม่มีผู้เข้าร่วมประมูล หรือมีผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 1 ราย กสทช.จะเลิกการประมูล และจะพิจารณากำหนดการประมูลครั้งต่อไปตามความเหมาะสม แต่ในกรณีที่มีผู้เข้าร่วมประมูล 3 ราย และมีของอยู่ 3 ชิ้น ไม่ยกเลิก

จินดารัตน์- คือรู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่ามันมีอยู่แค่ 3 ราย

สนธิ- คำถามมีอยู่ว่าเมื่อรู้ว่าสภาพมีผู้แข่งขัน 3 รายแน่นอน และ กสทช.เตรียมจัดสรรคลื่นความถี่เอาไว้ให้ครบ 3 ราย เหตุใดจึงไม่กำหนดว่า หากมีผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 3 ราย ตามการจัดสรรคลื่นความถี่แล้ว กสทช.จะต้องยกเลิกการประมูล โกหกมั้ย

จินดารัตน์- ตอแหล

สนธิ- ตอแหล กสทช.นี่ตอแหลจริงๆ ประเด็นที่ 3 ในหน้าที่ 37 ระบุว่า กสทช.จะออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ให้แก่ผู้ชนะการประมูล ภายหลังจากผู้ชนะการประมูลได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข และการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตอย่างครบถ้วนและถูกต้อง ภายใน 90 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล เห็นพฤติกรรม กสทช.มั้ย ตอนแรกออกมาแถลงว่า ในตอนแรกจะออกใบอนุญาตให้เลย เมื่อเอไอเอสนำเงินมาให้ 50 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าที่ได้ประมูลไว้ ตอแหลอีกแล้ว นี่ฝีมือเศรษฐพงศ์หมดเลยนะ เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ อิด็อกเตอร์เนี่ย

ประเด็นที่ 4 ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ที่จัดตั้งตามกฎหมายไทย และต้องมิใช่คนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตอแหลอีกแล้ว ความจริงคือ เอไอเอส คือเทมาเส็ก ดีแทค คือเทเลนอร์ ผู้ลงชื่อ ซีอีโอดีแทคลงนาม ชื่อจอห์น อับดุลลา โกหกอีกมั้ย

จินดารัตน์- คนไทยตรงไหน

สนธิ- นี่ไง ผมถึงบอกว่ามันตอแหลสุดๆ ประเด็นที่ 5 ในหน้า 40 ข้อกำหนดคุณสมบัติ ผู้ขอรับใบอนุญาตจะต้องไม่มีความเกี่ยวโยงกับผู้ขอรับใบอนุญาตรายอื่น วัตถุประสงค์ข้อนี้เขามีเอาไว้เพื่อให้มีการแข่งขันสมบูรณ์ ไม่ใช่ผูกขาดอยู่ในกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมรายเดิม แต่ทั่วประเทศไทยเขารู้กันหมดว่า ผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 3 บริษัท อาจเป็นบริษัทลูกของเอไอเอส ดีแทค และทรูทั้งสิ้น

กมลพร- ตั้งมารองรับเห็นๆ

สนธิ- คนที่ไม่รู้มีแค่ กสทช.เองที่ไม่รู้ คนที่ไม่รู้คือคนที่จบด็อกเตอร์

จินดารัตน์- ใสซื่อบริสุทธิ์

สนธิ- ใสซื่อบริสุทธิ์ เสือกจบด็อกเตอร์มาอีก เสือกบอกด้วยนะ ว่าถ้าไอ้ 3 จีล่าช้า ประเทศชาติจะเสียหาย เดี๋ยวผมจะเล่าอะไรให้ฟังอย่าง เตือนผมหน่อยให้จบเรื่องนี้ ไหนๆ วันนี้จะอยู่ดึก

จินดารัตน์- เรื่องด็อกเตอร์นี่นะคะ

สนธิ- ไม่ใช่เรื่องทั้งหมด ประเด็นที่ 6 ในหน้า 41 ได้กำหนดมาตรฐานรักษาความเป็นธรรม และผลประโยชน์ของรัฐ เขากำหนดว่าไงรู้ไหม ผู้ขอรับใบอนุญาตจะต้องไม่ทำการใดๆ ในการตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อให้วัตถุประสงค์ เพื่อให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นผู้มีสิทธิได้รับใบอนุญาตโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นทางการ ในความเป็นจริง ดูจากผลการประมูลที่ประชาชนส่วนใหญ่ ต่างรู้สึกว่าเป็นการฮั้วราคากัน ความจริงเป็นการกระทำอย่างนี้ เข้าข่ายการกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542 หรือเรียกสั้นๆ ว่า พ.ร.บ.ป้องกันการฮั้ว มาตรา 11 ต้องกำหนดอัตราโทษเจ้าหน้าที่รัฐว่าต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 1-4 แสนบาท

ผมนี่อยากเห็นผู้ใหญ่ใน กสทช.ติดคุกกันบ้าง ถามว่ากฎหมายนี้ใช้กับ กสทช.ได้หรือไม่ คำตอบว่า ได้แน่นอน เพราะในสรุปข้อสนเทศ ระบุไว้ว่าให้นำบทบัญญัติ พ.ร.บ.ฉบับนี้ มาใช้บังคับโดยอนุโลมอีกด้วย และการที่คุณบอกว่า คุณเหนือกฎหมายไม่จริง ชัดเจนไหม ประเด็นที่ 7 ในหน้าที่ 43 กสทช.กำหนดให้ใช้วิธีการประมูล ซึ่งประกอบด้วย 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกเรียกว่า ขั้นตอนการประมูลคลื่นความถี่หลัก การเปิดประมูลคลื่นความถี่ให้ใบอนุญาตพร้อมกันเลย ขั้นที่สองเรียกว่าขั้นตอนการดำเนินการกำหนดย่านความถี่ คือได้คลื่นไปแล้ว แต่จะเอาย่านที่ใกล้ตรงนี้ ย่านไกลๆ นี้ ประมูลอีกทีนึง เลือกช่วงคลื่นความถี่ที่อยู่ติดกันตามจำนวนชุดคลื่นความถี่ที่ชนะการประมูล โดยผู้ที่ชนะการประมูลมีผลอนุโลมเสนอราคาสูงที่สุด จะได้เลือกย่านความถี่เป็นลำดับแรก นั้นคือที่มาของเอไอเอส การกำหนดให้ผู้ประมูล 3 ราย โดยที่มีสัญญาพอกับ 3 รายพอดี และให้เลือกช่วงคลื่นความถี่กันเอง ถ้าไม่ได้เรียกว่าฮั้วจะเรียกว่า โทษนะครับ จะเรียกว่าไอ้เหี้ยอะไรกัน ใช่ไหม และยังมีข้อความอีกหลายข้อความ ที่บ่งบอกถึงความน่าสงสัยในการแบ่งสัญญาการประมูลเช่น ผู้เข้าร่วมประมูลแต่ละราย สามารถเสนอราคาสำหรับชุดคลื่นความถี่ได้เป็นจำนวน 3 ชุด เท่ากับจำนวนชุดคลื่นความถี่สูงสุด ที่เข้าร่วมประมูลแต่ละรายสามารถเสนอได้

ประเด็นที่ 8 สรุปข้อสนเทศหน้า 46 ระบุเอาไว้ในหัวข้อ 2.7 เรื่องสิทธิของการไม่เสนอราคา ผู้เข้าร่วมการประมูลแต่ละสิทธิ แต่ละราย มีสิทธิของการไม่เสนอราคาจำนวน 3 ครั้ง ตลอดระยะเวลาการประมูล เมื่อผู้เข้าร่วมประมูลใช้สิทธิในการไม่เสนอราคา เก๋ ไม่ใช้สิทธิในการไม่เสนอราคา ในรอบการประมูลใดๆ คะแนนกำหนดสิทธิในรอบการประมูลต่อไป ยังเท่ากับสิทธิในการประมูลรอบปัจจุบัน ถึงจะไม่ใช้สิทธิในรอบต่อไป คะแนนเหมือนเดิม การกำหนดเงื่อนไขทำให้ดีแทค และทรู ใช้สิทธิฮั้วกันโดยไม่เสนอราคา เพราะฉะนั้นไอเอ็มอันนี้ ออกมาเพื่ออะไรรู้ไหม เพื่อ 3 เจ้าเท่านั้นเอง เพื่อฮั้วกันไอ้นี้ฟ้องดีๆ เข้า พ.ร.บ.ฮั้วติดตะรางแน่นอน

ทีนี้เพิ่มเติมนิด แอน วันนี้คุณก็ใช้ 2 จี ผมก็ใช้ 2 จี ทุกวันนี้เราก็เข้าเฟซบุ๊กได้ถูกไม่ถูก ทุกวันนี้เราส่งเอสเอ็มเอสกันได้ วอทแอพก็โอเค มีไวไฟก็ไป เราลำบากอะไรหรือเปล่า

จินดารัตน์- ไม่นะ

สนธิ- 3 จี มันทำให้การส่งรูปเร็วขึ้น อาจจะเร็วจากสมัยก่อนเวลาเราส่งรูปเข้าวอทแอพ มันบอกให้โหลด อาจจะกดโหลดช้านิดนึง 3 จีอาจจะเร็วกว่าถึง 2 เท่า ผมถามว่า ถ้า 3 จีมันยังไม่มา ถ้าทำให้มันถูกต้องประเทศไทยมันล่มสลายไหม ผมไม่เห็นมันล่มสลายตรงไหนเลย ตอบคำตอบตรงนี้ อันที่ 2 ไอ้ กสทช.ความกระสันมัน ผมต้องใช้ว่าความกระสัน ถ้าภาษานักเลงเขาใช้ ง เข้าใจไหม ภาษาสุภาพเขาเรียกกระสัน ใช่ไหมครับ ความกระสันของมันอยากให้มีการประมูลใจแทบขาด แต่ข้อเท็จจริง ฟังผมพูดเราอย่าไปมองเฉพาะทรู ดีแทค เอไอเอส เราต้องมองว่า การลงทุนทุกอย่าง ถ้ามันลงทุนซ้ำซ้อนเหมือนกัน สร้างเสา 3 เสา จังหวัดนึงมีเสาทรู เสาเอไอเอส เสาดีแทค ทุกอำเภอทุกตำบลมีหมด ถือว่าเป็นการเสียทรัพยากรธรรม ไอ้เสานี้มันไม่ได้มาจากสวรรค์นะ มันมาจากเงิน เงินมาจากกู้ที่แบงก์ หรือเอาเงินกำไรเอามาลง เขาเรียกว่า สูญเสียโดยเปล่าประโยชน์ถูกไม่ถูก

