ไทย-จีนลงนาม 4 ฉบับ “กระชับความร่วมมือด้าน ตปท.-โอนตัวนักโทษ-การศึกษา-ซื้อขายข้าว” ด้าน “ยิ่งลักษณ์” ชม “เวิน เจียเป่า” ผู้นำสำคัญพาจีนสู่มหาอำนาจเศรษฐกิจโลก ชักชวนจีนร่วมลงทุนโครงการขนาดใหญ่ใน ขณะที่ผู้นำจีนชมไทยชมบริหารประเทศประสบความสำเร็จหลายด้านพาฟื้นตัว ศก.เร็ว เผยเตรียมเข้าเฝ้าฯ ในหลวง และพบ “ป๋าเปรม”
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (21 พ.ย.) หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมคณะแล้วได้เข้าหารือภาคีเต็มคณะร่วมกันนานกว่า 1 ชั่วโมง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายเวิน เจียเป่า ได้เป็นสักขีพยานพิธีการลงนามความตกลงร่วมระหว่างกัน 4 ฉบับ ประกอบด้วย 1. บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการกระชับความร่วมมือ ซึ่งลงนามโดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน
2. การแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษคำพิพากษา ลงนามโดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน
3. ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทย ลงนามโดนนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน และ 4. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการค้าข้าวสองฝ่าย ลงนามโดยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน แถลงผลการหารือร่วมกัน โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าในนามของรัฐบาลไทยถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งได้ต้อนรับนายเวิน เจียเป่า ในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นมิตรสำคัญของประเทศไทยและยังได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนประเทศไทยในการพัฒนาในภูมิภาคนี้อย่างเข้มแข็งตลอดมา ท่านถือเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่และตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ท่านเป็นกำลังสำคัญในการนำจีนสู่ความเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกรวมทั้งนำความผาสุขมาให้กับประชาชนชาวจีน ท่านยังเป็นที่รักอย่างมากของประชาชนชาวจีน
สำหรับการมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการเยือนก่อนที่ท่านครบวาระการดำรงตำแหน่ง เป็นการให้เกียรติประเทศไทยและรัฐบาลไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งการหารือเราต่างมีความพึงพอใจในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยเฉพาะภาคประชาชน ซึ่งในช่วงเช้าตนเองได้ไปร่วมพิธีเปิดศูนย์วัฒนธรรมจีนในประเทศไทย และประเทศไทยเองเตรียมที่จะเปิดศูนย์วัฒนธรรมไทยในจีนเช่นกัน เรามีความร่วมมือด้านการศึกษาค่อนข้างใกล้ชิด
“วันนี้ได้มีการลงนามความตกลงด้านการศึกษาระหว่างกัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้มีความร่วมมือใหม่ๆ ด้านการศึกษามากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวจากจีนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งปีนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนมาเที่ยวไทยถึง 1.9 ล้านคน และเรายังตกลงที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านต่อไปนี้ เช่น การเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือในรายละเอียดต่อไป พร้อมกันนี้เราจะร่วมมือกันด้านสินค้าการเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกของไทย อยากให้รัฐบาลจีนดูแลแก้ไขข้อติดขัดการค้าต่างๆ โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ ไทยยังสนใจส่งอออกเอทานอลไปยังจีนอีกด้วย เรื่องนี้ฝ่ายจีนได้กรุณาเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนครั้งที่ 3 ด้วย”
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยว่า วันนี้ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและจีนว่าด้วยการซื้อขายข้าวระหว่างกัน ขณะเดียวกัน วานนี้ (20 พ.ย.) ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายได้ลงนามสัญญาซื้อขายข้าวด้วย และหวังอยากให้จีนมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในการที่จะเพิ่มการลงทุนร้อยละ 15 ต่อปี ทั้งนี้แจ้งให้นายกรัฐมนตรีจีนทราบถึงการลงทุนที่ไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษเช่น การแปรรูปยางธรรมชาติ พลาสติกชีวภาพ ยานยนต์ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีของไทยได้กล่าวเชิญชวนชาวจีนเข้ามาร่วมลงทุนโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการเชื่อโยงภูมิภาค เช่น โครงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย รถไฟฟ้าความเร็วสูงหรือระบบป้องกันน้ำท่วมในไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ได้แจ้งให้ทราบว่าฝ่ายจีนมีความสนใจในโครงการเหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้นจะมีการหารือในรายละเอียดต่อไปและตนเองยังได้ฝากให้ทางจีนช่วยดูแลนักลงทุนไทยในจีนด้วย
