xs
xsm
sm
md
lg

วอนช่วยเหลือ “น้องฝน” ป่วยโรคพุ่มพวงครอบครัวจนแบกค่ารักษาไม่ไหว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ด.ญ.ฝนทิพย์  ทิพย์บุญผล  หรือน้องฝน  อายุ 13 ปีป่วยเป็นโรค SLE  หรือโรคพุ่มพวง  อาศัยอยู่ห้องแถวไม่มีเลขที่หลังตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม  ครอบครัวรายได้น้อยแต่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายรักษาโรคแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ
มหาสารคาม - วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ “น้องฝน” ป่วยเป็นโรค SLE หรือโรคพุ่มพวง เผยพ่อแม่มีรายได้น้อยเฉลี่ยวันละ 200 บาท พักอาศัยห้องแถวหลังตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม ขณะที่ค่ารักษาพยาบาลแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณลานรับฝากรถ หลังตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม เพื่อพบกับ ด.ญ.ฝนทิพย์ ทิพย์บุญผล หรือน้องฝน อายุ 13 ปี อาศัยอยู่ห้องแถวไม่มีเลขที่ ที่บริเวณลานรับฝากรถดังกล่าว ซึ่งน้องฝนป่วยเป็นโรค SLE หรือโรคพุ่มพวง

นางแสงอรุณ ทิพย์บุญผล แม่ของน้องฝน เล่าว่า น้องฝนป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบเมื่อ พ.ศ. 2549 โดยเริ่มมีอาการผิดปกติคือ มีผื่นแดงขึ้นตามตัว และมีไข้ ซึ่งใช้เวลารักษามานานกว่า 1 เดือนก็ไม่หายขาด ทางแพทย์โรงพยาบาลมหาสารคามจึงได้ส่งตัวไปเจาะเลือด และส่งผลเลือดไปวินิจฉัยที่กรุงเทพฯ จนทราบว่าน้องฝนเป็นโรค SLE หรือโรคพุ่มพวง

จากนั้นได้ทำการรักษามาเรื่อยๆ ซึ่งผลข้างเคียงของการรักษาจะทำให้น้องฝนตัวบวม เดินไปไหนมาไหนไม่สะดวก ช่วงแรกทั้งแม่และตัวน้องฝนท้อแท้กับชีวิตมาก แต่น้องฝนเป็นเด็กที่มีจิตใจเข้มแข็ง มีสติ คิดและปลงได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ตนมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง

ก่อนที่จะป่วยน้องฝนมีน้ำหนักตัว 26 กิโลกรัม แต่ขณะนี้มีน้ำหนักมากถึง 50 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยา ซึ่งอยากให้น้องฝนหายจากอาการป่วย มีหมอเก่งๆ ที่เชี่ยวชาญโรคนี้มาช่วยรักษาเพื่อให้น้องฝนช่วยเหลือตัวเองได้ เดี๋ยวนี้แขนขาด้านขวาของน้องฝนมีอาการอ่อนแรง แขนขาลีบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม่ต้องคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

นางแสงอรุณเล่าต่อว่า ตนไม่ได้ทำงานอะไรต้องมาดูแลน้องฝน และเก็บค่ารับฝากรถคันละ 10 บาทให้แก่เจ้าของที่ดินที่ตนอาศัยอยู่ซึ่งเป็นเถ้าแก่ของสามี ส่วนสามีก็ทำงานขับรถให้เถ้าแก่เจ้าของที่ มีรายได้เฉลี่ยวันละประมาณ 200 บาท ส่วนเงินค่ารับฝากรถเถ้าแก่ก็จะแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ให้

ส่วนการดูแลน้องฝน แต่ละวันจะต้องซื้อกับข้าวมาทำเอง เน้นผักและผลไม้ที่มีรสชาติไม่หวานเกินไป กับข้าวที่ทำต้องเลี่ยงรสเค็ม และไม่ใส่ผงชูรส เวลาว่างก็จะพาน้องฝนเดินเล่นรอบบ้านเพื่อเป็นการออกกำลังกาย และให้น้องฝนออกกำลังกายที่ขา โดยนำเชือกผูกกับขื่อ ใส่ตัวชักรอก โดยเอาขาลอดออกมาดึงขึ้นดึงลง ซึ่งน้องฝนก็ได้ออกกำลังกายทุกวัน

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาตัวแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท เฉพาะค่าเดินทาง ส่วนค่ายาหากเป็นยานอกบัญชีก็ต้องจ่ายเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท รวมแล้วค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท ซึ่งบางครั้งก็ไม่พอต้องขอหยิบยืมจากคนรู้จัก และเถ้าแก่ ชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้ก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง อยากจะอ้อนวอนให้ผู้ใจบุญช่วย บริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวน้องฝนทิพย์ โดยบริจาคผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขามหาสารคาม ชื่อบัญชี นางแสงอรุณ ทิพย์บุญผล หมายเลขบัญชี 235-2-48540-6

ด้านน้องฝน เป็นเด็กร่าเริง มีกำลังใจดี และมีความหวังว่าสักวันอาการป่วยจะต้องดีขึ้น และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และได้ไปโรงเรียน ไปเรียนหนังสือกับเพื่อนๆ สิ่งที่น้องฝนอยากได้ตอนนี้คือหนังสือเอาไว้อ่านฆ่าเวลาในแต่ละวัน ส่วนหนังสือที่น้องฝนอยากได้คือพ็อกเกตบุ๊ก เรื่องเล่าต่างๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่านักเขียนคนนั้นๆ ไปพบไปเจอไปเห็นอะไรมาบ้าง

น้องฝน ยังได้ฝากกำลังใจไปให้คนที่ป่วยเป็นโรค SLE เหมือนน้องฝนว่า อย่าท้อ ให้ทำใจให้สบาย แล้วมันก็จะผ่านไป
กำลังโหลดความคิดเห็น