xs
xsm
sm
md
lg

ซัด1ปีปูไร้ผลงาน ครม.เงาก็สอบตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปชป.ชำแหละ ปี 1 ยิ่งลักษณ์ ชี้ 16 นโยบายล้มเหลว แผนปรองดองยิ่งทำให้แตกแยก เยียวยาเฉพาะพวกพ้อง เผยเอื้อประโยชน์ลดภาษีเอกชน ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ สอบตกแก้ปัญหาใต้ชัดเจน "สุริยะใส" ชี้ 1 ปี ยิ่งลักษณ์ เป็นยุค Organize Politics ได้แค่คะแนนพิศสวาท ไร้ผลงานจริงเป็น วาระพี่ชายคืบหน้ากว่าวาระชาวบ้าน ขณะที่ ครม.เงา ของปชป.ก็สอบตกเหมือนกัน

เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (5 ส.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ครบรอบ 1 ปี ซึ่ง16 นโยบายที่ได้ประกาศไว้ ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ประกอบด้วย

1.รัฐบาลประกาศสร้างความสมาฉันท์ในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลสอบตกเพราะ 1 ปีที่ผ่านมา ไม่มีความปรองดองสมานฉันท์ แต่รัฐบาลกลับเพิ่ม และสร้างความขัดแย้งในประเทศ เห็นจากการยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่เป็นการปรองดองแต่ปาก ไม่มีเจตนาสร้างความปรองดองแท้จริง ขณะที่การฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมืองนั้น ในขณะนี้มีแต่การเยียวยาฝั่งรัฐบาล ไม่ใช่ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน รวมทั้งการระบุจะให้ความร่วมมือกับคอป. แต่กลับสนับสนุนนิรโทษกรรม ไม่ค้นหาความจริง และลักไก่ยื่นกฎหมายล้างผิดเข้าสภา จึงสอบตก 100 %

2. การกำหนดให้นโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งดูเหมือนจะสำเร็จ แต่เมื่อดูในผลงานจริงๆนั้น พบตัวเลขจำนวนการจัดการยาเสพติด และการจับกุมที่ได้เฉลี่ยทั้งปีของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี น้อยกว่าปีสุดท้ายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีตัวเลขที่ดีกว่า ซึ่งจะหยิบยกมาเป็นผลงานว่าสำเร็จนั้น เป็นไปไม่ได้

3. รัฐบาลจะป้องกันและปราบปรามทุจริต คอร์รัปชันในภาครัฐอย่างจริงจัง ซึ่งข้อนี้รัฐบาลสอบไม่ผ่าน เพราะรัฐบาลมีเจตนารมณ์จะเปิดโอกาสให้มีการทุจริต คอร์รัปชันได้ง่ายขึ้น ในสังคมไทย เนื่องจากไม่รับข้อเสนอของคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในเรื่องการเปิดราคากลางการประมูลงานของรัฐบาล แต่คณะรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอนี้ รวมทั้งกู้เงิน 3.5 แสนล้าน เพื่อป้องกันน้ำท่วม นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็เสนอให้ยกเลิกการจัดซื้อของสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดโอกาสให้การประมูลวิธีพิเศษ เปิดให้ฮั้วประมูลง่าย ตรวจสอบยาก ซึ่งสอบตกชัดเจน

4.นโยบายเร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว ข้อนี้ตกโดยไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ เพราะความรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ถี่ และรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

5. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และนานาประเทศ ตนจะไม่เถียงหากพูดถึงกัมพูชา และสหรัฐอเมริกา เพราะมีการยกสิทธิการจัดประชุมคณะกรรมการมรดกโลกให้กัมพูชาในปี 2556 เพียงผู้เดียว และทำให้มีสิทธิสูงที่จะได้รับการยอมรับในแผนบริหารจัดการโดยรอบประสาทพระวิหาร และกัมพูชาพอใจรัฐบาลชุดนี้ เพราะยกประโยชน์ ยกสมบัติ ยกแผ่นดินให้กัมพูชา

6. การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งข้อนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โกหกต่อประชาชนชัดเจน เพราะใช้นโยบายข้อนี้โดยกล่าวอ้าง จะมีการยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อให้ราคาน้ำมันลดลง แต่รัฐบาลไม่เคยยกเลิกการเก็บเงินดังกล่าว มีแต่ชะลอการเก็บ 3 เดือน หลังจากนั้นก็กลับมาเก็บ ซึ่งขณะนี้เก็บเงินมากกว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นกว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะฉะนั้น การที่ระบุว่า จะลดค่าครองชีพของประชาชน จึงเป็นเพียงการกล่าวอ้างเท่านั้น ไม่เป็นความจริง และสอบตกในข้อนี้

7. นโยบายการยกระดับการใช้ชีวิตของประชาชน เพิ่มรายได้รายวัน 300 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ซึ่งขณะนี้ค่าแรง 300 บาทได้เพียง 7 จังหวัด และ 15,000 ไม่ได้ปฏิบัติจริงในภาคเอกชน ขณะที่ในภาคราชการ เป็นเพียงเงินเพิ่ม และจะสามารรถทำได้จริงในปีหน้า ซึ่งการที่กล่าวอ้างว่า เป็นเรื่องเร่งด่วน และต้องปฏิบัติจริง ตัวเลขและข้อมูลต่างๆ แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้เป็นไปตามนั้น รัฐบาลสอบตกชัดเจน

8. ปรับลดภาษีนิติบุคคลให้เหลือร้อยละ 23 ในปี 2555 และลดลงร้อยละ 20 ในปี 2556 นโยบายนี้ทำสำเร็จ แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนรายใหญ่ ที่เสียภาษีรายได้นิติบุคคลลดลง ทำให้รัฐเสียประโยชน์ และขาดรายได้จากการเสียภาษีหลายหมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งหากจะอ้างเป็นผลงาน ก็ต้องชี้ให้เห็นว่าประเทศกับประชาชน เสียประโยชน์อย่างไร

9. ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน สนับสนุนสินเชื่อรายย่อย คือ กองทุนหมู่บ้าน และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จัดตั้งกองทุนตั้งตัว ซึ่งตนคิดว่ากองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดละ100 ล้านบาท ก็มีข้อครหาการจัดสรรกรรมการมาดูแลในเรื่องการคัดสรรผู้แทนเป็นกรรมการอนุมัติเงิน และหลายจังหวัดใช้เงื่อนไขนี้ในการจัดตั้งชุมชนคนเสื้อแดง ซึ่งต้องดูปัญหานี้ว่า สิ่งที่ได้ทำไปนั้นสร้างความแตกแยกให้สังคมชนบท ทำให้ประชาชนแบ่งฝักแบ่งฝ่ายหรือไม่

10. การยกระดับเกษตรกร และให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนนั้น ดัชนีราคาสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ในเดือน ม.ค.55 รัฐบาลสอบตกทุกตัว เพราะราคาตกลง โดยเฉพาะข้าว ขณะที่มันสำปะหลัง เมื่อปี 2554 ก็ราคาตกลงมาก ซึ่งราคาสินค้าเกษตรตกลงมา พังพินาศในรัฐบาลชุดนี้ และจะพังต่อไปหากรัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศอยู่ต่อไป

11. ส่งเสริมให้มีการจัดการน้ำอย่างบูรณาการ ด้วยการสร้างระบบชลประทานขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ซึ่งข้อนี้ตอบได้ด้วยการกู้เงิน 3.5 แสนล้าน และขณะนี้ยังใช้ไม่ถึง 10 % ซึ่งหากเร่งรัดส่งเสริมจริง ทั้งที่เงินก็พร้อมแล้ว เหตุใดไม่มีความคืบหน้าในแผนงาน ไม่มีการปฏิบัติจริงในภาคปฏิบัติ เพราะรอผู้รับเหมา การยกเว้นระเบียบ ช่องทางทุจริตหรือไม่ ซึ่งการพัฒนาจัดการน้ำอย่างบูรณาการ ตนไม่เห็นว่าคืออะไร นอกจากจะรอให้น้ำท่วมทั้งประเทศ

12. เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2555 เป็นมหัศจรรย์ไทยแลนด์ มิราเคิล ไทยแลนด์เยียร์ ซึ่งไม่ทราบว่ามีใครที่เคยได้ยินว่า ปีนี้มีการจัดงานมิราเคิลไทยแลนด์เยียร์ หรือไม่ ไม่มีใครตระหนักว่า รัฐบาลจัดให้ปีนี้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีไปหลายประเทศนั่น ตนก็คิดว่าการที่จะให้รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ นายกรัฐมนตรีต้องเป็นตัวอย่าง แต่การท่องเที่ยวในประเทศในปีนี้ ก็ไม่มีความคืบหน้า หรือการพัฒนา และมิราเคิลไทยแลนด์เยียร์ เป็นเพียงคำพูดสวยหรู ที่อยู่ในกระดาษใช้แถลงต่อรัฐสภา

13.สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรม ส่งเสริมมูลนิธิศิลปชีพ บริหารโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ตนก็ยังไม่เห็นความคืบหน้า แต่อยากให้รัฐบาลจริงจัง และจริงใจในการลงไปดูแลผลิตภัณฑ์ของประชาชนในตำบล

14. พัฒนาระบบประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่มีรายงานจากนักวิชาการว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้งบประมาณไม่เพียงพอ และทำลายระบบการรักษาของประเทศในเรื่องคุณภาพ รวมถึงการจ่ายยาที่ไม่ได้มาตราฐาน หมายถึง การจ่ายยาต่ำกว่าเกณฑ์ เนื่องจากงบประมาณมีขีดจำกัด สร้างปัญหาให้กับระบบสุขภาพของประเทศในปัจจุบัน ทั้งที่รัฐบาลชุดที่แล้ว จัดสรรงบประมาณให้อย่างเพียงพอ และไม่ต้องเก็บเงิน 30 บาท

15. จัดหาแทปเลต ให้กับนักเรียน ที่รัฐบาลอ้างว่าจะทำให้เสร็จในปีการศึกษาที่ 1 ปี 2554 ทั้งนี้ในปี 2555 นี้ก็ยังไม่แน่ว่าแทปเลตที่รับมานั้น จะสามารถแจกจ่ายให้นักเรียนได้จริงหรือไม่ เพราะมีปัญหาการทุจริต เครื่องไม่ได้มาตรฐาน และการสั่งซื้อ ก็ต้องตรวจสอบต่อว่า เหตุใดสั่งซื้อกับบริษัทที่เลือกมา โดยมีการกำหนดสเปกให้บริษัทที่เลือกมาเท่านั้น

16. เร่งรัดผลักดันปฏิรูปการเมืองโดยประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง ซึ่งตนคิดว่ารัฐบาลต้องเปลี่ยนเป็นประชาชนคนเสื้อแดงเท่านั้น ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมปฏิรูปของรัฐบาล เพราะงุบงิบเร่งรัด แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม และปฏิเสธข้อเสนอของ คอป. ข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า ในการจัดตั้งเวทีสานเสวนา ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศได้อย่างแท้จริง แต่เป็นเพียงการงุบงิบทำกันในวงแคบของรัฐบาล และมีเป้าหมายหวังผลทางการเมือง โดยเฉพาะการนิรโทษกรรม และแก้ไขปัญหาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ทั้งนี้ 16 ข้อที่กล่าวมา รัฐบาลสอบผ่านเพียงข้อเดียว คือข้อ 8 เท่านั้น ซึ่งมีผลสำเร็จเพียง 6.25 % เท่านั้น ซึ่งมีนโยบายล้มเหลวถึง 93.75 %

** ยุค Organize Politics

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนฯ ให้เป็นนายกฯ คนที่ 28 ของประเทศ และเป็นนายกหญิงคนแรกนั้น แม้จะมีหลายนโยบายที่เป็นนโยบายใหม่ๆ แต่ในทางปฏิบัติ กลับไม่สามารถทำได้จริง สวนทางกับที่ได้แถลงต่อสภา เช่น การกระชากค่าครองชีพลงมา ก็สวนทางกับข้อเท็จจริงที่เป็นยุคข้าวยากหมากแพง ในขณะที่ราคาพืชผลทางการเกษตร ก็ราคาตกกันถ้วนหน้า ทั้ง ยางพารา หอมแดง มันสำปะหลัง เป็นต้น กองทุนน้ำมัน ก็กลับลำไม่เป็นท่า

