ปชป.ไม่แคร์ไร้เงา ภท.ซักฟอก ปัดจุ้นม็อบ “เสธ.อ้าย” แนะอย่าฟังพวกปลุกปั่น

“มาร์ค” แจงเป็นสิทธิภูมิใจเนชิ่งไม่ร่วมศึกอภิปราย ลั่นพรรคเดียวก็ลุย ย้ำประเด็นเป็นความลับ รวมข้อมูลทุจริต รบ. เชื่อมีตัวป่วนสภาป้อง รมต. ยันไม่เกี่ยวพิทักษ์สยาม ชี้เป็นสิทธิขอให้อยู่ใต้ กม. ส่วนตนทำหน้าที่ในสภา วอน ปชช.อย่าเชื่อพวกปั่นกระแสเต้าข่าว แนะทุกคนทำหน้าที่ไม่ทำผิด กม.บ้านเมืองสงบ

วันนี้ (9 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยไม่ร่วมลงชื่อญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และถอดถอนว่า เป็นสิทธิของพรรคภูมิใจไทย โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีคนหนึ่งแต่สุดท้ายก็บอกว่ารัฐมนตรีท่านนั้นเปลี่ยนแนวทางการบริหารประเด็นจึงหมดไป แต่ไม่คิดว่าจะกระทบต่อประเด็นการอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์ และที่ผ่านมา ก็มีการประสานกับทางพรรคภูมิใจไทยตลอด แต่ประเด็นการอภิปรายเป็นข้อมูลที่ไม่แจกจ่ายให้ทุกคนเพราะการรวบรวมข้อมูลทำงานด้วยความยากลำบาก และต้องการเก็บไว้ใช้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะทั้งหมดจะอยู่ที่เนื้อหาที่จะอภิปรายซึ่งเราตั้งใจทำงานเต็มที่ รวบรวมข้อมูลการบริหารที่ล้มเหลว และทุจริต และตนคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีขบวนการโจมตีฝ่ายค้านในสภา เพราะเมื่อคนเหล่านี้เป็นรัฐบาลก็จะมีกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้น ซึ่งพรรคก็เตรียมรับมือเต็มที่ มาได้เลย ทั้งนี้ หากจะถูกโดดเดี่ยวให้กลายเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวในสภาก็ไม่มีปัญหา

ส่วนกรณีที่การชุมนุมของกลุ่มเสธ.อ้ายตรงกับวันที่ 25 พ.ย.55 ซึ่งเป็นวันอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดปัญหาอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกัน ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเชื่อมโยงว่าเรื่องนี้เป็นบันได 5 ขั้นล้มรัฐบาลนั้น ตนก็ยืนยันว่า เป็นคนละส่วนกันเพราะพรรคก็ทำหน้าที่ในสภา ซึ่งตนขอให้สังคมทราบว่าแต่ละคนทำหน้าที่ใช้สิทธิของตัวเองไป ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบ และขอบเขตของกฎหมาย พวกตนทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนประชาชนกินภาษีพี่น้องก็ต้องตรวจสอบรัฐบาล เมื่อรัฐบาลมีข้อผิดพลาดทุจริตทำผิดกฎหมายก็ต้องนำเสนอในสภา ส่วนประชาชนจะใช้สิทธิแสดงออกในการชุมนุมในกรอบของกฎหมายก็เป็นสิทธิที่จะทำได้

“อยากให้สังคมเข้าใจแบบนี้ อย่าฟังคนที่พยายามโยงทุกเรื่องตามที่มีการปลุกปั่น เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกระบวนการตามปกติ ไม่ควรจะทำให้สถานการณ์การเมืองตึงเครียด แต่ตนรู้ว่ารัฐบาลวิตกกังวลมากพยายามทุกอย่างเพื่อดิสเครดิต สกัดกั้น แม้กระทั่งสร้างกระแสในสื่อล่วงหน้าเกี่ยวกับการอภิปราย” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า มีการคาดการณ์ว่าปลายปีนี้อาจเกิดวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่คิดว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าทุกคนทำหน้าที่ตามระบบไม่ควรมีปัญหา เพราะถ้าอยู่ในกรอบ กติกา กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐ หรือฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐก็จะไม่มีปัญหา ซึ่งตนไม่อยากเห็นประเทศต้องเสี่ยงวนเวียนอยู่กับวิกฤตการเมือง อยากให้ทุกคนทำหน้าที่โดยยึดความถูกต้อง ยึดกฎหมายโดยเคร่งครัด