ผมพูดมาตั้งนานแล้ว ไอ้คลื่นความถี่โทรคมนาคม อย่าไปเรียนแบบอเมริกา วันนี้ กสทช.มันเลียนแบบ FCC (Federal Commission Of Communication) อเมริกาทำไมมันทำได้ เพราะอเมริกามันมีการแข่งขันเสรี อเมริกามันกว้างเหลือเกิน ใหญ่เหลือเกิน จีนมีผู้ใช้โทรศัพท์ใหญ่มาก ใหญ่ที่สุดในประเทศในโลกนี้ มันยังมีแค่ 2 เจ้า ไชน่าโมบาย ไชน่ายูนิคอม แค่นั้นเป็นของรัฐเป็นเจ้าของ เมืองไทยเรามีทีโอที เรามีซีเอที ทำไมอี กสทช.มันคิดใช้กบาลคิดไม่เป็นหรอ มันไปลอกฝรั่ง มันเดินตามตูดฝรั่ง มันดมก้นฝรั่ง แล้วมันพยายามคิดแบบฝรั่ง ว่าต้องให้ภาคเอกชน เฮ้ย กสทช.คุมคลื่นความถี่อยู่ สามารถจะบอกได้เลยว่า ให้รัฐบาลซึ่งเป็นเจ้าของทีโอทีกับแคท ให้ทีโอทีกับแคทรวมกัน แล้วให้สร้างเมนหลัก กระดูกสันหลังของพวกเครือข่ายพวกนี้ ลงทุนทีเดียว แล้วคลื่นความถี่ทั้งหมดเอาไว้ตรงกลาง ให้เป็นของทีโอทีและแคท แต่ทีโอทีและแคทไม่ต้องทำ ทีโอทีกับแคทเป็นเจ้าของเส้นสาย เป็นเจ้าของเครือข่ายทั้งหมด คลื่นความถี่นี้ให้คนมาเช่าใช้สิ ให้ทรูมาเช่าใช้ ให้เอไอเอสมาเช่าใช้ ให้ดีแทคมาเช่าใช้ ถูกไม่ถูก

แอนอยากจะทำธุรกิจนี้ แอนมีการตลาดดีไปเช่าคลื่นความถี่มาใช้ได้ ได้เหมือนกัน เพราะว่าโครงสร้างกระดูกสันหลังของเครือข่าย แอนไม่ต้องลงทุน ก็เช่ามา เช่ามาแล้วจ่ายค่าต๋งให้ การตลาดไปทำกัน ไม่ต้องลงทุนซ้ำซ้อน ไม่ต้องจังหวัดนึงมี 3 เสา 3 ยี่ห้อ 4 เสา 4 ยี่ห้อ เป็นของรัฐอันนี้ ส่วนใหญ่ในโลกนี้เขาทำอย่างนี้ทั้งนั้น มี กสทช.ไปดมทวารของฝรั่ง แล้วเดินตามหน้าฝรั่ง มันลืมนึกไป แล้วมันบอกว่า ให้ทีโอทีกับแคททำ ทีโอทีกับแคททำมันไม่ไปไหน ประเด็นไม่ใช่ไม่ไปไหน ก็ให้เขาเป็นเจ้าของเครือข่าย เขาไม่ได้มาทำเรื่องการบริการ เขาไม่ได้มาทำเรื่องคอลเซ็นเตอร์ เขาไม่ได้มาทำเรื่องวอยซ์ เรื่องโน้นเรื่องนี้ ทรูอยากทำก็ทำ ดีแทคอยากทำก็มาเอาไป แล้วมึงแข่งกันเอง

จินดารัตน์- ลงทุนเบสให้อย่างเดียว

สนธิ- ถูกต้อง นี่ยกตัวอย่างให้ฟังง่าย

จินดารัตน์- นี่ได้มาเจ้าละ 10,000 กว่าล้าน กี่ปีนะ 15 ปี

สนธิ- 15 ปี แล้วมันจะต้องลงทุนอีกเท่าไหร่ แล้วผมอยากจะถามว่าอี 2 จี ทั้งทรู ดีแทค เอไอเอส สัญญาณจะหมด 3-4 ปีก็หมด ถามว่าอี 2 จี ถ้า กสทช.มันต้องการช่วยประชาชนจริงๆ มันสามารถที่จะเอาสัมปทาน 2 จี โยนไปให้ทีโอทีกับแคท เพราะว่าพวกทรู ดีแทค เอไอเอส ตามสัญญามีบอกแล้ว ว่าเมื่อสัมปทานหมดจะต้องคืนเครือข่ายที่ลงทุนไปให้รัฐหมดเลย เท่ากับรัฐเป็นเจ้าของเครือข่ายหมดแล้ว แล้วก็ใช้สัมปทานคลื่น 2 จี ให้ใครก็ได้มาเช่าให้ใช้ ในราคาถูกฉิบหาย อาจจะแค่นาทีละสลึง เพราะฉะนั้นคนทำไมไปจ่ายนาทีละ 78 สตางค์ เขาจ่ายนาทีละสลึงแทน เพราะเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ 3 จี

จินดารัตน์- ลุง ป้า น้า อา แกคงไม่ถ่ายต้นไม้ ใบหญ้า ส่งไปให้ใครดูหรอก

สนธิ- นี่ไงเข้าใจหรือยัง นี่ยังไม่จบนะ ยังมีบรอดแคสติงอีกที่จะหมาย ใช่ไหม เป็นไงพอหรือยัง พักได้ยังเบรกนี้ รู้สึกอยากจะถามอะไรไหม

กมลพร- ยังไม่จบรายการอีกหรอ

จินดารัตน์- ยัง

สนธิ- ยิ่งพูดอย่างนี้จะไม่ให้จบ

กมลพร- คนดูเขาดีใจ

สนธิ- ไม่ๆ อยากจะถามอะไร ฟังแล้วรู้สึกอย่างไร

จินดารัตน์- เซ็ง

กมลพร- แล้วพวก กสทช.ด้วย

สนธิ- มันไม่มีประโยชน์อี กสทช.บ้า ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีเลย มีแต่แหล่งที่จะเรียกเงินค่าต๋ง จากโทรศัพท์มาแล้วมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างสุรุ่ยสุร่าย แล้วมาอวดดียโสโอหัง ว่าใช้ตรรกะหัวแม่ตีน คิดแก้ปัญหา แล้วก็เดินตามก้นฝรั่ง ดมก้นฝรั่งมาตลอด ลืมตัวไปนึกว่าประเทศไทยใหญ่ ประเทศไทยเล็กเท่า

