“มงคลกิตติ์” ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ฟัน ครม.ยกชุด เหตุประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงขัด ม.68 แห่งรัฐธรรมนูญ พ่วงก่อกบฏในราชอาณาจักร ซัดขนตำรวจข่มขู่ ส.ส.ซักฟอก ด้านผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีนก็มายื่นสอบกระทำเกินกว่าเหตุ
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการใช้อำนาจโดยมิชอบของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่ได้ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 อีกทั้งให้ดำเนินคดีต่อคณะรัฐมนตรี ในข้อหาก่อกบฏภายในราชอาณาจักรไทย
โดยนายมงคลกิตติ์เห็นว่า การที่ ครม.ใช้อำนาจประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อควบคุมการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เป็นการขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะโดยทั่วไปหากมีการชุมนุมของกลุ่มประชาชน ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการเคลื่อนตัวไปยึดสถานที่ราชการ รัฐบาลก็จะใช้แผนกรกฎในการเข้าไปดูแล แต่ครั้งนี้กลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามยังไม่ได้เริ่มชุมนุม อีกทั้งประกาศว่าจะไม่มีการเคลื่อนกำลังไปยึดสถานที่ราชการ รัฐบาลก็กลับประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทำให้ตอนนี้มีแต่กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 5 หมื่นนายพร้อมอาวุธ เข้าไปยึดสถานที่ราชการสำคัญต่างๆ รวมถึงรัฐสภาที่กำลังจะมีการจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงเหมือนรัฐบาลนำกำลังไปปิดล้อมข่มขู่ ส.ส.ที่เป็นผู้แทนปวงชนไม่ให้อภิปรายสิ่งที่ไม่ถูกต้องของรัฐบาล ซึ่งเข้าข่ายเป็นกบฏมากกว่าการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามเสียอีก อีกทั้งการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงทั้งที่เหตุการชุมนุมยังไปเป็นด้วยความสงบเรียบร้อย ทำให้การประกาศดังกล่าวเปรียบเสมือนคำสั่งในการปฏิวัติตนเอง ซึ่งก็เข้าข่ายความผิดในข้อหากบฏทั้งสิ้น จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน พร้อมคณะก็ได้เข้ายื่นขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการกระทำของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่าใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ในกรณีประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพราะการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามไม่ได้มีท่าทีว่าจะมีความรุนแรง และมีการประกาศชัดเจนจะไม่มีการเคลื่อนไปยึดสถานที่ราชการต่างๆ มีแต่รัฐบาลที่พยายามสร้างกระแสว่าจะมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น จึงเห็นว่าการที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจและอาจจะนำไปสู่ความความรุนแรงได้ จึงขอให้ผู้ตรวจการฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อไป
ด้านนายรักษเกชากล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบว่าอยู่ในอำนาจของผู้ตรวจการฯ หรือไม่ ถ้ามีจะดำเนินการตามขั้นตอนให้เร็วที่สุด และจะแจ้งให้ผู้ร้องได้ทราบเรื่องต่อไป
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการใช้อำนาจโดยมิชอบของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่ได้ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 อีกทั้งให้ดำเนินคดีต่อคณะรัฐมนตรี ในข้อหาก่อกบฏภายในราชอาณาจักรไทย
โดยนายมงคลกิตติ์เห็นว่า การที่ ครม.ใช้อำนาจประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อควบคุมการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เป็นการขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะโดยทั่วไปหากมีการชุมนุมของกลุ่มประชาชน ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการเคลื่อนตัวไปยึดสถานที่ราชการ รัฐบาลก็จะใช้แผนกรกฎในการเข้าไปดูแล แต่ครั้งนี้กลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามยังไม่ได้เริ่มชุมนุม อีกทั้งประกาศว่าจะไม่มีการเคลื่อนกำลังไปยึดสถานที่ราชการ รัฐบาลก็กลับประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทำให้ตอนนี้มีแต่กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 5 หมื่นนายพร้อมอาวุธ เข้าไปยึดสถานที่ราชการสำคัญต่างๆ รวมถึงรัฐสภาที่กำลังจะมีการจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงเหมือนรัฐบาลนำกำลังไปปิดล้อมข่มขู่ ส.ส.ที่เป็นผู้แทนปวงชนไม่ให้อภิปรายสิ่งที่ไม่ถูกต้องของรัฐบาล ซึ่งเข้าข่ายเป็นกบฏมากกว่าการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามเสียอีก อีกทั้งการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงทั้งที่เหตุการชุมนุมยังไปเป็นด้วยความสงบเรียบร้อย ทำให้การประกาศดังกล่าวเปรียบเสมือนคำสั่งในการปฏิวัติตนเอง ซึ่งก็เข้าข่ายความผิดในข้อหากบฏทั้งสิ้น จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน พร้อมคณะก็ได้เข้ายื่นขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการกระทำของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่าใช้อำนาจเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ในกรณีประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพราะการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามไม่ได้มีท่าทีว่าจะมีความรุนแรง และมีการประกาศชัดเจนจะไม่มีการเคลื่อนไปยึดสถานที่ราชการต่างๆ มีแต่รัฐบาลที่พยายามสร้างกระแสว่าจะมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น จึงเห็นว่าการที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจและอาจจะนำไปสู่ความความรุนแรงได้ จึงขอให้ผู้ตรวจการฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อไป
ด้านนายรักษเกชากล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบว่าอยู่ในอำนาจของผู้ตรวจการฯ หรือไม่ ถ้ามีจะดำเนินการตามขั้นตอนให้เร็วที่สุด และจะแจ้งให้ผู้ร้องได้ทราบเรื่องต่อไป