โฆษกรัฐบาล อ่านแถลงการณ์ยกเลิกประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง 3 เขต กทม.แล้ว มั่นใจรัฐไม่ทำเกินกว่าเหตุ พร้อมแจงผู้ได้รับบาดเจ็บไม่เข้าข่ายรับเงินเยียวยา อีกด้านหนึ่งเลื่อนประชุม ครม.จากพรุ่งนี้เป็นสัปดาห์หน้า ยันไม่ตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 16.20 น. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์การยกเลิกประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรว่า ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ได้ประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในเขตพื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่งคงภายในราชอาณาจักร ในห้วงวันที่ 22-30 พฤศจิกายน 2555 และให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการนั้น โดยที่ปรากฏว่าในปัจจุบันกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรได้รายงานว่า เหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรอันเป็นเหตุให้มีการประกาศพื้นที่ดังกล่าวนั้น สามารถดำเนินการแก้ไขได้ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบตามปกติ
ดังนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการกำจัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 และมาตรา 31 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 36 มาตรา 38 และมาตรา41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย นายกฯ จึงออกประกาศให้อำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดำเนินการในเขตพื้นที่ที่ได้มีการประกาศข้างต้น ในห้วงวันที่ 22-30 พฤศจิกายน 2555 เป็นอันสิ้นสุด และมีผลให้บรรดาประกาศข้อกำหนดที่นายกฯและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยประกาศและออกตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นอันสิ้นสุดลงด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประเมินเหตุการณ์ล่วงหน้าแล้วหรือยังว่าจะไม่มีการชุมนุมต่ออีกหรือไม่ นพ.ทศพรกล่าวว่า ตอนนี้ก็ดูแล้วทุกอย่าง ซึ่งทางกองอำนวยรักษาความั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้สรุปเหตุการณ์ให้นายกฯ ฟังแล้วว่า เหตุการณ์ก็เรียบร้อยดี ซึ่งนายกฯ ได้ลงนามไปแล้วเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งถือว่าเป็นการเสร็จกระบวนอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่า ทางองค์การพิทักษ์สยามได้ร้องเรียนว่ารัฐบาลกระทำเกิดกว่าเหตุในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง นพ.ทศพรกล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องต่อสู้ไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งทางรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเกินกว่าเหตุ และคงไม่ใช่การลุแก่อำนาจ โดยจุดหนึ่งที่เราสนใจและประกาศไว้ตั้งแต่แรกแล้วนั้น ก็คือ การรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนที่มาชุมนุมเอง และผู้ที่ไม่ได้มาชุมนุม เพื่อให้ไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งถือว่าเป็นการป้องกันความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนทั้งหมด
เมื่อถามว่า มีผู้ชุมนุมที่ได้รับผลกระทบได้เดินทางมาร้องเรียน โดยขอให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาเหตุการณ์ดังกล่าว หลังได้ผลกระทบจากการชุมนุม นพ.ทศพรกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เข้าข่ายการจ่ายเงินเยียวยา เพราะเรื่องดังกล่าวไม่ต้องตามหลักเกณฑ์ของระเบียบสำนักนายกฯ ซึ่งระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าผู้ที่ได้รับรับผลกระทบต้องอยู่ ในระหว่างปี 2548-2553
นพ.ทศพรกล่าวต่อว่า ในวันอังคารที่ 27 พ.ย.จะไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะเลือนไปประชุมในสัปดาห์หน้าแทน เนื่องจากต้องการให้ความสำคัญต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสัปดาห์นี้ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ของฝ่ายค้าน ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนั้น ตนคิดว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านหยิบขึ้นมาอภิปรายนั้น เป็นข้อมูลทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการอภิปรายในประเด็ดการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล ส่วนการตอบข้อซักถามของนายกฯนั้นถือว่า เป็นไปด้วยดี และในบางรายละเอียดต้องให้รัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพราะคนเป็นนายกฯถือเป็นผู้กุมนโยบาย ดังนั้นต้องให้ผู้ที่ดูแลโดยตรงเป็นผู้ตอบคำถาม
“ผมไม่ห่วงหากฝ่ายค้านจะโจมตี หากมีรัฐมนตรีคนอื่นตอบแทนตัวนายกฯ เพราะถือเป็นเกมส์ของฝ่ายค้านอยู่แล้ว ส่วนการตั้งวอร์รูมเพื่อรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ นั้น มีบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่ ที่เข้ามาให้ข้อมูลต่างๆ ยืนยันว่าการอภิปรายดังกล่าวจะไม่มีการตั้งองครักษ์ขึ้นมาพิทักษ์นายกฯ อย่างแน่นอน” นพ.ทศพรกล่าว