ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยสำนักนายกรัฐมนตรี ได้พิมพ์หนังสือ "รายงานแสดงผล
การดำเนินการของคณะรัฐมนตรี ตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ วันที่ 23 สิงหาคม 2554 ถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2555" มีความหนาถึง
518 หน้า หนักกว่า 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังได้จัดทำรายงานฉบับย่อ ในชื่อ “1 ปีมุ่งมั่น เดินหน้า พัฒนา ร่วมกัน” หนา 22 หน้า รวม
ผลงาน 16 ด้าน ที่เคยแถลงต่อรัฐสภา นำมาแจกจ่ายให้สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หนังสือรวมผลงานรัฐบาลดังกล่าว เกริ่นถึงสถานการณ์ประเทศเมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ารับหน้าที่ โดยระบุว่า 1.การเมืองไม่มั่นคง
สูญเสียโอกาสในการเดินหน้าพัฒนาประเทศ ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาของประเทศล่าช้าไม่ต่อเนื่อง 2.สังคมขาดการดูแล ยาเสพติด
แพร่กระจายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับคอรัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการสูง นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ขาดมาตรการรองรับ
การเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุ ขาดแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาผู้หญิงและเด็ก ช่องว่างทางการศึกษาระหว่างในเมืองและต่าง
จังหวัดสูง ขณะที่มาตรฐานทางการศึกษาโดยรวมต่ำลง
3.การจัดการน้ำ ขาดการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง มีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ปริมาณน้ำเต็มเขื่อนไม่สามารถระบายน้ำได้ ขาดการ
บูรณาการระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับน้ำ โดยเฉพาะกรณีอุทกภัย ขาดแผนการรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โลกอย่างมีประสิทธิภาพ 4. เศรษฐกิจของประเทศไม่สมดุล ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลง ไม่มีการลงทุนขนาด
ใหญ่ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างเศรษฐกิจไทยพึ่งการส่งออกถึง 70% เกิดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ 5.ความสัมพันธ์
ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านตึงเครียด ขาดการยอมรับของนานาชาติในความเป็นประชาธิปไตย ส่งผลให้ขาด
ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย 6.ภาวะเศรษฐกิจและสังคม ผันผวน ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ปัญหาความขัดแย้งใน
ภูมิภาคต่างๆ ของโลก
จากนั้นเข้าสู่ผลงานของรัฐบาล เริ่มจาก 1.สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ และฟื้นฟูประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศ
สามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ได้แก่ สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, กำหนด
นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ.2555-2559 เพื่อเป็นกรอบกำหนดทิศทาง การสร้างความมั่นคงของชาติอย่างยั่งยืน, ตั้งคณะ
กรรมการอิสระประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง
เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เร่งผลปฏิบัติงานให้สู่ความปรองดองอย่างรวดเร็ว, เยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากการ
เมือง จำนวน 1,816 คน 1,373.93 ล้านบาท, ประกันตัวผู้ต้องหาคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง จำนวน 67 คน
2.กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” เพื่อให้ปัญหาลดลง โดยป้องกันด้วยการแยกกลุ่มเสี่ยง เฝ้า
ระวังไม่ให้กลับไปเสพซ้ำ ปราบปรามจับกุมผู้ค้าและผู้มีอิทธิพลอย่างเข้มงวดจริงจัง รวมทั้งบำบัดรักษา 3.ป้องกันและปราบปรามการ
ทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย 4.ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำ
อย่างบูรณาการ และเร่งรัดการขยายพื้นที่ชลประทาน เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
5.เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบและนำสันติสุขกลับคืนสู่จงหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว ผลงานได้แก่ การจัดทำเขตพื้นที่ปลอดภัย ปรับ
ปรุงกล้องซีซีทีวี และด่านตรวจ เสริมสร้างกองกำลังพลเรือนของชุมชนให้ป้องกันตนเองได้ แจกเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 1,176.7
ล้านบาท 6.เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับนานาประเทศ และขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมโยง
ประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยจากนานาชาติ 7.แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ
เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จากความผันผวนของราคาพลังงาน เพื่อดูแลค่าครองชีพของประชาชนและราคา