กมลพร- ทำไม

สนธิ- ไม่ต้องพูดอีก จุด จุด จุด

จินดารัตน์- ของจีน

สนธิ- ของจีน เขาใหญ่กว่าเราตั้งแค่ไหน แล้วที่สำคัญที่สุดอเมริกาเขาทำอย่างนั้นได้ เพราะเขามีการแข่งขันที่แท้จริง ของเราไม่มีการแข่งขัน ของเรายังเหมือนเดิมทุกอย่าง

จินดารัตน์- ผูกขาดมากี่สิบปีแล้ว

กมลพร- ก่อนจะพักกัน โปรดิวเซอร์บอกพักได้ ตอนนี้คอลเซ็นเตอร์ของเรากลับมาเป็นปกติแล้ว สามารถจะโทรมาได้ถึงเที่ยงคืนแล้วตอนนี้ ยืนยันได้สำหรับการจองเครื่องทำน้ำด่าง โทรไปที่ 02-633-5353 นะคะ สามารถจะโทรได้แล้วถึงเที่ยงคืน

จินดารัตน์- คุณสนธิดูอารมณ์พี่น้องพันธมิตรฯ เราเนอะ โทรไม่ติดโทรมาด่าที่ออฟฟิตเลย

กมลพร- คือตอนนี้ใช้ได้แล้วคะ

จินดารัตน์- เดี๋ยวจองไม่ทัน

สนธิ- รีบๆ นะครับ

จินดารัตน์- แล้วตอนนี้ใช้ได้แล้วถึงเที่ยงคืน แน่นอนนะ

กมลพร- ใช้ได้แน่นอนแล้วคะ ยืนยันแล้ว

สนธิ- ใครโทรมาบอก

กมลพร- จัดรายการจบ 4 ทุ่มครึ่ง

สนธิ- โปรดิวเซอร์เขาแจ้งมา งั้นเดี๋ยวพอเปิดเบรกสุดท้ายย้ำตรงนี้อีกทีนึง แล้วนี้ไม่ถามอะไรเรื่องพวกนี้ หรือฟัง เซ็งแล้วไม่อยากถาม

กมลพร- ฟังมีคำถามว่า ล้มได้ไหม กสทช.

สนธิ- แล้วผมรำคาญไอ้พวกคน กสทช.บางคน มันยโสโอหัง กสทช.มีอำนาจ กฎหมาย กสทช.ไม่มีใครมาก้าวล่วงล้ำได้ มึงคือใครวะ มึงลืมตัวเหลือเกินนะ

จินดารัตน์- คุณสนธิคะ ไม่งั้นเขาคงไม่พูดหรอกว่า ตำแหน่งประธาน กสทช.เทียบเท่ารองนายกฯ หรือนายกฯ

สนธิ- นายกฯ เขาบอกนายกฯ เฮ้ย มึงคือใครวะมึงลืมตัวเหลือเกินนะ

จินดารัตน์- คุณสนธิคะ มิฉะนั้นเขาคงไม่พูดหรอกว่าตำแหน่ง กสทช.เทียบเท่านายกฯนะ ต้องบินเฟิร์สคลาสนะเจริญลงนะประเทศ

สนธิ- อย่างเลขาฯ กสทช. ที่ให้ทุนลูกสาวตัวเอง ผมเพิ่งได้เอกสารมีคนร้อง ป.ป.ช.ไปแล้ว ว่ามีเจตนาที่จะดำเนินการให้ลูกสาวตัวเองได้ทุน คือโดยมารยาท ตัวเองเป็นถึงเลขาฯ กสทช. หรือเป็นรักษาการแทนเลขาฯ กสทช.เพราะตอนนั้นยังไม่ตั้ง โดยมารยาทเอาลูกตัวเองเข้ามาสอบไม่ได้หรอก ญาติยังแย่

จินดารัตน์- คุณสนธิ แจกหนังสือ 7 เล่มเนี้ย พนักงาน ASTV ยังมีความระอายใจไม่ส่งข้อความเข้ามา

สนธิ- คือสังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่เข้าใจคำว่าควร และไม่ควร อันนี้น่ากลัวมาก ถูกกับผิด บางครั้งไม่สำคัญเท่าควร หรือไม่ควร บางครั้งผิด แต่ก็ควรทำ แต่บางครั้งถูกก็ไม่ควรทำ เพราะฉะนั้นควรกับไม่ควรมันเหนือยิ่งกว่าถูกกับผิด เพราะมันรวมไปจนถึงนอกจากจิตวิญญาณมันรวมไปถึงมโนธรรมอยู่ในใจ เหมือนตำรวจ ตำรวจเห็นผู้หญิงคนนึงท้อง เลี้ยงลูกอยู่แล้วขโมยนมหล่องนึง ตำรวจจับถามว่าผิดกฎหมายมั้ย ผิด แต่ไม่ควรจับ เอาเงินตัวเองจ่ายให้แล้วก็ไป หรือคืนเขาไปซะ ผมไม่เห็นอะไรนะป้า นี่คือควรหรือไม่ควร ถ้าสังคมรู้จักคำว่าควรหรือไม่ควรมากขึ้นชาติบ้านเมืองไม่วุ่นวายแบบนี้หรอก อยากฝากสำหรับเบรกนี้ ควรหรือไม่ควร

จินดารัตน์- ควรอย่างยิ่งที่จะโทรมา Call center พักกันสักครู่ก่อนค่ะ

สนธิ- เดี๋ยวมาเบรกสุดท้าย

ช่วงที่ 4

กมลพร- สำหรับคุยทุกเรื่องกับสนธินะคะ แล้วก็ Callcenter ของเรา 02 633 5353 ตอนนี้ใช้ได้เป็นปกติแล้วนะคะ เรียบร้อย สามารถโทรมาสั่งเครื่องกรองน้ำด่างได้จนถึงเที่ยงคืนเลย รีบโทรรีบจอง

จินดารัตน์- เรามาดูคำถามวิพากษ์วิจารณ์ในเฟสบุ๊กคุยทุกเรื่องกับสนธิก่อน คุณธีรวัฒน์ บอกว่า ฟังคุณสนธิแล้วท้อจริงๆว่าทำไมบ้านเมืองเรามีแต่พวกเลวๆ แล้วก็มีอีก 2 คน พูดถึง กสทช. คนนึงบอกว่าฟังคุณสนธิอ่านไอเอ็มให้ฟัง จะบ้าไปถึงไหน รู้สึกอายกันบ้างมั้ย ยังมองหน้าคนอื่นได้อยู่เหรอเนี้ย อีกคนบอกว่า กสทช.คือตัวย่อของ ก.โกง ส.สวาปาม ท.แทะเล็ม ช.ความชาติชั่วที่บิดรมารดาถ่ายทอดมาตามสายเลือด

กมลพร- มาดูคำถามที่ค้างๆ สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับคนที่ฝากเอาไว้สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านๆมา กับคนที่ฝากคำถามเอาไว้กับคุยทุกเรื่องหน้าเฟซบุ๊ก คุณยืนยง บอกว่าสวัสดีครับคุณสนธิ พร้อมกับกราบขอบพระคุณคุณสนธิมาด้วย ครั้งหนึ่งคุณสนธิเคยจัดรายการอย่างนี้เหรอครับ ความเห็นนี้น่าจะสัก 5 ปีมาแล้วทางวิทยุ ผมโทรมาหาคุณสนธิเรื่องลูกชายผมกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยพอดี คือลูกชายผมอยากเป็นหมอ ผมกับภรรยาก็กลุ้มมากๆ กลัวสอบไม่ติด ลูกจะผิดหวัง คุณสนธิให้คำแนะนำผมก็ปฏิบัติตามที่คุณสนธิแนะนำทุกอย่างนี้ ตอนนี้ลูกชายผมเรียนที่ศิริราช 5 ปีแล้ว ขอบคุณแทนลูกชายด้วยนะครับคุณสนธิ ขอให้มีความสุข ความเจริญยิ่งๆขึ้นไป เรื่องของการศึกษาน่าสนใจ ถ้าเคยติดตาม คุณคุณากร เลยขอบ้าง ขอคำแนะนำหน่อยครับ อยากสอบถามคุณสนธิ การเรียนอีพี กับภาคภาษาจีนแบบไหนดีครับ อยากวางรากฐานให้กับลูก ด้วยความเคารพอย่างสูง

สนธิ- EP English Program ภาคภาษาจีน ผมยังไม่เข้าใจของคำว่าภาคภาษาจีน กำลังหมายความว่าเขามี CP คือ Chinish Program หรือเปล่าในเมืองไทย ผมมองอย่างนี ผมมองว่า คนที่เรียนแม้กระทั่ง EP ในที่สุดแล้วพอกลับมาบ้านก็ต้องพูดภาษาไทยกับพ่อแม่ พอพ้นจากโรงเรียนก็พูดภาษาไทยกับเพื่อนฉะนั้นแล้ว ไอ้ 100%ของEnglish คงไม่ได้หรอก ผมก็บมองว่า อะไรก็ไม่สำคัญเท่าภาษาไทย ภาษาอังกฤษหรือภาษาจีนเป็นอะไรที่เราเรียนเสริม จบแล้ว ผมมองอย่างนี้ว่าถ้าหากสู้ได้ ให้เขาเรียนภาคปกติภาษาไทยไปว่าขอให้ภาษาไทยดีจริงๆ เด็กไทยสมัยนี้ภาษาไทยก็ไม่ดี ภาษาอังกฤษก็ใช้ไม่ได้ มิหนำซ้ำโตขึ้นไปภาษาคนพูดไม่เป็น ฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัด ผู้ใหญ่บางคนในประเทศไทยพูดภาษาคนไม่เป็น ผมกลับมองว่า ถ้าเรียนจบมัธยมแล้วมีเงินก็ส่งไปเรียนภาษาจีน อย่างที่หลานชายผม นายออฟ วริษฐ์ ลิ้มทองกุล เขาจบเศรษฐศาสตร์จุฬา ไม่จำเป็นต้องจบจุฬาก็ได้ จบ ม.6 ก็ไปเรียนมหาวิทยาลัยภาษา 1 ปี หรือเรียนให้ครบ 2 ปีก็จะพูด เขียนได้ ในขณะเดียวกันก็ต่อไปอีก 2 ปี ปริญญาตรี เหมือนหลานชายผม เขาไปเรียนมาภาษา 2 ปีเอง พอจบ 2 ปี ผมก็ยุให้เขาต่อ เรียนต่อได้ไหม เขาให้ปริญญา เรียนวัฒนธรรมจีน วรรณกรรมจี นเขาก็จบมาแล้ว ภรรยา ปอ ก็จบแบบนี้มาเหมือนกัน หรือว่า ถ้าจะไม่เอาจีน ก็เรียไนปแล้วก็จบ ม.6 ให้เรียนจบ ปริญญาตรีที่เมืองไทย แต่จะเรียนสาขาไหนค่อยคุยอีกวาระหนึ่ง แล้วก็แทนที่จะไปเรียนปริญญาโทต่อที่เมืองนอก MBA ทำไมไม่ไปเรียนภาษาจริงๆเลยล่ะ 1 ปีเต็มๆเลย ไปอยู่โรงเรียนที่ไม่มีคนไทย ให้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน พูดภาษาอังกฤษ อ่านภาษาอังกฤษ เขียนภาษาอังกฤษ คล่องเหมือนคนที่นั่น ปริญญาตรีก็มีอยู่แล้ว ภาษาก็มีอยู่แล้ว ตอนนี้ตรีกับโทไม่ต่างกันหรอก เชื่อผมซิ จบโท จุฬา ตรี ม.กรุงเทพ แต่จบมหาวิทยาลัยชีวิตที่ ASTV เด็กจบปริญญาโท เหมืองไทย ปริญญาโทเมืองนอก เดี๋ยวนี้คุณภาพต่ำมาก ฉะนั้นจบปริญญาตรีเอาภาษาที่ดีๆ น่าจะไปได้

