ประธานอนุ กมธ.เตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ร่วม ส.พระปกเกล้า ทำรายงานรวมความเห็นจุดอ่อน-แข็งชง 11 มาตรการเร่งด่วน เสนอรัฐบาล แนะตั้งอาเซียนเซ็นเตอร์รวมข้อมูลสนับสนุนผู้ประกอบการ-รองรับผลกระทบและช่วยภาคเกษตร เอสเอ็มอี-พร้อมแรงงาน 7 วิชาชีพ-ปรับปรุงกฎหมาย กระจายความเจริญไป 4 ภาค จัดอาเซียนเอ็กซ์โป เผยทำพ็อกเกตบุ๊ก 6,000 เล่มกระจายทั่วไทย
วันนี้ (31 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการเพื่อพิจารณาศึกษาเรื่องการเตรียมความพร้อมและการปรับตัวของประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 โดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้าจัดทำรายงานเพื่อรวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะทั้งจากภาครัฐและเอกชน โดยได้มีการวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็ง เสนอเป็นมาตรการเร่งด่วนทั้ง 11 ข้อ เพื่อเตรียมความพร้อมประเทศไทยให้เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC ปี 58) โดยจะยื่นหนังสือผ่านไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเสนอรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะ ครม.ชุดใหม่ให้เร่งดำเนินการผลักดันตามข้อเสนอแนะดังกล่าว ดังนี้
เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งหน่วยงาน ASEAN CENTER สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูล และการสนับสนุนผู้ประกอบการ มีมาตรการรองรับผลกระทบและความช่วยเหลือภาคเกษตรกรรมและผู้ประกอบการ SME มาตรการส่งเสริม พัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งเตรียมความพร้อมแรงงานวิชาชีพ 7 สาขาที่มีแนวโน้มเป็นดาวรุ่งในประชาคเศรษฐกิจอาเซียน ให้ได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือตลอดจนมาตรฐานแรงงานไทย และให้การสนับสนุนภาคการเงิน การลงทุน และสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาตลาดทุนในอาเซียน เร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม ขนส่ง และเทคโนโลยี ICTเพื่อเชื่อมโยงประเทศในกลุ่มอาเซียนตามแผน พัฒนาเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจใหม่ในแต่ละภูมิภาคเพื่อกระจายความเจริญไปยัง 4 ภาค ไม่ใช่แค่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ เพียงที่เดียว รวมทั้งรัฐบาลควรเร่งปรับปรุงกฎหมายและขั้นตอนทางกรมศุลกากรที่จำเป็นต่อการรวมกลุ่ม และสนับสนุนการศึกษาภาษาอังกฤษและวัฒนธรรมของประชาคมอาเซียน และจัดงานมหกรรม ASEAN Expo เพื่อส่งเสริม โอกาสทางการค้า การลงทุนของประเทศอาเซียนกับประชาคมโลก
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมาธิการฯร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้า จัดทำรายงานเป็น พ็อกเกตบุ๊กจำนวน 6 พันชุด เพื่อกระจายให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและสถาบันอุดมศึกษา 153 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการ
