xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา” ทวงถาม “ยิ่งลักษณ์” รื้อราคาพลังงานกระชากค่าครองชีพ ชี้ ปชช.ใช้ก๊าซแพง 40%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาวรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมห่านคร (ภาพจากแฟ้ม)
ส.ว.กทม.อภิปรายถึงนายกฯ เคยประกาศปรับโครงสร้างราคาพลังงานกระชากค่าครองชีพ ชี้ประชาชนใช้แอลพีจีราคาตลาดโลก แพงกว่าภาคอุตสาหกรรมถึง 40% ถือว่าไม่เป็นธรรม เผยรัฐบาลลอยตัวราคาก๊าซบริหารงานแย่ เพราะอุ้มปิโตรเคมีเจ้าเดียว ให้ประชาชนดิ้นรนเอาเอง ซัด รมว.พลังงานฉ้อราษฎร์บังหลวง

วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ในการประชุมวุฒิสภานัดพิเศษ เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปคณะรัฐมนตรี โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช เป็นประธานในที่ประชุม น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวอภิปรายรัฐบาลว่า การอภิปรายของทางสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ตลอดช่วงที่ผ่านมานั้นยังไม่มีใครที่จะหยิบยกปัญหาเรื่องพลังงานขึ้นมาพูด เมื่อตอนที่รัฐบาลเข้มารับตำแหน่งใหม่ๆ นั้น รัฐบาลได้ประกาศนโยบายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และผู้ประกอบการ เนื่องจากสภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศไว้ว่าจะมีการปรับโครงสร้างพลังงานทั้งหมด เพื่อที่จะนำไปสู่การดูแลสินค้าอุปโภคบริโภค และราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคและผู้ผลิต ตนจึงจะอภิปรายใน 4 ประเด็นในเรื่องพลังงาน คือ 1. ก๊าซหุงต้มแอลพีจี รับฐาลได้ประกาศขึ้นราคาทั้งระบบอยู่ตลอดเวลา ซึ่งรัฐมนตรีพลังงาน 3 คนมาแล้วที่พูดขัดแย้งต่อสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้หาเสียงไว้ว่าจะกระชากค่าครองชีพ จะลดราคาเชื้อเพลิงลง ซึ่งในตอนนี้ก็มีความชัดเจนว่าจะมีการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2556 เป็นต้นไป ในอัตราเดือนละ 50 สตางค์ เป็นระยะเวลา 2 ปี คือเพิ่มขึ้นมา 12 บาท โดยรัฐบาลอ้างว่าเวลานี้ประชาชนใช้ราคาก๊าซแอลพีจีต่ำกว่าราคาของตลาดโลก แม้ว่าราคาของตลาดโลกจะอยู่ที่ 9 ล้านเหรียญ เทียบเป็นเงินไทยประมาณ 27 บาท แต่สิ่งที่รัฐบาลพูดถึงคือราคา 36 บาท ในกระบวนการของคนที่ใช้ก๊าซแอลพีจีทั่วไปนั้นคือบรรดาภาครัวเรือน แต่ยังมีอีกหนึ่งอุตสหากรรมที่ต้องใช้ก็คือ ปิโตรเคมี เป็นวัตถุดิบ ซึ่งกลุ่มนี้ได้ใช้ราคาแอลพีจีต่ำกว่าตลาดโลกถึง 40 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ เมื่อปี 2554 ภาคครัวเรือนได้ใช้ก๊าซแอลพี่จีอยู่ที่ 2.6 ล้านตัน คิดเป็นประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ทั้งหมด ปิโตรเคมีใช้อยู่ที่ 2.4 ล้านตัน คิดเป็น 36 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ภาคยานยนต์ใช้ 9 แสนตัน คือ 13 เปอร์เซ็นต์ และอุตสาหกรรมเล็กใช้ 7 แสนตัน หรือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ปรากฏว่า 3 กลุ่มนี้ละเว้นภาคปิโตรเคมี คือกลุ่มที่รัฐบาลต้องการจะขึ้นราคาก๊าซ ในขณะที่ปิโตรเคมีกลับไม่มีการพูดถึงการขึ้นราคาแอลพีจีที่ได้จากแหล่งก๊าซในประเทศมีถึง 55 เปอร์เซ็นต์ นำเข้าจากต่างประเทศ 22 เปอร์เซ็นต์ มาจากโรงกลั่นน้ำมัน 23 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น ตนจึงสงสัยว่ารัฐบาลนำเข้าก๊าซแอลพีจีจากต่างประเทศแค่นี้ อาจจะมีการบวกกับส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน รวมแล้วประมาณ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่มีก๊าซในประเทศถึง 55 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลกลับให้ประชาชนใช้ก๊าซแอลพีจีในราคาตลาดโลกทั้งหมด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน ซึ่งการที่รัฐบาลบอกว่าจะกระชากค่าครองชีพลงมานั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ค่าครองชีพของประชาชนก็จะต้องปรับเพิ่มตาม เช่น ราคาของข้าวแกง และเมื่อปรับขึ้นมาแล้วก็จะไม่มีการปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม มติของคณะรัฐมนตรีในยุครัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เคยมีมติว่าจะนำเข้าก๊าซต่อเมื่อในประเทศไม่เพียงพอ โดยให้ภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมได้ใช้ก่อน เพราะก๊าซจากแหล่งก๊าซในประเทศเป็นของประชาชน ส่วนปิโตรเคมีนั้นเป็นภาคที่ได้รับกำไร ถ้าหากว่าใช้จากโรงกลั่นน้ำมันของตัวเองไม่เพียงพอ ขอให้นำเข้าโดยคิดราคาเท่าตลาดโลก โดยการที่รัฐบาลประกาศว่าจะลอยตัวราคาก๊าซนั้นเป็นการบริหารงานที่แย่กว่ารัฐบาลสมชาย เพราะรัฐบาลกำลังจะอุ้มปิโตรเคมีอยู่เจ้าเดียว โดยให้ภาคประชาชนไปดิ้นรนกันเอาเอง ส่วนสัมปทานปิโตรเลียมไม่ได้มีการราคาส่วนแบ่ง ซึ่งรัฐบาลกำลังจะเปิดสัมปทานรอบใหม่โดยที่ไม่ได้มีการจัดส่วนแบ่งใหม่ และหากมีการแบ่งใหม่ ประเทศจะได้รับเงินส่วนแบ่งต้องมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก และทำให้นำเงินไปใช้ในส่วนอื่นได้โดยที่ไม่ต้องกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ เพราะรายได้ที่ถูกแบ่งมานั้นมีความไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าคนไทยจะต้องใช้ก๊าซในราคาของตลาดโลกทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ สัมปทานก็ไม่ควรที่จะมีต่อไปเช่นกัน ถ้าจะเปรียบว่าการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนั้นเป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวงนั้น รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานหากมีการปล่อยให้ลอยตัวราคาพลังงานทั้งระบบ ก็คือว่าเป็นการฉ้อราษฎร์โดยการใช้กลไกของรัฐเปิดโอกาสให้มีการล้วงกระเป๋าของประชาชนเช่นกัน เพราะฉะนั้นตนอยากจะขอให้รัฐมนตรีทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศเสียก่อนที่จะมีการประกาศขึ้นราคา


กำลังโหลดความคิดเห็น