“เด็จพี่” เผยพรรคจ่อถกประชุมใหญ่วิสามัญสรรหาหัวหน้าใหม่ ยัน “นช.แม้ว-ปู” ไม่ล็อกสเปก อ้างกฤษฎีกาคอนเฟิร์มจำนำข้าวไม่เข้า ม.190 จี้กลาโหมรีบฟัน “อภิสิทธิ์” เผย “ธีรภัทร” แจงเพื่อไทย ยันไม่เกี่ยวปูดไซฟ่อนเงิน จ่อแจ้งความกองปราบฯ ฟันคนกุข่าวอังคารนี้
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประชุมพรรคเพื่อไทยในวันอังคารที่ 23 ตุลาคมนี้จะมีการหารือถึงการเตรียมประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคพร้อมกับการเตรียมสรรหาคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งก็ยืนยันว่าการคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้นไม่มีการล็อกสเปกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอนเพราะเรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น
ส่วนกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 68 คน ได้ยื่นร้องต่อวุฒิสภากรณีโครงการรับจำนำข้าวแบบจีทูจีของรัฐบาลว่ามีการทุจริต เพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่ามีความผิดตามมาตรา 190 หรือไม่นั้น นายพร้อมพงศ์ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวของรัฐบาลนั้น เป็นการดำเนินการอย่างถูกต้องและถูกกฎหมายทุกประการ เนื่องจากได้มีการปรึกษากับสำนักงานกฤษฎีกาแล้วว่าไม่เข้าข่ายการทำสนธิสัญญามาตรา 190 ซึ่งตนก็เชื่อว่าหากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องนี้ไว้พิจารณาก็จะให้ความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจและเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา ส่วนการที่ฝ่ายค้านใส่ชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่านายอภิสิทธิ์มีปัญหาในเรื่องภาพลักษณ์ของนักการเมือง เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ยังติดปัญหาที่เอกสารขอเข้ารับราชการที่โรงเรียนนายร้อยฯ และการหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารที่ทางกระทรวงกลาโหมพบว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้อง ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงอยากให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังระบุว่า การที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการคอร์รัปชั่นของชาติ หรือ ภตช. ได้กล่าวพาดพิงว่านายธีรภัทร คำคู้บอน รักษาการประธาน ภตช. ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยการไซฟ่อนเงินจำนวน 16,000 ล้านบาทที่ฮ่องกงนั้นก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งนายธีรภัทรได้เข้าร้องเรียนกับพรรคเพื่อไทยพร้อมทั้งมาชี้แจงด้วยตนเองว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่มีข้อมูลใดๆ
เพราะตนได้รับการร้องขอจาก พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ประธานองค์กรรวมพลคนดี ไปเป็นประธานสรรหาเท่านั้น รวมถึงการที่ตนถูกพาดพิงว่าเป็นเลขาฯของอดีตนายกฯ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ที่ห้ามข้าราชการไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ดังนั้น ในวันอังคารที่ 23 ตุลาคมนี้ นายพร้อมพงศ์จะเตรียมเข้าแจ้งความต่อกองปราบปราม กรณีมีการกุข่าวการไซฟอนเงิน เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่างเพราะเรื่องนี้ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล