"สาทิตย์" จวกดีเอสไอ รับใช้การเมือง จ้องสอบแต่คดีปชป. ไม่ดูผู้ร้องเป็นฝ่ายตรงข้าม แถมรับลูกพท. ขวางตรวจสอบรบ.ทำหน้าที่ ซัดใช้สิทธิฝ่ายค้านยังถูกเรียก จี้ "ธาริต" ให้ความเป็นธรรม พร้อมตั้งทีมสอบกลับเอาคืน แฉซ้ำบนเวทีผ่าความจริง 17 พ.ย.
วันนี้ (14พ.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุม ครม.เงาว่า ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตถึงการทำหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่ได้ดำเนินการในหลายเรื่องโดยไม่ให้ความเป็นธรรมผู้ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาธิปัตย์และคนของพรรค รวมถึงการใช้อำนาจหน้าที่ของดีเอสไอว่าเป็นไปโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากหลายกรณีที่องค์กรที่รับผิดชอบและตรวจสอบอยู่แล้ว เช่น กรณีการเรียกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ไปสอบปากคำเกี่ยวกับกรณีความไม่สงบในปี 53 ทั้งที่ผู้ร้องล้วนแต่เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามทั้งสิ้น หรือในกรณีที่อ้างว่ามีคนร้องให้สอบสวนการบริจาคเงินของบริษัทอีสวอเตอร์ เพื่อช่วยเหลือน้ำท่วมผ่านพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงบุคคลอื่นๆ ได้มีการเรียกสอบทั้งหมด โดยล่าสุดอ้างว่ามีการร้องเรียนขอเรียกตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับเงินบริจาคของพรรคทั้งหมดย้อนหลัง 6 ปี คือ 50-55 ซึ่งทุกกรณียินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ
“คนที่ถูกดีเอสไอเชิญไปจะถูกบีบคั้นกดดันจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ซึ่งเอกสารทั้งหมดมีจำนวนมากถึง 1 ตู้คอนแทรนเนอร์ การเรียกตรวจสอบย้อนหลังทางพรรคต้องถ่ายเอกสารทั้งหมดพร้อมกับการเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องของผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงแจ้งขอขยายเวลาเป็นวันที่ 7 ธ.ค. แต่ดีเอสไอให้เวลาเพียง 10 วัน ให้ส่งเอกสารทั้งหมดภายในวันที่ 8 พ.ย. เพราะไม่สามารถถ่ายเอกสารและเซ็นต์เอกสารทั้งตู้คอนเทรนเนอร์ได้ทัน ผมคิดว่าเป็นเรื่องแปลกเพราะในชั้นการสอบสวนข้อมูลเอกสารหลักฐาน เจ้าหนัาที่มักจะขยายเวลาให้ตามความจริง แต่ครั้งนี้กลับบีบคั้นพรรคประชาธิปัตย์ ผมทราบมาว่าหากพรรคส่งข้อมูลไม่ตรงตามวันที่ 8 พ.ย. 55 ก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับนายอภิสิทธิ์ ว่าไม่ให้ความร่วมมือ โดยจะมีการออกหมายจับนายอภิสิทธิ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหวังผลบางอย่างหรือไม่” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ1 ได้ออกหนังสือเรียก นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่านายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายองอาจว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่บ่อนทำลายความมั่นคงในราชอาณาจักร โดยนายองอาจได้แจ้งต่อที่ประชุม ว่า น่าจะมาจากการแถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบการไซฟ่อนเงิน 16,000 ล้านที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นการทำหน้าที่เชิงตรวจสอบของฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แต่ดีเอสไอกลับรับลูกโฆษกพรรคเพื่อไทยจนมีการเรียกสอบและแจ้งข้อกล่าวหาร้ายแรง เพราะฉะนั้นจึงเห็นว่า ดีเอสไอ ไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมควรรับรู้ถึงการทำหน้าที่ของดีเอสไอที่รัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือคุกคามฝ่ายค้านหลากหลายรูปแบบ
นายสาทิตย์ ยังเรียกร้องให้นายธาริต เพ็งดิษฐ อธิบดีดีเอสไอเข้ามาดูแลเพื่อให้ความเป็นธรรมกับพรรคประชาธิปัตย์และคนของพรรค และชี้แจงให้ชัดเจนก่อนที่ดีเอสไอจะถูกใช้เป็นเครื่องมือหลักของรัฐบาลในการสกัดกั้น ขัดขวาง การทำงานตรวจสอบของฝ่ายค้าน ทั้งนี้พรรคตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อตรวจสอบการทำงานของดีเอสไอ โดยรวบรวมคดีต่างๆ ที่มีการร้องเรียนพรรคและบุคคลของพรรคที่ดีเอสไอรับไว้ดำเนินการ ทั้งนี้เวทีผ่าความจริงวันเสาร์ที่ 17 พ.ย.ที่เพชรบูรณ์ จะเปิดโปงพฤติกรรมของดีเอสไอ ซึ่งนายอภิสิทธิ์จะขึ้นเวทีตั้งแต่เวลา 17.00 น.