xs
xsm
sm
md
lg

ศาลรับคดี “สมจิตต์” ฟ้องแดงขู่ผ่านอีเมล หลัง ตร.ปัด อ้างมุกแค่เตรียม ยังไม่ลงมือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 (แฟ้มภาพ)
ผู้สื่อข่าวหญิงช่อง 7 ยืมมือสภาทนายความช่วย หลังตำรวจสั่งไม่ฟ้อง “พรทิพย์” แกนนำแดงและเป็นบอร์ด ทอท. ที่ส่งอีเมลลูกโซ่คุกคาม อ้างแค่เตรียม ยังไม่ได้ทำ ชี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ยกเป็นคดีรูปแบบใหม่ ศาลนัดไต่สวน 13 พ.ย.

วันนี้ (21 ส.ค.) น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อ น.ส.พรทิพย์ ปักษานนท์ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดเพชรบุรี กรณีส่งอีเมลข่มขู่ไปยังเครือข่ายคนเสื้อแดงว่า นายกิตติวัฒน์ นิติอัครพัฒน์ และนายรักษ์ภาคย์ เหมพรหม ทนายอาสาจากสภาทนายความ ได้ยื่นฟ้อง น.ส.พรทิพย์ ข้อหา “ทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ” ต่อศาลแขวงดุสิตแล้วในวันนี้ โดยศาลรับเป็นคดีดำที่ อ.2634/55 และนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 13 พฤศจิกายน เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นจากกรณีที่ น.ส.พรทิพย์ ได้ส่งอีเมลไปยังเครือข่ายคนเสื้อแดงกว่า 40 ราย ในวันที่ 24 ส.ค. 2554 มีเนื้อหาข่มขู่ และเชิญชวนให้ผู้ที่อยู่ในเครือข่ายจดจำหน้า น.ส.สมจิตต์ โดยมีการลงรูปภาพและข้อความว่า “เปิดโฉมหน้านักข่าวที่ทำให้นายกฯปูเดินหนี ที่แท้เป็นนักข่าวสาว ช่อง 7 สี ที่ นายกนก ชื่นชมนักหนาว่ากล้าหาญ ที่ถามคุณยิ่งลักษณ์ จนต้องเดินเลี่ยง คนนี้เป็นใคร.. หล่อนคือ......(ชื่อจริง นามสกุลจริง และนามปากกา) ที่แท้ก็อยู่ในเครือเนชั่น และเคยจัดรายการวิทยุ ร่วมกับนายมีชัย มีเสน อดีต บก.นสพ.แนวหน้า กับผู้สื่อข่าว นสพ.บางกอกโพสต์นี่เอง จำหน้าหล่อนไว้นะครับ เห็นที่ไหนก็จัดให้หน่อยก็แล้วกันครับ”

ภายหลังจากทราบข่าว ในวันที่ 25 สิงหาคม 2554 ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาได้ร่วมลงชื่อกันทำหนังสือยื่นต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่อง ยุติการคุกคามสื่อมวลชน เพื่อเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าวโดยด่วน ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น.ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมรัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางมาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีที่อาคารรัฐสภา 3 โดยก่อนเข้าห้องประชุม ตัวแทนผู้สื่อข่าวภาคสนาม ในวันเดียวกัน น.ส.สมจิตต์ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.พรทิพย์ ในข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ

จากนั้นในวันที่ 30 สิงหาคม 2554 กลุ่มคนเสื้อแดงได้รวมตัวไปยื่นหนังสือถึงผู้บริหารช่อง 7 ให้ปลด น.ส.สมจิตต์ออกจากการเป็นผู้สื่อข่าวและกดดันให้ถอนแจ้งความ น.ส.พรทิพย์ แต่ น.ส.สมจิตต์ยังคงยืนยันที่จะดำเนินคดี ต่อมาวันที่ 3 ธันวาคม 2554 พ.ต.ท.พิตตินันท์ อุทธสิงห์ รองผู้กำกับการสืบสวนฯ ปฏิบัติราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลดุสิต มีความเห็น “สั่งไม่ฟ้อง” น.ส.พรทิพย์ และในวันที่ 30 มีนาคม 2554 อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง น.ส.พรทิพย์ โดยให้เหตุผลว่า แม้ข้อความในการส่งอีเมล์ดังกล่าว จะเข้าข่ายข่มขู่เพื่อให้เกิดการกระทำผิดต่อ น.ส.สมจิตต์ แต่ยังอยู่ในขั้นเตรียมการ จึงไม่ถือว่ากระทำความผิด

อย่างไรก็ตาม น.ส.สมจิตต์ได้ขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลดำเนินคดีต่อ น.ส.พรทิพย์ โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นจากตำรวจ และอัยการ จึงใช้สิทธิตามกฎหมายในการฟ้องตรงต่อศาล อีกทั้งเห็นว่าการกระทำผิดในลักษณะส่งอีเมลลูกโซ่คุกคามผู้อื่นเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทยที่ไม่เคยมีการดำเนินคดีในชั้นศาลมาก่อน จึงอยากให้เป็นคดีตัวอย่าง จนกระทั่งมีการยื่นฟ้องในวันนี้ และศาลแขวงดุสิตนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2555 เวลา 09.00 น.

สำหรับ น.ส.พรทิพย์ ปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลให้เป็นบอร์ด ทอท.

กำลังโหลดความคิดเห็น