โอกาสนี้ได้ร่วมแสดงความยินดีต่อนายเวิน เจียเป่า ที่การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีและขอให้ท่านช่วยนำความปรารถนาดีส่งไปยังรองประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเพิ่มได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย ซึ่งประเทศไทยมีความเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของผู้นำรุ่นใหม่ประเทศจีนจะเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและแสดงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในเวทีโลกอย่างต่อเนื่องต่อไป
ด้านนายเวิน เจียเป่า กล่าวว่า ตนได้มาเยือนประเทศไทยหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรก และในช่วงบ่ายวันนี้ตนจะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจะได้พบกับ พล.อ.เปรม ติลสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ซึ่งตนและนายกรัฐมนตรีไทยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและปรึกษาหารือกัน โดยได้รับฉันทามติหลายประการ ก่อนหน้านี้เราทั้งสองคนก็ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดป้ายศูนย์วัฒนธรรมจีนประจำประเทศไทย สำหรับการต้อนรับอย่างเป็นมิตรจากรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ตนรู้สึกซาบซึ้งใจก็ต้องขอบคุณด้วยความจริงใจ
นายเวินกล่าวว่า การเยือนประเทศจีนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ผลงานที่สำคัญทั้งสองประเทศได้จัดตั้งความสัมพันธ์หุ้นส่วนและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน การเยี่ยมเยือนประเทศไทยของตนในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะ ส่งเสริมความร่วมมือทั้งสองฝ่ายให้มีความคืบหน้าโดยอยู่บนพื้นฐานดังกล่าว
นายเวินกล่าวต่อว่า ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการรับมือกับปัญหา เช่น อุทกภัย วิกฤตทางการเงินระหว่างประเทศ และประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเรารู้ดีใจเป็นอย่างยิ่ง ความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาของประเทศไทย ไม่เพียงแต่จะนำความสุขให้กับประชาชนชาวไทยเท่านั้น และยังสร้างเงื่อนไขที่ดีระหว่างไทย-จีนด้วย ในสถานการณ์ระดับโลกและระดับภูมิภาคที่การเปลี่ยนแปลงอย่างซับซ้อนนั้น ฝ่ายจีนยินดีที่จะร่วมมือกับฝ่ายไทยเพื่อให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน ให้การช่วยเหลือต่อกัน และพัฒนาไปด้วยกัน รวมถึงการกำชับความร่วมมือและการประสานงานในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะเพื่อส่งเสริมและผลักดันระหว่างจีนกับอาเซียนให้พัฒนาอย่างมีคุณภาพและมั่นคง และส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ไทยและจีนเป็นหุ้นส่วนคู่ค้าสำคัญซึ่งกันและกัน ทั้งสองฝ่ายจะมีอนาคตที่ดีในการขยายความร่วมมือระหว่างกัน ฝ่ายจีนยินดีร่วมมือกับฝ่ายไทย เพื่อดำเนินการแผนการพัฒนาท่าที ของความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้พยายามไปแล้ว รวมถึงการกำชับความร่วมมือทางด้านสิ่งก่อสร้างพื้นฐาน เช่น การคมนาคม ชลประทาน การเกษตร การลงทุน เราก็ยินกระชับความร่วมมือ ขอชื่นชม น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ให้ความสำคัญในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและภาษาจีนทั้งสองประเทศ ฝ่ายจีนยินดีที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนต่อไปเพื่อขยายและยกระดับภาษา จีนในประเทศไทยและผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรม และการติดต่อประสานงานของประชาชนทั้งสองประเทศ
นายเวินกล่าวว่า จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่โบราณกาล ประชาชนทั้งสองมีมิตรภาพและการติดต่ออย่างใกล้ ในประเทศไทยมีชาวไทยเชื้อสายจีนเกือบ 4 ล้านคน คำกล่าวที่ว่าจีน-ไทยไม่ใช่อื่นไกลพี่น้องกันนั้นเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดี ตนมีความเชื่อมั่นว่าด้วยความพยายามของทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยย่อมกระชับมากขึ้น และจะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นและนำความสุขให้กับทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น