นอกจากนี้วิกฤติไฟใต้ ก็รุนแรงขึ้น คาร์บอมบ์ถี่ขึ้น เหตุตายรายวันกลับมาให้เห็นอีกทั้งที่หายไปบ้างแล้วก่อนหน้านี้ จนป่านนี้ยังไม่เห็นยุทธศาสตร์ หรือมาตรการที่เป็นเอกภาพ และชัดเจน ซ้ำร้ายวิธีคิดของรัฐบาลยังมองเป็นปัญหาอาชญากรรม และประเด็นการเมืองมากกว่าเป็นปัญหาความมั่นคง

ที่ย่ำแย่ที่สุดคือ มาตรการเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมล่าช้า และเลือกปฏิบัติด้วยการทุ่มเงินหลายหมื่นล้าน ปกป้องภาคอุตสาหกรรมอย่างทันท่วงที แต่ชาวบ้านกลับเต็มไปด้วยเงื่อนไข และความล่าช้า ในการฟื้นฟูเยียวยา ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับ วาระทักษิณ และการเยียวยาม็อบเสื้อแดง 7.7 ล้าน จะเห็นภาพ 2 มาตรฐานชัดเจน ว่า วาระทักษิณมาก่อนวาระชาวบ้าน ขณะเดียวกัน ประชานิยมก็เริ่มเข้มขึ้นสารพัดมาตรการ ลด แลก แจกแถม เพื่อรักษาความนิยมในช่วงขาลง เป็นแค่มุกเก่าที่เอามาเล่าใหม่ ไม่มีการริ่เริ่มปฏิรูปโครงสร้างเเศรษฐกิจ สังคม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และช่องว่างทางสังคมแต่อย่างใด

ที่สำคัญการทุจริตคอร์รัปชันที่รัฐบาลกลบข่าวด้วยประเด็นปัญหาทางการเมืองมาตลอด 1 ปีนั้น เริ่มเอาไม่อยู่ ข่าวทุจริตเกิดขึ้นในหลายกระทรวง และกรณีงบฟื้นฟูเยียวยา 3.5 แสนล้านบาท ก็กำลังตกเป็นข่าวว่า มีการเอื้อประโยชน์พวกเดียวกันด้วยวิธีพิเศษ

ส่วนภาวะผู้นำของนายกฯยิ่งลักษณ์ ยังไม่ฟื้นคะแนนนิยมที่ได้รับอยู่ในขณะนี้ เป็นคะแนนจิตพิสัย หมายถึง ขยันสร้างภาพ เปิดงาน เปลี่ยนชุด จัดอีเว้นต์แปลกๆ แต่ไม่ใช่คะแนนที่ได้จากผลงาน หรือการสอบจริง คะแนนแบบนี้เรียกกันว่าคะแนนพิศสวาท และ 1 ปี ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้สร้างการเมืองที่เรียกว่า Organize Politics คือ การเมืองที่ถูกออกแบบ และจัดฉากด้วยคนอื่นตลอดเวลา

** ครม.เงาก็สอบตกเหมือนกัน

นายสุริยะใส ยังกล่าวถึง บทบาทของฝ่ายค้านว่า ควรกลับมาให้ความสำคัญในการตรวจสอบนโยบาย และประเด็นการทุจริตคอร์รัปชันให้มากขึ้น โดยเฉพาะบทบาทของ ครม.เงานั้น ก็สอบตกเช่นกัน 1 ปี ที่ผ่านมา ฝ่ายค้านทุ่มทรัพยากรไปจมอยู่กับประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองมากเกินไป แม้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ไม่ควรละเลยการทุจริตในรัฐบาล ซึ่ง ครม.เงา ควรเป็นเจ้าภาพจริงจังในการตรวจสอบ เพราะการทุจริตคอร์รัปชันชี้ถูกผิดได้ด้วยหลักฐาน แต่ประเด็นการเมืองเถียงกันได้ แต่จบยาก.
กำลังโหลดความคิดเห็น