xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก-ชวน” ชำแหละระบอบแม้ว-รัฐไทยใหม่เปรียบ “ฮิตเลอร์-มุสโสลินี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
แกนนำ ปชป.บรรยายในโรงเรียนการเมืองพรรค “สุเทพ” บอกเองแยกตัวจาก “อภิสิทธิ์” ปลุกโรงเรียนการเมือง-ตั้งเวที-ทีวี หลังฝั่งแดงมีครบ อัด “ทักษิณ” เปรียบ “ฮิตเลอร์-มุสโสลินี” ใช้ ปชต.บังหน้าเผด็จการปล้นชาติ เตรียมแผนรวบอำนาจทำลายการตรวจสอบ “ชวน” เทียบระบอบทักษิณเหมือนโรคใหม่ ใช้เงินซื้อทุกอย่าง ป้ายสีสถาบัน เชื่อมีขบวนการเปลี่ยนแปลงระบอบประชาธิปไตย กดหัวข้าราชการ

วันนี้ (28 ต.ค.) ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ถนนเจริญกรุง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบรรยายในโรงเรียนการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ในหัวข้อ “ความคิดตรงข้ามรัฐไทย กรณีระบอบทักษิณกับความคิดเรื่องรัฐไทยใหม่ (ทักษิณ ลัทธิแดง รัฐไทยใหม่)” โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ตนได้แยกความใกล้ชิดออกจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไปทำกิจกรรม 3 เรื่อง คือ 1. โรงเรียนการเมือง 2. ตั้งเวทีประชาชน 3. มีทีวีฝ่ายข้างเรา ซึ่งคำนี้ตนไม่ได้พูดเอง เพราะอีกฝ่ายเขามีทั้งโรงเรียนแดง หมู่บ้านแดง ทีวีแดง และยังคุมสื่อโทรทัศน์ได้ทุกช่อง อนาคตถ้าปล่อยอย่างนี้จะไม่ไหวแน่ เนื่องจากบ้านเมืองกำลังมีภัยจวนตัว ถ้าเราไม่กระจายกำลัง ประเทศจะมีปัญหาและอาจเป็นความเสียหายของบ้านเมืองได้ เราจึงจำเป็นต้องรู้ต้นเหตุของปัญหา และคิดด้วยว่าจะแก้ไขอย่างไรโดยเป็นหน้าที่ของพวกเรา

“ประเทศไทยทุกวันนี้ตั้งแต่เกิดระบอบทักษิณขึ้นมาก็วุ่นวาย เจ็บปวด เสียหายยับเยินมากกว่ายุคไหนๆ เพราะใช้วิธีการปกครองบ้านเมืองแบบไม่สนใจหัวใจของระบอบประชาธิปไตยว่าคืออะไร เอาแต่ชี่อมาอ้าง และอ้างคำว่าเพื่อประชาชนอย่างเดียว เนื่องจากเป้าหมายสำคัญของระบอบทักษิณคือ ยึดอำนาจรัฐให้ได้ ไม่คำนึงถึงวิธีที่ได้มาเพื่อขอให้ได้อำนาจเบ็ดเสร็จการปกครองอย่างเดียว โกงชาติจนศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคสองหน จนเราเบื่อที่จะร้องศาลพิจารณาต่อ ถ้าร้องก็โดนอีกแน่ แต่ก็เห็นได้ว่าทุกวันนี้พรรคฝ่ายตรงข้ามก็ยังอยู่ได้อีก แม้กระทั่งตำรวจยุคทักษิณก็ยังสั่งได้ เห็นตัวอย่างจากยุคนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่บอกว่ามีวันนี้เพราะทักษิณให้ หรือปลัดกระทรวงคมนาคมก็เป็นตำรวจมานั่งตำแหน่ง ซึ่งระบอบทักษิณพยายามสร้างรัฐตำรวจอย่างฮิตเลอร์ มุสโสลินี หลังจากนั้นก็จะควบคุมองค์กรอิสระ ศาล ทำให้เป็นหมัน ไม่ให้สามารถตรวจสอบตัวเองได้ต่อไป” นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวด้วยว่า ประเทศไทยกำลังประสบภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่มีคนจ้องล้มระบบการปกครอง โดยยืนยันว่ายังมีคนคิดเรื่องระบบประธานาธิบดี ซึ่งวิธีคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่เป็นเผด็จการ โดยเคยพูดกับตนชัดเจนว่าอยากให้มีฝ่ายค้านเพียงแค่ 2 คน และยังมีความคิดที่จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อรวบอำนาจทั้งหมดไว้ที่ฝ่ายบริหาร โดยทำให้ระบบตรวจสอบอ่อนแอ ซึ่งตนและพรรคประชาธิปัตย์ยอมไม่ได้ และจะต่อสู้จนถึงที่สุดทั้งในและนอกสภา แต่จะอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ บรรยายในหัวข้อ “หน้าที่ของประชาชนเจ้าของประเทศที่แท้จริงในสถานการณ์ปัจจุบัน” ว่า ภัยคุกคามการเมืองในขณะนี้ไม่ใช่ทหาร เพราะทหารมีวุฒิภาวะไม่ทำปฏิวัติเพื่อช่วงชิงอำนาจเหมือนในอดีต แต่ปัญหาคือมีระบบธุรกิจการเมืองเข้ามา นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมือง มีการซื้อพรรคการเมืองเข้าควบรวมเพื่อให้ได้เสียงข้างมากซึ่งไม่ได้เป็นไปตามระบบปกติ จึงเปรียบเหมือนกับว่าการเมืองไทยเจอโรคใหม่ เช่นเดียวกับที่สังคมไทยไม่เคยคิดว่าจะมีโรคเอดส์เกิดขึ้น