พลังงาน ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งในหัวข้อนี้ ผลงานที่รัฐบาลยกมาเป็นตัวอย่างคือ โครงการมหกรรมธงฟ้าลดค่าครองชีพ ช่วย
ลดค่าครองชีพให้ประชาชน 5.4 ล้านคน มูลค่า 1,250 ล้านบาท
8.ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส 9.ลดอัตราภาษีนิติบุคคล เพื่อ
เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนและกระตุ้นการลงทุน 10.ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อกระตุ้น
เศรษฐกิจรากหญ้าและขยายโอกาสให้ประชาชน 11.ยกระดับราคาสินค้าเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งผลต่อความ
เป็นอยู่ของเกษตรกรที่ดีขึ้น 12.สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้เติบโต
มั่นคง
13.สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิศิลปาชีพ และฟื้นฟู OTOP ต่อยอดสู่โลก
14.พัฒนาระบบประกันสุขภาพ ยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม 15.เติมความรู้ด้วยการจัดหาเครื่อง
คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน เพื่อพัฒนาโอกาสทางการศึกษาของเด็กไทยอย่างเท่าเทียม และ 16.เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูป
การเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเสนอกฎหมายปรองดอง เป็นส่วน
หนึ่งของกระบวนการปฏิรูปการเมือง โดยรัฐบาลได้ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภาแล้ว ซึ่งเป็น
ไปตามนโยบายรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
ตอนท้ายของรายงานระบุว่า จากผลงานของรัฐบาลที่ทำมา ส่งผลให้ประมาณการจีดีพีในปี 2555 คาดว่าจะเติบโตถึง 5.5-6%
สำหรับรายงานผลงานรัฐบาลในหนังสือเล่มใหญ่ เป็นรายงานที่ลงในรายละเอียด ซึ่งในข้อ 3 การป้องกันและปราบปรามทุจริต ผล
งานของรัฐบาลประการหนึ่ง คือการผลิตเข็มกลัดแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านทุจริต พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐในการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ส่วนการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รายงาน
ระบุว่า ประชาชนมีความพึงพอใจนโยบายอำนวยความเป็นธรรม เยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ได้
ออกมาขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีกรือเซะ ตากใบ
ด้านการดูแลราคาสินค้าเกษตรและการเสริมสร้างประสิทธิภาพระบบตลาด ผลงานของรัฐบาลส่วนหนึ่งคือการพัฒนาคุณภาพ
ข้าวสารบรรจุถุง การจัดประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวตราคุณภาพ เป็นต้น
การดำเนินการของคณะรัฐมนตรี ตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ วันที่ 23 สิงหาคม 2554 ถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2555" มีความหนาถึง
518 หน้า หนักกว่า 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังได้จัดทำรายงานฉบับย่อ ในชื่อ “1 ปีมุ่งมั่น เดินหน้า พัฒนา ร่วมกัน” หนา 22 หน้า รวม
ผลงาน 16 ด้าน ที่เคยแถลงต่อรัฐสภา นำมาแจกจ่ายให้สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หนังสือรวมผลงานรัฐบาลดังกล่าว เกริ่นถึงสถานการณ์ประเทศเมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ารับหน้าที่ โดยระบุว่า 1.การเมืองไม่มั่นคง
สูญเสียโอกาสในการเดินหน้าพัฒนาประเทศ ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาของประเทศล่าช้าไม่ต่อเนื่อง 2.สังคมขาดการดูแล ยาเสพติด
แพร่กระจายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับคอรัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการสูง นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ขาดมาตรการรองรับ
การเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุ ขาดแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาผู้หญิงและเด็ก ช่องว่างทางการศึกษาระหว่างในเมืองและต่าง
จังหวัดสูง ขณะที่มาตรฐานทางการศึกษาโดยรวมต่ำลง
3.การจัดการน้ำ ขาดการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง มีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ปริมาณน้ำเต็มเขื่อนไม่สามารถระบายน้ำได้ ขาดการ
บูรณาการระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับน้ำ โดยเฉพาะกรณีอุทกภัย ขาดแผนการรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โลกอย่างมีประสิทธิภาพ 4. เศรษฐกิจของประเทศไม่สมดุล ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลง ไม่มีการลงทุนขนาด
ใหญ่ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างเศรษฐกิจไทยพึ่งการส่งออกถึง 70% เกิดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ 5.ความสัมพันธ์
ระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านตึงเครียด ขาดการยอมรับของนานาชาติในความเป็นประชาธิปไตย ส่งผลให้ขาด
ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย 6.ภาวะเศรษฐกิจและสังคม ผันผวน ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ปัญหาความขัดแย้งใน
