หน.ปชป.ติงทัศนคติรัฐมอง ปชช.เห็นต่างเป็นปฏิปักษ์ ทั้งที่ม็อบไม่รุนแรง บีบ ขรก.ยอมสยบ ยอมขวาง ปชช.เอาใจรัฐ ชี้ใช้วิธีลัดปราบหวังฝ่ายการเมืองลอยตัว แถมคุกคามสื่อด้วยการจับกุม แนะทบทวนการกระทำหวั่น ปชช.ทนไม่ไหว เผยมีร้องเรียนละเมิดสิทธิ พร้อมตั้งคณะทำงานจัดการ
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ว่าสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องสื่อสารถึงประชาชนและรัฐบาล เพราะเรามีความห่วงใยต่อทัศนคติวิธีการปฏิบัติของรัฐบาลที่มีต่อประชาชน ที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากรัฐบาล ซึ่งตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ที่ส่งสัญญาณว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชน รวมทั้งเหมือนเป็นการบังคับให้ข้าราชการต้องเลือกข้าง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง โดย 1. มีข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมก่อนที่จะชุมนุม จนนำไปสู่การประกาศใช้กฎหมายความมั่นคง จนเหตุการณ์จบก็ไม่ได้มีอะไรบ่งชี้ว่าผู้ชุมนุมเป็นตามที่มีการกล่าวหาไว้ล่วงหน้า 2. จากการมีแนวความคิดให้เจ้าหน้าที่เลือกข้างและมองประชาชนเป็นปฏิปักษ์ จึงเกิดการขัดขวางการใช้สิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ที่ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ เห็นได้จากข่าวการสกัดกั้นผู้มาชุมนุมหลายรูปแบบ ถือเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานของประชาชน
หัวหน้าประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า 3. เมื่อผู้ชุมนุมเดินทางเข้าสู่สถานที่ชุมนุมตามที่นัดหมายและประสานงานไว้ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ปะทะตั้งแต่เช้า และการตัดสินสินใจใช้วิธีการลัดขั้นตอนเบาไปหาหนักนั้น เป็นการดำเนินการที่พยายามจะให้ฝ่ายการเมืองลอยตัวออกจากโครงสร้างการจัดการความมั่นคง สุดท้ายมีการใช้แก๊สน้ำตา ที่กล่าวอ้างว่าเป็นมาตรฐานสากล แต่ไม่มีการเตือนจนนำไปสู่การปะทะและจับกุม ยัดเยียดข้อหาและของกลาง 4. การจับกุมสื่อมวลชน ที่ถือเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ซึ่งทั้งหมดเป็นภาพรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากเหตุการณ์เมื่อวาน (24 พ.ย.) รัฐบาลดำเนินการต่อเนื่องก็เชื่อว่าจะมีความรุนแรงมากกว่านี้ แต่ความสูญเสียที่ไม่เกิดขึ้นเพราะแกนนำผู้ชุมนุมมีความรับผิดชอบ ซึ่งขอแสดงความชื่นชม พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (เสธ.อ้าย) แกนนำ อพส. ที่ประเมินจะมีอันตรายต่อชีวิตของผู้ชุมนุม จึงตัดสินใจยุติการชุมนุม
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนท่าที ทัศนคติที่เกี่ยวข้อง การใช้สิทธิทางการเมืองของประชาชนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งแม้การชุมนุมจะจบลงแล้ว แต่ก็ขอเตือนรัฐบาลว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นและทัศนคติของรัฐบาลที่เป็นอยู่ในขณะนี้ มีแต่จะสร้างและสะสมความอึดอัด ความโกรธของประชาชนจำนวนมาก หากรัฐบาลไม่ปรับท่าทีปัญหานี้ก็จะย้อนกลับมา และเพื่อให้การดำเนินงานทางการเมืองของทุกฝ่ายสามารถเดินไปได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่จะลุกลาม บานปลายไปเป็นความรุนแรงในอนาคต ทั้งนี้ จากการชุมนุมดังกล่าวมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาที่พรรคเกี่ยวกับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ พรรคได้มอบหมายให้นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยจะมีนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช และนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน เพื่อที่จะดูแลประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิ์ได้รับการดูแลด้านกฎหมายและด้านอื่นๆ เท่าที่พรรคจะช่วยเหลือ และประมวลเหตุการณ์