เกาะกระแส
00 ได้ยินการแถลงข่าวของโฆษกรัฐบาลเมื่อวันก่อนทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋ทันทีว่าต่อไปนี้ไทย อุ๊บ ขอโทษ ครอบครัวชินวัตรต่างหากที่จะกลายเป็น “หุ้นส่วน” กับสหรัฐฯ แต่ถ้าพูดกันให้ตรงๆก็คือ “หัวหน้าคนใช้” เพื่อแลกกับผลประโยชน์ในฐานะ “ทุนข้ามชาติ” ที่จะหยิบยื่นมาให้ จากการทำหน้าที่ทุกอย่างในบ้านตัวเอง
00 การที่รัฐบาลของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เตรียมลงนามในบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู) กับรัฐบาลสหรัฐในเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งในคำแถลงมีการแย้มให้เห็นเพียงเล็กน้อยแต่ก็ทำให้เห็นว่าได้ครอบคลุมแทบทุกด้านนั่นคือ สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข ภัยพิบัติธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ “ปัญหาข้ามชาติ” และการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(ทีพีพี) ฯลฯ เรียกได้ว่า “จัดเต็ม”สำหรับการต้อนรับการมาถึงของ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะเดินทางมาแวะไทยในวันที่ 18 พ.ย.เพราะนอกจากจะเปิดโอกาสให้ ยิ่งลักษณ์ ได้ถ่ายรูปร่วมกันเพื่อเป็นเกียรติแล้ว มองในเนื้อหาสาระแล้วถือว่าเราได้ “ถวายใส่พาน” ให้มะกันอย่างเต็มที่
00 แม้ว่าในข้อตกลงดังกล่าวยังไม่มีรายละเอียด แต่หากพิจารณาในภาพรวมแล้วทุกอย่างล้วนเป็นผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐที่ต้องการกลับมาฟื้นอิทธิพลในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกเพื่อคานอำนาจกับจีน และที่สำคัญสหรัฐกำลังกลับมา “ตักตวง”ผลประโยชน์ในทวีปเอเซียที่กำลังเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีการจะเข้ามาไทยและเชื่อมโยงกับภูมิภาคได้อย่างสะดวกก็ต้องมี “นายหน้า” คอยประสานงานให้
00 ขณะเดียวกันถ้าพิจารณาจากตารางเวลาการเดินทางของ บารัค โอบามา ที่มาแวะไทย วันที่ 18 พ.ย.ก่อนเข้าร่วมประชุมผู้นำกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกที่เขมร ก็รู้กันอยู่แล้วว่าวันเดียวกันที่ “แม้ว” ทักษิณ ชินวัตร เข้าพบหารือกับประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่า แม้ว่ากำหนดการของโอบามามาไทยวันที่ 18 พ.ย.อาจเพิ่งยืนยันชัดเจน แต่อย่างน้อยการเดินทางมาย่านนี้ถือว่าให้ความสำคัญกับเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆ การที่สหรัฐฯให้ความสำคัญกับไทยเพราะเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อทั้งแปซิฟิก ทะเลจีนใต้ ช่องแคบมะละกา ที่สำคัญเรามี “สนามบินอู่ตะเภา” ที่มะกันเคยใช้เป็นสนามบินยุทธศาสตร์ในช่วงสงครามเวียดนาม และคราวนี้ก็เป็นการเปิดเผยมาอีกขั้นก็คือจะมีการลงนามในเรื่องการป้องกันภัยพิบัติธรรมชาติ ก็เรื่อง “ดูลมดูเมฆ” เมื่อคราวก่อนไงละ และแน่นอนว่าเพื่อไม่ให้กระโตกกระตากก็ต้องนำร่องในเรื่องเศรษฐกิจมาก่อน แต่ภารกิจ “ลับสุดยอด” นั้นล้วนแอบแฝงอยู่ข้างหลัง
00 เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวดูแล้ว นาทีนี้ถึงได้เข้าใจแจ่มแจ้งว่าทำไมถึงได้ตบรางวัลให้โบนัสกับ “ปึ้งศักดิ์” เป็นรองนายกฯควบรมว.ต่างประเทศ เพราะต้องมีภารกิจลับสำคัญส่วนตัวอย่างนี้นี่เอง การลงนามในเอ็มโอยูและสัญญาสำคัญล้วนต้องเป็นคนๆนี้แทบทั้งหมด ส่วนนายกฯนั้นไม่ต้องห่วงแค่อ่านตามสคริปต์ผิดๆถูกๆไม่เป็นไร แต่ตอนท้ายก็ต้องลงนามแสตมป์เป็นทางการ ทำให้บางคนได้ “โชว์พาวเวอร์” ให้เห็นทำนองว่าเห็นรึยังว่า “มอบวีซ่าให้ผม”แล้วทำงานได้คุ้มค่า สถานะไม่ต่างจาก “คนใช้” แต่ปัญหาก็คือต่อไปจีนจะมองไทยด้วยความระแวงขนาดไหน !!
00 มาอีหรอบเดิม ใครฟัง “เฉลิม อยู่บำรุง” แล้วให้ราคาก็ต้องถือว่าพัฒนาการรับรู้มีปัญหาไม่น้อย เพราะการพูดในลักษณะเอามันฟังเพลินๆแก้ง่วงละพอได้ ล่าสุดบอกว่ารู้แล้วว่าใครเป็น “นายทุน” ม็อบ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ วันที่ 24 พ.ย.ทางที่ดีให้หุบปากไปเลยจะดีกว่า เพราะยิ่งพูดเหมือนกับ “เรียกแขก” ยั่วให้รัฐบาลพังเร็ว ยังไม่เข็ดหรืออย่างไร อ้อ นายทุนม็อบเสธ.อ้าย เป็นใครไม่รู้ ไม่บอก รู้แต่ว่าม็อบเผาเมืองทั้งที่พัทยา เผาศาลากลาง เผาราชประสงค์นั้น “หน้าเหลี่ยม” แน่นอน เหลิม รู้จักป่าว !!