xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เอาอีก! ปาแก๊สถล่มมิสกวันรอบ 2 อพส.ขู่เดดไลน์บ่าย 2 ต้องถอยพ้นมัฆวานฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




“เสธ.อ้าย” ยอมพูดปดทดเวลารอคนร่วมต่อ ด้าน “เหลิม” ป๊อด! เลิกหมายเข้าทำเนียบ ด้านผู้สื่อข่าว ช่างภาพไทยพีบีเอสโวยโดนทำร้าย แถมตำรวจจับ โร่แจ้งความทำเกินกว่าเหตุ ล่าสุด ตำรวจเอาอีกแล้ว! ระดมปาแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมเป็นครั้งที่ 2 ที่แยกมิสกวัน ขณะโฆษกเดดไลน์บ่ายสองต้องถอยพ้นมัฆวานฯ

วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.55 น. พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัยอีกครั้งว่า ตนคงต้องขอเป็นคนพูดปด จากเดิมที่เคยระบุไว้ว่าถ้าจำนวนผู้ชุมนุมมากันไม่มากตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ เมื่อถึงเวลา 11.00 น. จะขอยุติชุมนุมทันที แต่ตอนนี้ทราบว่ากำลังมีประชาชนกำลังเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ จึงขอให้พี่น้องใจเย็นๆ แล้วรอคนที่กำลังมาเพื่อมาร่วมชุมนุมต่อ

ทางด้านภายในทำเนียบรัฐบาล ก็ได้เกิดความตึงเครียดขึ้น จนทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่มีหมายเดินทางเข้ามาทำเนียบรัฐบาล ได้ถูกยกเลิกและเดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เพื่อประเมินสถานการณ์การรับมือการชุมนุมต่อไป โดยระหว่างเกิดเหตุชุลมุนระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุม ทำให้กำลังเจ้าตำรวจพร้อมชุดปราบจลาจลที่เฝ้าเต็มบริเวณ และโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ประมาณ 8 พันนาย เตรียมพร้อมทุกหน่วย โดยไปยืนเฝ้าระวังทุกประตูทางเข้าออกรวม ทั้งสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ที่เกรงว่าจะมีม็อบปืนเข้ามายึดทำเนียบฯ อีกทั้งมีการเดินตระเวนรอบทำเนียบฯ ตลอดเวลา

ต่อมา น.ส.ภดิพร บุญอุ้ม ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และนายพัฒน์ศักดิ์ วรรณเดช ช่างภาพ ก็ได้ถูกตำรวจควบคุมตัวพร้อมทั้งยึดกล้องโทรทัศน์ที่ได้ถ่ายภาพระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมไปด้วย และจับตัวไปด้วยพร้อมกับผู้ชุมนุมอีก 50 คน ซึ่งได้เจรจากับเจ้าหน้าที่คุมฝูงชนจนได้รับการปล่อยตัวออกมา จากนั้น จึงได้เข้ามาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำกองบัญชาการส่วนหน้าภายในทำเนียบฯ เพื่อลงบันทึกไว้ก่อนว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ชุมนุมทำร้ายร่างกายระหว่างการเข้าทำข่าวการสลายการชุมนุม ทำให้ช่างภาพได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า และตามตัวหลายแห่ง และผิวหนังตามร่างกายโดนแก๊สน้ำตาจนขึ้นผื่นแดงแสบร้อนไปทั่วตัว รวมทั้งบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวช่างภาพ และบัตรผู้สืิ่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลได้ถูกกระชากหายไปด้วย จึงมาแจ้งความไว้เพื่อป้องกันคนอื่นนำไปใช้ในทางไม่ถูกต้อง โดย น.ส.ภดิพร กล่าวอีกว่า จะไปแจ้งความต่อกองปราบปรามอีกด้วยที่ตนเอง และช่างภาพโดนเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุ

ขณะที่บรรยากาศบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ผู้ชุมนุมซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงตรึงกำลังอย่างหนาแน่นเพื่อดูท่าทีซึ่งกันและกัน ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดก็ได้ทยอยเข้ามายังบริเวณสะพานมัฆวานฯ อย่างต่อเนื่อง