จินดารัตน์- แอนสังเกต ม.ราชดำเนิน หลายคนเล่นเฟสบุ๊กแอนเข้าไปดูหน้าโปรไฟล์ของเขา การศึกษา จบ ดอกเตอร์ ม.ราชดำเนิน นี่คุณจีรทิพย์ในหน้าเฟสบุ๊ก บอกว่า คุณสนธิบอกว่าเดือนหน้าเป็นไปได้อย่านั่งเครื่อง หมดกัน เลยอดได้ยินข่าวไอ้แม้วตกเครื่องบินตายเลย ฟังคุณสนธิแบบนี้ก็ต้องเกิดอาการเสียวบ้างล่ะ

สนธิ- ไม่ๆ ผมไม่ได้บอกอย่านั่งเครื่อง พ่อแม่ครูอาจารย์เขาบอกว่าเดือนธันวาคม จะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นมาก

จินดารัตน์- หลีกเลี่ยงนิดหนึ่ง การเดินทาง

สนธิ- หลีกเลี่ยง นักวิทยาศาสตร์ก็พูด ไว้ศุกร์หน้าไม่ลืมเดี๋ยวผมจะเอาคำทำนายมาพูดกัน ซึ่งจะมีทั้งจิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

กมลพร- คุณณัฐยาพร ยังคง บอกว่าทำยังไงให้ลูกเชื่อฟัง ไม่ดื้อคะ

สนธิ- ผมคิดว่าการเลี้ยงลูกมันเป็นศาสตร์ที่สูงล้ำ ผมคิดว่าแอนน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี ผมว่าส่วนหนึ่งทำยังไงที่ให้ลูกมีความรู้สึกเขาเชื่อใจเรา ต้องเริ่มตรงนี้ก่อน พอเขาเริ่มเชื่อใจเรา เขาจะมีความรู้สึกว่าเขาไม่อยากปิดอะไรเรา ความที่เปลี่ยนจากสถานภาพจากพ่อกับลูก หรือแม่กับลูก ให้เป็นเพื่อนกันในลักษณะหนึ่ง เป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะเขาจะระบายให้เราฟัง พอระบายแล้วเราค่อยอธิบายให้เขาฟัง ถ้าเด็กดื้อ อย่าไปห้าม เอาเหตุผลเล่าให้ฟังก่อน แล้วถ้าเขายังทำ ให้เขาทำไป แล้วพอเขาเจ็บมาค่อยกลับมาบอกว่าแม่เคยบอกแล้วใช่มั้ย วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าเราต้องการจะให้เขาทำอะไร เขาไม่ทำ แล้วเราไปวัดว่าเขาดื้อ บางทีเราอาจจะไม่ได้เข้าใจเขาจริงๆ เริ่มด้วยเข้าใจเขาก่อน

กมลพร- คุณบูลโลน ถามว่าเรื่องเซ็กซ์วัยเกษียณครับผม จะปฏิบัติตัวยังไง

สนธิ- คำว่าวัยเกษียณหมายความว่าอะไร

กมลพร- 60 ปีขึ้นไปไงคะ พวกเกษียณแล้ว

สนธิ- ผมคิดว่าความต้องการทางเพศมันขึ้นอยู่กับฮอร์โมนในร่างกาย นี่ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 มันขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจด้วย ขึ้นอยู่กับธาตุมนุษย์ เขาบอกว่าคนธาตุไฟจะร้อนแรง ธาตุไฟเขาเรียกหยาง ทางจีน ต้องมีหยินเข้ามาดับ ความเย็น เพราะฉะนั้นถ้าใครหยางมากต้องมีหยินเข้ามา ทีนี้ความต้องการทางเพศ ผมคิดว่าบางทีบางคน 80 ก็ยังมี จะไปยึดถือว่าพอ 60 แล้วจะหมดเลย มันไม่ได้ คำถามก็คือว่า ต้องการไปเพื่ออะไร ต้องถามตัวเองก่อน ถ้าต้องการไปเพื่อปลดเปลื้องตัวเอง ก็คำถามว่า ไอ้ที่ปลดเปลื้องน่ะมันคืออะไร มันคืออารมณ์หรือเปล่า ถ้าเป็นอารมณ์แล้ว เราใช้วิธีอื่นที่จะสะกดอารมณ์เราได้ดีกว่า หรือเปล่า ต้องถามตัวเองตรงนี้ก่อน เพราะว่าเหมือนกับคนโบราณ ผู้ชาย เขาพูดว่านารีงามสรรพเมื่อดับไฟ พอปิดไฟแล้วจะหน้าตาเหมือนนางสาวไทย หรือเป็นเหมือนพม่า อะไรก็ไม่สนใจแล้ว เช่นเดียวกัน อีกศัพท์หนึ่งเขาบอกว่า พอน้ำแตกแล้วแยกกัน ก็คือพอจบภารกิจแล้วก็จบ แล้วก็ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อไป เพราะฉะนั้นตรงนี้มันเป็นกามตัณหาที่ถ้าระงับมันได้ด้วยความสงบในใจ ทำไปเถอะ

กมลพร- คุณต้น อันนี้เป็นเรื่องของการลงทุนบ้าง ภาคธุรกิจบ้าง บอกว่าผมอยากเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ๆ และมั่นคง คุณสนธิช่วยแนะนำหนังสือดีๆ หรือว่าธุรกิจดีๆ ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

สนธิ- หนังสือดีๆ ธุรกิจดีๆ ที่จะทำ มันไม่มีหรอกครับ มันมีแต่จิตใจที่ดีๆ รอบคอบ และใช้สามัญสำนึกในการทำงาน บางคนบอกผมอยากทำธุรกิจ ผมจะต้องอ่านหนังสืออะไร ผมอยากทำธุรกิจผมจะต้องไปเรียนหนังสือหรือเปล่า ไม่จำเป็น ธุรกิจคือการซื้อมาขายไป ถ้าคุณจะเป็นพ่อค้าแม่ขาย คุณซื้อมาบาทนึง ถ้าคุณขายไป 50 สตางค์ คุณก็ขาดทุน 50 สตางค์ คุณก็ต้องขาย 1.50 บาท ถึงจะมีกำไร คำถาม คุณก็ต้องถามว่าคุณขายได้มั้ย 1.50 ถ้า 1.50 ขายไม่ได้คุณก็ลด ในที่สุดคุณก็ขายได้แค่ 1.10 คำถามก็มีต่อว่าถ้ากำไร 10 สตางค์ คุณอยู่ได้มั้ย ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ จบ มันเป็นเรื่องคอมมอนเซนส์ แล้วถ้าคุณขาย คุณขายได้ 1.10 แต่ค่าใช้จ่ายคุณ 20 สตางค์ คุณก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันอยู่ที่คอมมอนเซนส์หมด

จินดารัตน์- เป็นคำถามจากสมณะบินก้าว อิทธิภาโว นะคะ สมณะบอกว่ามีคนฟังวิทยุ จ.นครปฐม โทรมาที่สถานี ให้ฝากถามคุณสนธิ คุณลุงสนธิ หรือเขาเรียกว่าลุงเถ้าแก่ ว่า สมมุติว่าหากไม่มีปรากฏการณ์ เสธ.อ้าย ไม่มาแจ้งเกิด พันธมิตรฯ จะสตาร์ทยุทธการจับปูไปปล่อยทะเลหรือเปล่า และเมื่อมีปรากฏการณ์ เสธ.อ้าย แจ้งเกิดแล้ว และรวมพลังอาสาจับปูไปปล่อยทะเล ขอถามคุณลุงเถ้าแก่ในความคิดส่วนตัว มีความคิดจะกำหนดยังไง หรือจะทำอะไรบ้าง ขอบคุณครับ

สนธิ- ผมเข้าใจว่าเป็นความคิดของคนที่ต้องการตั้งคำถามว่า ถ้าไม่รวมตัวกันแล้วจะไปไล่ทักษิณได้ยังไงมากกว่า ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นพันธมิตรฯ จากนครปฐม หรือว่าเป็นความคิดของท่านสมณะเอง แต่ไม่เป็นไรครับ สรุปง่ายๆ ก็คือว่า ผมเคยพูดไปแล้ว และผมจะพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า การที่จะให้รัฐบาลชุดนี้ออกไป ถ้ารัฐบาลมันหน้าด้านมันไม่ไปหรอก

จินดารัตน์- ทำยังไงมันก็ไม่ไป

สนธิ- ทำยังไงมันก็ไม่ไป แล้วจะไล่มันยังไงล่ะ ตอบผมหน่อยสิ จะไปยึดทำเนียบฯ อีกครั้งหนึ่งหรือไง เอาล่ะ ถ้าสมมุติยึดทำเนียบฯ มันไม่ใช้ทำเนียบฯ มันไปใช้ที่อื่น แล้วจะทำยังไง ยิ่งทำไปก็ยิ่งทำผิดกฎหมายมากขึ้นๆๆๆ เพราะฉะนั้นแล้ว คนที่มีอำนาจรัฐจะได้เปรียบ การที่จะไล่คนพวกนี้ออกไปมีอยู่ทฤษฎีเดียวที่จะไล่ได้ก็คือ ทหารจะต้องไล่พวกนี้ออกไป คำถามก็มีต่อ ถ้าไล่ออกไปแล้วจะยังไงต่อ ก็ไม่ยังไงต่อ ถ้าหากยังคงเป็นลักษณะสนธิบัง กับสุรยุทธ์ จุลานนท์ บ้านเมืองก็ฉิบหายต่อไป สู้ปล่อยให้มันบริหารจนกระทั่งประเทศฉิบหาย คำถามว่า แล้วคุณสนธิจะปล่อยประเทศชาติฉิบหายได้ยังไง คำตอบก็มีอยู่ว่า ก็ในเมื่อประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่าทนได้ ก็ทนไปสิ ผมทนไม่ได้ เมื่อผมทนไม่ได้ผมก็ให้ความรู้คนของผมก่อน เกาะกลุ่ม เมื่อผมเกาะกลุ่มได้มากพอสมควรแล้ว การเกาะกลุ่มตรงนี้จะเป็นพลังในอนาคต ปีหน้า ธ.ก.ส.ไม่มีตังค์แล้ว ปีหน้าข้าวจะจำนำ จะเอาเงินที่ไหนจำนำ ปีหน้าน้ำมันจะขึ้นอีก ปีหน้าค่าแรง 300 บาท จะเกิดขึ้น คนจะว่างงานขึ้นอีกเยอะ รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ยังไง เมื่อรัฐบาลชุดนี้มันอยู่ไม่ได้ เหตุผลก็เพราะว่าไอ้คนซึ่งไม่เคยเดือดร้อนมันจะเริ่มเดือดร้อน เมื่อมันเริ่มเดือดร้อนแล้วมันจะเริ่มแสดงออก ตรงนั้นคือจุดที่ต้องไล่รัฐบาล

