“ส.ส.เพื่อไทย” 1 ใน 10 จ่อยื่นประธานสภาฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความคุณสมบัติ “มาร์ค” สันหลังหวะอ้างนายทุนเคยล้มแม้วลงขัน 6,000 ล้านล้ม รบ. จ้างคน 11 จว.ใต้ชุมนุมหัวละ 1,500 บาทต่อวัน โวยใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย ทำ ปท.เสียหายถือเป็นพวกหนักแผ่นดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 14 พ.ย. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อยื่นตรวจสอบคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ หลังกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลดออกจากราชการ เบื้องต้น ได้รวบรวมรายชื่อ ส.ส. 1 ใน 10 ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขเพื่อเตรียมยื่นให้ประธานสภาฯ ส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความคุณสมบัตินายอภิสิทธิ์ ซึ่งได้ครบตามจำนวนแล้ว และจะยื่นในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการขัดขวางการอภิปรายฯ ของฝ่ายค้าน ญัตติยังคงอยู่ ไม่ตกไป ฝ่ายค้านยังอภิปรายได้เหมือนเดิม เพียงแต่มีคำถามถึงความเหมาะสมสง่างาม
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ได้รับข้อมูลสอดคล้องกรณีที่ ผบ.ตร. ระบุถึงการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม วันที่ 24 พ.ย. มีการระดมทุนถึง 6000 ล้านบาท เพื่อล้มรัฐบาล ตนทราบว่ามีการระดมทุนของกลุ่มที่เคยล้มรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2549 รวมทั้งกลุ่มทุนใหม่ที่เสียประโยชน์จากการบริหารงานของรัฐบาลร่วมลงขัน และได้ทราบข้อมูลจากประชาชนในภาคใต้ว่า มีการส่งคนไปชักชวนประชาชน 11 จังหวัดภาคใต้ให้มาร่วมชุมนุม โดยให้ค่าตอบแทน 1,500 บาทต่อวัน ตั้งเป้าจังหวัดละ 7,000-10,000 คน และยังทราบอีกว่า ใน กทม.และปริมณฑล ก็มีลักษณะเกณฑ์คนคล้ายๆ กัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปง. เข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าไปสอบสวนการกระทำที่ผิดกฎหมาย การปลุกปั่นยุยงระดม การบิดเบือนข้อมูลใส่ร้ายรัฐบาล โดยปราศจากข้อเท็จจริง อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม คงไม่ใช่ม้วนเดียวจบแต่คงยืดเยื้อก็ต้องถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ทำให้ประเทศไทยเสียหายหรือไม่ พวกที่ไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย ทำทุกวิถีทางเพื่อล้มล้างรัฐบาลเพื่อที่ตนเองจะได้ประโยชน์ ให้ผู้ที่เสียอำนาจกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ถือเป็นพฤติกรรมที่สมควรประณามว่าเป็นพวกหนักแผ่นดิน