xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่าย ปชช.โต้เจ้าของวิทยุแดง ลั่นจับตา 3จีมานาน-ซัด กสทช.เป็นสื่อเอง ขัดรธน.ชัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลุ่มคนที่ยื่นถอน กสทช. โต้ “ประยูร” กระบอกเสียง นปช. ยันตามเรื่อง 3จีมาตลอด พร้อมเรื่องประกาศ กสทช.ที่ยันขัด รธน. เป็นเหตุให้ยื่นถอด กสทช.ทันควัน ซัดบิดเบือนข้อมูล ย้ำจุดยืนห้ามเอื้อกลุ่มทุน แฉซ้ำ กสทช.คุมสื่อ กลับเป็นสื่อเสียเอง เผยมี 6 สถานีครอบครอง ขัด ม.47-พ.ร.บ.คลื่นความถี่ ม.8 ชัดเจน โยงประกาศ กสทช.ต้องเป็นโมฆะ เหตุผิด ม.6 บทบัญญัติใดขัด รธน.ต้องยกเลิก

วันนี้ (6 พ.ย.) ผศ.ดร.สุรศักดิ์ ศิริพรอดุลศิลป์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก กสทช. น.ส.จุฑารส พรประสิทธิ์ ตัวแทนศูนย์ประสานงานเพื่อการปฏิรูปสื่อ พร้อมคณะลูกศิษย์ลูกตามหาบัว และผู้ที่ยื่นถอดถอนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าพบผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการออนไลน์ ตอบโต้ นายประยูร จันทรุสอน นายกสมาคมกิจการวิทยุกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (สก.วท.) กรณีอ้างตัวว่าเป็นองค์กรผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และสื่ออื่นๆ เข้ายื่นหนังสือต่อนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เพื่อคัดค้านการยื่นถอดถอน (กสทช.) เรียกร้องให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎ ระเบียบและประกาศของ กสทช. พร้อมกล่าวหากลุ่มที่ยื่นถอดถอน กสทช.ว่า หลังจากจัดการประมูล 3จี เพียงแค่ 2 วันแต่กลับรวบรวมรายชื่อประชาชนได้ถึง 5 หมื่นชื่อได้ จึงมีข้อพิรุธว่ามีการเตรียมการมาก่อนหรือไม่ นอกจากนี้มีผู้ประกอบการบางกลุ่มบางคณะสร้างเงื่อนไขเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเองที่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายโดยเฉพาะระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ของ กสทช.ที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย

ผศ.ดร.สุรศักดิ์ยืนยันว่า เครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก กสทช.ได้ติดตามเรื่อง 3จีมาอยู่ก่อนหน้านี้ รวมไปถึงการปฏิบัติหน้าที่ของทาง กสทช.ที่มีการออกร่างประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ที่ภาคประชาชนได้ติดตามตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2555 ที่มีการประชุมในร่างฉบับดังกล่าว และมองว่าไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ จึงมีการยื่นรายชื่อคัดค้านแต่ไม่เป็นผล และเป็นที่มาของการรวบรวม 50,000 รายชื่อ ถอดถอนการทำหน้าที่ของ กสทช. โดยได้แสดงตนกับประธานวุฒิสภาตามระเบียบ ในวันที่ 13 สิงหาคม 2555 ซึ่งทางด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กำหนดเวลามายื่นเอกสารถอดถอน ในวันที่ 18 ตุลาคม 2555 หลังจากการประมูล 3จี เพียง 2 วัน โดยถือว่าส่อเจตนาฮั้วประมูลอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้ประเด็นดังกล่าวถูกนำขึ้นมา เพื่อให้สื่อมวลชนสนใจในการยื่นถอดถอน

น.ส.จุฑารสกล่าวว่า จุดยืนภาคประชาชนไม่ต้องการให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ผลประโยชน์จากประมูลที่เกิดขึ้น และไม่มีประโยชน์แอบแฝง ขอ กสทช.ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ อย่าประเคนผลประโยชน์เพื่อนายทุน

ผศ.ดร.สุรศักดิ์กล่าวต่อถึงกรณี กสทช.ใช้อำนาจหน้าที่ในการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง เอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง โดยมี 6 สถานีที่รับรองจาก กสทช. ซึ่งขัดต่อมาตรา 47 ของรัฐธรรมนูญ ที่ให้อำนาจ กสทช.ที่เป็นองค์กรอิสระ ทำหน้าที่ควบคุม จัดสรรคลื่นความถี่ ให้แข่งขันอย่างเสรี มิให้มีการควบรวมครอบครองสิทธิของสื่อ หรือครอบงำสื่อมวลชน ซึ่งอาจปิดกั้นการรับข้อมูลประชาชน และการที่ กสทช. รับรองสถานีทั้ง 6 สถานี ประกอบด้วย ความถี่วิทยุ 98.5-106.5 กทม., 89.0 ภูเก็ต, 90.00 ลำปาง, 99.0 อุดรธานี, 102.0 อุบลราชธานี เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน ยังผิด พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ มาตรา 8 วรรค 3 ห้ามมิให้กรรมการประกอบวิชาชีพหรือวิชาชีพอิสระอื่นใด มีส่วนได้เสียหรือมีผลประโยชน์ขัดแย้งไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมกับการปฏิบัติหน้าที่

ผศ.ดร.สุรศักดิ์ยังยกมาตรา 6 ที่ระบุว่าบทบัญญัติใดของกฎหมายหรือข้อบังคับที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ บังคับใช้ไม่ได้ถือเป็นโมฆะ ซึ่งสอดคล้องกับประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง แต่ กสทช.กลับมีคลื่นวิทยุในการครอบครอง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และมาตราฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยเปรียบเหมือน กสทช.เป็นกรรมการผู้ควบคุมการแข่งขั้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นผู้ร่วมแข่งขันด้วย ซึ่งส่อถึงความไม่เป็นธรรมในการตัดสิน เป็นเหตุให้ประกาศ กสทช.ฉบับดังกล่าวมีอันต้องเป็นโมฆะ พร้อมเผยต่อว่ามูลนิธิเสียงธรรม เคยสอบถามเรื่องไปยัง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสทช. แต่เรื่องก็เงียบหาย

น.ส.จุฑารสกล่าวต่อว่า ประกาศฉบับดังกล่าวของ กสทช.ไม่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมยกอีกเหตุผลในข้อบังคับว่าอาจเอื้อประโยชน์ให้แก่วิทยุภาคธุรกิจที่ได้รับสัมปทาน เพราะส่งผลให้สัญญาณจะกระจายในวงแคบเพียงไม่กี่ร้อยเมตร และจะถูกคลื่นวิทยุหลักบดบังสัญญาณ ขณะเดียวกันยังเตือนถึงการทำหน้าที่ เพราะเรื่องที่ กสทช.กำลังปฏิบัติมีความผิดถึงคดีอาญา หากยังเพิกเฉยไม่ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว ย่อมส่งผลถึงการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องอื่นที่อาจจะเป็นโมฆะไปด้วย

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ ผศ.ดร.สุรศักดิ์ น.ส.จุฑารส พร้อมคณะลูกศิษย์ลูกตามหาบัว และผู้ที่ยื่นถอดถอนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ไปยื่นหนังสือถึงประธานวุฒิสภา เพื่อขอสนับสนุนให้วุฒิสภามีมติถอดถอน กสทช.ออกจากตำแหน่ง







กำลังโหลดความคิดเห็น