จินดารัตน์- นั่นคือสุกงอมจริงๆ

สนธิ- สุกงอมจริงๆ ตอนนี้ยังไม่สุกงอม จบแล้ว

จินดารัตน์- วันนี้คนถาม เสธ.อ้าย ว่าแล้วจะยังไงต่อ เสธ.อ้าย ก็ยังตอบไม่ได้เลยค่ะว่าจะยังไงต่อ

กมลพร- ยังบอกไม่ได้ บอกตอนนี้เดี๋ยวคนรู้

สนธิ- ไม่มีคำถามแล้วใช่มั้ย

กมลพร- คำถามสุดท้ายจากคุณอังกูร ฮ่องกงถูกโจมตีค่าเงินในระยะนี้มันจะเหมือนประเทศไทยตอนปี 40 มั้ยคะ

สนธิ- คงไม่ใช่หรอก เพราะสถานภาพเศรษฐกิจไทกับฮ่องกงไม่เหมือนกัน และเงินตราฮ่องกงมันถูกกว่าเงินหยวนของจีน อย่างไรก็ตาม ถ้าพลาดจีนจะเข้ามาช่วย ถ้าเงินฮ่องกงพังทลายไปมันกระทบถึงเงินหยวน

จินดารัตน์- วันนี้ก็ได้มุมมองหลายๆมุมมองนะคะ ทั้งต่างประเทศ และในประเทศไทย แต่บางคนสะใจ วันนี้ไบก้อนเขียวขายดี

สนธิ- ไม่ใช่หรอก คือด้วยความเคารพนะ ผมคิดว่า การที่เราจะเชื่อใคร รักใคร หรือศรัทธาใคร อย่าเชื่อรักและศรัทธา อย่างมงาย ผมไม่เคยคิดว่าทุกคนจะต้องเชื่อผมโดยจะต้องมาตามผม แอนกับเก๋อยู่กับผมมา 7- 8 ปีแล้ว คำถามที่แอนกับเก๋ผมจะคุยแทนตัวกับพันธมิตรฯและท่านผู้ชมว่า เคยมีครั้งไหนมั้ยที่ผมพูดเมื่อ 7 ปีที่แล้ว 6 ปีที่แล้ว และวันนี้ในเรื่องเดียวกันผมพูดผิดไป ถ้าเราพูดในสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ควรจะพูดเราพูดเมื่อไหร่ก็เหมือนทุกครั้งที่เราพูด เราพูดเมื่อไหร่เราไม่เคยลืมว่าเราพูดอะไรไว้ เพราะเราไม่ต้องจำ เพราะมันเป็นความถูกต้อง ฉะนั้นแล้วผมโดนโจมตีจากพวกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปีที่แล้วก่อนเลือกตั้งสักเดือนสองเดือนช่วงที่เราตัดสินใจโหวตโน เหตุผลเพราะว่าต้องการจะดึงมวลชนออกมาว่าอย่าไปเชื่อสนธิ โอ้ย ข่าวมันแรงมาก ผมก็นิ่งเงียบสงบผมใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หลายคนบอกว่า คุณสนธิ ต้องพูดบ้างนะ คุณไม่พูดเดี๋ยวคนเข้าใจผิด ผมก็บอกว่า ถ้าคนจะเข้าใจอย่างนั้นก็เข้าใจไปเถอะ ผมจะไปเปลี่ยนความเข้าใจคนไม่ได้ ผมจะไปนั่งเถียงทุกวัน พรุ่งนี้มีคนพูดอีก เถียงมะรืนก็พูดอีกกลายเป็นว่าผมไปต่อล้อต่อเถียง เรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลาเป็นเครืองพิสูจน์ คนที่ต้องพิสูจน์นั้น มีกึ๋น และมีความอดทนมากพอมั้ย ถ้ามีความอดทนไม่มากพอเหมือนมดอยู่ในกระทะที่ร้อน ก็เล่นไปตามกระแส และตายไปพร้อมกระแสพวกนั้น แต่ถ้าอดทนมากพอในที่สุดเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ จุดจบของความจริงในที่สุดแล้ว มันไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่ว่ากว่าที่จะไปถึงจุดที่มันจะจบตรงนั้น เราทนได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเราทนได้มาก ผลมันตามมาที่หลังนั่นคือรางวัลที่เราได้ และที่น่าเสียดายก็คือว่า พอถึงวันนั้นแล้ว เราพิสูจน์ตัวเราแล้ว คนก็ลืมไปหมดแล้ว จำไม่ได้ ว่าสนธิถูกกล่าวหาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ ที่พิสูจน์ชัดแล้วว่าไม่ใช่ หลายคนลืมไปแล้ว แล้วก็จะเชื่อข่าวลืออันใหม่อีก เพราะฉะนั้นแล้วนี่คือสันดานมนุษย์ ผมถึงบอกว่าเมืองไทยนี่ ผู้ใหญ่ยิ่งผ่านโลกมาก ยิ่งพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง อย่าไปว่าเด็กเลย เพราะฉะนั้นแล้ว เรียนภาษาอะไรดี ให้กับลูก สอนลูกให้ฟังภาษามนุษย์ให้เป็น และพูดภาษาคนให้ถูกต้อง นั่นคือกุญแจที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่เรื่องอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว

จินดารัตน์- ชอบอ่ะ จบได้ดี ปิดรายการเลย

กมลพร- วันนี้หมดเวลาแล้วจริงๆ นะคะ คุณสนธิจบได้ดีแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเราแขกรับเชิญไม่ต้องสรุปอะไรมากมายนะคะ คุยทุกเรื่องกับสนธิหมดเวลาลงแล้ว ยังไงลาคุณผู้ชมไปก่อน กลับมาเจอกันใหม่สัปดาห์หน้านะคะ สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น