นายชวนยืนยันว่า การบริหารประเทศต้องยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่ในยุค พ.ต.ท.ทักษิณมีการใช้อำนาจนอกกฎหมายจนบ้านเมืองหายนะ และยังมีปรากฏการณ์โกงทั้งโคตร จนเกิดการรัฐประหารตามมา และมีขบวนการจาบจ้วงเบื้องสูง ทั้งนี้ เห็นว่าความคิดที่จะเปลี่ยนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ประชาชนต้องช่วยกันปกป้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้น โดยเฉพาะความคิดใส่ร้ายป้ายสีสถาบันซึ่งทำกันอย่างเป็นขบวนการ พร้อมยกตัวอย่าง นายสุรชัย แซ่ด่าน ใส่ร้ายตนเองจนถูกฟ้องแต่นายสุรชัยยอมรับว่าสิ่งที่พูดไม่เป็นความจริงแต่ทำตามที่มีการกำหนดบทให้พูด และเมื่อมีการตรวจสอบพบว่านายสุรชัยมีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน เดือนละ 3 หมื่นบาท

“คนไทยทุกคนมีหน้าที่รักษาความถูกต้องชอบธรรม ข้าราชการต้องไม่เปลี่ยนตามรัฐบาล แต่ต้องรักษาเกียรติภูมิของตัวเอง อย่ายอมให้การเมืองควบคุม ยกตัวอย่างอดีตปลัดกระทรวงการคลัง และอดีตเลขาฯ ก.พ. แต่งตั้งข้าราชการผิดกฎหมายตามใบสั่งการเมืองทั้งๆ ที่ในสายของตนคนเหล่านี้ก็เป็นคนดี แต่ถูกการเมืองแทรกแซงกลัวว่าจะไม่เจริญก้าวหน้า สุดท้ายต้องรับโทษถูกให้ออกจากราชการโดยที่ฝ่ายการเมืองไม่ต้องมารับผิดชอบด้วย” นายชวนกล่าว

นายชวนกล่าวด้วยว่า คนเสียภาษีเจ็บปวดที่รัฐบาลนำเงินไปใช้อย่างฟุ่มเฟือย เช่น นโยบายรถยนตร์คันแรกที่ทำให้รัฐเสียรายได้ 3 หมื่นล้านบาท แต่คนได้ประโยชน์ไม่ใช่คนจน การใช้เงินของรัฐบาลอย่างไม่ถูกต้องจะกระทบต่อประชาชนโดยตรง แต่รัฐบาลชุดนี้เลือกปฏิบัติ เช่นกรณียกเลิกศูนย์ประชุมภูเก็ต ทั้งที่จังหวัดดังกล่าวเสียภาษีให้รัฐเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ ทั้งๆ ที่รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นหลักและจุดยืนในการบริหารประเทศของพรรคมาโดยตลอด เพราะรัฐบาลจะรังแกประชาชนไม่ได้ ทั้งนี้ พรรคมีจุดยืนชัดเจนเคารพกติกา ไม่มีการเผาบ้านเผาเมือง จะเห็นได้ว่านายกรัฐมนตรีไปภาคใต้ไม่มีใครขัดขวาง ซึ่งหากในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มีการเคารพกติกา ไม่ตามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ปั่นป่วนบ้านเมืองจนประเทศเสียหาย ตนเชื่อว่าในวันนี้นายอภิสิทธิ์จะยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น