xs
xsm
sm
md
lg

คลอดหนังสือ 1 ปี “รัฐบาลปู” ป้ายสี เอาดีใส่ตัว โวผลงานปรองดองแจกเงินเผาเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
รัฐบาลคลอดหนังสือ 1 ปีผลงาน “การบริหารประเทศยิ่งลักษณ์” มีป้ายสี-เอาดีเข้าตัว ซัดสถานการณ์ก่อนเข้า การเมืองไม่มั่นคง คอร์รัปชันสูง สัมพันธ์ร้าวเพื่อนบ้าน ระรื่นโชว์ผลงานปรองดองโบแดง แจกเงินเผาเมือง โว 3 เดือน พลิกเศรษฐกิจวิกฤตภัยน้ำท่วม ขายฝันสร้างแรนด์ประเทศเป็น Modern Thailand โฆษกรัฐบาลปัดออกต้านกระแสอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดทำหนังสือรวมผลงาน 1 ปีรัฐบาล โดยแจกจ่ายให้สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ภายใต้ชื่อ “1 ปีมุ่งมั่น เดินหน้า พัฒนา ร่วมกัน” รวมทั้งหมด 16 ผลงานที่เคยแถลงต่อรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 54 - 23 ส.ค. 55

ทั้งนี้ ในหนังสือผลงานดังกล่าวเป็นเอกสารฉบับย่อเพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจกับประชาชน พิมพ์ด้วยกระดาษสีจำนวน 23 หน้า จัดพิมพ์โดยสำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รูปภาพหน้าปกเป็นภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 1 ปี มุ่งมั่น เดินหน้า พัฒนา ร่วมกัน 23สิงหาคม - 23 สิงหาคม 2555

นายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าหนังสือผลงาน 1 ปืรัฐบาลจะมี 2 เล่ม คือเล่มใหญ่ กับเล่มเล็ก โดยเล่มใหญ่มีการจัดพิมพ์ 5,000 เล่ม ซึ่งจะส่งให้รัฐสภาเพื่อกำหนดวาระการแถลงต่อรัฐสภาอีกครั้งรวมทั้งแจกจ่าย ส.ส.และ ส.ว. ห้องสมุดศูนย์การศึกษา ส่วนเล่มเล็กจัดพิมพ์จำนวน 250,000 เล่ม เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไป โดยหาเนื้อสรุปมาจากเล่มใหญ่ มีเนื้อหาเข้าใจง่าย อย่างไรก็ตาม หนังสือผลงานรัฐบาลที่ออกมาในช่วงนี้ไม่ได้เป็นเพราะฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เพิ่งจะแล้วเสร็จ เพราะได้มีการปรับปรุงแก้ไขดังนั้นถึงจะมีหรือไม่มีฝ่ายค้านก็อภิปรายอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือรวมผลงานรัฐบาลดังกล่าว เริ่มต้นด้วยหัวข้อ “จุดมุ่งหมายในการบริหารประเทศ” ซึ่งประกอบด้วย 3 หัวข้อ คือ 1. สร้างเศรษฐกิจสมดุล และเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศ 2. สร้างบรรยากาศความเชื่อมั่นโดยมุ่งสู่สังคมที่มีความปรองดอง บนหลักนิติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียวกันกันอย่างเท่าเทียมกันทุกคน 3. เตรียมความพร้อมประกาศในการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน

จากนั้นเป็นการกล่าวถึงประเด็นที่น่าสนใจ คือ การกล่าวถึงหัวข้อ “สถานการณ์ประเทศเมื่อรับหน้าที่” โดยหนังสือผลงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้พยายามแจกแจงถึงสถานการณ์ปัญหาที่มีมาก่อนการเข้ารับตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นรายละเอียด 6 ประการ คือ 1. การเมืองไม่มั่นคง สูญเสียโอกาสในการเดินหน้าพัฒนาประเทศ ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาของประเทศล่าช้าไม่ต่อเนื่อง 2. สังคมขาดการดูแล ยาเสพติดแพร่กระจายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับคอร์รัปชันของนักการเมืองและข้าราชการสูง นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ขาดมาตรการรองรับการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุ ขาดแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาผู้หญิงและเด็ก ช่องว่างทางการศึกษาระหว่างในเมืองและต่างจังหวัดสูง ขณะที่มาตรฐานทางการศึกษาโดยรวมต่ำลง

3. การจัดการน้ำ ขาดการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง มีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ปริมาณน้ำเต็มเขื่อนไม่สามารถระบายน้ำได้ ขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับน้ำ โดยเฉพาะกรณี อุทกภัย ขาดแผนการรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกอย่างมีประสิทธิภาพ 4.เศรษฐกิจของประเทศไม่สมดุล ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลง ไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างเศรษฐกิจไทยพึ่งการส่งออกถึง 70% เกิดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ 5. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านตึงเครียด ขาดการยอมรับของนานาชาติในความเป็นประชาธิปไตย ส่งผลให้ขาดความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย 6. ภาวะเศรษฐกิจและสังคม ผันผวน ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ของโลก