ภูมิภาคต่างๆ ของโลก
จากนั้นเข้าสู่ผลงานของรัฐบาล เริ่มจาก 1.สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ และฟื้นฟูประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศ
สามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ได้แก่ สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, กำหนด
นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ.2555-2559 เพื่อเป็นกรอบกำหนดทิศทาง การสร้างความมั่นคงของชาติอย่างยั่งยืน, ตั้งคณะ
กรรมการอิสระประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง
เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เร่งผลปฏิบัติงานให้สู่ความปรองดองอย่างรวดเร็ว, เยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากการ
เมือง จำนวน 1,816 คน 1,373.93 ล้านบาท, ประกันตัวผู้ต้องหาคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง จำนวน 67 คน
2.กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” เพื่อให้ปัญหาลดลง โดยป้องกันด้วยการแยกกลุ่มเสี่ยง เฝ้า
ระวังไม่ให้กลับไปเสพซ้ำ ปราบปรามจับกุมผู้ค้าและผู้มีอิทธิพลอย่างเข้มงวดจริงจัง รวมทั้งบำบัดรักษา 3.ป้องกันและปราบปรามการ
ทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย 4.ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำ
อย่างบูรณาการ และเร่งรัดการขยายพื้นที่ชลประทาน เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
5.เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบและนำสันติสุขกลับคืนสู่จงหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว ผลงานได้แก่ การจัดทำเขตพื้นที่ปลอดภัย ปรับ
ปรุงกล้องซีซีทีวี และด่านตรวจ เสริมสร้างกองกำลังพลเรือนของชุมชนให้ป้องกันตนเองได้ แจกเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 1,176.7
ล้านบาท 6.เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับนานาประเทศ และขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมโยง
ประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยจากนานาชาติ 7.แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ
เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จากความผันผวนของราคาพลังงาน เพื่อดูแลค่าครองชีพของประชาชนและราคา
พลังงาน ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งในหัวข้อนี้ ผลงานที่รัฐบาลยกมาเป็นตัวอย่างคือ โครงการมหกรรมธงฟ้าลดค่าครองชีพ ช่วย
ลดค่าครองชีพให้ประชาชน 5.4 ล้านคน มูลค่า 1,250 ล้านบาท
8.ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส 9.ลดอัตราภาษีนิติบุคคล เพื่อ
เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนและกระตุ้นการลงทุน 10.ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อกระตุ้น
เศรษฐกิจรากหญ้าและขยายโอกาสให้ประชาชน 11.ยกระดับราคาสินค้าเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งผลต่อความ
เป็นอยู่ของเกษตรกรที่ดีขึ้น 12.สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้เติบโต
มั่นคง
13.สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิศิลปาชีพ และฟื้นฟู OTOP ต่อยอดสู่โลก
14.พัฒนาระบบประกันสุขภาพ ยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม 15.เติมความรู้ด้วยการจัดหาเครื่อง
คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน เพื่อพัฒนาโอกาสทางการศึกษาของเด็กไทยอย่างเท่าเทียม และ 16.เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูป
การเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเสนอกฎหมายปรองดอง เป็นส่วน
หนึ่งของกระบวนการปฏิรูปการเมือง โดยรัฐบาลได้ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภาแล้ว ซึ่งเป็น
ไปตามนโยบายรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
ตอนท้ายของรายงานระบุว่า จากผลงานของรัฐบาลที่ทำมา ส่งผลให้ประมาณการจีดีพีในปี 2555 คาดว่าจะเติบโตถึง 5.5-6%
สำหรับรายงานผลงานรัฐบาลในหนังสือเล่มใหญ่ เป็นรายงานที่ลงในรายละเอียด ซึ่งในข้อ 3 การป้องกันและปราบปรามทุจริต ผล
งานของรัฐบาลประการหนึ่ง คือการผลิตเข็มกลัดแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านทุจริต พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐในการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ส่วนการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รายงาน
ระบุว่า ประชาชนมีความพึงพอใจนโยบายอำนวยความเป็นธรรม เยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ได้
ออกมาขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีกรือเซะ ตากใบ
ด้านการดูแลราคาสินค้าเกษตรและการเสริมสร้างประสิทธิภาพระบบตลาด ผลงานของรัฐบาลส่วนหนึ่งคือการพัฒนาคุณภาพ
ข้าวสารบรรจุถุง การจัดประกวดข้าวหอมมะลิและข้าวตราคุณภาพ เป็นต้น