เวลา 13.48 น.นายไทกร พลสุวรรณ โฆษกกล่าวบนเวทีปราศรัย นับแต่เวลานี้ไปอีก 20 นาที ถ้าตำรวจไม่เปิดทางให้ประชาชนเข้ามาจากสะพานมัฆวานฯ จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดต่อเจ้าหน้าที่

เวลา 13.56 น.เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจปาแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกมิสกวัน เป็นครั้งที่ 2 ของวันนี้แล้ว ซึ่งในครั้งนี้ ก็ไม่ได้มีการแจ้งเตือนใดๆ จากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ชุมนุมยังไม่ได้มีการระดมพลเพื่อปะทะแต่อย่างใด โดยควันของแก๊สได้ลอยเข้ามาทางด้านลานพระรูปด้วย ส่วนบนเวทีปราศรัยได้มีการประกาศให้ผู้ชุมนุมที่อยู่ในลานพระรูปนำน้ำไปช่วยเหลือผู้ชุมนุมด้วย ทั้งนี้ส่งผลให้ประชาชนเจ็บหนักบริเวณศรีษะและแขนซึ่งมีเลือดออกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้พล.อ.บุญเลิศ เดินทางไปยังที่เกิดบริเวณแยกมิสกวัน แต่ทางทีมรักษาความปลอดภัยเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงแนะนำให้ พล.อ.บุญเลิศ กลับมายังเวที

เวลา 14.00 น. พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า ตนไม่ขอเอารัฐบาลเดรฉาน “ผมขอยอมตาย ไม่ชนะไม่เลิก” พี่น้องอย่ากลัว

เวลา 14.01 น.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ขึ้นเวทีปราศรัยประกาศจะไปอยู่ในพื้นที่แยกมิสกวันพี่น้องไม่ต้องกลัวเดี๋ยวทหารจะมาช่วยเราแล้ว

เวลา 14.17 น.มีรายงานว่า พล.อ.บุญเลิศ ได้เดินทางไปที่หน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 พร้อมกับโทรศัพท์หา พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อให้แจ้งกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ชัญชาการทหารบกทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ หลังจากนั้นจึงมุ่งหน้ากลับมายังเวที ระหว่างทางได้เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่เต้นท์ปฐมพยาบาลของกองทัพธรรม จากนั้นก็ต่อสายถึง พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ.ซึ่งได้สนทนาประมาณ 30 วินาที ได้มีใจความว่า “ท่านต้องดูแลประชาชน” ขณะที่พล.อ.ปฐมพงษ์ ได้อ้างว่า พล.ท.ไพบูลย์ ได้โทรกลับมาหาตน โดยระบุว่า ผู้บัญชาการทหารบกได้ติดตามสถานการณ์ตลอด พร้อมกับแปลกใจว่าทำไมตำรวจถึงทำเร็วอย่างนี้

ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุทางผู้ชุมนุมได้เพิ่มกำลังคุ้มกันให้แก่ พล.อ.บุญเลิศ ส่วนมวลชนที่เข้าร่วมชุมนุมต่างได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา โดยพยายามใช้น้ำและน้ำเกลือล้างหน้าตาเพื่อบรรเทาอาการแสบจากแก๊สน้ำตา พร้อมทั้งตำหนิการทำหน้าที่ของตำรวจที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าตามหลักสากล จากนั้นเวลา 14.45 น. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ แนวร่วม อพส.พร้อมด้วย พล.อ.เจริญศักดิ์ เที่ยงธรรม เตรียมทหารรุ่น 1 ได้เดินทางมาร่วมการชุมนุมด้วย

ขณะที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ กลุ่มผู้ชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม ได้นำรถ 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียงเข้ามาในพื้นที่ ส่งผลให้ผู้ชุมนุมส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประกาศว่า ให้เจ้าหน้าที่เตรียมตัวให้พร้อม และขอร่วมมือที่เป็นผู้หญิง เด็ก ให้ถอยออกจากพื้นที่ และเมื่อเวลา 13.49 น. เจ้าหน้าได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงอย่างต่อเนื่องให้ กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นออกจากจุดที่ชุมนุม พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระบองตบโล่ห์ เพื่อส่งสัญญาณถึงความพร้อม และเมื่อเวลา 14.18 น.กลุ่มผู้ชุมนุมบนรถ 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียงได้กำลังพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอผ่านเส้นทางร่วมสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมหลัก ที่ลานพระบรมรูปฯ

















































กำลังโหลดความคิดเห็น