xs
xsm
sm
md
lg

“ปธ.กทค.” รับที่ปรึกษาทำหนังสือเบรกประมูล 3จี แต่มารู้ตอนหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ (แฟ้มภาพ)
กมธ.โทรคมนาคมฯ เชิญ กสทช.และ กทค.แจงประมูล 3จี “เศรษฐพงศ์” รับที่ปรึกษาทำหนังสือท้วงติงการประมูลอาจส่อไปในทางทุจริตจริง แต่มารู้ตอนหลังเพราะเรื่องอยู่หน้าห้อง แจงชะลอออกใบอนุญาตเพื่อกำหนดเงื่อนไขค่าบริหาร คุ้มครองผู้บริโภค “สุทธิพล” งัดกฎหมายยืนยัน กทค.มีอำนาจรับรองผลประมูล 3จี

ที่รัฐสภา วันนี้ (1 พ.ย.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม ที่มีนายปรีชาพล พงษ์พานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยมีการพิจารณาติดตามความคืบหน้าภายหลังการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz หรือ 3จี ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งได้เชิญ พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมกิจการโทรคมนาคม (กทค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ รศ.ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา คณะกรรมการ กสทช. และนายจิตนรา นวรัตน์ คณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมาย กทค.เข้าชี้แจง

คณะกรรมาธิการซักถามว่า หลังจากที่ประมูล 3จีเรียบร้อย ขณะนี้ดำเนินขั้นตอนอย่างไรและมีอุปสรรคใดบ้าง พ.อ.เศรษฐพงศ์ชี้แจงว่าขณะนี้กำลังร่างประกาศที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการดำเนินการด้านโครงข่ายอย่างมีประสิทธิภาพและใช้ทรัพยากรรวมกัน ร่างประกาศ กสทช. เรื่องการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. .... ร่างประกาศ กสทช.เรื่องการใช้บริการข้ามโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศ พ.ศ. ... และร่างประกาศ กสทช. เรื่องบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบโครงข่ายสูง พ.ศ. ....

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ออกใบอนุญาตแต่อย่างใด เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ออกใบอนุญาตได้ใน 90 วันนับแต่วันประมูล แต่สิ่งที่เราควบคุมได้ก่อนที่จะออกใบอนุญาต คือ มาตรฐานการใช้บริการและอัตราขั้นสูงของค่าบริการที่จะกำหนดเป็นเงื่อนไขในใบอนุญาต นอกจากนี้ก็ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการสมยอมด้านราคา ที่มีนายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานคณะกรรมการทั้งนี้ก็เพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบ

พ.อ.เศรษฐพงศ์กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวที่คณะที่ปรึกษาของตนได้นำทำหนังสือมาถึงตนก่อนที่จะมีการประมูล โดยระบุว่าการประมูลดังกล่าวส่อให้เกิดการทุจริตนั้น ยอมรับว่ามีการส่งหนังสือดังกล่าวมายังหน้าห้องของตนแต่ไม่ได้นำเข้าระบบ เพียงใส่ซองเอกสารแล้วนำมาวางไว้หน้าห้องทำงานเฉยๆ ประกอบกับก่อนวันประชุมตนไม่ได้เข้าสำนักงานทำให้ไม่ได้เห็นเอกสารดังกล่าว และได้ทราบก็เมื่อเรื่องดังกล่าวปรากฏในสื่อมวลชน ทั้งนี้ที่ปรึกษาไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ใดๆ ได้แต่เพียงเสนอความเห็นให้ตนพิจารณาต่อเท่านั้น

ด้านนายสุทธิพลชี้แจงถึงอำนาจในการรับรองผลการประมุล 3จีว่า คำตอบในเรื่องนี้มีอยู่ 2 ส่วน คือ บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 วรรค 2 บอกว่าให้มีการตั้งหน่วยงานขึ้นมาเป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระมีหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่รัฐธรรมนูญเป็นเพียงกรอบจึงต้องออกกฎหมายผ่าน พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ มาตรา 305 ซึ่งเป็นบทเฉพาะกาลที่อยู่ในรัฐธรรมนูญระบุว่า ต้องมีหน่วยงานย่อยภายใน คือ คณะกรรมการย่อยที่ดูแลเรื่องกระจายเสียงและกรรมการที่ดูแลเรื่องกิจการโทรคมนาคม คือ กทค.

นายสุทธิพลกล่าวต่อว่า การดูแลเรื่องกิจการโทรคมนาคม พ.ร.บ.กสทช.ได้ระบุอำนาจหน้าที่ของ กสทช.ทั้งหมดในมาตรา 27 แต่ในการทำงานเพื่อเกิดความให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และมาตรา 305 กฎหมายได้ระบุว่าอำนาจหน้าที่บางอย่างตาม มาตรา 27 ของ กสทช.ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการย่อยทำ โดยในส่วนของกิจการโทรคมนาคมมาตรา 40 ก็เขียนชัดเจนว่ามีอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติตามอำนาจของ กสทช.มาตรา 27 วงเล็บใดบ้าง

“ขณะนี้มีผู้ไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบการรับรองการประมูลว่าเป็นอำนาจของ กทค.หรือไม่ และเมื่อมีผู้ยื่นไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว กสทช.ไม่มีอำนาจก้าวก่ายการตัดสิน ต้องรอให้ผลการพิจารณา แต่ขอยืนยันว่า กทค.มีอำนาจในการรับรองการประมูลครั้งนี้”

ด้านนายประเสริฐยืนยันว่า การตั้งราคาประมูลไว้ที่ 4.5 พันล้านบาท เป็นการตั้งราคาเริ่มต้นที่ 70% ของมูลค่าคลื่นความถี่ที่ 6,440 ล้านบาท ตามที่คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ประเมิน และเป็นไปตามการศึกษาการประมูลคลื่นความถี่ของ 17 ประเทศทั่วโลก

ส่วนนายนวรัตน์ชี้แจงต่อข้อซักถามเรื่อง กทค.ได้ประมูล 3จี ตามระเบียบเรื่องประกวดราคาพัสดุของสำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า ได้นำระเบียบดังกล่าวมาร่วมพิจารณาด้วยแต่ไม่สามารถนำระเบียบดังกล่าวมาใช้ได้เนื่องจากระเบียบเป็นกรณีที่รัฐจัดซื้อจัดจ้าง หรือรัฐเป็นผู้จ่ายเงินให้กับเอกชน แต่สำหรับกรณีนี้ตรงกันข้าม รัฐได้รับเงินจากเอกชน อีกทั้งตาม พ.ร.บ.กสทช.ก็กำหนดว่าต้องใช้วิธีประมูลเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น