ต่อจากนั้น ได้ชี้แจงถึงจุดมุ่งหมายในการบริหารประเทศ โดยก้าวแรกมุ่งมั่นและตั้งใจทำ 16นโยบายเร่งด่วนตามสัญญา ดังนี้ คือ 1. สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ได้แก่ สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, กำหนดนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2555-2559 เพื่อเป็นกรอบกำหนดทิศทาง การสร้างความมั่นคงของชาติอย่างยั่งยืน , ตั้งคณะกรรมการอิสระประสานงานและติดตามผลการดำเนินงาน ตามข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหา ความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เร่งผลปฏิบัติงานให้สู่ความปรองดองอย่างรวดเร็ว, เยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากการเมือง จำนวน 1,816 คน 1,373.93 ล้านบาท, ประกันตัวผู้ต้องห่คดีอาญา ที่เกี่ยวเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง จำนวน 67 คน

2. กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” เพื่อให้ปัญหาลดลง โดยป้องกันด้วยการแยกกลุ่มเสี่ยง เฝ้าระวังไม่ให้กลับไปเสพซ้ำ ปราบปรามจับกุมผู้ค้าและผู้มีอิทธิพล อย่างเข้มงวดจริงจัง รวมทั้งบำบัดรักษา 3. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย 4. ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ และเร่งรัดการขยายพื้นที่ชลประทาน เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

5. เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และนำสันติสุขกลับคืนสู่จงหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว 6. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับนานาประเทศ และขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลาง ของการเชื่อมโยงประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยจากนานาชาติ 7. แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จากความผันผวนของราคาพลังงาน เพื่อดูแลค่าครองชีพของประชาชนและราคาพลังงาน ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

8. ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส 9. ลดอัตราภาษีนิติบุคคล เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ของภาคเอกชนและกระตุ้นการลงทุน 10. ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าและขยายโอกาสให้ประชาชน 11. ยกระดับราคาสินค้าเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของเกษตรกรที่ดีขึ้น 12. สร้างรายได้จาการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้เติบโตมั่นคง

13. สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยสนับสนุนภารกอจของมูลนิธิศิลปาชีพ และฟื้นฟู OTOP ต่อยอดสู่โลก 14. พัฒนาระบบประกันสุขภาพ ยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม 15. เติมความรู้ด้วยการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท๊บเล็ตให้แก่โรงเรียน เพื่อพัฒนาโอกาสทางการศึกษาของเด็กไทยอย่างเท่าเทียม และ 16. เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป ได้อย่างมีเสถียรภาพ พร้อมทั้งระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเสนอกฎหมายปรองดอง เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปฎิรูปการเมือง โดยรัฐบาลได้ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภาแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลทีได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา

ขณะเดียวกัน ในเอกสารผลงานรัฐบาล ในหน้า 22 ได้ระบุหัวข้อ “คนไทยทุกคนภาคธุรกิจได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล” ระบุว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตน้ำท่วม ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีอัตราการเติบโต GDP มีการปรับตัวแบบ V -shape ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วพลิกเศรษฐกิจภายใน 3 เดือน ในขณะเดียวกัน ก็ระบุ 1 ปีกับผลงานทางด้านเศรษฐกิจ ว่าจากนโยบายรัฐบาลและการเร่งรัดติดตามการบริหารจัดการส่งผลให้ประมาณการ GDP ปี 2555 คาดว่าจะเติบโตถึง 5.5-6.0%

ทั้งนี้ หนังสือผลงานนโยบายรัฐบาลฉบับย่อ นี้ปิดท้าย ด้วยหัวข้อ “ก้าวต่อไปเพื่อนำพาประเทศสู่อนาคตที่มั่นคง” มีการระบุถึงการพัฒนา 5 หัวข้อ คือ 1. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วางรากฐานให้ประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน อาทิ การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมภัยแล้ง, สร้างไทยเป็นศูนย์กลาง connectivity ของ ASEAN 2. ข้อพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ระบุถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจตั้งแต่ระดับชุมชน SME ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่, เร่งสร้างรายได้ประเทศให้เพิ่มขึ้น พร้อมพัฒนารายได้ใหม่, ก้าวสู่อาเซียน และที่น่าสนใจคือ ประเด็นที่ระบุถึง การพัฒนาการสร้าง แบรนด์ ประเทศไทยเป็น “Modren Thailand” และการพัฒนาสินทรัพย์ราชการที่ไม่ได้ใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3. พัฒนาสังคม เพิ่มคุณภาพชีวิต ศักยภาพและโอกาสที่เท่าเทียมของประชาชน เช่น พัฒนาระบบสาธารณสุข พัฒนาการเมืองการปกครองการมีส่วนร่วมภาคประชาชน

4. พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพิ่มเพิ่มความเชื่อมั่นจากนานาชาติ โดยระบุว่า จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อขยายการค้า การลงทุน และหัวข้อที่ 5 ที่น่าสนใจ คือ สานต่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ที่กล่าวถึง 1. สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2 .ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียม


กำลังโหลดความคิดเห็น