คณะ กก.กิจการโทรคมนาคม ยกทีมพบผู้ตรวจการแผ่นดิน อ้างร้อนใจ ชี้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ความถี่วิทยุโทรทัศน์ ให้รับรองการประมูลคลื่นความถี่ 3จีไม่ต้องรอ กสทช.เห็นชอบ เผยทีดีอาร์ไอ-ศาลปกครองเห็นด้วย ปธ.ผู้ตรวจคาดสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุป ส่งไม่ส่งศาลปกครอง ยันไม่กดดัน “ศรีราชา” แจงส่งศาลปกครองแม้ไม่ผิด กม. ชี้ทำหน้าที่แทน ปชช. เผยถกประเด็นฮั้วประมูลอีกกรณี
วันนี้ (31 ต.ค.) คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. นำโดย พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธาน นายสุทธิพล ทวีชัยการ นายประเสริฐ์ ศีลพิพัฒน์ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ได้เข้าพบนางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพานิช นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีมีการร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการประมูลคลื่นความถี่ 3จี ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) โดยนายสุทธิพลกล่าวตอนหนึ่งในการเข้าพบว่า หลังจากมีการร้องเรียนว่าการประมูลคลื่นความถี่ 3จี มีการฮั้วประมูลทาง กทค.ก็ร้อนใจ และไม่สบายใจ จึงได้มีการจัดเตรียมเอกสาร และเข้าชี้แจงหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนรวมถึงผู้ตรวจการแผ่นดินด้วย แต่ล่าสุดทราบว่าทางสมาชิกวุฒิสภาได้มีการยื่นคำร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบว่า กทค.มีอำนาจที่จะรับรองการประมูลคลื่นความถี่ 3จีหรือไม่ จึงต้องการที่จะมาชี้แจงในเรื่องนี้
ทั้งนี้ นายสุทธิพลยืนยันว่า การดำเนินการของ กทค.มีกฎหมายรองรับชัดเจน ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยมีรัฐธรรมนูญมาตรา 47 ประกอบมาตรา 305 ที่กำหนดให้มีหน่วยงานย่อย คือ กทค. และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ โดยการปฏิบัติงานของก ทค.ก็จะเป็นไปตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งมาตราที่เป็นปัญหาในขณะนี้คือ มาตรา 27 (4) และ (6) ซึ่งทั้งสองวงเล็บนี้มีมาตรา 40 ของ พ.ร.บ.เดียวกันนี้กำหนดให้กทค.ปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคม
“ตอนที่กรรมการเข้าปฏิบัติหน้าที่ใหม่ๆ ก็ได้มีการศึกษาและเห็นว่า หากให้หน่วยงานย่อยคือกทค.ดำเนินการและมีมติอะไรเด็ดขาดไปได้เลยโดยไม่ต้องให้คณะกรรมการ กสทช.ชุดใหญ่เห็นชอบ อาจเป็นปัญหา ก็ได้เชิญผู้รู้ อย่าง นายสมเกียรติ ตั้งเกียรติวานิช จากทีดีอาร์ไอ นายฤทัย หงสสิริ จากศาลปกครองมาหารือ ต่างก็เห็นว่า กทค.สามารถดำเนินการได้เลย แต่ตอนนี้ก็กลับมีผู้เห็นว่า กทค.ไม่มีอำนาจ” นายสุทธิพลกล่าว
ด้านนางผานิตกล่าวภายหลังการหารือว่า คาดว่าในสัปดาห์หน้าทางผู้ตรวจการแผ่นดินคงจะมีข้อยุติว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร จะต้องมีการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองหรือไม่ เพราะเรื่องนี้มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาอยู่ ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานก็ได้เร่งแยกประเด็นในคำร้องที่มีการร้องเข้ามาทั้งหมดว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร โดยการมาพบของ กทค.ครั้งนี้ก็เป็นการมาชี้แจงในประเด็นเรื่อง กทค.มีอำนาจในการจัดและรับรองการประมูลหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร เพราะเป็นการทำตามอำนาจหน้าที่มาตรา 14 ของ พ.ร.บ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน
ด้านนายศรีราชากล่าวว่า การพิจารณาของผู้ตรวจนั้นไม่จำเป็นว่าเรื่องนั้นๆ ผิดกฎหมายแล้วจึงส่งให้ศาลปกครองพิจารณา แต่แค่เพียงเห็นว่ามีปัญหาเรื่องความชอบด้วยกฎหมายก็สามารถที่ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองได้แล้ว อีกทั้งตามหน้าที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ตรวจเป็นเหมือนช่องทางที่ให้ประชาชนสามารถยื่นคำร้องผ่านไปยังศาลได้ ซึ่งการประมูล 3จีมีประเด็นมาก ทางผู้ตรวจก็กำลังพิจารณาอยู่ว่า โดยนอกจากประเด็น การจัดประมูลเป็นไปตามกฎหมาย มีการฮั้วประมูลที่ต้องส่งศาลปกครองพิจารณาหรือไม่ แล้วยังมีการพิจารณาว่าที่ร้องว่า กทค.มีอำนาจที่จะจัด หรือรับรองการประมูลหรือไม่ ผู้ตรวจจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยหรือไม่